Legend of the mythological genes – ตอนที่ 272

ในขณะนี้หมอกควันจางไปบ้างและทีมสามคนเดินเข้ามาใกล้ช้า ๆ เผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเขา
จริง ๆ แล้วพวกเขาคือคนจีนสามคน แต่มีอะไรแปลก ๆ พวกเขาไม่ได้เดินปกติและมีบาดแผลทั่วร่างกาย มีความเหนื่อยล้าบนใบหน้า กลิ่นเลือดจากร่างกายของพวกเขาบ่งบอกว่าพวกเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่ขมขื่นมา
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่กล้าหยุดพัก พวกเขาเพิ่มความเร็วราวกับว่ามีสัตว์ป่าไล่ล่าพวกมันจากด้านหลัง
 
“เร็วเข้า ทีมญี่ปุ่นจะตามมาทันแล้ว!”
“ไอ้พวกนั้น! พวกมันเลวจริงๆ หลังจากทำลายทีมอื่นอีกสามทีม แม้แต่พี่น้องของพวกเราสองคนก็ถูกฆ่าตาย!”

สีหน้าของพวกเขากลัวและโกรธ พวกเขาดูทั้งขายหน้าและเกลียดชัง แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้
 
“ สองคนมีสถานะพลังประมาณ 300+ และหนึ่งในนั้นมีมากกว่า 500+ พลังในการต่อสู้ของพวกเขาไม่แข็งแกร่ง นายอยากจะให้ลงมือไหม?” แอริสรู้สึกถึงกลิ่นอายของพวกเขา เจตนาฆ่าแผ่ออกมาจากเธอ
“ไม่ต้องรีบ” เฟิงหลินจ้องที่บาดแผลของคนเหล่านี้ ดวงตาของเขาส่องประกาย
“ทำไมล่ะ?” แอริสลังเลที่จะยอมแพ้ ชิ้นเนื้อสามชิ้นรอจะเข้าปากของเธอแล้ว
เฟิงหลินพูดอย่างใจเย็นว่า “ทั้งสามคนเห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไร พวกเขาไม่มีสิ่งของมีค่าใด ๆ เลยและอุปกรณ์ปราณจิตของพวกเขาน่าจะเสียหายไปแล้ว มันไม่คุ้มที่เราจะเสียการซุ่มโจมตีและเปิดเผยตัวตนเพราะพวกนี้ จากสิ่งที่พวกเขาพูดยังมีทีมที่ไล่ตามพวกเขามาและ – ทีมญี่ปุ่น – ต้องปล้นพวกเขาไปก่อนหน้านี้ สมบัติที่พวกเขาจะต้องอยู่กับทีมญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ถ้าเราเปิดเผยตัวเองและทีมญี่ปุ่นเห็นเรา การซุ่มโจมตีครั้งนี้จะไม่เกิดผลนะ “
 
ดวงตาของเขาเปล่งประกายความคมชัด
“ ทีมญี่ปุ่นน่าจะต้องแข็งแกร่งมาก บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะรับมือกับพวกเขา” ยานากล่าว
“มาดูกันก่อนเถอะ” เฟิงหลินตอบแบบไม่รีบ “ถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนของเรา พวกเราจะออกไปก่อนไม่จำเป็นต้องปะทะกัน เหมือนอย่างที่เธอพูด ความอยู่รอดคือกุญแจสำคัญในการสอบนี้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญของการอยู่รอดเอาไว้ก่อน “
 
หากกำลังพูดถึงสติปัญญา เขายอมรับว่าเขาไม่อาจเทียบเท่ายานาได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็เด็ดขาดและมีวิจารณญาณที่ดี ตอนนี้สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับตัวเขาเอง เขาจะมองสิ่งต่าง ๆ ไม่ชัดเจนได้ยังไง?
อีกสี่พยักหน้าและซ่อนตัวต่อ
ทีมชายสามคนนั่นรีบหนีเข้าไปในบึงน้ำด้วยสีหน้าวิตก พวกเขาไม่ยอมเสียเวลากับการชักช้า พวกเขาไม่รู้ว่าจะโชคดีพอที่จะอยู่รอดได้หรือเปล่า
ทีมของเฟิงหลินเฝ้าดูพวกเขาจากไป พวกเขาเป็นนักล่าที่มีประสบการณ์ซึ่งรู้ว่าเมื่อใดที่จะปล่อยให้เหยื่อตัวเล็กหนีไป เพื่อรอจับเหยื่อตัวโต
หวด, หวด, หวด ~
หลังจากนั้นไม่นานก็มีร่างห้าร่างปรากฏ หมอกควันบางส่วนถูกพัดไปด้วยความเร็วการมาถึงของพวกเขา
พลังวิญญาณของเฟิงหลินพุ่งกระฉูด เขารู้ทันทีว่าพวกเขาสองคนเป็นนินจาสวมชุดสีดำ มีซามูไรสองคนที่สวมชุดคาตานะ และมีชายร่างผอมที่สวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์และมีมงกุฎอยู่บนหัว ชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้เป็นหัวหน้าของทีมนี้
ฐานการบ่มเพาะของพวกเขาแตกต่างกัน จากกลิ่นอายที่เขารู้สึก
นินจาทั้งสองคนมีสถานะพลังประมาณ 500 ซามูไรทั้งสองมีสถานะพลังประมาณ 600 ในขณะที่หัวหน้ามีสถานะพลังเกินกว่า700
แม้ว่าหัวหน้า องเมียวจิคนนี้จะมีร่างกายที่ดูอ่อนแอแต่กลิ่นอายของเขานั้นช่างน่ากลัว มันมืดมนและเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง แต่หนักเหมือนภูเขา เมื่อเขาปล่อยกลิ่นอาย มันจะทำให้ผู้คนจะรู้สึกกดดันอย่างมาก
 
แม้แต่เฟิงหลินก็ไม่มีข้อยกเว้น กลิ่นอายแบบนี้ชี้ให้เห็นว่าสถานะพลังขององเมียวนี้ควรมีอย่างน้อย 900  เขาเหลืออีกเพียงหนึ่งก้าวจากการเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะ
“ องเมียวนี่น่าจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมนี้ พลังในการต่อสู้ของเขานั้นสูงมากและสถานะพลังของเขาเหนือกว่าพวกเราทุกคน หากเราไม่มีวิธีจัดการกับเขา มันจะยากมากสำหรับเราที่จะชนะทีมนี้” ยานากล่าว
“เราสามารถใช้ได้เพียงกลยุทธ์การแข่งม้าเทียนจีเท่านั้น!” เฟิงหลินกล่าวอย่างเย็นชา “ใช้คนที่อ่อนแอสุดของเราไปจัดการกับคนแข็.แกร่งสุด ขณะที่อีกสี่จะต้องรีบจัดการคนอื่น หลังจากนั้น เราจะร่วมมือกันรับชัยชนะ แต่ประเด็นคือ เราควรส่งใครไป?”
 
เขาจ้องมองไปรอบ ๆ
“ให้ฉันทำ” ซูลี่พูด ไม่สามารถเห็นสีหน้าของเขาภายใต้หน้ากาก แต่ดวงตาของเขาส่องแสงเยือกเย็น “จากคำพูดของผู้เฒ่าผู้แก่ของเผ่าฉัน ฉันได้ยินมาว่าองเมียวล้วนสามารถควบคุมภูติผีและปีศาจได้ ฉันต้องการทดสอบเทคนิคของเขา “
 
เขาเสนอตัวเป็นอาสาสมัคร
เฟิงหลินและคนอื่น ๆ ก็ไม่ปฏิเสธ
แม้ว่าสถานะพลังของพวกเขาแต่ละคนจะไม่ได้สูงมาก แต่เส้นทางที่พวกเขาเดินนั้นล้วนแต่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทุกคนล้วนมีความมั่นใจในตัวเอง
ตั้งแต่ซูลี่ตัดสินใจแล้ว ถ้าเขาพยายามหยุดเขา นั่นจะเป็นความอัปยศของซูลี่
นินจาที่อยู่หน้าสุดเดินไปยังทางเข้าของบึงเมฆควัน เขาสูดอากาศก่อนที่จะพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “อืม พวกมันเข้าไปในบึงน้ำแล้ว! อาเบะคุง เราต้องเพิ่มความเร็วของเรา ถ้าไม่อย่างนั้นหมอกควันจะขัดขวางเทคนิคไล่ตามลมของเราอย่างแน่นอนและเราจะไม่สามารถจับหนูตัวเล็กสามตัวนั้นได้ “
“ ใช่แล้ว โคชิโระ ฮัตโตริ นายควรไล่ตามพวกมันต่อไป” ดวงตาขององเมียวแวววับ
“ไฮ!” นินจาพูดด้วยความเคารพ เขาดมกลิ่นเลือดในอากาศ ขณะที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
 
โซ, โซ, โซ ~
เสียงดังสนั่น
ลูกธนูหนึ่งหมื่นลูกพุ่งออกมาราวกับว่านกยูงแผ่ปีก
อี้เริ่มการโจมตี คนที่โจมตีก่อนมักจะได้เปรียบ
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของการต่อสู้ของชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน พวกเขาไม่ใช่ตัวละครธรรมดาและโต้ตอบกลับทันที
 
“นั่นอะไร?” พวกเขามีประสบการณ์และตอบสนองเร็วมาก
 
นินจาที่ยืนอยู่ด้านหน้าโคชิโระ ฮัตโตริประสานมือและกดฝ่ามือของเขาลงบนพื้น
ธาตุดิน – กำแพงดิน
พื้นผิวดินแตกเปิดเห็นโคลนจำนวนมากก่อตัวขึ้นเป็นชั้นของกำแพงดินที่ปกป้องพวกเขาทั้งห้าคน
ปู, ปู, ปุ
ลูกธนูเหล่านี้มีแรงหมุน เจาะทะลุเข้ากำแพงดิน
การโจมตีของลูกธนูหนึ่งหมื่นลูกไม่ใช่สิ่งที่กำแพงสามารถปิดกั้นได้
ธาตุดิน: กำแพงดินสามชั้น!
โคชิโระ ฮัตโตริประสานมือและสร้างกำแพงดินสามชั้น ความเหนียวของกำแพงเหล่านี้คล้ายกับเหล็ก หลังจากนั้นเทคนิคของเขาก็สามารถป้องกันพลังของลูกธนูได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้กำแพงมีลูกธนูจำนวนมากเจาะอยู่  ดูเหมือนเม่น
 
“ พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงที่จะมาลอบฆ่าทีมยามาโตะผู้สูงศักดิ์!” นินจาอีกคนพูดด้วยความโกรธ เขาประกอบมือและอากาศที่ชั่วร้ายก็ปะทุออกมาจากเขา
“ธาตุวิญญาณ – วิญญาณโลกีย์!”
หวือออ ~
เสียงของผีร่ำไห้คร่ำครวญดังขึ้น
หัวผีขนาดใหญ่เท่าบ้านปรากฏขึ้น ผีมีใบหน้าร้ายกาจเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ปากมันเหมือนหลุมดำและโครงกระดูกในนั้นก็ร่ายรำ กระโดดออกจากปาก
ทีมของเฟิงหลินถูกบังคับให้ออกมา
 
“อืมม พวกน่ารังเกียจ พวกแกกล้าเข้าซุ่มโจมตีเรา ยังไงพวกแกก็ต้องตาย!” นินจาคำราม
ซามูไรคนหนึ่งกระทืบรองเท้าไม้กับพื้นอย่างแรง ถีบตัวขึ้นอากาศ แต่ละมือเขาถือดาบ คล้ายปีก
“เทคนิคดาบคู่บิน!”
 
แสงเย็นเฉือนผ่านอากาศ
หวด ~
พลังดาบพุ่งทะลักออกมาอย่างรุนแรงต้องการที่จะหั่นทีมของเฟิงหลินให้เป็นลูกเต๋าทันที
บูม!
ปราณดำรวมตัวกัน
ยักษ์ตัวหนึ่งลุกขึ้นจากก้นบึ้งของโลก สวมชุดเกราะ ปกป้องทีมของเฟิงหลินไว้ภายในฝ่ามือมัน
เงาดำอีกหนึ่งเงามีดาบสองเล่มกระโดดขึ้นไปในอากาศ ซามูไรมองด้วยหน้าตาโหดเหี้ยมขณะสับดาบลงมาสุดแรง
 
“กงล้อวิญญาณ หนึ่งดาบสะบั้น!”
แสงดาบสีดำเปล่งประกายแหลมคม ราวกับสามารถฟันทุกอย่างได้ ทิ้งรอยดาบไว้บนตัวรูปปั้น
เงาซามูไรไหววูบ เทคนิคการเคลื่อนไหวนี้แปลกประหลาดอย่างมาก เขาเฉือนทุกอย่างด้วยดาบ ต้องการที่จะฉีกรูปปั้นการต่อสู้ออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ตึง!
ทันใดนั้น เงาร่างถือกระบองเหล็กก็กระโจนออกมาใส่ซามูไร
ประกายไฟบินวนไปมาอย่างดุเดือด
กระบองเหล็กอัดแน่นด้วยพลังและการปะทะทุกครั้งก็ทำให้ซามูไรต้องล่าถอยด้วยแขนที่สั่นเทา
ในเวลาเพียงไม่นาน เฟิงหลินสามารถควบคุมคู่ต่อสู้ของเขาได้
ปัก ปัก ปัก1
ในเวลาเดียวกันโครงกระดูกที่ถูกเรียกออกมานั้นก็ถูกส่งไปโจมตีรูปปั้นการต่อสู้
พวกนินจาควบคุมวิญญาณโครงกระดูกเพื่อโจมตี ปากของมันที่เป็นเหมือนหลุมดำยังคงสั่น พยายามคายสิ่งต่างๆออกมา
โซ่ทองทำลายวิญญาณ!
ทันใดนั้นยานาก็ลงมือ เธอสวมชุดเกราะสีทองและเป็นเหมือนเทพธิดาที่จุติลงมา คทาเธอชี้ออกและคลื่นพลังงานไร้วิญญาณรวมตัวกันเป็นแสงสีทองของโซ่ที่พันกันอยู่ในอากาศ ล้อมรอบวิญญาณโครงกระดูก
ไม่นานเฟิงหลินและสมาชิกในทีมของเขาก็ออกมาต่อสู้กับทีมญี่ปุ่น
องเมียวที่สวมมงกุฎลืมตา สายตาของพวกเขาแสดงความเลือดเย็นและความมุ่งร้าย
ขบวนสิบอสูร!
เขาสะบัดแขนเสื้อของเขาและผีร้ายสิบตัวปรากฏตัวออกมา ผีที่มีลิ้นยาวห้อย มีใบหน้าสีเขียวและมีเขี้ยวที่หลั่งเลือดออกมาจากรูรับแสงทั้งเจ็ด
ในเวลากลางวัน ปราณวิญญาณออกอาละวาด ทำให้บรรยากาศกลายเป็นน่าขนลุก
ผีทั้งสิบตัวกระจายออกไป วิ่งไปหาเฟิงหลินและสมาชิกคนอื่น ๆ ของเขา
 
“คู่ต่อสู้ของนายคือฉัน!” ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วข่วนกรงเล็บอันแหลมคม
ซู่ลี่เปลี่ยนร่างเป็นปีศาจจิ้งจอก แยกวิญญาณออกเป็นสองส่วน
“คลื่นเพลิงปีศาจสิบชั้น!”
หางปีศาจทั้งปรากฏขึ้นข้างหลังเขา คลื่นปีศาจสีดำปะทุขึ้นมาอีกครั้งไม่หยุด
วิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสลายตัวไปอย่างสมบูรณ์
“แกเป็นใคร?” องเมียวพูดด้วยเสียงขึงขัง เขายังคงมีทัศนคติที่สูงส่งและเยือกเย็น
ดวงตาที่เผยให้เห็นจากหน้ากากของซูลี่นั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา “ ประเทศเล็ก ๆ อย่างญี่ปุ่น ชอบโอ้อวดจริงๆ”
“บ่วงสามหาง!”
น้ำแข็ง ไฟและสายฟ้า…
ธาตุที่แตกต่างกันทั้งสามโคจรเป็นวงกลมระเบิดใส่องเมียว
“เส้นทางตามตำนานของจิ้งจอกเก้าหาง?” องเมียวตื่นตกใจ
ชาวญี่ปุ่นมีความสุขุมรอบคอบในการรักษาตำนานอยู่เสมอ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับจิ้งจอกเก้าหางในตำนานญี่ปุ่น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อคิวบิ โนะ คิตสึเนะ
เมื่อเห็นลักษณะแปลก ๆ ของซูลี่ ดวงตาขององเมียวนั้นเต็มไปด้วยความโลภ มันเหมือนกับว่าเขาเพิ่งเห็นสมบัติล้ำค่าและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าที่จะเอามาเป็นของตัวเอง
ผู้บ่มเพาะในเส้นทางตำนานจิ้งจอกเก้าหางนั้นหายากมาก ถ้าเขาสามารถรับวิญญาณของชายคนนี้ได้ เขาจะสามารถกลั่นชิกิกามิของจิ้งจอกเก้าหางได้
ดวงตาของซูลี่เริ่มเยือกเย็น เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าถูกจ้องมอง
“เตรียมตัวตายเถอะ!” ร่างของเขาพุ่งผ่านอากาศ ในขณะที่เขาคว้าไปที่ลำคอขององเมียว
“ฮิ ฮิ” องเมียวหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย มือของเขาประกอบท่าทางรอยประทับ “แกอาจสามารถฆ่าผีสิบตัวนั่นได้ แต่กสามารถฆ่าได้ถึงหนึ่งร้อยตัวไหมล่ะ? ร้อยภูติผี!”
 
ปราณสีดำน่ากลัวทะลักออกมา ก่อตัวเป็นกรอบสีดำล้อมรอบท้องฟ้า
แผ่นดินแยก ผีและปีศาจร้ายนับไม่ถ้วนคลานออกมา ผีไม้ เด็กภูเขา ลิ้นสีแดงเข้ม … ผีร้ายพุ่งทะลักออกมาเหมือนกระแสน้ำ
….
แสงกระบี่กระพริบอย่างเย็นชา
ซามูไรเปลี่ยนเป็นยักษ์ เขาควงดาบคาตานะ
กระบองโลหะของเฟิงหลินพุ่งออกมาด้วยความดุร้าย การเคลื่อนไหวของเขานั้นธรรมดามาก แต่พวกมันก็กดดันเหมือนภูเขา
การใช้กำลังดุร้ายเพื่อทำลายเทคนิคทั้งหมด!
ไม่ว่าแสงกระบี่จะแหลมคมแค่ไหน ภายใต้กระบองอันทรงพลัง แสงดาบก็ถูกบังคับให้กระจายไปยังปราณดาบ เมื่อปราณดาบกระทบใส่ร่างของเฟิงหลิน ประกายไฟก็กระจายออกมา แต่ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ
ปัง ปัง ปัง!
กระบองโบกไปมาอย่างรวดเร็ว กระแทกอย่างรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้ซามูไรบาดเจ็บหนักและทำให้เขาต้องถอยกลับ
เฟิงหลินได้เปรียบอย่างสมบูรณ์ หากมีเวลาพอเขาจะได้รับชัยชนะ
อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่เพียงพอ!
ปีศาจต่างก็เดินพล่านด้วยความคลั่งไคล้

สามหางของซูลี่ยังคงเคลื่อนไหวปกป้องตัวเอง เขาถูกล้อมรอบไปด้วยผีนับร้อยและเขาแทบจะไม่สามารถปกป้องชีวิตของเขาเอาไว้ได้ มันยากเกินไปที่จะชนะ
สามหางยังคงระเบิดออกมาทำลายผี แต่มันมีจำนวนมากเกินไป พื้นที่รอบๆตัวเขาตอนนี้ก็เหมือนนรกในโลกมนุษย์
ซูลี่ยังคงฆ่าผีเหล่านั้นต่อไป อย่างไรก็ตามความพยายามของเขาเหมือนการขว้างถ้วยน้ำลงบนไฟที่ลุกโหม มันไม่เพียงพอ เขาไม่มีทางที่จะแยกตัวออกจากการโจมตีนี้ได้
เฟิงหลินมองและรู้สึกไม่ดีในหัวใจ
ตอนนี้ซู่ลี่ทำได้เพียงการเปลี่ยนแปลงแบบสามหางเท่านั้น เขายังไม่เข้าใจสาระสำคัญที่แท้จริงของเส้นทางตำนานของสุนัขจิ้งจอกเก้าหาง
เส้นทางในตำนานของเขาจะไม่แพ้องเมียวอย่างแน่นอน น่าเศร้าความแตกต่างของสถานะพลังระหว่างเขาและคู่ต่อสู้ของเขานั้นสูงมากเกินไปตอนนี้
ผีร่ายรำอย่างดุเดือดตั้งใจที่จะฆ่าซูลี่ ทุกอย่างอยู่ในความวุ่นวาย
ตอนนี้นินจาและซามูไรเหล่านั้นได้รับความช่วยเหลือจากองเมียว พวกเขาต่อสู้อย่างดุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ
เฟิงหลินและอีกสามคนถูกระงับไว้
 
“ ฮ่าฮ่าฮ่าไอ้พวกน่ารังเกียจ เมื่อท่านองเมียวลงมือ พวกแกจะไม่มีโอกาสชนะ แค่เตรียมตัวตายก็พอ!” ซามูไรที่กำลังต่อสู้กับเฟิงหลินหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สำหรับเฟิงหลินความตั้งใจในการฆ่าของเขาปะทุขึ้น
 
เฟิงหลินไม่สนใจเขาอย่างสมบูรณ์
คนประเภทนี้ที่ต้องพึ่งพาคนอื่น ไม่มีค่าอะไรในสายตาของเขา
อย่างไรก็ตาม …
ทุกอย่างไม่สามารถดำเนินต่อไปแบบนี้!
เฟิงหลินรู้ว่าพวกเขาต้องหยุดองเมียวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าองเมียวแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ถึงแม้เฟิงหลินจะสามารถหลบหนีได้ สมาชิกในทีมคนอื่นของเขาจะตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
 
” ไสหัว!” เขาคำราม กระบองของเขาพุ่งใส่คาตานะของซามูไร
“อย่าแม้แต่จะคิด!” ซามูไรคำราม
“หนึ่งดาบ เทพสายลม+.
 
เขาคำราม ฟันจากบนลงล่างเพื่อเปิดเส้นทาง หลังจากนั้นเขาก็แทบดาบออกไปหวังเจาะเฟิงหลิน
คาตานะนั้นห่างจากเฟิงหลินเพียงหนึ่งนิ้ว ซามูไรมองเห็นว่าเฟิงหลินถูกเสียบแล้ว
แต่ในวินาทีต่อมาใบหน้าที่มีรอยยิ้มก็ปรากฏ
 
“ บัดซบ ฉันถูกหลอก!” ซามูไรรู้สึกหวาดกลัวในใจ และรีบถอยหนี
 
อย่างไรก็ตามมือกลับพุ่งออกมา โดยไม่สนใจทุกสิ่ง จับขอบคาตานะโดยตรง เลือดไหลจากฝ่ามือของเฟิงหลิน แต่เขาไม่สนใจบาดแผล
ในเวลาต่อมาหมัดอีกข้างของเขาก็กระแทกออกเหมือนค้อนส่องประกายด้วยความแวววาวราวกับหยก
เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังสะท้อนในอากาศ
ปู่!
สมองสีขาวเหลืองทะลักลงบนพื้น
หัวของซามูไรระเบิดและร่างของเขาก็ร่วงลงบนพื้น
เฟิงหลินตั้งใจเผยจุดบอดเล็กน้อยและฆ่าซามูไรในครั้งเดียว ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือดของซามูไร
สายตาของสมาชิกอีกสี่คนจากทีมญี่ปุ่นมองมา ความกลัวปรากฏในใจพวกเขา
บูม!
ในขณะนี้การระเบิดที่รุนแรงดังขึ้นทำลายความเงียบ
คนจากทั้งสองทีมจ้องมองไปโดยสัญชาตญาณ และเห็นยานบินขนาดยักษ์แหวกผ่านอากาศ มันโยนภาชนะที่เปล่งแสงสีแดงออกมา
เสบียงจากสมาคมการบ่มเพาะ ในที่สุดก็มาถึง!
 

 

 

 
 

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset