Legend of the mythological genes – ตอนที่ 350 การฝึกมาร

แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!
เขาหอบและพองตัวเหมือนวัว
ระหว่างป้อมปราการดวงดาวนั้น มีกำแพงโลหะยาวยื่นออกมาทั่วอาณาจักรของมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพง กำแพงเหล่านี้กว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยหุ่นยนต์ติดอาวุธจำนวนมากและยานบินรับส่งลงจอดที่นั่น
กลุ่มคนสวมใส่ชุดแรงโน้มถ่วงจัดแถวตัวเองและวิ่งขึ้นไปบนกำแพง แต่ละก้าวของพวกเขาหนักเหมือนภูเขา ก่อให้เกิดเสียงดังเมื่อเท้าของพวกเขาสัมผัสกับพื้นดิน
นักศึกษาทั้งหมดเหล่านี้มีสถานะพลังที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็เหนื่อยหอบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำหนักที่หนักพวกเขาแบกทำให้รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขากำลังจะพังทลาย
10เท่าของสถานะพลัง ใครจะพูดได้ว่าการวิ่งครั้งนี้ง่าย
ไม่ว่านักศึกษาเหล่านี้จะมีพลังแค่ไหน พวกก็เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก เหงื่อของพวกเขาเคลือบไปทั่วทั้งร่างกาย
ผู้คุมฝึกถือแส้ไว้ในมือ บังคับให้พวกเขาเพิ่มความเร็ว เขาจะไม่ยอมให้ล้าหลังแม้แต่ก้าวเดียว
เฟิงหลินก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกัน ตามสถานะพลังของเขาตอน นี้เทียบเท่ากับเขาถือวัตถุหนัก 13 ตันไว้
นี่เป็นแนวคิดแบบไหน?
มนุษย์ธรรมดาจะถูกบดขยี้เป็นเนื้อบด
หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่ายีนลิงหินวิญญาณและยีนราชาอสูรช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย ทำให้เขามีร่างกายที่ทำจากหินและกระดูกเป็นเหล็ก เขาจะพบว่ามันยากที่จะเดินได้
แม้แต่เฟิงหลินก็รู้สึกอย่างนี้ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงสิ่งที่นักศึกษาคนอื่นรู้สึก
เราต้องรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่เหมือนกับเฟิงหลินที่เสริมกำลังร่างกายจนถึงขีดจำกัด
พวกเขาทั้งหมดกำลังหอบเหมือนสุนัข
เฟิงหลินกัดฟันของตัวเองภายใต้แรงกดดันที่รุนแรงเช่นนี้ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงศักยภาพชีวิตที่ถูกบีบออกมา
เขาทนความเหนื่อยล้าและวิ่งต่อไป
คนสิบคนที่อยู่ข้างหน้าเป็นคนที่แพรวพราวที่สุด มีตงหวงไท่ชูและออกัสตัสรวมอยู่ด้วย
คนหนึ่งต้องรับน้ำหนักมากกว่า 40 ตัน ในขณะที่อีกคนต้องรับน้ำหนักมากกว่า 30 ตัน แต่พวกเขาไม่ได้บ่นเลย เหงื่อของพวกเขาไหลลงมาตามร่างกาย
อัจฉริยะเหล่านี้ทั้งหมดล้วนไม่ใช่คนธรรมดา
สำหรับตงหวงไท่ชูและออกัสตัส เนื่องจากพวกเขาสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดเหนือคนรอบข้างได้ พวกเขาย่อมไม่ธรรมดาสุด
แต่ถึงแม้ว่าเตระกูลของพวกเขาจะใหญ่โต แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นอัจฉริยะเพียงคนเดียวในรุ่น นั่นทำให้การแข่งขันรุนแรงมากจนไม่อาจผ่อนคลายได้
เห็นได้ชัดว่าการตัดสินใจของพวกเขาห่างไกลจากความรู้สึกนึกคิดของคนธรรมดาสามัญ
 
“การฝึกมารนี้มันผิดปกติมากเกินไป!”
“ฉันจะตายจากความเหนื่อยล้า!”
“ฉันจะถึงขีดจำกัดของฉันแล้ว!”

ยิ่งพวกเขาวิ่งมากเท่าไหร่ แต่ละย่างก้าวก็ยิ่งหนักขึ้น ในบางครั้งจะมีคนล้า ถอนหายใจและบ่น
 
“ แค่นี้ก็ทนกันไม่ได้แล้ว? มหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงของเราไม่ต้องการขยะ คุณจะวิ่งต่อหรือหนีไป หากแค่นี้ยังทนไม่ได้ คุณจะทำยังไงกันบนสนามรบ? อ่อนแอเกินไปหรือเปล่า  พวกคุณมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของมนุษยชาติ! “ผู้สอนไม่สุภาพ คำพูดของเขาเหมือนมีดแทงเข้าไปในหัวใจของคนเหล่านี้ และแส้มือเขาก็ฟาดใส่พวกเขา
 
คนเหล่านั้นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์โกรธ แต่ไม่กล้าที่จะแสดงออกมา พวกเขาทนเงียบ ๆ และวิ่งต่อไป
มหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงเป็นโรงเรียนทหาร ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่นี่คือวินัย
หากใครบางคนเลือกที่จะเป็นกบฏ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะถูกตราหน้า พวกเขาอาจถูกจำคุกเพราะความผิดที่น้อยนิดนี้ หรือถูกไล่ออกเพราะความผิดที่มากขึ้น
เห็นได้ชัดว่านักศึกษาเหล่านี้มีไหวพริบและเข้าใจในเรื่องนี้มาก
 
“ไม่มีทาง มหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงกล่าวว่าจะดูแลเจ้าชายคนนี้อย่างดีและจะเลี้ยงดูฉันให้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงดาว แต่ตอนนี้ฉันกำลังถูกทรมาน ฉันอยากกลับ!”
 
ในขณะนี้เสียงที่ไม่พอใจก็ดังขึ้น ทำให้คนโดยรอบหันไปจ้องมอง
สัตว์ประหลาดผิวสีเขียวทรุดตัวลงบนพื้น
กลุ่มก๊อบลินอวกาศล้อมรอบเจ้าชายก็อบลินพยายามเกลี้ยกล่อมเขา
 
“เจ้าชายพยายามอีกหน่อย!”
“ ผู้สอนคนนี้ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก หากนายท่านโกรธเขา พวกเราทุกคนจะต้องเจอกับปัญหา!”

“เป็นไปไม่ได้ เว้นแต่มหาวิทยาลัยจะให้เวลาฉันพักผ่อน ให้ฉันสวมเสื้อคลุมที่หรูหราที่สุด ดื่มเครื่องดื่มที่แพงที่สุดในจักรวาลและให้ฉันอาบน้ำท่ามกลางแสงแดด ฉันจะนอนที่นี่และจะไม่ขยับไปไหนทั้งนั้น! “เจ้าชายก็อบลินไม่เต็มใจที่จะฟังการชักชวนเขากลิ้งตัวลงบนพื้นเหมือนเด็กที่นิสัยเสียและกำมือกระแทกพื้น
เปรี้ย!
ผู้สอนฟาดแส้ใส่พื้น เขาจ้องมองเจ้าชายในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เจ้าชายก็อบลิน ท่านคิดที่จะต่อต้านคำสั่งทหารงั้นหรือ?”
ราวกับว่าเจ้าชายก็อบลินรู้สึกถึงจิตสังหาร ตาของเขาหรี่แคบลง แต่เขาก็ยังลังเลที่จะยอมรับความผิดพลาดของเขา “ฉันไม่สนใจ ฉันต้องการพักผ่อนในอาณาจักรของฉัน แม้แต่พ่อของฉันก็ไม่ทำกับฉันแบบนี้ หากแกกล้าที่จะบังคับฉัน ฉันจะกลับไปและฟ้องพ่อของฉันบอกว่ามหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงรังแกฉัน! … “
 
แม้แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เสียงฟาดก็ดังขึ้นอีกครั้ง
แส้ในมือของอาจารย์ผู้สอนฟาดลงอย่างไร้ความปราณี ตีเจ้าชายก๊อบลินผู้น่าสงสาร แรงจากแส้ส่งเจ้าชายก๊อบลินลอยผ่านอากาศ
จมูกที่ยาวของมันตอนนี้คดเคี้ยว มันดูตลกและน่าสมเพชอย่างมาก
 
“แกกล้าตีฉัน” เจ้าชายก๊อบลินลุกขึ้นมาเลือดสีเขียวไหลออกมาจากจมูกของเขา ขณะที่เขาโหยหวนด้วยความโกรธ “มนุษย์น่ารังเกียจหลังจากที่ฉันกลับไป ฉันจะใช้กองยานไอน้ำของอาณาจักรก๊อบลินของฉันมาฆ่าแก “
 
หินก้อนเดียวทำให้เกิดคลื่นเป็นพันชั้น
ทันทีที่เขาพูด มนุษย์ทุกคนก็หันมาจ้องมองเขา
หากสีหน้าสามารถฆ่าคนได้ เจ้าชายก็อบลินคนนี้คงจะตายไปเป็นพันครั้ง
มังกรมีเกล็ดย้อน เมื่อเกล็ดย้อนถูกแตะต้อง พวกมันจะโกรธจนเป็นบ้า
มนุษยชาติและเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวมีความแตกต่างกันอย่างมาก
การที่ก๊อบลินกล้าจะข่มขู่อัจฉริยะทั้งหมดของมนุษยชาติ มันไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่านักเรียนกลัวที่จะท้าทายคำสั่ง อาจจะมีคนลงมือไปแล้ว
ใบหน้าของก๊อบลินอวกาศตัวอื่นเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขายิ้มอย่างขมขื่น เจ้าชายของพวกเขาพูดอย่างนี้ มันไม่ต่างอะไรกับการแกว่งเท้าหาเสี้ยน
 
“ แกต้องการให้เผ่าพันธุ์ของแกถูกทำลายหรือยังไง?” ผู้สอนเป็นเหมือนภูเขาที่ไม่สั่นคลอน มองตรงไปที่เจ้าชายก๊อบลิน
พร้อมกับเจตนาฆ่าในดวงตาเขา
เจ้าชายก๊อบลินสั่น มันเริ่มรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป
เขารู้สึกได้ว่ามนุษย์คนนี้ไม่ได้ล้อเล่น ถ้าคำตอบของเขาไม่ถูกใจ มนุษย์คนนี้อาจฆ่าเขาจริงๆ
ร่างของมันสั่นเทา ไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระอีกต่อไป
 
“วิ่งต่อไป!” เมื่อเห็นว่าเจ้าชายก๊อบลินตัวสั่นและไม่กล้าพูด ผู้สอนก็ฟาดแส้ใส่ สะบัดเจ้าชายก๊อบลินขึ้นไปในอากาศ
 
คราวนี้เจ้าชายก๊อบลินไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ก๊อบลินอวกาศอีกคนก็ไม่กล้าที่จะเปล่งเสียงใด ๆ
เฟิงหลินและนักศึกษาคนอื่น ๆ ยิ้มอย่างเย็นชา
เผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ได้กลายเป็นข้าราชบริพารของมนุษยชาติไปแล้ว
พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะตายยังไง

ผู้สอนอยู่ด้านหลังผลักให้ทุกคนเดินต่อ ไม่อนุญาตให้ใครช้า หลังจากผ่านไปสามชั่วโมง การวิ่งกว่า 100 กิโลเมตรก็จบลง
เหงื่อของพวกเขาไหลลงมาตามร่างกายเหมือนสายฝน แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้สูดลมหายใจ แส้ในมือของอาจารย์ผู้สอนก็ฟาดลง ขณะที่เขาพูดด้วยความโกรธ “ไม่อนุญาตให้พักผ่อน วิดพื้น 10,000ครั้งเดี๋ยวนี้!”
“อะไรนะ?” เสียงคร่ำครวญด้วยความทรมานดังออกมา แต่ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของพวกเขาบอกกับพวกเขาว่าต้องอดทน
 
พวกเขาทำได้แค่ทำตามคำสั่งอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น
“หนึ่ง สอง สาม…”
เฟิงหลินวิดพื้น ร่างกายของเขาตรงเหมือนหอก ขณะที่เขาเริ่มนับไปเรื่อยๆ เหงื่อของเขาไหลลงมาทำให้พื้นเปียก
โดยทั่วไปการวิดพื้นหมายถึงน้ำหนักโดยรวมของบุคคลนั้นจะรวมไปที่แขนของพวกเขา
เฟิงหลินรู้สึกว่าน้ำหนักของภูเขาถูกวางอยู่บนแขนของเขา และแขนทั้งสองของเขาสั่นคลอน
อาจารย์ผู้สอนคนนี้โหดเหี้ยมจริงๆ
การวิ่งนั้นสามารถฝึกฝนขาของพวกเขาได้ ในตอนนี้ผู้สอนของพวกเขาต้องการฝึกฝนแขน
โดยการทำเช่นนั้น ดูเหมือนว่าปรัชญาของผู้สอนคือเขาจะไม่หยุด จนกว่าทุกคนจะล้มลงจากความเหนื่อยล้า
นักเรียนทุกคนตั้งท่า ร่างกายของพวกเขาเหมือนเสา
แขนของพวกเขาสั่นสะท้าน ขณะส่งเสียงกระดูกร้าว
บางครั้งจะมีคนที่ล้มลงกับพื้นจากความอ่อนเพลีย
แต่ภายใต้แส้ของอาจารย์ คนเหล่านั้นไม่มีทางเลือก นอกจากต้องลุกขึ้นมาและวิดพื้นต่อไป ไม่มีใครได้รับการยกเว้น
ในท้ายที่สุดมีเพียงไม่กี่คนที่ยังไม่โดนแส้ฟาด
และในหมู่พวกเขา ผู้ที่มีการบ่มเพาะน้อยที่สุดก็คือเฟิงหลิน
เมื่อผู้สอนเดินผ่านเขา เขาจะเห็นเฟิงหลินวิดพื้นต่อเนื่องอย่างขยันขันแข็ง มันยากมากที่ผู้สอนจะปกปิดความชื่นชนในสายตา
เขารู้แน่ชัดว่าเฟิงหลินจะสามารถทำมันได้อย่างแน่นอน
และความจริงมันก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้
เฟิงหลินรู้ว่าการฝึกมารนี้เป็นกระบวนการที่ต้องการเห็นความตั้งใจและความมุ่งมั่นของนักเรียนเป็นส่วนสำคัญ
หากใครยอมแพ้กลางคัน คนๆนั้นจะถูกบังคับให้ทำต่อไป นั่นจะเป็นการเสียพลังเปล่าๆ ​พวกเขาจะไม่สามารถทนได้นาน
คนจะต้องสามารถควบคุมการหายใจและความแข็งแกร่งของพวกเขาให้ได้ และการทำอย่างต่อเนื่องก็คือสิ่งสำคัญสุด
997, 998, 999, 1,000 …
ภายใต้แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ เซลล์ทั้งหมดในร่างกายมนุษย์ตื่นตัวมาก ในไม่ช้าทุกคนก็สามารถวิดพื้นได้ 1,000 ครั้ง
แม้ว่าการวิดพื้นนั้นจะง่าย แต่มันก็ทำให้หมดกำลังโดยรวม
และเมื่อพลังกับความอดทนของพวกเขาหมดลงอย่างสมบูรณ์ เฟิงหลิน ตงหวงไท่ชู ออกัสตัวและอีกสองสามคนก็เป็นกลุ่มคนแรกที่วิดพื้นได้ครบหมื่นครั้ง
อย่างไรก็ตามการฝึกมารยังคงเป็นจริงตามชื่อของมัน ผู้สอนไม่อนุญาตให้พวกเขาได้หยุดพักเลย
 
“ไม่อนุญาตให้หยุดพัก กระโดดกบ 10,000 ที!”
 
ก่อนหน้านี้เมื่อพวกเขาวิดพื้น ขาของพวกเขาได้พักนาน พอตอนนี้ ผู้สอนต้องการบีบกำลังทั้งหมดออกจากขาและเอวของพวกเขา
เฟิงหลินทำตามคั่ง
ผู้คนจำนวนมากเริ่มบ่น
 
“อาจารย์ผู้สอนจริงจังเกินไปไหม”
“นี่ไม่ใช่การฝึกมาร มันแค่เป็นการฝึกนรก!”
“ฉันไม่สามารถทนได้นานกว่านี้อีกแล้วจริงๆ!”

เสียงแตกอีกเสียงดังขึ้น!
แส้ของผู้สอนฟาดใส่พื้นขณะที่เขาคำราม “ใครก็ตามที่กล้าขัดคำสั่งจะไม่ได้กินอาหารค่ำคืนนี้ ในทางกลับกัน
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจะได้เพลิดเพลินกับอาหารที่มีสารอาหารสูงฟรี พวกเขายังสามารถเพลิดเพลินไปกับทรัพยากรการบ่มเพาะที่จะมอบให้พวกเขาใช้ในการฟื้นฟูและพัฒนาความเร็วการบ่มเพาะ!”
 
ทุกคนไม่กล้าที่จะคัดค้านอีกต่อไป พวกเขามีสีหน้าที่ขมขื่นและกระโดดกบต่อไป
ปัง ปัง ปัง!
ทุกครั้งที่พวกเขากระโดดและทิ้งตัวลง น้ำหนักสูงจะกระแทกบนพื้นดิน สร้างเสียงดัง
และด้วยแรงกดดันที่แบกรับ ผู้คนจึงค่อยๆล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรง
ไม่ว่าผู้สอนจะตีพวกเขาอย่างไร พวกเขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
ข้างหน้ามีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงดำเนินต่อไป พวกเขาแต่ละคนล้วนเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะ ยกเว้นเพียงคนเดียว … เฟิงหลิน
นักศึกษาคนแรกที่ยอมแพ้นอนราบอยู่บนพื้น จ้องมองอย่างไร้ประโยชน์ด้วยความอยากรู้ว่า
ใครจะสามารถทนได้เป็นคนสุดท้าย?

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset