Legend of the mythological genes – ตอนที่ 150

เงียบสงัด …
ในห้องโถงใหญ่เงียบสงัดไม่มีเสียงแม้แต่น้อย เหลือเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบา
คนกว่าพันคนจ้องมองมาที่คนคนเดียว
อยู่คนเดียวบนเวทีขนาดใหญ่พร้อมกับคู่ต่อสู้ของเขาที่เกลื่อนพื้นเบื้องล่าง เฟิงหลินยืนปลดปล่อยกลิ่นอายความอมตะและนิ่งสงบ
ทุกฉากที่ตีแผ่ทำให้ตกใจแม้กระทั่งทายาทของตระกูลเฟิงหลาง
จริงๆแล้วเขาไม่คิดว่าเฟิงหลินจะทำได้
การแสดงความรุนแรงจัดการคู่ต่อสู้ทั้งหมดด้วยมือเดียว ไม่ใช่สิ่งที่สามารถดูได้ทั่วไป
ฝ่ายตรงข้ามสามคนเป็นศัตรูของเฟิงหลาง เฟิงหลินไม่รู้ชื่อของพวกเขาด้วยซ้ำแต่สามารถกำจัดพวกเขาออกไปได้
เฟิงหลางพูดไม่ออก เขาไม่รู้ว่าเฟิงหลินเติบโตขึ้นมาระดับไหน เหมือนนกกระจอกที่ไม่รู้ว่ามีนกกระจอกเทศภาคเหนือบินได้สูงหลายพันเมตร
หลังจากความเงียบงัน เสียงปรบมือก็ดังขึ้น
เสียงปรบมือดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนแสดงความเคารพอัจฉริยะอันดับหนึ่งคนใหม่
ยุคของดวงดาว การบ่มเพาะ การวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตมนุษย์
จักรวาลที่โหดร้ายมีกฎป่า การต่อสู้ของชีวิตและความตายระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆในจักรวาล – ทั้งหมดนี้ทำให้มนุษย์เข้าใจความสำคัญของความสามารถและเคารพคนที่แข็งแกร่ง
แม้ว่าเฟิงหลินจะเป็นคนไร้ชื่อ แต่เขาก็ได้รับความเคารพจากพวกพ้องหลังจากแสดงความแข็งแกร่งของเขา ทุกคนปรบมือด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
หัวหน้าตระกูลยืนอยู่บนแท่นสูงเฝ้าดูผู้แข่งขัน เขารู้สึกปวดหัว
รูปแบบการต่อสู้ที่วุ่นวายนี้มีการจัดอันดับเป็นเป้าหมาย
ตอนนี้คนเหล่านั้นดูเหมือนจะถูกกำจัดออกไปทีเดียว มันย่อมยุ่งยากในการจัดอันดับ!
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่พยายามจนสุดตัว แต่เพราะว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งเกินไป
เฟิงหลินยืนอยู่บนเวทีเพียงลำพังโดยไม่มีคู่แข่ง ในหมู่คนรุ่นใหม่เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งและเหมาะสม
 
“คนสุดท้ายที่ยืนอยู่ในการจัดอันดับการแข่งขันของตระกูล: เฟิงหลิน!” ผู้นำตระกูลตัดสินใจอย่างรวดเร็วและประกาศอย่างมั่นคง “ตอนนี้ในฐานะผู้มีพรสวรรค์มากที่สุดของตระกูล เราได้ตัดสินใจที่จะมอบรางวัลสิบล้านแต้มตระกูลให้แก่เธอ!”
“แต้มตระกูลมากขนาดนี้! เฟิงหลินจะรุ่งเรืองมากขึ้น!”
“ กลุ่มผู้มีพรสวรรค์จากการแข่งขันจัดอันดับก่อนหน้านี้ไม่ได้รับแต้มตระกูลมากเท่านี้ ตัวเลขดังกล่าวจะทำให้เฟิงหลินก้าวกระโดดจากระดับต่ำสุด 9 ไปเป็นสมาชิกระดับ 2 กลายเป็นกลุ่มระดับสูง! “
“ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติเหรอ?แม้ว่าเฟิงหลินนี้จะเป็นสมาชิกระดับต่ำ แต่ด้วยความสามารถของเขา การที่จะกลายเป็นสมาชิกระดับสูงนั้นเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว ผู้นำตระกูลเพียงอยากตอบแทน!”

ความโกลาหลเริ่มต้นขึ้นในตระกูล คนอิจฉาริษยา เสียงเหล่านั้นไม่สงบลงเป็นเวลานาน
ภายในตระกูลเฟิงมีลำดับขั้นระหว่างระดับจาก 1 ถึง 9
ระดับ 9 เป็นระดับต่ำสุดและระดับ 1 เป็นระดับสูงสุด
ยิ่งระดับสูงขึ้นเท่าไรพวกเขาก็จะสามารถได้รับผลประโยชน์ และมีแนวโน้มที่จะได้รับทรัพยากรจำนวนมาก
สมาชิกตระกูลระดับต่ำอาศัยอยู่ในพื้นที่ชั้นใต้ดินที่แออัด ในขณะที่สมาชิกระดับสูงเพลิดเพลินไปกับถูกปฏิบัติเยี่ยงราชา ความแตกต่างนั้นสูงมาก
หากใครต้องการเพิ่มระดับมีเพียงวิธีเดียว:
รับแต้มตระกูลและสะสมให้ได้จำนวนมาก
มันเป็นเรื่องยากที่จะได้รับแต้มตระกูล ต้องมีส่วนร่วมในตระกูลเพื่อรับ มันมีค่ามาก
แต้มมีอำนาจทุกอย่างในตระกูล ใช้แต้มในการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆเช่นวัสดุ เหรียญดารา ยายีนเทคนิคและศิลปะการต่อสู้จากตระกูล
ยิ่งมีแต้มสะสมมากเท่าไหร่ ทรัพยากรที่มีค่าก็สามารถแลกเปลี่ยนได้
อย่างไรก็ตาม การใช้แต้มตระกูลมากๆยังช่วยเพิ่มสถานะภายในตระกูล
สิบแต้มจะเพียงพอที่จะเพิ่มจากระดับ 9 มาเป็นระดับ 8 ได้ 100 แต้มจะเปลี่ยนจากระดับ 8 เป็นระดับ 7 ทุกๆระดับต้องใช้แต้มเพิ่มสิบเท่า
เฟิงหลินได้รับสิบล้านแต้ม ซึ่งหมายความว่าเขาสามารถกระโดดจากสมาชิกระดับ 9 มาเป็นระดับ 2 ทันทีและกลายเป็นระดับสูงอย่างแท้จริง เขาแค่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าผู้สืบเชื้อสายตระกูลโดยตรง
สมาชิกทุกคนมองด้วยความอิจฉา แต้มตระกูลดังกล่าวเพียงพอที่จะเป็นสาเหตุของความปั่นป่วน
อย่างไรก็ตาม ตระกูลปฏิบัติต่อผู้มีพรสวรรค์ด้วยการดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดอะไรได้
เฟิงหลินเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันจัดอันดับ ไม่ใช่แค่ตัวต่อตัว แต่จัดการคู่ต่อสู้ทีเดียวจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว
ความสามารถที่น่าทึ่งและยอดเยี่ยมเช่นนี้ … ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาได้รับรางวัลมากมายจากตระกูล
ในทำนองเดียวกันเขาจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากตระกูลในการเข้าร่วมวิทยาลัยระหว่างดวงดาว
ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูดาวรุ่งดวงต่อไปของตระกูล
ถึงกระนั้นสิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจคือ เฟิงหลินกลับไม่ตอบสนองด้วยความดีใจเหมือนคนปกติ
เฟิงหลินกลับใจเย็นไม่มีเสียงร้องดีใจ เขาอ้าปากพูดคำพูดที่ทำให้ทุกคนต้องนิ่งเงียบ
 
“ผมต้องการให้แต้มทั้งหมดนี้แก่ครอบครัวของผม!”
“อะไรนะ?”
“เขาบ้าไปแล้วหรือไง!”
“แต้มครอบครัว … เขายอมเป็นสมาชิกระดับต่ำต่อไปนะหรอ?”

ความตกใจเกิดขึ้น ทุกคนมองไปที่เฟิงหลินด้วยความสับสนสงสัย พวกเขาไม่เข้าใจการกระทำของเขา
 
คงไม่มีใครคิดว่าเฟิงหลินจะเลือกเช่นนี้อย่างไร้เหตุผล นี่เท่ากับการละทิ้งโอกาสที่ยิ่งใหญ่ หากไม่มีการสนับสนุนจากตระกูลมันจะเป็นเรื่องยากที่เขาที่จะก้าวหน้าต่อไป
เฟิงหลินไม่สามารถอ่านความคิดของพวกเขาได้ เขาสามารถรับรู้ความคิดได้จากสายตา
เขาไม่ได้สนใจอะไร
เขาเคยพึ่งพาการสนับสนุนของตระกูลหรือยังไง?
ได้รับการดูแลจากตระกูลเรียกว่าการสนับสนุน แต่มันไม่มีผลอะไรกับเขา แล้วทรัพยากรดีๆคืออะไร?
ท้ายที่สุดดอกไม้ในเรือนกระจกก็ดูแค่น่าประทับใจ แต่ไร้ประโยชน์
ตอนนี้เฟิงหลินได้รับข้อมูลภายในของบริษัทยาไจแอนท์ทั้งหมดและกลายเป็นนักพันธุศาสตร์เช่นเดียวกับการสะกดจิตทางพันธุกรรมระดับเริ่มต้น เส้นทางที่เขาเดินเป็นเส้นทางในตำนานของซุนหงอคงซึ่งเต็มไปด้วยอนาคตที่ไร้ขอบเขต
เฟิงหลินเชื่อมั่นว่าเขามีรากฐานที่เพียงพอ
ถ้าเขายังคงเติบโตต่อไปเขาจะสามารถทำให้ตระกูลแข็งแกร่งได้ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน
แล้วทำไมเขาต้องแย่งทรัพยากรที่หายากเช่นนี้จากผู้ปกครองของเขา
ทรัพยากรและการสนับสนุนของตระกูลมีความสำคัญต่อผู้อื่น แต่ไม่ใช่สำหรับเฟิงหลิน
สิ่งเดียวที่ควบคุมเขาได้คือครอบครัวของเขา!
สถานะพลังของเฟิงหลินกำลังเติบโตขึ้น ห่างจากครอบครัวของเขา เมื่อเวลาผ่านไประยะทางจะยิ่งไกลขึ้นเรื่อยๆ
เฟิงหลินเดินไปบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ การเดินทางในอนาคตของเขาจะอยู่นอกระบบสุริยจักรวาล
ครอบครัวของเขาเป็นญาติของเขาในชีวิตนี้ ในฐานะลูกชายเขาต้องตอบแทน
นั่นคือเหตุผลที่จะทำให้เขาเดิมตามเส้นทางด้วยใจที่สงบ หลังจากที่เขาทำให้ครอบครัวเขาสบายและมั่นคง
เขาเคยคิดที่จะออกจากตระกูลตอนที่เขายังอ่อนแอ ถูกกดดันจากหัวหน้าพ่อบ้านและตระกูล
ถึงกระนั้นเฟิงหลินไม่ได้เป็นคนหัวแข็ง หลังจากสงบลง เขาก็ตระหนักว่านี่เป็นวิธีที่ยังไม่สมบูรณ์และขาดความรับผิดชอบ
ระบบสุริยจักรวาลเป็นภูมิภาคดาวที่วุ่นวาย มีกฎหมายเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น สภาพภายนอกนั้นซับซ้อนเกินไปและอันตราย
เฟิงหลินเป็นผู้บ่มเพาะเขาจึงไม่ต้องกังวล เขาจะสามารถเดินทางได้ตามที่เขาพอใจและจะสามารถอยู่รอดได้ทุกที่แม้ว่าเขาจะออกจากตระกูล
แต่พ่อแม่และพี่น้องของเขาจะไม่สามารถทำได้ พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา
หากเขาทิ้งไป พวกเขาก็จะถูกรังแกและอับอายขายหน้าอย่างแน่นอน
หากพวกเขาออกไปด้วย เฟิงหลินจะไม่สามารถดูแลพวกเขาได้ในสถาณการ์ณที่เลวร้าย
ถ้าเขาอยู่กับครอบครัวและคอยปกป้องพวกเขาแล้ว เฟิงหลินจะฝึกฝนได้ยังไง?
เขาไม่ควรเห็นแก่ตัวกับครอบครัวตัวเอง
นี่คือเหตุผลว่าทำไมการตัดสินใจครั้งนี้จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
เขาตัดสินใจที่จะมอบแต้มตระกูลทั้งหมดให้กับครอบครัวของเขา ด้วยวิธีนี้ทุกคนในครอบครัวของเขาจะสามารถขึ้นเป็นสมาชิกระดับ 3 และได้รับการดูแลจากตระกูล
สมาชิกระดับ 3 นั้นต่ำที่สุดในสมาชิกระดับสูง แต่ก็ไม่มีปัญหากับสมาชิกระดับสูงกว่า
สำหรับสมาชิกธรรมดา การเป็นคนระดับต่ำเป็นเรื่องที่ดี ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะไม่ดึงดูดการก่อวินาศกรรมอย่างตั้งใจ
ตราบใดที่เขายังคงเติบโตในอนาคต เขาเชื่อว่าตระกูลจะไม่โง่พอที่จะขัดแข้งกับเขา สำหรับครอบครัวของเขานี่จะเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่ดึงดูดเขาไว้
การดำรงอยู่ของเขาคือการสนับสนุนจากครอบครัว ไม่มีใครกล้ารังแกพวกเขาแน่นอน
แค่นี้ก็เพียงพอที่จะปกป้องครอบครัวของเขาและอนุญาตให้พวกเขามีชีวิตที่สงบสุขและมีความสุขในตระกูล
ถ้าน้องๆของเขาแสดงศักยภาพในการบ่มเพาะที่แข็งแกร่ง เฟิงหลินก็เต็มใจที่จะมอบมันให้กับพวกเขา
เฟิงหลินเลือกที่จะอยู่ในตระกูลที่น่ารังเกียจนี้เพื่อครอบครัวของเขา ไม่มีอะไรอื่น
หัวหน้าตระกูลตกตะลึง เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเลือกเช่นนั้น
แต้มตระกูลมีค่ามากแค่ไหน?
มอบของขวัญให้ครอบครัวอย่างไม่เห็นแก่ตัวจึงเป็นภาพที่น่าประทับใจ
แต่เขาไม่ทราบว่าเฟิงหลินไม่เพียงแต่เสียสละ แต่เขาไม่สนใจ
เขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้แม้ว่าเขาจะออกจากตระกูล เขาสามารถทำได้ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีแต้มตระกูล
การบ่มเพาะมีค่าที่สุด มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถแย่งชิงไปได้
ด้วยศักยภาพที่ทรงพลังเช่นนี้ใครจะกล้าดูถูกเขาเพียงเพราะเขาเป็นสมาชิกระดับ 9
 
“เธอจะไม่เหลือไว้ให้ตัวเองเลยหรอ?” หัวหน้าตระกูลมองลึกเข้าไปในดวงตาของเฟิงหลินเพื่อยืนยัน
“ใช่!” เฟิงหลินพยักหน้าและยืนยันครั้งสุดท้าย
เมื่อคำพูดหลุดออกจากปาก ข้อตกลงก็สรุปได้ในทันที
ทุกสายตาจากทุกทิศจับจ้องอยู่กับพ่อแม่ของเฟิงหลิน เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาที่พวกเขาให้กำเนิดลูกชายที่ยิ่งใหญ่

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset