Legend of the mythological genes – ตอนที่ 182

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่?” นายพลนำกลุ่มคนที่ดูดุร้ายเข้ามาและล้อมสถานที่ไว้
มีเพียงฮัตโตริ จูโซคนเดียวที่จิตของเขาระเบิดไปแล้วถึงนอนราบกับพื้นก้มหัวและร้องอย่างเจ็บปวด
สายตาของเขาดุจอัสนีบาต ไม่มีใครสามารถมองสบตาได้
คลื่นพลังมหาศาลเหมือนมหาสมุทรกว้างใหญ่กำจัดความรุนแรง มันพังทลายลงอย่างสมบูรณ์และทุกๆคนในปัจจุบันก็เงียบสงบ เหมือนในจักจั่นในฤดูหนาวไม่กล้าหายใจดังเกินไป
บุคคลนี้อาจเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะในตำนาน?
ตาของเฟิงหลินหดตัวอย่างรุนแรง รู้สึกราวกับว่าจิตใจและวิญญาณของเขาถูกจับด้วยมือที่มองไม่เห็นและไม่มีระลอกคลื่นใดๆเกิดขึ้น
แค่ผู้บ่มเพาะดวงดาวคงไม่สามารถทำให้เขากดดันเช่นนี้ได้ มีเพียงผู้บ่มเพาะระดับสูงในตำนานหรือสุดยอดผู้บ่มเพาะขึ้นไปถึงจะสามารถส่งพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ได้
ไม่มีบุคคลที่น่าทึ่งแบบนี้บนโลกนี้!
ไม่มีแม้แต่ในระบบสุริยะ!
ขีดจำกัดการบ่มเพาะในระบบสุริยจักรวาลอยู่แค่ผู้บ่มเพาะระดับสูง เป็นที่ทราบกันดีว่ามีทรัพยากรการบ่มเพาะไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้เข้าถึงอาณาจักรสุดยอดผู้บ่มเพาะ!
นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่านายพลคนนี้น่าจะเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะ เฟิงหลินก็สังเกตเห็นว่าทหารเหล่านี้อย่างน้อยที่สุดก็เป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว เป็นกองทัพที่ประกอบไปด้วยผู้บ่มเพาะดวงดาวทั้งหมด นี่คือสิ่งที่เกินจินตนาการในระบบสุริยะ!
มีเพียงประเทศใหญ่ๆในอวกาศเท่านั้นที่จะมีกองทหารเฉกเช่นนี้ได้!
เป็นไปได้ไหมว่าคนพวกนี้มาจากอวกาศ?
มันเป็นไปได้สูงมาก!
เฟิงหลินคิดอย่างละเอียด
สมาคมการบ่มเพาะโลกเป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ มีอิทธิพลแผ่กระจายไปทั่วอวกาศและต่อมนุษยชาติทั้งหมด แม้แต่ส่วนเล็กๆของโลกก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์ใหญ่ดวงดาว
การทดสอบสำหรับมหาวิทยาลัยเอกภพนั้นเข้มงวดมาก ดูเหมือนว่าสมาคมการบ่มเพาะโลกจะส่งคนจำนวนมากมาจัดการ
 
“จะไม่มีใครพูดอะไรเลยใช่ไหม?”นายพลเห็นว่าไม่มีใครกล้าส่งเสียง รองเท้าหนังเขาก็สร้างเสียงกระแทกที่สั่นคลอนหัวใจทุกคน
เขาเดินตรงไปที่เฟิงหลินและนักเรียนชาวญี่ปุ่น “ในเมื่อไม่มีใครพูด พวกเธอก็พูดได้! ทำไมถึงสร้างปัญหาในการสอบ?”
อาจารย์ใหญ่มิยาตะ เรียวซาคุต่กโรงเรียนมัธยมยามาโตะซึ่งเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงรีบร้องเรียนก่อนทันที “ท่านนายพล เขาเป็นผู้สมัครจากโรงเรียนมัธยมโลกที่ไม่คำนึงถึงกฎระเบียบของโถงการสอบและเป็นคนเริ่มก่อน เขาทำให้ผู้สมัครอัจฉริยะฮัตโตริ จูโซจากโรงเรียนมัธยมยามาโตะของเราพิการ ท่านต้องจัดการให้เรา ผู้สมัครไม่คำนึงถึงกฎและข้อบังคับ เขาควรได้รับการลงโทษ เขาจะต้องถูกทำให้พิการและถูกขับไล่ … “
 
เขากล่าวหาเฟิงหลินอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าเฟิงหลินเป็นคนชั่วร้าย การลงโทษทั้งหมดที่เขากล่าวถึงนั้นเลวร้ายอย่างมาก ต้องการที่จะทำให้เฟิงหลินถูกไล่ออกไปจากสนามสอบ
สายตาของเฟิงหลินเย็นชามาก
พวกญี่ปุ่นนี่แย่จริงๆ พวกเขาบิดเบือนความจริง
 
“เป็นอย่างนั้นเหรอ?” อย่างไรก็ตาม นายพลคนนี้รู้ว่าชาวญี่ปุ่นนี่ดูน่ารังเกียจและไม่เชื่อคำพูดของเขา การจ้องมองของนายพลคือการซักถาม ไม่มีใครปกปิดเขาได้
เฟิงหลินหายใจเข้าลึกและเปิดใช้งานยีนวิญญาณอย่างเต็มที่ ทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งและหลุดพ้นจากพลังประหลาด เขาพูดอย่างไม่อ่อนน้อม”ท่านนายพล ชาวญี่ปุ่นคนนี้บิดเบือนความจริง! ผมไม่ได้ทำอะไรเลย คนญี่ปุ่นนี่เป็นคนเริ่มเขาใช้วิชาลวงจิตกับผม อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาไม่ชำนาญในเทคนิคและได้รับผลกระทบกลับแทน ใครควรถูกตำหนิ?ความจริงคืออะไร?ผมว่าที่นี่ควรมีกล้องวงจรปิด ท่านนายพลจะรู้หลังดูมัน”
 
เนื่องจากชาวญี่ปุ่นทำตัวต่ำช้าก่อน ดังนั้นเฟิงหลินจึงไม่ยอมไว้หน้าเช่นกัน คำพูดของเขาเหมือนดาบแทงใจชาวญี่ปุ่นและทำให้พวกเขาดูไร้ค่า
บัดซบ!
ชาวญี่ปุ่นต่างก็สาปแช่งเขาในใจ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากนายพลกำลังคุยกับเฟิงหลินอยู่ พวกเขาจึงไม่กล้าขัดจังหวะ
“อืมม?” เปลือกตาของนายพลยกสูงขึ้น เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นกลเม็ดและความสงบของเฟิงหลิน
เขาเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะ และภายใต้แรงกดดันของเขา มีเพียงผู้บ่มเพาะระดับสูงเท่านั้นที่จะยิ้มและพูดคุยได้สบายๆเหมือนเฟิงหลิน อย่างไรก็ตามบุคคลที่เผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้เป็นเพียงผู้บ่มเพาะดวงดาว แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่ง
แม้จะไม่มีการตรวจสอบ แต่นายพลก็ยังประทับใจเฟิงหลินและไว้วางใจในคำพูดของเขาเล็กน้อย
เขาประเมินเฟิงหลินและพยักหน้า จากนั้นก็ใช้สิทธิ์ของเขาในการเปิดดูปัญญาประดิษฐ์เพื่อตรวจสอบบันทึกการเฝ้าระวัง
กลุ่มคนชาวประเทศญี่ปุ่นมีอาการเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด และรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นที่น่าพอใจต่อพวกเขา
เมื่อภาพวงจรปิดเผยออกมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย
จากมุมมองนี้ ครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมยามาโตะนำนักเรียนมาท้าทายเฟิงหลินและอาจารย์ใหญ่ฮวง แต่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
ทุกคนมองพวกเขาด้วยสายตารังเกียจ
ชาวญี่ปุ่นเหล่านี้น่ารังเกียจจริงๆ มันเป็นเรื่องปกติที่จะกลั่นแกล้งผู้อ่อนแอ นี่เป็นกฎที่โหดร้ายของธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามพวกเขาอ่อนแอ แต่พวกเขากลับท้าทายผู้แข็งแกร่งซึ่งส่งผลให้พวกเขาถูกตบกลับ
หลังจากการเปิดเผยความจริง นายพลก็มองอย่างเยือกเย็น ชาวญี่ปุ่นรู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกนำไปวางในถ้ำน้ำแข็ง พวกเขาทั้งหมดสั่นและมีท่าทางกลัวราวกับว่าเผชิญแรงกดดันจากสวรรค์ พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อต้าน
เฟิงหลินมองและยิ้มอย่างเย็นชา
นี่คือสิ่งที่คนญี่ปุ่นเป็น แม้จะผ่านไป 10,000 ปีธรรมชาติที่ด้อยกว่าของพวกเขาก็ไม่เปลี่ยนไป พวกเขาชอบรังแกคนอ่อนแอ พวกเขามันไร้ยางอายจริงๆ
 
“งั้นก็จบเท่านี้!โรงเรียนมัธยมยามาโต๊ะ พวกคุณเริ่มก่อน ในเมื่อเป็นพวกไร้ความสามารถ มันก็สมควรแล้ว!หากอยากสร้างปัญหา งั้นผมก็จะไล่พวกคุณออกไป!”นายพลแค่นเสียงเย็น เขาไม่ได้ลงโทษใดๆแต่กลับประกาศให้เรื่องนี้จบ
 
คนญี่ปุ่นไม่กล้าต่อต้านและรู้สึกเจ็บปวดใจมาก
เฟิงหลินไม่สนใจเรื่องนี้ เขาไม่ได้รับอันตรายใดๆแต่ยังทำให้อีกฝ่ายพิการด้วย เขาไม่ได้เสียหายอะไร
ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ มันก็ไม่จำเป็นต้องไปรบเร้าอะไร
สิ่งสำคัญสุดตอนนี้คือการทดสอบเข้ามหาวิทยาลัยเอกภพ เขาต้องยึดถือสิ่งสำคัญก่อน
หลังระงับความขัดแย้ง นายพลก็เดินมาหาทุกคนและประกาศเสียงดัง”เราจะเริ่มการทดสอบสำหรับมหาวิทยาลัยเอกภพเดี๋ยวนี้!แม้ทุกคนจะเท่าเทียมกันก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเอกภพและทุกโรงเรียนก็มีโควต้า แต่มันก็ทำให้การแข่งขันนี้รุนแรงกว่าที่พวกเธอคิด”
“แม้จักรวาลจะกว้างใหญ่ แต่มหาวิทยาลัยเอกภพก็มีแค่สิบแห่ง ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละแห่งยังรับแค่ประมาณหมื่นคน นี่หมายความว่ามีตำแหน่งว่างแสนตำแหน่ง แม้ตัวเลขนี้อาจจะฟังดูมาก แต่อวกาศนั้นมีผู้สมัครนับไม่ถ้วน โอกาสที่จะได้เข้าร่วมนับเป็นแค่หนึ่งในแสนล้าน
“โอกาสเล็กน้อยมากและก็ต้องผ่านการคัดเลือก รอบแรกของการคัดเลือกคือโลก รอบสองคือทั่วระบบสุริยะ และมีเพียงผู้ชนะในตอนท้ายถึงสามารถเดินออกไปสู่จักรวาลได้ แข่งขันกับเหล่าอัจฉริยะจากจักรวรรดิดวงดาว …”
 
เสียงเขาต่ำและแข็งกร้าว กระแทกทั้นหัวใจทุกคน
นักเรียนทุกคนดึงรอยยิ้มกลับและสวมสีหน้าเคร่งขรึม แม้จะถือเป็นอัจฉริยะบนโลก พวกเขาก็ไม่นับเป็นอะไรในระบบสุริยะ ไม่ต้องพูดถึงจักรวาล
มักมีคนแข็งแกร่งกว่าเสมอ
จักรวาลกว้างใหญ่เกินไปและหากไม่มีใครสำรวจมัน พวกเขาคงไม่อาจจินตนาการได้ว่าฝ่ายตรงข้ามพวกเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน
เฟิงหลินกำหมัดแน่นและก็มีเปลวไฟเผาไหม้ในตา
แค่คิดว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเอกภพนั้นมีหลายรอบ มันก็เป็นการบ่งชี้แล้วว่าจะมีอัจฉริยะทั่วทุกมุมจักรวาลมารวมตัวกัน
แค่คิดมันก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นแล้ว!
 
“การทดสอบแรกบนโลกคือการต่อสู้กับลูกน้องของฉัน ลูกน้องของฉันแต่ละคนเป็นนักรบมากความสามารถ แต่ละคนคือผู้บ่มเพาะดวงดาวที่มีสถานะพลังอย่างน้อย70 พวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้เธอ มีเพียงการเอาชนะพวกเขาถึงจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าพวกเธอมีสิทธิ์เข้ามหาวิทยาลัยเอกภพ เลิกคิดฝันที่จะเอาชนะอัจฉริยะเหล่านั้นได้เลยหากยังเอาชนะลูกน้องฉันไม่ได้”
 
ผู้สมัครแปลกใจ
ผู้บ่มเพาะดวงดาวสถานะพลังกว่า70มักไม่ธรรมดา พวกเขาผ่านการสังหารหมู่ในสนามรบมาและความกล้าหาญในการต่อสู้ก็เหนือกว่าผู้บ่มเพาะทั่วไป
ในขณะเดียวกัน นักเรียนมัธยมปลายเหล่านี้ก็แค่นักเรียนและไม่รู้สึกมั่นใจที่จะต่อสู้กับเหล่านักรบ พวกเขารู้สึกกลัวและขี้ขลาด
เฟิงหลินกลมกลืนไปกับฝูงชน ปกปิดพลังเขาขณะลอบสังเกตนักรบเหล่านั้น
ทั้งหมดสวมเครื่องแบบและมีหุ่นเพรียว กล้ามเนื้อพวกเขากระจายอย่างสม่ำเสมอและแข็งแรง ช่วยให้พวกเขาว่องไวแต่ไม่เสียพละกำลัง พวกเขาปล่อยกลิ่นอายดุร้ายออกมา
นักรบเหล่านี้มีประสบการณ์สังหารหมู่ในสนามรบมานับไม่ถ้วน พวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?
เขาจะรู้หลังทดสอบพวกเขา!
เฟิงหลินเริ่มคาดหวัง
ผู้สมัครคนอื่นรู้สึกกังวลมากแต่นายพลก็เด็ดขาดและรวดเร็ว ไม่ให้พวกเขามีเวลาตอบสนองและพูดอีกครั้ง
สายตาเขาเย็นชาขณะจ้องทุกคน ไม่มีใครกล้าส่งเสียง
“นี่คือการทดสอบรอบแรกสำหรับการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยเอกภพ มีใครจะคัดค้านอะไรไหม?”

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset