Legend of the mythological genes – ตอนที่ 210

“เฟิงหลิน เธออยู่นี่เอง!”
 
เฟิงหลินเพิ่งปรากฎตัวในโรงเรียนมัธยมโลก เมื่ออาจารย์ใหญ่ได้รับข่าวก็รีบขึ้นไปต้อนรับเขา และถอนหายใจอย่างโล่งอก
สำหรับเขาเฟิงหลินเป็นอัจฉริยะหายากในโรงเรียนมัธยมโลกในรอบกว่าหนึ่งร้อยปี ชื่อเสียงของโรงเรียนมัธยมโลกจะสูงขึ้นในการสอบระหว่างมหาวิทยาลัยปีนี้หรือไม่มันขึ้นอยู่กับเฟิงหลิน
อาจารย์ใหญ่หงุดหงิดเมื่อสองสามวันก่อน หนึ่งเดือนผ่านไปและยังไม่มีวี่แววของเฟิงหลินเลย เขากลัวว่าเฟิงหลินอาจถูกโรงเรียนมัธยมอื่นๆซื้อตัวไป !
เขารู้ดีว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเฟิงหลินสูงแค่ไหน เขาจะเป็นที่ต้องการไม่ว่าจะไปที่ไหน!
หลังจากเห็นตัวเฟิงหลินแล้ว เขาก็สบายใจและรีบขึ้นไปต้อนรับเฟินหลินด้วยความกระตือรือร้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
 
“อาจารย์ใหญ่!” เฟิงหลินพยักหน้าอย่างใจเย็น
 
อาจารย์ใหญ่เดินเข้าไปหา แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปก้าวแต่ละก้าวของเขาก็ช้าลง เขาประหลาดใจและสับสน
เขาเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงและมีความรู้สึกเฉียบคมมาก เขาสามารถรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่มาจากเฟิงหลิน ซึ่งทำให้ยากที่จะเข้าใกล้เขา
(สำหรับนักเรียนที่สามารถกดดันฉันด้วยพลังของเขา … เป็นไปได้ไหมว่าพลังของเขาแข็งแกร่งกว่าฉันแล้ว?!)
(นี่ไม่น่าจะเป็นไปได้!)
ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้ว่าเฟิงหลินเก่งมาก เขาจะสงสัยทันทีว่ามีคนอื่นแอบอ้างเป็นนักเรียนคนนี้!
เขาบรรลุความก้าวหน้าจริงๆและกลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสุงภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน?
เขาทำอย่างนั้นได้ยังไง?

“เธอบรรลุความก้าวหน้าอีกครั้งใช่ไหม?” อาจารย์ใหญ่มีสีหน้าหวาดกลัวราวกับว่าเขาเพิ่งเห็นผี
ทำไมเขาถึงใช้คำว่า “อีกครั้ง”?
เฟิงหลินพยายามเพื่อความสำเร็จมาหลายครั้ง ทำให้เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
 
“ถูกตัอง!” เฟิงหลินพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก
 
พลังของเขาทะลุ 100 จนถึง 218 นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตามเขาเพิ่งจะเข้าใกล้การเป็นผู้บ่มเพราะระดับสูง
แต่มันก็ยากที่จะอธิบาย
เขาไม่ได้เป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง แต่พลังของเขาก็ทะลุขีดจำกัดของผู้บ่มเพาะดวงดาว ความจริงเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรลับในตำนานของญี่ปุ่น และเขาจะต้องไม่เปิดเผยอะไรทั้งนั้น
 
เขาได้ทราบเรื่องเกี่ยวกับการหายตัวไปของเสาศักดิ์สิทธิ์ญี่ปุ่น – การเผชิญหน้ากันระหว่างสองประเทศบนโลก
ในฐานะผู้กระทำความผิดที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้เฟิงหลินจึงตัดสินใจปิดเอาไว้ มิฉะนั้นถ้าเขากลายเป็นไปมีส่วนร่วม มันจะลำบาก
ด้วยการสอบเข้าวิทยาลัยที่ใกล้เข้ามาแล้ว เขาไม่ต้องการมีปัญหา
เฟิงหลินพยายามรักษากลิ่นอายของเขาไว้อย่างดีที่สุด ราวกับว่าเขาเป็นคนธรรมดา นอกเหนือจากผู้บ่มเพาะระดับสูงอย่างอาจารย์ใหญ่จะไม่มีใครสามารถค้นหาความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้
 
“ไปกันเถอะ!” เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินไม่ได้จะอธิบายอะไรอาจารย์ใหญ่ก็ไม่ถามต่อไป
 
ผู้บ่มเพาะดวงดาวคนไหนไม่มีความลับเป็นของตนเองบ้างละ?
เขาอดใจรอไม่ไหว และนำกระสวยอวกาศออกไปกับเฟิงหลินเพื่อไปที่สมาคมการบ่มเพาะโลก
กระสวยอวกาศลอยน้ำขนาดใหญ่จอดอยู่บนเกาะโลหะ มันรออยู่นานมากแล้ว
กลุ่มนักรบสวมชุดเกราะต่อสู้ สวมหมวกและมีอุปกรณ์ครบยืนอยู่!
อาจารย์ใหญ่เดินเข้าไปและส่งเอกสารของเฟิงหลิน การยืนยันเสร็จสมบูรณ์ทันที
 
“รีบเข้าไปข้างใน! อย่าทำเสียงอึกทึกครึกโครมหรือฝ่าฝืนคำสั่ง มิฉะนั้นคุณจะต้องแบกรับผลที่ตามมา! … ” ทหารคนนั้นเตือนเฟิงหลิน
 
เฟิงหลินไม่ได้พูดอะไรและเข้าไปเงียบ ๆ
สมาคมการบ่มเพาะโลกเป็นองค์กรการบ่มเพาะขนาดใหญ่สำหรับมนุษย์ที่ผูกขาดในจักรวาล มันเป็นเหมือนเจ้าสัวและไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะดวงดาวตัวคนเดียวแบบเขาจะสามารถต่อสู้ได้
แม้สมาคมจะยิ่งใหญ่มาก พวกเขาก็ทำตามความจริงและไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร
อวกาศกว้างใหญ่มาก มีสิ่งมีชีวิตอยู่ทุกประเภท
อย่างไรก็ตาม ทุกปีจะมีหลายกรณีที่ผู้สมัครมีเบื้องหลังขัดแย้งกับสมาคม ต้องการใช้ตัวตนอันสูงส่งของพวกเขา ในที่สุดคนเหล่านี้จะถูกเนรเทศไปยังหมู่เกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ โดยห้ามมิให้มีการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั่วชีวิต
เฟิงหลินเข้ามาในกระสวยอวกาศและมันก็เต็มไปด้วยผู้คน มีคนทั้งหมดกว่า 100 หรืออาจจะมากกว่านั้น เห็นได้ชัดว่าผู้สมัครจากโลกอยู่ที่นี่ทั้งหมด
ท่ามกลางผู้คนในกระสวยอวกาศนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะมีความมั่นใจแค่ไหนก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึกกังวล ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการทดสอบครั้งต่อไป
การทดสอบรอบที่สองจัดขึ้นทั้งระบบสุริยะ จะมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งจำนวนมากและการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น
พวกเขาได้รับการพิจารณาว่าเป็นอัจฉริยะอันดับต้นๆของโลก แต่พวกเขาไม่มีความหมายมากนักเมื่ออยู่ในระบบสุริยะ นอกจากพวกโดดเด่นจริงๆ พวกเขาส่วนใหญ่จะต้องพึ่งพาโชคหากพวกเขาต้องการที่จะผ่านการทดสอบ
นี่คือการทดสอบที่เกี่ยวกับชะตากรรมของแต่ละคน
 
หากพวกเขาสามารถผ่านด่านนี้ไปได้ พวกเขาจะเป็นเหมือนปลาคาร์พที่กระโดดข้ามประตูมังกรและกลายเป็นมังกรที่ล่องลอยท่ามกลางหมู่เมฆ
หากพวกเขาไม่สามารถผ่านการทดสอบนี้ พวกเขาจะตกจากที่สูงและกลายเป็นเพียงแค่ขุนนาง
ผู้บ่มเพาะดวงดาวทุกคนต่างปรารถนาที่จะขึ้นไปสู่ความยิ่งใหญ่ พิชิตจักรวาลไร้ขอบเขตและไปถึงจุดสูงสุดเพื่อชมมุมมองจากจุดสุดยอด
สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและปรารถนา
เฟิงหลินนั่งเงียบๆ ท่ามกลางฝูงชนด้วยท่าทีที่สงบ
 
“พลังจะมอบความมั่นใจให้!”
เขามีความมั่นใจว่ามีเพียงไม่กี่คนในรุ่นนี้ที่เป็นคู่แข่งของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลอะไรมากนัก
เฟิงหลินเริ่มสังเกตคนอื่นอย่างสบายๆ สิ่งที่เขาพบว่าแปลกคือเขาไม่เห็นเฟิงหลี่และเฟิงจินเผิง
พวกเขาสองคนผ่านการทดสอบรอบแรกอย่างชัดเจนและหัวหน้าตระกูลจ่ายเงินให้พวกเขาเป็นพิเศษเพื่อต้องการให้เขาช่วยพวกเขาผ่านรอบที่สอง แล้วพวกเขาไปไหน?
 
(สิ่งใดที่ทำให้พวกเขาออกจากการสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกภพ)
(อาจเป็นเพราะเฟิงเส้าโหย่วหรือเปล่า)
หัวใจของเฟิงหลินสับสน เขารู้สึกว่านี่เป็นไปได้มาก
เฟิงเส้าโหย่วมาจากเผ่าบรรพชนดวงดาวและต้องการที่จะรับสมัครสมาชิกจากตระกูลเฟิง เพื่อเสริมสร้างอิทธิพลของเขาเอง
มีเพียงการล่อลวงให้กลับไปยังเผ่าบรรพชนดวงดาวเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขายอมแพ้ในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยเอกภพนี่
การแข่งขันสำหรับมหาวิทยาลัยเอกภพนั้นโหดร้ายมาก และไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าร่วมได้ อย่างชัดเจนการกลับไปยังเผ่าบรรพชนดวงดาวนั้นปลอดภัยกว่าและมีโอกาสที่ดีกว่าในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินไม่ได้คิดเช่นนั้น และเขาหวังว่าทั้งสองคนจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ในอนาคต
ในอดีตนั้น เฟิงเส้าโหย่วสร้างแรงกดดันมหาศาลแก่เขา แต่ตอนนี้มันคงไม่เหมือนเดิม
แม้ว่าเผ่าบรรพชนดวงดาวจะมีรากฐานที่ทรงพลัง แต่พลังของเฟิงเส้าโหย่วไม่เกิน 150 ดังนั้นเขาจึงเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่ตระกูลไม่เห็นความสำคัญ เห็นได้ชัดว่าการพัฒนาในอนาคตของเฟิงหลี่และเฟิงจินเผิงจะเป็นยังไงเมื่อพวกเขาติดตามเฟิงเส้าโหย่ว
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเรื่องของคนอื่น เฟิงหลินคิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากนั้นก็หยุด โดยไม่คาดคิดเขาเห็นฟูมะ ทาโร่และเทพธิดาในฝูงชน
ผ่านไป 20 วันและทั้งสองคนก็ฟื้นแล้ว เพียงแค่สีหน้าของพวกเขายังคงดูซีดเซียวอยู่เล็กน้อย
สายตาของฟุมะ ทาโร่มองฝูงชนเหมือนหมาป่าที่ดุร้าย ดูเหมือนว่าจะคิดว่าคนที่ขโมยเสาศักดิ์สิทธิ์ญี่ปุ่นจะต้องมาที่นี่
 
เฟิงหลินยิ้มไม่ใส่ใจอะไรเลย เขารู้สึกระมัดระวังและค้นพบว่าอัจฉริยะเหล่านี้จากโลกไม่สามารถกดดันเขาได้อีกต่อไป เขาสงสัยว่าผู้เชี่ยวชาญของนักเรียนในระบบสุริยะจะเป็นยังไง
เขาเริ่มรู้สึกคาดหวัง
 
“ผู้สมัครทุกคนเตรียมพร้อม กระสวยอวกาศกำลังจะปิด” เสียงดังขึ้นและกระสวยอวกาศก็ส่ายเล็กน้อย
 
ในพริบตามันทะลุผ่านชั้นบรรยากาศและหายไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
อาจารย์ใหญ่ยืนอยู่ด้านบนสุดของสมาคม มองกระสวยอวกาศออกไปแล้ว เขาไม่ไปไหนแม้จะผ่านไปนานมาก
 
(เฟิงหลิน ขอให้เธอโชคดี)
 
เขาฝากความหวังทั้งหมดของเขาไว้กับเฟิงหลิน
กระสวยอวกาศเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ทำให้อนุภาคฟุ้งกระจายและปล่อยเปลวไฟอย่างต่อเนื่องที่ด้านหลังขณะที่มันตัดผ่านความมืดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ผ่านไปสามชั่วโมงและมีวัตถุขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้า
 
วัตถุทรงกลมโลหะขนาดใหญ่ลอยอยู่ในอวกาศซึ่งได้รับการสนับสนุนจากยานรบหลายร้อยลำ มันเหมือนกับสัตว์ประหลาดโลหะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ใหญ่เท่าดาว นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นยานรบดวงดาว

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset