Legend of the mythological genes – ตอนที่ 187

กระสวยอวกาศพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
หลังจากทราบข้อมูลเกี่ยวกับการสอบรอบที่สองจากนายพล เฟิงหลินและอาจารย์ใหญ่ก็ออกจากสมาคมการบ่มเพาะและกลับไปที่เมืองฮั่วเซี่ย
 
“อีกหนึ่งเดือนก่อนที่จะเริ่มการทดสอบรอบสอง เฟิงหลินเธอมีแผนอะไรบ้างไหม?” อาจารย์ใหญ่ถาม เส้นทางที่เฟิงหลินเลือกเดินจะเป็นผลประโยชน์ที่โรงเรียนจะได้รับ อาจารย์ใหญ่ต้องกังวลเป็นธรรมดา
“ ต่อไปผมจะพยายามบ่มเพาะอย่างดีที่สุดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของยีน ผมต้องทำให้สำเร็จก่อนการสอบรอบที่สอง” เฟิงหลินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเผยแผนการในอนาคตเล็กน้อย
“ อะไรนะ?ความแข็งแกร่งของยีนเธอยังไม่ถึงขีดสุดอีกหรอ แต่สถานะพลังของเธอสูงกว่า 90 แล้วไม่ใช่หรอ?เธอจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับยีนระดับไหน?” อาจารย์ใหญ่ตกใจมาก ความสำเร็จของเฟิงหลินนั้นไม่สามารถอธิบายได้ด้วยตรรกะของการบ่มเพาะ
 
แม้ว่าเฟิงหลินจะเป็นนักเรียนของเขา แต่เขาก็ถูกปกคลุมด้วยความลึกลับ อาจารย์ใหญ่ไม่สามารถมองทะลุเขาได้
เมื่อเจอคำถามนี้เฟิงหลินก็ยิ้ม แต่ไม่พูดอะไรอีกแล้ว
 
อาจารย์ใหญ่เองก็รู้ว่าเขาถามเรื่องต้องห้าม ผู้บ่มเพาะจะยินดีเปิดเผยความลับต่อคนอื่นได้ยังไง?เขาไตร่ตรองเล็กน้อยและพูดต่อว่า“ เนื่องจากเธอมีแผนอยู่แล้ว ฉันก็จะออกใบอนุญาตให้เธอออกไปไหนก็ได้ เพียงแค่แสดงความสามารถของเธอให้ฉันดูตอนการทดสอบคราวหน้าก็พอ”
 
“ขอบคุณครับ อาจารย์ใหญ่!” เฟิงหลินพยักหน้าขอบคุณ
 
เพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนร่วมโรงเรียนต่างก็อิจฉาเมื่อเห็นสิ่งนี้
อาจารย์ใหญ่ให้อิสระอย่างมากกับเฟิงหลินเพราะเขารู้ว่าอัจฉริยะที่แท้จริงนั้นไม่สามารถผูกมัดได้ด้วยกฎระเบียบและข้อจำกัด อัจฉริยะที่แท้จริงจะเดินต่อไปบนเส้นทางที่เขาเลือกเอง
นี่คือสิ่งที่เฟิงหลินต้องการ
หลังจากที่พวกเขาสองคนตกลงกันเรียบร้อยและกระสวยอวกาศมาถึงเมืองฮั่วเซี่ย เฟิงหลินก็ได้อยู่ลำพัง
ต่อไปเขาต้องเข้าสู่ความสันโดษและบ่มเพาะเพื่อเตรียมการสอบรอบที่สอง
ตราบใดที่เขาเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของยีนวิญญาณได้ เขาจะมีความหวังในการเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง
ถ้าเขาต้องการที่จะผ่านรอบที่สองและเดินทางต่อไปบนเส้นทางของเขา เขาจะต้องประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะ ไม่มีโอกาสให้กับความล่าช้า
ไม่งั้น แม้ว่าเขาจะได้รับการพิจารณาว่าสูงสุดในหมู่เพื่อนในระบบสุริยะเนื่องจากฐานการบ่มเพาะปัจจุบัน แต่เขาก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับอัจฉริยะของเหล่าจักรวรรดิดวงดาว
หลังจากกลับถึงบ้าน เขาก็เตรียมที่จะบอกพ่อกับแม่และเตรียมการไปเก็บตัว แต่ทันใดนั้นเขาก็พบใบหน้าคุ้นเคยในบ้านของเขา
 
ไม่มีใครอื่นนอกจากหัวหน้าตระกูลเฟิง
ทำไมเขาถึงมาบ้านฉัน?
หัวใจของเฟิงหลินสับสน จะไม่มีคลื่นหากไม่มีลม จู่ๆหัวหน้าตระกูลก็มาเยี่ยมเขา เหตุผลส่วนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังนั้นไม่ค่อยดี
แต่ตอนนี้เขามั่นใจพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ทุกสถานการณ์ ไม่มีอะไรให้กลัว
 
“พ่อแม่ผมกลับมาแล้ว” เฟิงหลินเข้าบ้านอย่างสงบ
เมื่อหัวหน้าตระกูลเห็นเฟิงหลิน สายตาของเขาก็สดใสขึ้นมา เขาเดินมาหาและหัวเราะร่า “เฟิงหลินขอแสดงความยินดีกับการสอบรอบแรกของมหาวิทยาลัยเอกภพ”
 
ข่าวแพร่กระจายเร็วแค่ไหนกัน?
แต่เขาก็นึกได้ เมื่อเขาผ่านการทดสอบ เขาเห็นเฟิงหลี่และเฟิงจินเถิง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสองก็ได้สมัครเข้ามหาวิทยาลัยเอกภพด้วย
เฟิงหลินขมวดคิ้วและตอบว่า “หัวหน้าตระกูล คุณก็พูดเกินไป ผมเพิ่งผ่านรอบแรก ยังมีการสอบรอบสองซึ่งกำลังรอผมอยู่”
 
“ถ่อมตัวไม่เบา ไม่เลวเลยจริงๆ! ฉันมาที่นี่เพราะการสอบรอบที่สองนั่นแหละ” หัวหน้าตระกูลพูด
มันต้องซ่อนเจตนาชั่วร้ายไว้อย่างไม่ต้องสงสัย!
เฟิงหลินรู้สึกระมัดระวังในใจ หัวหน้าตระกูลมาหาถึงที่ ดังนั้นเรื่องที่เขาต้องการจะพูดต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน
เฟิงหลินเพียงแค่ยิ้มและไม่ตอบกลับ
หัวหน้าตระกูลลอบรำพึง’เด็กนี่รับมือได้ยากจริงๆ’
หัวหน้าตระกูลยังคงรักษารอยยิ้มของเขาไว้”เอาล่ะ ฉันมีคำขอมาขอเธอ ซึ่งเธออาจลำบากเล็กน้อย”
“ในเมื่อผมรู้ว่ามันจะลำบากแล้ว ผมคงไม่ตอบรับ” เฟิงหลินยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขาดูไม่เหมือนรอยยิ้มเลย
 
แค่กก…
หัวหน้าตระกูลเกือบกระอักเลือด รู้สึกเหมือนเฟิงหลินอยากทำให้เขาโกรธจนตาย
เขายังสามารถเห็นธรรมชาติที่ไม่ถูกควบคุมและไร้ความกังวลของเฟิงหลิน เขาเข้าเรื่องทันที “เฟิงหลินขอบเขตของการทดสอบรอบที่สองจะครอบคลุมทั้งระบบสุริยะ การแข่งขันจะรุนแรงมาก ภายในตระกูลเฟิงทั้งเธอ เฟิงหลี่และเฟิงจินเถิงต่างก็ผ่านรอบแรก ทำไมเธอทั้งสามคนถึงไม่ร่วมมือกัน ในฐานะคนตระกูลเดียวกัน ถ้าเธอร่วมมือกัน โอกาสผ่านก็ยิ่งสูงไม่ใช่งั้นหรอ?”
นั่นคือเจตนาของเขา!
เฟิงหลินหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาในใจ ข้อเสนอแนะนี้ภายนอกอาจจะดูดี แต่นี่ไม่ใช่ในความเป็นจริง เฟิงหลินมีแผนของเขาอยู่แล้ว
 
เขามีความลับมากเกินไป เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องตัวเอง เขาไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมากเกินไป
สำหรับคนที่สามารถเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว ใครจะเป็นคนโง่?
หากความลับของเขาถูกเปิดเผย ทุกๆอย่างจะน่ากลัวสำหรับเขา
นอกจากนี้ยังมีเวลาหนึ่งเดือน เฟิงหลินพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนา ตราบใดที่เขาสามารถเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงได้ ทำไมจะต้องอยากเข้าร่วมกับคนอื่น?
 
เฟิงหลินหัวเราะ “หัวหน้าตระกูลก็สุภาพเกินไป  เฟิงหลี่และเฟิงจินเผิงต่างก็เป็นทั้งอัจฉริยะระดับสูงสุดของตระกูล มันจะดีหากพวกเขาร่วมมือกัน แต่สำหรับผม ผมเป็นแค่สมาชิกระดับต่ำ ถ้าผมเข้าร่วมผมจะเป็นภาระให้พวกเขาเปล่าๆ “
 
น้ำเสียงของเขาสุภาพ แต่ก็เป็นการปฏิเสธที่ชัดเจน เฟิงหลินกำลังล้อเลียนระบบตระกูลเบาๆ
หลังจากหัวหน้าตระกูลได้ยิน ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เฟิงหลินดื้อเกินไป เขาเป็นเหมือนหินแกร่งและมีกลิ่นเหม็น
 
“เฟิงหลินฉันจะพูดตรงๆ เธฮคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งในตระกูลของเรา หากเธอยินดีที่จะร่วมมือกับเฟิงหลี่และเฟิงจินเถิงเพื่อผ่านการสอบรอบสอง ฉันสัญญากับเธอเลยว่าในระยะเวลาหนึ่งเดือนก่อนที่การสอบจะเริ่ม ทรัพยากรการบ่มเพาะในคลังของตระกูลเฟิงเรา เธอจะสามารถใช้ได้ไม่จำกัด ” เมื่อเห็นว่าข้อเสนอของเขาล้มเหลว หัวหน้าตระกูลก็รีบยื่นเงื่อนไขเพื่อตกลงกันทันที
 
“หัวหน้าตระกูล ผมไม่มีหลักประกันใดๆเลยว่าจะผ่านการสอบรอบสอง คุณเอาอะไรมาพูดว่าผมจะผ่านอย่างแน่นอน?” เฟิงหลินตัดสินใจแล้ว หัวใจของเขาจะไม่หวั่นไหว
 
เงื่อนไขที่หัวหน้าตระกูลเสนออาจฟังดูน่าดึงดูดใจสำหรับหลายๆคนและเต็มไปด้วยความจริงใจ แต่ไม่ใช่กับเขา
หลังจากการเดินทางไปดาวอังคารเขาก็ได้รับความลับและรากฐานของบริษัทยาไจแอนท์ ในช่วงขณะนี้ เขาไม่ได้ขาดทรัพยากรด้านการบ่มเพาะ ทำไมเขาถึงจะต้องใช้ทรัพยากรจากตระกูลเฟิงด้วย?
ของขวัญบังหน้า!
ทำไมเขาต้องหาปัญหาให้ตัวเองเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้นด้วย?
 
“หัวหน้าตระกูล ผมวางแผนที่จะฝึกฝนในช่วงเวลาหนึ่งเดือน พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อก้าวไปข้างหน้า แทนที่จะร่วมมือกันเพื่อความปลอดภัย ทำไมผมไม่เพิ่มความแข็งแกร่งและพยายามเพื่อที่จะเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงให้ได้?นี่จะเป็นการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดว่าผมจะผ่านการสอบ ” หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่สนใจคำตอบของหัวหน้าตระกูลและเดินเข้าไปในห้องและปิดประตู
สายตาของหัวหน้าตระกูลเริ่มน่ากลัวขึ้น
 
เฟิงหลินถือได้ว่าเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวที่สุดยอด อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยได้รับความเมตตาใดๆจากตระกูลและตอนนี้เขาก็เติบโตมาถึงจุดที่ตระกูลควบคุมเขาได้ยาก
นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่าเฟิงหลินไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลเฟิง!
จากความสามารถก่อนหน้านี้ของเฟิงหลิน หัวหน้าตระกูลสามารถบอกได้ว่าเฟิงหลินเป็นอัจฉริยะเพียงคนเดียวที่ปรากฎในรอบศตวรรษ หากเขาออกจากตระกูลและเข้าร่วมกับองค์กรอื่นๆ นั่นจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของตระกูล หัวหน้าตระกูลจะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?
หัวหน้าตระกูลไตร่ตรองเงียบๆและคิด สายตาของเขาหันไปหาน้องของเฟิงหลินโดยไม่ตั้งใจ
บางทีเขาอาจจะ …
เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่หัวหน้าตระกูลกำลังวางแผน เฟิงหลินก็ไม่รู้และไม่สนใจ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลาครอบครัวและออกจากตึกของตระกูลเฟิง
อย่างรวดเร็วกระสวยสีเงินพุ่งแหวกท้องฟ้าเคลื่อนไปทางมหาสมุทรแปซิฟิก
สถานที่ที่เขากำลังจะไป … คือร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา!

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset