Legend of the mythological genes – ตอนที่ 218

“เธอสองคนเป็นใคร” เฟิงหลินจ้องหญิงสาวทั้งสองคน เขาถามด้วยความกดดันอย่างหนัก น้ำเสียงของเขาแข็งเหมือนน้ำแข็ง หัวใจของเขาไม่ได้หวั่นไหวไปกับความงามของพวกเธอเลย
หญิงสาวที่ดูดุดันไม่ตอบ ร่างกายของเธอโค้งงอเหมือนธนู กลิ่นอายมุ่งร้ายปะทุออกมาจากเธอ เธอจ้องมองเฟิงหลินอย่างระมัดระวัง
เหมือนกับว่าหากเฟิงหลินทำอะไรผิดปกติเมื่อไหร่ เธอจะพุ่งเข้าหาและฉีกเขาเป็นชิ้นๆทันที
 
“อืมม?” เฟิงหลินกดดันหนักขึ้น จริงๆแล้วหญิงสาวที่ดูดุร้ายนี้ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างมาก สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เขารู้สึกตกใจและกังวล
 
เขาอดไม่ได้ที่จะสำรวจทั้งสองคนอย่างจริงจัง
หญิงสาวที่มีผิวสีบลอนด์ ร่างกายของเธอมีกล้ามเนื้อและแข็งแรง แต่ไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่และความผันผวนของพลังชีวิตของเธอก็น่าตกใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงและไม่ใช่คนที่เพิ่งจะได้เป็น สถานะพลังของเธอสูงเกิน 100 และอาจเกิน 200 ทำให้เธอแข็งแกร่งกว่าเฟิงหลิน ถ้าไม่เช่นนั้นเธอจะไม่สามารถทำให้เฟิงหลินรู้สึกกดดันเช่นนี้
เธอมีคุณสมบัติที่กล้าหาญและมีลักษณะคล้ายกับรูปปั้นกรีก ใบหน้าดูเด็ก เธอยังไม่แก่มากนัก แต่ทว่ายอดเขาทั้งสองที่หน้าอกของเธออาจอธิบายได้ว่าเป็นอาวุธทำลายล้างขั้นสูง แม้แต่เฟิงหลินก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และแอบมองมัน
ในอ้อมแขนของเธอมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ดูนุ่มนวลและบอบบางมาก หญิงสาวคนนี้สวยงาม แต่สีหน้าของเธอซีดขาวราวกับว่าเธอป่วยเป็นโรค เธอดูเหมือนตุ๊กตาพอร์ซเลนที่บอบบางมาก
อย่างไรก็ตามเราไม่ควรตัดสินคนจากภายนอก!
ไม่มีคนอ่อนแอที่สามารถผ่านการสอบรอบแรกของมหาวิทยาลัยเอกภพและมาที่นี่เพื่อการทดสอบรอบสองเด็ดขาด
เมื่อเธอรู้ว่าเฟิงหลินกำลังจ้องมองอยู่ ดวงตาของหญิงสาวที่ดูดุร้ายก็เบิกกว้าง ตาเล็กเบิกกว้าง เธอส่งเสียงคำรามคล้ายกับเสือตัวเมีย กลิ่นอายดุร้ายเปล่งประกายชัดเจนมาก
ความเป็นปรปักษ์เย็นชาของเธอไม่ใช่ของปลอมเพราะเฟิงหลินรู้สึกว่าการจ้องมองของเธอทิ่มแทงเขาเหมือนเข็ม ในทางกลับกันดวงตาของเขาก็เย็นชามาก พวกเขายืนเผชิญหน้ากัน กลิ่นอายของพวกเขาปะทะกัน บรรยากาศเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าพวกเขาจะปะทุความขัดแย้งในเวลาใดก็ได้
 
“พวกเธอคือพวกเดียวกันกับสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์หรือเปล่า?” เฟิงหลินจับกระบองเหล็กแน่นขณะที่ถาม
หญิงสาวที่ดูดุร้ายเปล่งประกายความเกลียดชัง “นายเป็นฆาตกร ทำไมเราต้องบอกนายด้วย?”
เมื่อเฟิงหลินได้ยินดวงตาของเขาหรี่แคบลงอย่างเป็นอันตราย
แค่ก แค่ก แค่ก …
หญิงสาวผู้บอบบางเริ่มไออย่างจริงจัง ทำให้ความตึงเครียดในอากาศจางลงเล็กน้อย “น้อง อย่าสร้างปัญหาสิ”
 
 
หลังจากนั้นเธอก็หันมาพูดเบา ๆ กับเฟิงหลิน“ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณตกใจ เราแค่มาที่นี่เพื่อมาหาน้ำดื่มและจะออกจากที่นี่ทันทีหลังจากที่เราได้น้ำแล้ว”
 
เมื่อเห็นว่าเธอดูเหมือนจะไม่โกหก ท่าทางของเฟิงหลินก็เบาลงบ้างเช่นกัน
ท้ายที่สุดถ้าทั้งสองนี้มาจากสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ พวกเธอจะไม่ยืนมองจากด้านข้างและเวลาที่พวกเขาต่อสู้กันก่อนหน้านี้ก็ใช้เวลาตั้งนาน ทำไมพวกเธอจะต้องรอจนถึงตอนนี้
เขามีความมั่นใจประมาณ 80% ถึง 90% ว่าทั้งสองนี้เป็นผู้สมัครสอบและพวกเธอผ่านมาที่นี่โดยบังเอิญ
 
“เธอไม่ควรเข้ามายุ่งกับเรื่องของฉัน” เฟิงหลินมองไปที่พวกเธอก่อนที่จะหันหลังและออกไป หัวใจของเขาไม่ได้อ่อนลงเลยแม้จะได้เจอกับสาวสวยทั้งสองคนอย่างพวกเธอ
“นาย… ”หญิงสาวหน้าตาดุร้ายขมวดคิ้วขณะโกรธในใจ อย่างไรก็ตามเธอโดนหญิงสาวบอบบางหยุดเอาไว้ “พี่กำลังทำอะไร?ชายคนนั้นเป็นฆาตกรและเขาก็แสดงความหยิ่งยโส ถ้าฉันไม่สั่งสอนเขา เขาจะไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของสวรรค์และโลก”
หญิงสาวที่ดูบอบบางส่ายหัว “น้องควรเปลี่ยนอารมณ์ เรามาที่นี่เพื่อสอบและไม่ควรมีปัญหาอะไร ความขัดแย้งของชายคนนั้นกับคนอื่นเกี่ยวข้องอะไรกับเรา เขาเป็นคนโหดเหี้ยมมาก หักกระดูกของคนเหล่านั้นทั้งหมด พวกเขาจะไม่ตายอย่างรวดเร็ว แต่ชะตากรรมของพวกเขาถูกปิดผนึก พวกเขาจะไม่สามารถได้รับโอกาสใดๆบนดาวอสุรานี่ และรอความตายกลายเป็นอาหารสำหรับสัตว์ผิดปกติที่แย่กว่าความตายอย่างแท้จริง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเลือกที่จะทำเช่นนี้เพื่อให้ไม่ถูกพิจารณาว่าผิดกฎของการทดสอบ มันจะนำมาซึ่งปัญหาไม่สิ้นสุดเนื่องจากผลกำไรไม่ได้ชดเชยความสูญเสีย “
“เราต้องกลัวอะไร?” หญิงสาวที่ดูดุดันไม่เห็นด้วย “ในระบบสุริยะทั้งหมดมีคนไม่เกินสิบคนที่สามารถสู้กับน้องได้ มีเพียงอัจฉริยะที่แท้จริงจากจักรวาลเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับน้องได้ น้องไม่เชื่อว่าเด็กเหลือขอนี่มีความสามารถ! “
การแสดงออกของหญิงสาวบอบบางเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม “ น้องไม่สามารถมีความคิดเช่นนี้ได้ ผู้ที่สามารถกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวได้ย่อมมีไพ่ตายอยู่เสมอและมีความสามารถทางพันธุกรรมทุกประเภท ชายคนนั้นอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของน้อง แต่ถ้าเขาเลือกที่จะหลบหนี และกลับมาแก้แค้นในอนาคตมันจะมีปัญหาไม่รู้จบ! “
 
เมื่อมองพี่สาวของเธอ แม้เธอจะไม่พอใจแต่ก็ทำได้เพียงแค่เม้มปาก ไม่กล้าพูดอะไรอีก
เมื่อรับรู้ถึงการทะเลาะวิวาทระหว่างพี่น้อง เฟิงหลินไม่ได้สนใจอะไรพวกเธอ
ทะเลสาบแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำแห่งเดียวใน 100 กิโลเมตรดังนั้นผู้สมัครสอบคนอื่น ๆ จะพบว่ามีที่นี่ไม่ช้าก็เร็ว เขาไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป
เฟิงหลินเอาสิ่งของทั้งหมดมาจากสมาชิกของสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์ไป น่าเศร้าที่ไม่มีใครสามารถนำสิ่งของมามากมายมในการทดสอบรอบสองนี้ นอกเหนือจากแคปซูลน้ำแล้วเขาไม่ได้อะไรอีกเลย
นอกเหนือจากของของเขาเองตอนนี้เขามีเพียงยี่สิบแคปซูลน้ำ สิ่งเหล่านี้คือน้ำในรูปแบบที่ควบแน่น มีน้ำมากพอที่จะอยู่ได้ยี่สิบวัน
แน่นอนคนๆหนึ่งจะไม่สามารถรวยได้หากไม่มีโชคลาภ!
เฟิงหลินพยักหน้าสมาชิกเหล่านี้จากสังคมชาวอารยันเลือดบริสุทธิ์เป็นคนดีจริงๆ พวกมันได้แก้ไขความต้องการเร่งด่วนที่สุดสำหรับเฟิงหลินแล้ว
ต่อไปเขาสามารถสบายใจขึ้นและตามล่าสัตว์ประหลาดทางชีวเคมีเหล่านั้น
ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว อุณหภูมิร้อนแรงถึง 80 องศาและอากาศระเหยอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่เฟิงหลินก็ทนไม่ไหว
เฟิงหลินออกไปด้วยความเร็วสูง เขากำลังเตรียมที่จะหาที่ซ่อนตัวจากความร้อนของดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวันก่อน
เขาเคลื่อนไหวไปในทิศทางของทิวเขาทิ้งคู่พี่น้องที่เขาพบก่อนหน้านี้ไว้ข้างหลัง
ภูเขาที่นี่เชื่อมต่อกัน ความแตกต่างของความสูงทำให้ยอดเขาดูเหมือนคลื่นเมื่อมองจากระยะไกล นอกจากนี้พวกมันยังให้ร่มเงาจากดวงอาทิตย์ที่ปราศจากความเมตตา
เฟิงหลินเข้าลึกไปในหุบเขา แต่ยิ่งเขาเข้าไปลึกเท่าไรเขาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากเท่านั้น ความเงียบมีอยู่ทั่วไป บรรยากาศยังคงเป็นอันตรายถึงุตาย มีบางอย่างผิดปกติกับความรู้สึกของเขา
กระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีรูปร่างและขนาดต่าง ๆ ถูกฝังอยู่ในโคลน กระดูกที่เป็นของมนุษย์กับสัตว์ประหลาดและสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักบางชนิดสามารถพบได้ในภูเขานี้
 
“ช่วยด้วย! ฉันเป็นผู้สอบจากมหาวิทยาลัยเอกภพมีใครบ้างที่สามารถช่วยฉันได้ ฉันจะให้รางวัลอย่างงาม!” เสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังล่องลอยมาจากระยะไกล
รอยยิ้มเย็น ปรากฎบนริมฝีปากของเฟิงหลิน เขาไม่ได้พูดอะไรและหันไปรอบ ๆ เร่งความเร็วไปในทิศทางที่ต่างออกไปโดยไม่สนใจเสียงที่ขอความช่วยเหลือ
“ หัวหน้าเด็กน้อยนั่นไม่หลงกล” ในร่มเงาของหุบเขาแห่งหนึ่งมีคนราวๆสามสิบคนเดินออกมา พวกเขาเปลือยกายครึ่งหนึ่งและมีเสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์คลุมอยู่รอบตัว รอยสักของสัตว์ป่าสามารถมองเห็นได้ทั่วร่างกาย พวกมันคล้ายกับมนุษย์ดึกดำบรรพ์
 
ดวงตาของพวกมันส่องประกายรุนแรงขณะที่จ้องมองด้านหลังของเฟิงหลิน ลิ้นสีแดงของพวกมันเลียริมฝีปากราวกับว่ากำลังมองอาหารแสนอร่อยและไม่สามารถทนต่อความหิวได้
ผู้ชายที่เป็นผู้นำคือผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อใส่หมวก เขาสูงประมาณสามเมตรและเปล่งกลิ่นอายดุร้าย เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักหน่วง “ปล่อยมันไป”
“หัวหน้า มันน่าจะอร่อยมาก นานแล้วที่เราไม่ได้เจอผู้บ่มเพาะ เราจะปล่อยให้มันหนีไปได้ยังไง” คนเหล่านั้นงงงวย
“ทำไมถึงต้องรีบร้อนนัก? มีผู้สมัครสอบประมาณ 10,000 คน มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเปิดเผยตัวเราเองเพื่อจับมันด้วย?” หัวหน้าพูดด้วยเสียงหนัก “ ฉันสามารถบอกได้ว่าเด็กเหลือขอนี่เป็นตที่โหดเหี้ยม เพียงแค่มองเขาเขาสามารถฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตาและยังมีความจริงที่ว่าเขาทิ้งมนุษย์พิการหลายคนไว้ก่อนหน้านี้ มนุษย์พิการพวกนั้นเป็นอาหารของเรา เราจำเป็นต้องทำให้มันลำบากทำไม ถ้าเราทำให้เกิดความปั่นป่วนมากเกินไปผู้สมัครสอบคนอื่น ๆ ก็อาจจะรู้ตัว และมันยากกว่าที่เราจะได้เหยื่อของพวกมัน ผลประโยชน์ไม่ได้ชดเชยความสูญเสีย! “
“หัวหน้าท่านพูดถูก!” คนอื่นหัวเราะอย่างดูถูกหลังจากได้ยิน
 
เฟิงหลินรักษาความเร็วของเขา เขาชะลอตัวลงหลังจากที่เขาค้นพบว่าอาชญากรเหล่านั้นไม่ได้ไล่ล่าเขา ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเปลืองกำลังในการเร่งความเร็ว7
ใครจะถูกหลอกด้วยเทคนิคขั้นต่ำเช่นนี้?
เขาชัดเจนมากว่านั่นไม่ใช่แค่ความผิดปกติทางชีวเคมีและผู้สมัครสอบในดาวอสุรา นอกจากนี้ยังมีอาชญากรต้องโทษประหารที่ถูกส่งตัวมาที่นี่ อาชญากรเหล่านั้นเป็นปีศาจในหมู่มนุษย์และนี่อาจเป็นกับดักที่พวกเขาตั้งไว้
มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะโง่เขลามากจนต้องเดินเข้าไปในกับดักที่เขาเห็นได้
ทุกอย่างจะดีถ้าสนใจแต่เรื่องของตัวเอง!
ตราบใดที่อาชญากรเหล่านี้ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเขา เฟิงหลินก็จะไม่ไปเป็นศัตรูด้วย
เขาพบถ้ำที่ห่างไกลและเข้าไปในถ้ำเพื่อหลบความร้อน ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มบ่มเพาะ
ศักยภาพทางพันธุกรรม + 18%, + 18%, +18% … เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ทันใดนั้นความโกรธแค้นก็ปะทุออกมาจากด้านนอกถ้ำทำให้เขาตกใจ พลังวิญญาณของเขาพุ่งออกมา เขาค้นพบว่าหญิงสาวสองคนที่เขาพบก่อนหน้านี้กำลังต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรโทษประหาร หญิงสาวสองคนถูกล้อมและอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายอย่างมาก
เฟิงหลินหลับตาอีกครั้งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(ฮีโร่ที่ช่วยหญิงสาวซึ่มตกอยู่ในความทุกข์?)
(สิ่งนั้นไม่มีอยู่จริงในโลกแห่งความจริง!)

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset