Legend of the mythological genes – ตอนที่ 146

ถ้าไม่ทำให้คนอื่นตกใจ ฉันจะไม่ได้ตายอย่างสงบสุข!
ทันทีที่คำพูดของเฟิงหลินดังออกมา พวกมันก็เหมือนฟ้าผ่า ทำให้ทั่วพื้นที่ตกอยู่ในความเงียบ
ทุกสายตาของสมาชิกตระกูลเฟิงหันมองกัน มีสีหน้าสงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิด
 
“น่าสนใจ!” บนแท่นสูง ชายรูปหล่อยืนขึ้นและทำการสำรวจเฟิงหลินอย่างจริงจัง ความสนใจเติบโตขึ้นราวกับว่าเขากำลังมองของเล่นที่น่าตื่นเต้นมาก
“อวดดี! แกคิดว่าแกเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงหรือไง?พวกเราไม่ใช่ผู้บ่มเพาะดวงดาวหรือยังไง? แกกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?!” เฟิงจินเผิงป็นสายเลือดตรง ดังนั้นเขาไม่เคยเห็นใครหยิ่งยโสกว่าเขา เขาเป็นคนแรกที่ไม่สามารถระงับอารมณ์ของเขาได้
 
สำหรับผู้เข้าร่วมคนอื่น พวกเขากลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวทั้งๆที่อายุยังน้อย ใครจะไม่รู้สึกภาคภูมิใจ?
การไม่สนใจเรื่องนี้ ทำให้พวกเขาโกรธมาก
 
“แกต้องการที่จะสู้กับพวกเราทุกคนพร้อมกัน?คนอื่นไม่ต้อง ฉันจะจัดการแกก่อนเอง!”
“แกควรอธิษฐานให้แกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นฉันรับรองว่าแกจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก!”
“แกคิดว่าแกเป็นใคร?”
 
….
เสียงวิจารณ์ต่างๆดังขึ้น
เฟิงหลี่หนึ่งในผู้เข้าร่วมไม่ทำอะไรเพียงแค่หรี่ตาแคบและจ้องมองเฟิงหลิน สายตาของเขาคมชัดราวกับดาบและเปล่งกลิ่นอายทรงพลังอย่างมาก
เฟิงหลินไม่สนใจเรื่องการดูถูกเหยียดหยามที่คนอื่นมีต่อเขา
แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่หยิ่งยโสและเยาะเย้ยหรือสาปแช่งเขา แต่ไม่มีใครคิดว่าเขาไม่ใช่ของจริง
สายตาของเฟิงหลินกวาดมองฝูงชนอย่างเย็นชา เขาไม่ได้พูดอะไรและมองไปที่ผู้นำตระกูล
ทำไมมีความจำเป็นที่จะเอาคนพวกนี้มาใส่ใจ?
การต่อสู้ทีเดียวจะเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของหัวหน้าตระกูล
เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินไม่สนใจ ผู้เข้าร่วมก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเหมือนถูกตบจนหน้าชา
เฟิงหลินไม่สนใจพวกเขาจริงๆ
 
“เห้ยไอหนู อย่างมากแกมันก็แค่มดปลวก!” ชายที่ดูดุร้ายพูด
 
สมาชิกในตระกูลได้สติกลับคืนเหมือนกลัวว่าโลกจะไร้ความวุ่นวาย และเริ่มตะโกนอย่างตื่นเต้น “เฟิงปู้ นายพูดถูก ขึ้นไปและสอนบทเรียนให้แก่มัน!”
“นายเป็นคนชั้นสูงในตระกูล นายจะยอมถูกคนชั้นต่ำรังแกได้ยังไง?”
“กำจัดเด็กเหลือขอนี่เร็วๆ ทำลายความเย่อหยิ่งของมัน!”
….
 
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างกำลังวุ่นวายหัวหน้าตระกูลก็ทนไม่ได้อีกต่อไป “เงียบ!”
ขณะที่เขาตะโกน เสียงของเขาก้องไปในอากาศเหมือนเสียงฟ้าร้องดังลั่น
ในฐานะผู้นำของตระกูล เขาสามารถควบคุมชะตากรรมของคนส่วนใหญ่ที่นี่ ไม่มีใครกล้ามีปัญหากับผู้นำตระกูล
ตาของหัวหน้าตระกูลเหมือนตาของนกอินทรี เขาจ้องมองเฟิงหลินและถามอย่างจริงจังว่า “เฟิงหลินเธอต้องการต่อสู้กับผู้เข้าร่วมที่เหลือทั้งหมดพร้อมกันจริงๆงั้นหรอ?เธอต้องรู้ว่าพวกเขาทั้งหมดอยู่ในสิบอันดับแรก “
 
เฟิงหลินพยักหน้าเพราะเจตนาของเขาชัดเจนมาก
ผู้เข้าร่วมคนอื่นมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ แต่เพราะว่าพวกเขากลัวหัวหน้าตระกูลจึงไม่เอ่ยปากอะไร
ใบหน้าเฟิงหลินยังคงดูสงบ เขาตัดสินใจชัดเจนแล้ว
ถ้าเขาทำตามการจัดการของหัวหน้าตระกูลและต่อสู้กับคนเหล่านี้ทีละคน มันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน?
รากฐานของเขาในตระกูลนั้นต่ำมาก แม้ว่าเขาจะชนะการต่อสู้ทุกครั้งโดยการต่อสู้ทีละคน เขาจะยังคงถูกคนอื่นสงสัยอยู่ หลายๆคนจะบอกว่าเขาชนะเพราะเขาโชคดี
เฟิงหลินไม่อยากจะใส่ใจกับเรื่องเล็กๆเหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเขาอาจจะแสดงพลังที่พอจะสร้างความตกใจอย่างมาก ในเวลาเดียวกันคนเหล่านี้จะเป็นพยาน ความแตกต่างอย่างมากในความแข็งแกร่งระหว่างเขาและอัจฉริยะของตระกูล
หากเขาทำเช่นนั้นจะไม่มีใครกล้าพูดได้ว่าเป็นเพราะโชค
 
“ นี่…” เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินเป็นเด็กหัวดื้อ หัวหน้าตระกูลก็ลังเล เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะตอบรับคำขอของเฟิงหลินดีไหม
 
ถ้าเขาเห็นด้วยเขาจะไม่ทำลายความภาคภูมิใจของอัจฉริยะเหล่านี้หรอ?
ถ้าเขาไม่เห็นด้วยและถ้าเฟิงหลินไม่ยอมแพ้ เฟิงหลินจะกระตุ้นอัจฉริยะของตระกูลโดยการยั่วโมโหว่าพวกเขากลัวใช่ไหม?นั่นจะไม่ยิ่งน่าอายหรือยังไง?
 
“น่าสนใจ!” เมื่อหัวหน้าตระกูลลังเล ชายหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ข้างเขาหัวเราะเบาๆจากนั้นเขาก็แนะนำ “ผมเห็นด้วยกับคำขอของเฟิงหลิน!”
“นายน้อยเฟิง ท่านมีข้อเสนอแนะอะไร?” ผู้นำกตระกูลงงงวย “ถ้าผมเห็นด้วยกับคำขอของเขามันจะไม่ยุติธรรมกับอัจฉริยะคนอื่นหรือไม่?”
“ นี่ง่ายมาก” ชายหนุ่มรูปหล่อยิ้ม “ทำให้การต่อสู้รอบสุดท้ายเปลี่ยนเป็นการต่อสู้แบบอิสระสำหรับทุกคน นั่นไม่ใช่แก้ปัญหาเหรอ? ยิ่งพวกเขาอยู่ได้นานเท่าไหร่ อันดับของพวกเขาก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น คนสุดท้ายที่ยืนจะเป็นผู้ชนะโดยธรรมชาติ! โดยการเปลี่ยนรูปแบบ มันคล้ายกับสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในอวกาศระหว่างดวงดาว ในสนามรบที่วุ่นวายจะไม่มีใครโง่พอจะต่อสู้กับคุณแบบหนึ่งต่อหนึ่ง อิสระสำหรับทุกคนสามารถทดสอบความสามารถของพวกเขาได้ดีขึ้น “
“เป็นความคิดที่ดีมาก!” จากหน้าบึ้งตึง ตอนนี้หน้าของหัวหน้าตระกูลเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
 
โดยการทำเช่นนี้เขาสามารถตอบสนองคำขอของเฟิงหลิน และปกป้องความภาคภูมิใจของอัจฉริยะของตระกูลเฟิงได้
 
เขาไม่ลังเลอีกต่อไป `’ทีนี้ฉันจะประกาศว่ารูปแบบการจัดอันดับของการแข่งขันจะเปลี่ยนเป็นแบบอิสระ สำหรับทุกคนในรอบการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้ ผู้เข้าร่วมสิบอันดับแรกจะต่อสู้บนลานประลองเดียวกันและใครอยู่ได้นานกว่าจะได้อยู่ในอันดับที่สูงขึ้น ผู้ที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายจะเป็นผู้ชนะ อัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเฟิง! “
 
หลังจากความประหลาดใจช่วงสั้นๆ ฝูงชนต่างก็โห่ร้องด้วยความตื่นเต้น
นี่เป็นรูปแบบใหม่ที่สิบอันดับแรกจะต่อสู้กันอย่างอิสระ ฉากการต่อสู้จะน่าสนใจและเข้มข้นขึ้นมาก วิธีนี้น่าตื่นเต้น!
พวกเขาไม่คาดหวังว่าหัวหน้าตระกูลจะเห็นด้วยกับคำแนะนำที่หยิ่งยโสของเฟิงหลิน
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะบอกว่านี่เป็นความคิดที่ดีจริงๆ
ดวงตาหลายคู่นับไม่ถ้วนจ้องที่ลานประลองตาไม่กระพริบ กลัวที่จะพลาดในฉากที่น่าสนใจ
ผู้เข้าร่วมเองก็รู้สึกประหลาดใจ แต่หลังจากพวกเขาหายจากอาการช็อกพวกเขาทั้งหมดก็ย้ายไปที่ลานประลองที่ถูกกำหนด ตอนนี้สายตาของพวกเขาที่จ้องมองเฟิงหลินน่ากลัวกว่าเดิม
ไม่เป็นไร ในเมื่อเป็นแบบนี้ เราก็สามารถร่วมมือกันและกำจัดมันออกไปจากลานเป็นคนแรก พวกเราอยากจะรู้ว่าแกจะหยิ่งได้สักแค่ไหน
พวกเขาเข้าหาเฟิงหลินอย่างช้าๆ มีรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา อย่างไรก็ตามสักพักรอยยิ้มของพวกเขาหายไปในทันที
 
“เข้ามาพร้อมกันนั่นแหละ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน ถ้าเข้ามาทีละคนพวกแกไม่มีทางชนะแน่” เฟิงหลินไม่พอใจ เขาต้องการสรุปการแข่งขันจัดอันดับให้เร็วที่สุด
เขาปลดปล่อยศักยภาพทั้งหมดของยีนลิงหิน และปลดปล่อยข้อจำกัดทั้งหมดในร่างกายออกมาแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของเขา
ระลอกคลื่นทรงพลังจากสถานะพลังของเขาพุ่งทะยานออกมา มองด้วยตาเปล่าสามารถมองเห็นคลื่นพลังงานปั่นป่วนอย่างรุนแรงในอากาศรอบตัวเขา
จุดที่เฟิงหลินยืนอยู่กลายเป็นศูนย์กลางของกระแสพลังงานวน แรงกดดันไร้รูปแบบอาจพุ่งออกมาทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
 
“อะไรกีน?” ผู้เข้าร่วมคนอื่นอุทานด้วยความตกใจเมื่อพวกเขารู้สึกถึงแรงกดดันคล้ายภูเขาลูกใหญ่ทับตัว พวกเขาอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลัง
 
ดูเหมือนว่าจิตใจของพวกเขาจะถูกก้อนหินก้อนใหญ่ทับจมลงไปในหุบเขา พวกเขาไม่มีความคิดที่จะต่อต้านอีกต่อไป
สิ่งที่พวกเขาทำได้คือเปิดตาและจ้องมองไปที่ร่างคล้ายกพระเจ้าหรือปีศาจ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น
เฟิงหลินพร้อมที่จะใช้กำลังในการกำจัดอัจฉริยะสูงสุดของตระกูลเพียงลำพัง!

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset