Legend of the mythological genes – ตอนที่ 336 โลกดึกดำบรรพ์4

อุแว้ อุแว้…
เสียงร้องแหลมดังไปทั่วทั้งหุบเขา
เด็กอ้วนสวมเสื้อกล้ามสีแดงถูกยกคว่ำในอากาศ แขนขาทั้งสี่ของมันห้อยอยู่ ทำให้มันไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้
เปรี้ เปรี้ย!
เปลวไฟลุกไหม้และงูตัวใหญ่ก็ถูกย่างอยู่บนกองไฟด้วยน้ำมันที่หยดลงไป ส่งกลิ่นหอมอร่อยลอยเต็มไปในอากาศ
เฟิงหลินนั่งบนพื้นแล้วเริ่มเคี้ยวเนื้อสัตว์ชิ้นโต
เนื้องูนั้นอ่อนนุ่มอย่างน่าประหลาดใจและละลายเมื่ออยู่ในปาก ปราณจำนวนมากไหลเข้ามาในท้องของเขาพร้อมกับกลิ่นหอมรุนแรงของเนื้อ มันเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วและบำรุงเซลล์ทั้งหมด ความร้อนไหลผ่านเส้นเลือดหลัก เส้นลมปราณและอวัยวะส่วนต่างๆทั่วร่างกาย
เนื้องูนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างมาก และเต็มไปด้วยปราณจิตวิญญาณ มันดีกว่ายายีนยีนทั่วไปหลายเท่า
งูยักษ์เป็นสิ่งมีชีวิตทางจิตวิญญาณซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงขั้นเดียวจากการกลายเป็นปีศาจ เนื้อและเลือดของมันเต็มไปด้วยปราณวิญญาณที่แข็งแกร่ง และอาจกล่าวได้ว่าเป็นยาจิตวิญญาณเคลื่อนที่ที่ให้การบำรุงที่ยอดเยี่ยม
ทันทีที่เขากินเนื้องู มันจะกลายเป็นความร้อนที่แผ่ออกมาทันที ทำให้ท้องของเขาเผาไหม้เหมือนเตา
เฟิงหลินฝึกฝนยีนราชาอสูรทันทีและวิชาการเปลี่ยนพลังงานให้เป็นปราณ เพื่อที่จะย่อยพลังงานส่วนเกิน
ศักยภาพทางพันธุกรรม +2.8, +2.8, +2.8 …
นับตั้งแต่เขากลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว อาหารธรรมดาไม่ได้มีผลกระทบต่อเขาอีกต่อไป อาหารพวกนั้นเป็นเหมือนสิ่งสกปรก ไม่เพียงแต่ไร้ประโยชน์เท่านั้น แต่ยังส่งผลร้ายต่อร่างกายของเขาหากได้รับในปริมาณมากเกินไป
เขาสามารถแทนที่อาหารด้วยของเหลวสารอาหารและยายีน มันมีคุณค่าทางโภชนาการแต่อ่อนโยนและยังไร้รสชาติ ทุกคนจะเบื่อไม่ว่าพวกเขาจะอดทนแค่ไหนก็ตาม
นี่คือเนื้องูที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันนุ่มและมีรสชาติน่าทึ่ง
(ใครคือคนที่พูดว่าเนื้องูมีรสชาติเหมือนไก่?)
(เนื้องูยักษ์นี้มีความอ่อนนุ่มมากกว่าสเต็กเนื้อคุณภาพสูงเสียอีก!)
เฟิงหลินยังคงกินเหมือนผีหิว แต่ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เด็กอ้วนที่ร้องไห้และสะอึกสะอื้นไม่หยุด เฟิงหลินมองและเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก แต่ไม่มีความตั้งใจที่จะปลอบใจอะไรเลย
แม้ว่าเด็กอ้วนนี่จะกำลังร้องไห้อย่างเจ็บปวดมาก แต่มันอาจจะคิดหนีทันทีที่มันสัมผัสพื้น
ในความเป็นจริง ผู้คนที่จับทารกโสมในตำนานฮั่วเซียโบราณจะมัดพวกเขาไว้อย่างแน่นหนาด้วยเสื้อคลุมสีแดงเพื่อป้องกันการเจาะลงไปในพื้นดินและหลบหนี
ทารกโสมมาจากโสมอายุ 1,000 ปีที่กลายเป็นพืชปราณ พวกเขาทำลายจากรูปลักษณ์ของพืชและกลายเป็นวิญญาณที่มีชีวิตเป็นของตัวเอง

เมื่อยาจิตวิญญาณบรรลุเต๋า เลือดและรากของพวกมันทั้งหมดจะเป็นยาจิตวิญญาณที่หายาก ซึ่งเหมาะมากสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ
สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือความจริงที่ว่าทารกโสมนี้ได้ตัดรูปร่างที่เป็นพืชดั้งเดิมออกไปแล้ว และสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระไม่ว่าจะถูกตัดออกเท่าไหร่มันก็สามารถงอกขึ้นมาได้ใหม่
ไม่ว่ามันจะดูน่ารักแค่ไหน เฟิงหลินก็ต้องทำเป็นใจแข็งไว้ เขาจะไม่ถูกหลอกจากรูปลักษณ์และปล่อยให้มันหนีไป
จากจุดหนึ่ง ดวงตาคู่ของเฟิงหลินพลันเปล่งประกายแวววับ ทำให้ทารกโสมตกใจจนสั่นไหวและไม่กล้าร้องไห้อีกต่อไป

“เจ้าอยากกินเนื้องูไหท?” เฟิงหลินยิ้มเบาๆและไม่ได้คิดมากเกินไป เขาตัดชิ้นส่วนของเนื้องูออกและนำไปไว้ในมือของทารกโสม

เขาไม่คิดว่าทารกโสมจะจ้องมองอย่างระมัดระวังและอึกอักจากความอยาก
ในที่สุดมันก็ไม่สามารถยับยั้งได้อีกต่อไปและเริ่มกัด กลืนเนื้องู กินดุยิ่งกว่าเฟิงหลิน ดวงตาสีหยกขนาดใหญ่นั่นดูมีความสุขมาก
(ทารกโสมกินเนื้อสัตว์?)
(นี่มันแปลกเกินไป!)
เฟิงหลินกวักมือเรียกและจับทารกโสม เขาส่งวิญญาณของเขาเข้าไปและเริ่มรู้สึกถึงรายละเอียด
เนื่องจากทารกโสมไม่รู้สึกถึงความประสงค์ร้ายใดๆจากเขา มันจึงกินเนื้อสัตว์ต่อเหมือนผีหิว
มันลืมความหวาดกลัวทั้งหมดที่มีต่อเฟิงหลิน และตอนนี้จิตใจของมันก็บริสุทธิ์เหมือนกระดาษขาว
หลังจากเฟิงหลินสแกนแล้ว เขาก็คิดลึกลงไปว่า
วิญญาณปีศาจนั้นลึกลับและมหัศจรรย์ พวกมันถึงกับแปลงเป็นมนุษย์ได้หลังบ่มเพาะ
ร่างกายของทารกโสมนี้ทำมาจากเนื้อและเลือดอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้มันเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะกินเนื้อสัตว์
ที่จริงแล้วความอยากอาหารของมันนั้นมากกว่าเฟิงหลินซะอีก
ฟันของมันยังเคี้ยวอยู่และเนื้องูส่วนใหญ่ก็เข้าไปในท้องของมัน
หลังจากกินเนื้องูยักษ์แล้วร่างกายก็ท่วมท้นไปด้วยปราณจิตวิญญาณ ร่างกายของทารกโสมพองตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนบอลลูนที่พองตัว หากก่อนหน้านี้มันมีอายุสองถึงสามปีตอนนี้อาจเป็นประมาณห้าถึงหกปี แขนขาของมันเติบโตขึ้นไม่หยุด
มันหยุดกินหลังท้องมันกลมมาก นอนลงกับพื้นด้วยความพึงพอใจและปล่อยร้องอย่างมีความสุข
ตอนนี้มันไม่ได้มองเฟิงหลินด้วยความหวาดกลัวอีกต่อไปด้วย ตอนนี้มันคลานไปบนร่างกายของเขาอย่างมีความสุข
(คนที่ให้นมคือแม่ และคนที่ให้เนื้อคือพ่อ)
ทารกโสมนี้มีอายุเพียงห้าถึงหกขวบ และมันยังมีความคิดเหมือนเด็ก
เขาปล่อยให้มันคลานไปทั่วร่างของเขา ในขณะที่เขาดูแลส่วนที่เหลือของเนื้องูต่อ
เขาขยายพลังวิญญาณของเขา แม้ว่าทารกโสมจะขุดลงไปในพื้นดินและหนีไปอย่างรวดเร็ว เขาจะสามารถคว้ามันกลับมาได้ไม่จำเป็นต้องให้ระวังตัวมากเกินไป
งูตัวใหญ่มีความยาวเกินสิบเมตรและหนาเหมือนถังน้ำ
สิ่งที่พวกเขากินไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงส่วนหาง ยังมีเนื้ออีกจำนวนมากเหลืออยู่
ฝ่ามือของเฟิงหลินเหมือนใบมีด เขาสูบเลือดและหั่นเก็บเนื้อไว้อย่างระมัดระวัง ในระหว่างขั้นตอน มีของกลมๆตกลงมาบนพื้นเขา
ดูเหมือนว่ามันจะควบแน่นมาจากถุงน้ำดีของงูและสาดแสงไปทั่ว ไม่เพียงแต่จะไม่มีกลิ่นเหม็นของเลือดแล้วมันยังมีกลิ่นที่หอมหวาน
เมื่อเห็นอย่างนี้ทารกโสมผู้อิ่มท้องจนลุกขึ้นยืนไม่ได้ก็โผล่มาเหมือนหมาป่าผู้หิวโหย อยากจะกลืนไข่มุกล้ำค่าเข้าไปในท้องของมัน
เฟิงหลินพลิกมือของเขาแล้วไข่มุกที่ล้ำค่าก็หายไปในทันที
ทารกโสมกัดลงบนมือของเฟิงหลิน ฟันของมันนั้นแข็งอย่างน่าประหลาดใจ ประกายไฟสาดออกมาจากแรงเสียดทาน
เฟิงหลินไม่สนใจการจ้องมองทารกโสม เฟิงหลินยกมันด้วยมือเดียว
หากเขาเข้าใจไม่ผิด มุกล้ำค่าน่าจะเป็นแกนปีศาจ มันคงไร้ประโยชน์หากปล่อยให้ทารกโสมกินมัน
หลังจากทำความสะอาดงูปีศาจ เฟิงหลินก็เก็บส่วนที่เหลือไว้ในพื้นที่เตาหลอมของเขา แล้วเริ่มค้นหาหุบเขาอีกครั้ง
มีสมุนไพรทางจิตวิญญาณมากมายในหุบเขาแห่งนี้และเขาก็มีช่วงเวลาที่ดีในการค้นหา
แม้ว่าพื้นที่ในเตาหลอมจะมีขนาดใหญ่มาก แต่มันก็ค่อยๆเต็ม
(น่าเสียดายมาก!)
เฟิงหลินรู้สึกเสียใจมาก
มันเป็นโอกาสหายากมากที่จะสามารถเข้าสู่โลกดึกดำบรรพ์นี้ที่มีสมุนไพรทางจิตวิญญาณนับไม่ถ้วน
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถเก็บพวกมันทั้งหมดได้
แม้ว่าเขาจะเลือกอย่างระมัดระวังแล้ว แต่พื้นที่ภายในเตาก็ยังคงเต็มมาจนถึงขอบ
อย่างไรก็ตามเขาได้รับรางวัลมากที่สุดจากการเดินทางครั้งนี้แล้ว!
เขาดับไฟแท้จริงอสูรโลกีย์และจับทารกโสมได้ หากเขายังต้องการอีก เขาจะโลภมากเกินไป
มันสายแล้วและเขาต้องไม่รอนานกว่านี้ เขาสามารถมาอีกครั้งได้ในอนาคต
เฟิงหลินไม่ลังเลเลยและหันกลับไปอย่างรวดเร็ว
เขาสงสัยว่าจ้าว เยวี่ยอ๋อร์และคนอื่น ๆ จะทำอะไรอยู่
เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินต้องจากไป ทารกโสมเริ่มร้องไห้เสียงดังและดึงแขนเสื้อของเขาชี้ไปที่ส่วนลึกของหุบเขา
ดูเหมือนว่าทารกโสมนี้จะต้องการพาเขาไปที่ไหนสักแห่ง?
ดวงตาของเฟิงหลินหรี่ลดลง นอกจากพวกพืชล้ำค่าแล้ว ยังมีอย่างอื่นในหุบเขานี้อีกหรอ?

เขาไม่สนใจสมุนไพรจิตวิญญาณธรรมดาอีกต่อไป หากเขาจะได้รับประโยชน์อื่นๆจากสิ่งนี้ การเสียเวลาสั้นๆจะเป็นไรไป?
เฟิงหลินเดินตามทารกโสมและมุ่งหน้าไปยังหุบเขาลึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ทางนั้นคดเคี้ยวและหมอกก็เต็มไปทั่วสถานที่ ป้องกันไม่ให้คนอื่นมองเข้าไปเห็น มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าพวกเขามาจากไหนหรือกำลังมุ่งหน้าไปไหน
มีความรู้สึกอื่นว่าเวลาและพื้นที่มีความผันผวน
ทันใดนั้นหมอกก็จางลง และแสงก็ปรากฏตรงหน้าเขา
เมื่อเห็นอย่างนี้ทารกโสมก็ส่งเสียงร้องและวิ่งเข้าหามันทันที
เฟิงหลินรีบตามไป
จริงๆแล้วมีอีกโลกหนึ่งในส่วนลึกของหุบเขา สรวงสวรรค์อันกว้างใหญ่ปรากฏตรงหน้าของเขา

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset