Legend of the mythological genes – ตอนที่ 190

สัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึกมีหัวแปดหัว พวกมันคำรามดังกึกก้อง ดูเหมือนหัวแต่ก็ดูเหมือนหาง ท้องอันมหึมานั้นถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด มันเปล่งกลิ่นอายดุร้ายที่สุดและรูปร่างของมันก็คล้ายกับสัตว์ประหลาดที่ทำลายโลกยามาตะ โนะ โอโรจิของตำนานญี่ปุ่น
โดยไม่สนใจว่ามันคือตัวจริงไหม เพียงแค่ลักษณะของมัน สิ่งมีชีวิตนี้ย่อมเป็นสิ่งมีชีวิตระดับจ้าวปีศาจที่ก้นบึ้งสมุทร
ยามาตะ โนะ โอโรจิ ทุกที่ที่มันผ่านไปสภาพแวดล้อมจะกลายเป็นดินแดนแห่งความตาย ไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลืออยู่และผู้ที่หนีไปได้จะหนีไปนานแล้ว
หัวทั้งแปดของยามาตะ โนะ โอโรจิกระจายออกไป เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าอวัยวะของมันถูกตัดมันก็จะงอกขึ้นมาใหม่ ยามาตะ โนะ โอโรจิทุบตีภูเขาผลไม้อย่างต่อเนื่อง กระแทกก่อให้เกิดเสียงฟ้าร้อง
หนอนตัวนี้หนีเข้าไปในเปลือกโลหะ มันจะยอมแพ้ได้ยังไง? มันถือว่ากระสวยอวกาศเป็นศัตรูมนุษย์และโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้
ยานบินภูเขาผลไม้สร้างขึ้นจากจุดสุดยอดของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มันแข็งแกร่งและทนทานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และไม่ใช่สิ่งที่สัตว์ประหลาดจะทำลายได้ ถ้าไม่อย่างนั้น ผู้ใช้จะอยู่รอดได้ยังไงเมื่อต้องสำรวจจักรวาลด้วยสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและอันตรายหลายแห่ง?
สิ่งที่ทำให้เฟิงหลินรู้สึกงงคือเขาไม่รู้ว่าระหว่างเขากับสัตว์ประหลาดตัวนี้ มีความขุ่นเคืองอะไรกัน? ทำไมมันไล่ตามเขาอย่างไม่ลดละเลย
ทันใดนั้นฉากหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของเขา ก่อนหน้านี้มีสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนปลาหมึกทะเลและถูกตัดเป็นชิ้นๆ
นั่นอาจเป็นลูกของยามาตะ โนะ โอโรจินี้หรือเปล่า?
เมื่อมองไปยังสัตว์ประหลาดตนนี้ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฟิงหลิน
หลังจากที่ฆ่าลูกแล้วแม่ก็มา?
ในเมื่อลูกถูกฆ่า ไม่น่าแปลกใจที่ยามาตะ โนะ โอโรจิจะบ้าคลั่งแบบนี้ แต่จะโทษเขาได้ยังไง?
เฟิงหลินปกป้องตัวเองจากการโจมตีอย่างไม่รู้ความ เขามาบ่มเพาะในบริเวณนี้อย่างเงียบๆแต่สัตว์ทะเลตัวนั้นกลับโจมตีเขา
เขาอดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยว่ารูปลักษณ์ของยามาตะ โนะ โอโรชิจินั้นน่ากลัวมาก ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน ความยาวของมันมากกว่า100 เมตรและแต่ละส่วนก็ยากที่จะต่อต้านได้ ทำให้กระสวยอวกาศสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ด้วยความรุนแรงนี้ ถ้าเฟิงหลินต่อสู้กับมันในน้ำด้านนอกจริงๆ เขาคงไม่มีทางต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้อย่างแน่นอน
เฟิงหลินไม่โง่ ทำไมเขาถึงไม่ใช้ประโยชน์จากกระสวยอวกาศในเมื่อเขาใช้ได้? ทำไมเขาต้องออกไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวต่อตัว? ทำไมเขาจะต้องรนหาที่ตายด้วย?
เขาเป็นคนโง่?
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่
กระสวยอวกาศสร้างขึ้นจากโลหะผสมที่ทนทานที่สุด ไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหนยามาตะ โนะ โอโรจินี้อาจดูดุร้ายและการโจมตีของมันก็รุนแรงฟ้าร้อง อย่างไรก็ตามมันไม่มีวิธีที่จะทำลายกระสวยอวกาศได้
เมื่อเห็นว่าเปลือกโลหะนั้นไม่เสียหายแม้แต่น้อย ยามาตะ โนะ โอโรจิก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น มันอ้าปากกว้าง มีพลังงานที่แตกต่างรวมอยู่ภายใน ในทันใด ลาวา น้ำแข็ง ลม… พลังงานแปดประเภทรวมตัวกันเป็นกระแสพลังพุ่งเข้าชนยานบินอย่างแรง
ครื่นนนน กริ้งง
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นจากปัญญาประดิษฐ์ของยานบิน”โปรดทราบ! มีรูปแบบการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติโจมตียานบิน ควรเปิดใช้งานมาตรการตอบโต้การโจมตีหรือไม่?”
 
สิ่งชีวิตเหนือธรรมชาติ?
เฟิงหลินรู้สึกงงนิดหน่อย
สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติมีลักษณะเดียวกันกับผู้บ่มเพาะ พวกมันสามารถควบคุมพลังเหนือธรรมชาติได้ เพียงแค่ว่าผู้บ่มเพาะหมายถึงเผ่าพันธุ์จากอารยธรรมที่ชาญฉลาด ในขณะที่สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติคือสัตว์อสูรและสัตว์ประหลาด
ต้องรู้ว่าในตำนานนั้นไม่ขาดสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง ยามาตะ โนะ โอโรจิจากตำนานญี่ปุ่นไม่นับเป็นอะไรได้ แค่จากในภูเขาและทะเลจากตำนานฮั่วเซียก็มีสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วน ฉงฉี เซียงหลิว, ปี่เซียะ …และสำหรับตำนานตะวันตกก็ได้แก่ ไฮดร้า เมดูซา …
พวกมันเหมือนกับมนุษย์ สัตว์ก็มียีนในตำนานที่หลับอยู่ในร่างกาย เพียงแค่ความฉลาดของพวกมันต่ำกว่ามากและพวกมันไม่มีทางที่จะปลุกยีนในตำนานได้และก้าวไปตามเส้นทางของการบ่มเพาะ
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาว่าจักรวาลกว้างใหญ่เพียงใด มีสิ่งมหัศจรรย์ทุกประเภท สัตว์บางตัวอาจสามารถปลุกยีนในตำนานได้ด้วยโชคและได้รับความฉลาดเพิ่มขึ้น สัญชาตญาณตามธรรมชาติของพวกมันจะทำให้มันควบคุมพลังเหนือธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันในนามของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ
สัตว์ประหลาดตรงหน้าเขานี้เป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติจริงๆ? มันอาจจะเป็น ยามาตะ โนะ โอโรจิจริงๆหรือเปล่า?
ไม่ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ
นี่มันไร้เหตุผล
โลกได้สูญเสียอนุภาควิญญาณไปนานแล้ว จะมีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติได้ยังไง?
เราต้องรู้ก่อนว่าทรัพยากรที่ผู้บ่มเพาะบนโลกต้องการนั้นถูกส่งไปที่อื่นในจักรวาล โดยทั่วไปจะไม่มีสภาพแวดล้อมบนโลกที่ใครก็สามารถดูดซับอนุภาควิญญาณได้อีกแล้ว ตามธรรมชาติแล้ว สัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ควรสามารถเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติได้
ในกรณีนี้มีเพียงความเป็นไปได้เดียว
ยามาตะ โนะ โอโรจินี้ถูกมนุษย์สร้างขึ้นเหมือนที่บริษัทยาไจแอนท์ทำ
เฟิงหลินรู้สึกด้วยสัญชาตญาณว่านี่เป็นการทดลองของคนญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นตั้งอยู่ใกล้กับร่องลึกสมุทรมาเรียนาและพวกเขาชอบทำการทดลองที่ไม่ควรทำ นอกจากนี้ยามาตะ โนะ โอโรจิยังเป็นสัตว์ในตำนานของพวกเขา บางทีพวกเขาอาจใช้วิศวกรรมพันธุศาสตร์คืนค่าลักษณะที่แท้จริงโดยใช้ปลาหมึกเป็นรูปแบบพื้นฐานและสร้างสัตว์ประหลาดนี้ขึ้นมา?
เฟิงหลินรู้สึกว่านี่มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก
ร่องลึกสมุทรมาเรียนาอยู่ใกล้และลึกมาก มันเหมาะมากสำหรับคนญี่ปุ่นที่จะสร้างยามาตะ โนะ โอโรจิขึ้น จะไม่มีใครค้นพบมันได้
ในขณะนี้ยามาตะ โนะ โอโรจิยังคงปล่อยพลังงานโจมตีอยู่ ทำให้กระสวยอวกาศสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
หลังจากเฟิงหลินคิดได้ เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาอีกต่อไป หลังจับสิง่มีชีวิตนี้ ความลับทุกอย่างก็จะเปิดเผย
หากเสือไม่ได้ใช้อำนาจ มันจะต่างอะไรกับแมวป่วย?
 
“จื่อเซี่ย สลับไปโหมดโจมตีต่อเนื่อง !” เฟิงหลินออกคำสั่ง
“รับทราบ กัปตัน!” ปัญญาประดิษฐ์ของกระสวยอวกาศจื่อเซี่ยตอบ
 
กระสวยบินไม่จำเป็นต้องให้เฟิงหลินควบคุม ปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถมากพอในการจัดการ แผงบนกระสวยบินเปิดให้เห็นปืนใหญ่รังสีแสงที่ระเบิดเสาหลักของแสง
พลังงานไฟเผาผลาญยามาตะ โนะ โอโรจิทันที นอกจากนี้ยังมีพลังงานตัดอวัยวะของมันออก
ปลายของกระสวยอวกาศยังคงพุ่งใส่ยามาตะ โนะ โอโอจิ และหลังจากนั้นไม่นานสัตว์ประหลาดก็หมุนรอบตัวซ้ำ ๆ ในน้ำก่อนที่จะจมไป
อย่างไรก็ตามมันถูกสร้างจากแบบจำลองของสัตว์ร้ายจากตำนาน มันจะยอมแพ้ง่ายๆได้ยังไง? ยามาตะ โนะ โอโรจิพุ่งเข้ามาอีกครั้ง อ้าปากแล้วปลดปล่อยพลังโจมตีอีกครั้ง
แต่ก็ปรากฏเกราะแสงไอโอนิครอบยาน สกัดกั้นการโจมตีไว้ได้ง่ายๆ
ตามที่คาดไว้จากยานบิน ความสามารถในการป้องกันมันสูงมากจนน่าตกใจ!
เฟิงหลินพยักหน้าเงียบๆ ถ้ามันไม่มีพลังป้องกันเช่นนี้ กระสวยอวกาศนี้คงจะไม่สามารถเข้าและออกจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายต่างๆในจักรวาลได้อย่างอิสระ เพื่อสร้างรากฐานของมนุษยชาติและเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายให้เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับมนุษย์ที่จะอยู่
แม้ว่าเฟิงหลินจะเป็นเจ้าของยานบินนี้ แต่เขาก็ยังไม่ชัดเจนถึงความสามารถทั้งหมดที่ยานบินนี้มี
พลังของยามาตะ โนะ โอโรจินี้เป็นแค่เรื่องตลกเมื่ออยู่ต่อหน้ายานบิน
แสงปืนใหญ่ยิงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมันมีระบบจับเป้าอยู่จึงไม่มีทางที่ยามาตะ โนะ โอโรจิจะหนีไปได้ สัตว์ประหลาดแผดเสียงเจ็บปวดเมื่ออวัยวะถูกตัดขาดอีกครั้ง
ไม่ว่าการฟื้นคืนสภาพของสัตว์ประหลาดจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป และไม่ว่ามันจะโหดร้ายเพียงใด มันก็ยังกลัวความตาย
 
อวัยวะของมันพลิกอย่างรวดเร็วคล้ายกับปลาหมึกยักษ์ที่พยายามหนี มันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการงอกอวัยวะใหม่เพื่อที่จะได้เร่งความเร็วการหนี
แต่เฟิงหลินจะปล่อยให้มันหนีไปง่ายๆได้ยังไง? ดังนั้นเขาจึงควบคุมกระสวยอวกาศและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วเปลี่ยนเป็นแสงสีเงินและดำดิ่งสู่ส่วนลึกของมหาสมุทรเพื่อไล่ตามมัน

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset