Legend of the mythological genes – ตอนที่ 351 ใครคือที่หนึ่ง

ใครจะเป็นอันดับหนึ่ง?
ใครจะยืนหยัดได้จนถึงที่สุด?
การฝึกมารนี้เป็นการบังคับคนจนเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งแค่ไหน ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะถูกบีบให้เหือดหายไป
ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆไม่สามารถทนได้ และล้มลงกับพื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่เต็มใจก็คือการฝึกครั้งนี้น่ากลัวมาก  สัตว์ประหลาดแบบไหนกันที่จะสามารถคงอยู่ได้จนถึงที่สุด?
การจ้องมองของหลายคนหันไปที่มองคนที่ยังยืนหยัดอยู่ข้างหน้า ซึ่งยังคงทนฝึกต่อ
ตูม ตูม ตูม!
พวกเขากระโดดกบอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดเสียงดังกระหึ่มทุกครั้งที่พวกเขากระแทกลงสู่พื้น โดยทิ้งรอยเท้าอันน่าตกใจเอาไว้
โชคดี พื้นที่พวกเขาฝึกนั้นทำมาจากโลหะ มันสามารถฟื้นตัวกลับสู่รูปร่างเดิมได้เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าไม่เช่นนั้นผลกระทบจะทำให้เกิดรูมากมาย ทำให้กำแพงเหล็กดูน่าเกลียดมาก
ทุกครั้งที่พวกเขากระโดด เหงื่อของพวกเขาจะหยดลงมาราวกับฝนตกจากท้องฟ้า
ทุกครั้งที่กระโดด พวกเขาต้องออกแรงทั้งหมดในร่างกาย กล้ามเนื้อของพวกเขาถูกใช้จนถึงขีดจำกัด ผลักดันตัวเองจนถึงขีดสุด
“ ฮึ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ”
กระแสอากาศร้อนถูกระบายออกจากจมูกของเฟิงหลิน
ร่างกายของเขารู้สึกเหมือนใกล้จะพังทลายลง แต่เขายังคงกัดฟันท้าทายขีดจำกัดต่อไปครั้งแล้วครั้งเล่า
พลังงานและสารอาหารที่เก็บไว้ในร่างกายของเขาถูกบีบคั้นออกมา ฟื้นฟูร่างกายของเขาในการซ่อมแซมอาการบาดเจ็บ
ศักยภาพทางพันธุกรรม +2.2, +2.2, + 2.2 …
ช่วยไม่ได้แต่ต้องพูดว่าถึงแม้การฝึกมารนี้จะทรมานแต่ก็ทำให้ศักยภาพของทุกคนเพิ่มสูงขึ้น
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นเรื่องยากอย่างมากสำหรับคนทั่วไปที่จะสัมผัสได้
และสำหรับเฟิงหลิน เขามีความสามารถสมการทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกี่ยวกับร่างกายของเขาถูกมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเขาจะไม่พลาดอะไรเลย
ตราบเท่าที่เขาสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของเขา ความทุกข์ทรมานทุกประเภทก็คุ้มค่า
เฟิงหลินสูดลมหายใจเข้าและจดจ่อ พลังลิงหัวใจดูเหมือนจะแสดงออกมา ในขณะที่เขาเรียกพลังงานมากขึ้นจากร่างกายที่ดูเหมือนว่างเปล่าของเขาและยังคงกระโดดกบต่อไป
สถานะพลังของเขานั้นไม่ธรรมดา ปริมาณของแรงกดดันที่เขาสามารถต้านทานได้จะมากกว่าเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ
 
ตอนนี้ทุกคนได้รับการฝึกฝนจนถึงขีดจำกัดของสถานะพลัง
ในขั้นตอนนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฐานการบ่มเพาะอีก
สิ่งที่ถูกทดสอบคือความมุ่งมั่นและเจตจำนงค์ที่แน่วแน่ ความสามารถในการอดทนต่อความทรมาน
การกระโดดทุกครั้งคือการท้าทายขีดจำกัดของพวกเขา รู้สึกราวกับว่าการกระโดดอีกครั้งจะพรากชีวิตของพวกเขาไป
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลั้นใจทนต่อไป
เพราะพวกเขารู้ดีว่าเมื่อหยุด พวกเขาจะหายใจไม่ออกทันที และมันจะยากมากที่จะฟื้นตัว
 
“ทนต่อไป! ใครก็ตามที่สามารถยืนหยัดได้จนถึงที่สุดจะได้รับยาพันธุกรรมคุณภาพสูงจำนวนมากจากมหาวิทยาลัย พวกคุณทุกคนต้องเข้าใจว่ายาชนิดนี้มีค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้ พวกคุณทุกคนจะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่จะได้รับยาดังกล่าว ในช่วงการฝึกมาร หากพลาดไป คุณต้องใช้คะแนนมากมายเพื่อแลกกับมัน “อาจารย์พูดต่อเขาไม่ได้ใช้แส้อีกต่อไป
 
เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ ทุกคนที่ยังอยู่ได้ทำเต็มที่แล้ว การใช้แส้กับคนเหล่านี้ไม่มีประโยชน์
ดังนั้นเขาจึงใช้คำพูดให้กำลังใจแทน
คนเหล่านั้นที่ยังคงอยู่ต่างกัดฟันสู้ ไม่มีใครอยากล้มเหลว นี่คือรางวัลที่มีค่าอย่างแท้จริง
รากฐานของมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงนั้นลึกล้ำเป็นพิเศษ รางวัลที่พวกเขามอบให้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนมันคุ้มค่าสำหรับพวกเขาที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่และต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา
อย่างไรก็ตามร่างกายมนุษย์มักจะมีขีดจำกัด
บางคนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ยอมแพ้ พวกเขาทำได้เพียงจ้องมองไปข้างหน้าอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่สีหน้ามีแต่ความไม่อยากจะเชื่อ
ไม่แปลกที่สัตว์ประหลาดอย่างตงหวงไท่ชูและออกัสตัสยังคงอยู่จนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตามเฟิงหลินในฐานะผู้บ่มเพาะระดับสูงกลับอยู่ได้นานกว่าพวก!
นี่ไร้สาระเกินไป!“
ความเหลื่อมล้ำระหว่างพวกเขากับเขาจะสูงขนาดนี้ได้ยังไง?
คนที่ยอมแพ้อดไม่ได้ที่จะสงสัย พวกเขาตาฝาดไปหรือเปล่า?
….
พลังงานผันผวนอย่างรุนแรง
ในท้ายที่สุด ทุกคนที่ยังฝืนต่อจะต้องใช้พลังทางพันธุกรรมเพื่อต้านทานแรงกดดัน
“เอ๊ะ!”
เฟิงหลินกระโดดกบ แต่เพราะเขาไม่สามารถควบคุมลมหายใจได้ เขาจึงเกือบล้มลง
เขาเปิดใช้งานยีนลิงหินวิญญาณและยีนราชาอสูรทันที
เขาส่งเสียงพึมพัม ปลดปล่อยความสามารถของยีนทั้งสองให้สูงสุด
ยีนลิงหินวิญญาณมอบร่างหินและกระดูกเหล็กให้เขา ในขณะที่ยีนราชาอสูรจะเสริมสร้างร่างกายของเขาทำให้เขามีความแข็งแกร่งไร้ขอบเขต
ยีนทั้งสองประเภทนี้สนับสนุนร่างกายของเขาได้เป็นอย่างดี
เฟิงหลินเปิดใช้งานยีนของเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก ช่วยให้เขาได้รับการสนับสนุนในขณะที่เขาดึงความแข็งแกร่งเพิ่มมา เขากระโดดตบแซงหน้าตงหวงไท่ชูและออกัสตัส
 
“อะไรกัน?”
คนอื่น ๆ ที่ยังคงกระโดดกบอยู่นั้นถูกแซงหน้า พวกเขาเบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ
พวกเขารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์
จากสถานะพลังชีวิตและน้ำหนักที่ต้องแบก ทุกคนก็เหมือนกันคือสิบเท่า
แต่เนื่องจากเฟิงหลินมีการบ่มเพาะต่ำที่สุด เขาจึงควรได้รับผลกระทบมากที่สุด
แต่ตอนนี้เขาแซงหน้าทุกคน
(เป็นไปได้ไหมว่า แม้ว่าเราจะบ่มเพาะกันอย่างหนัก แต่เราไม่สามารถเทียบได้กับผู้บ่มเพาะระดับสูง?)
พวกเขาถอนหายใจ แต่ไม่มีแรงที่จะแซงเฟิงหลินได้
ยิ่งพวกเขามีอารมณ์ที่ซับซ้อนมากเท่าไหร่ จังหวะของพวกเขาก็ยิ่งสับสน ในท้ายที่สุดพวกเขาไม่สามารถควบคุมลมหายใจได้อีกต่อไปและต้องยอมแพ้ไป
บางครั้งคนที่ใช้กำลังมากเกินไป พวกเขาจะสูญเสียการควบคุมและล้มลงบนพื้น หลังจากนั้นพวกเขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
ครื่น ~
แม้ว่าตงหวงไท่ชูจะดูสงบ แต่ความภาคภูมิใจและความเย่อหยิ่งนั้นถูกจารึกไว้ในกระดูกของเขา เขาจะยอมแพ้ได้ยังไง ถ้าเขาแพ้ผู้บ่มเพาะระดับสูง มันคงไม่ใช่เรื่องตลกอย่างแน่นอน
เปลวไฟสีทองปะทุรอบตัวเขา ในขณะที่เขาปลดปล่อยพลังของเขาจนถึงขีดสุด
การกระโดดกบของเขาก็เร็วขึ้นเช่นกัน
ออกัสตัสสังเกตเห็นสถานการณ์และเริ่มที่จะเร่งเช่นกัน ทันใดนั้นกลิ่นอายของเขาก็ระเบิดออกมาเหมือนลมที่โหมกระหน่ำ ตามหลังตงหวงไท่ชูไปติดๆ
การฝึกมารได้ลดปัจจัยด้านความแข็งแกร่ง สิ่งที่ทดสอบคือความมุ่งมั่น
หากใครแพ้ในแง่ของความแข็งแกร่ง พวกเขาก็ยังมีโอกาสที่จะตามทันได้ด้วยความมุ่งมั่นในที่สุด
แต่ถ้าพวกเขาแพ้ในแง่ของหัวใจ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะตามคนที่นำหน้าทัน
8820, 8821, 8822 …
ทุกคนพยายามที่จะเป็นที่หนึ่ง ไม่มีใครเต็มใจที่จะตกอยู่ข้างหลัง
ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันกระโดดกบที่ดูเรียบง่าย บรรยากาศกลับตึงเครียดอย่างไม่น่าเชื่อ
จุดสิ้นสุดของการกระโดดกบ 10,000 ครั้งใกล้เข้ามาแล้ว
การแข่งขันทวีความรุนแรงมากขึ้น ทุกคนต่างทุ่มเทเพื่อไปให้ถึงจุดสิ้นสุด
เมื่อจำนวนการกระโดดเพิ่มขึ้นใกล้ถึง 10,000 ทุกคนเกือบจะฟันหัก จากการกัดฟันแรงเกินไป
พวกเขาไม่สามารถแพ้ได้
หากไม่มีความตั้งใจแน่วแน่เพียงพอ ทุกสิ่งก็จะไร้ค่า
ไม่มีใครอยากแพ้
เฟิงหลินก็เช่นกัน ตอนนี้ศักยภาพของเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด เลือดเนื้อทั้งหมดของเขาถูกกดดันจนถึงขีดจำกัด
มันเป็นสถานการณ์เดียวกันกับตงหวงไท่ชูและออกัสตัส
10,000!
เสียงทั้งสามคนดังขึ้น
ในท้ายที่สุดเฟิงหลินและทั้งสองคนก็ทำมันสำเร็จเกือบจะพร้อมกัน พวกเขาทิ้งห่างกันเพียงเสี้ยววินาที แต่นี่ไม่ใช่รายละเอียดที่สำคัญ
 
“พวกคุณทั้งสามคนแข็งแกร่งที่สุด ทำการทดสอบเสร็จเร็วที่สุด พวกคุณทั้งสามคืออันดับหนึ่งตอนนี้ พวกคุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารชั้นเลิศได้และทางมหาวิทยาลัยจะเตรียมสารอาหารให้พวกคุณอย่างเต็มที่!” อาจารย์เดินผ่านไป แต่เขาแค่เหลือบมองอีกสองคนเล็กน้อย ความสนใจส่วนใหญ่ของเขาจับจ้องไปที่เฟิงหลิน
 
ในขณะนี้รถขนส่งที่เต็มไปด้วยอาหารอันโอชะก็มาถึง
เฟิงหลินและอีกสองคนเข้าไป เห็นอาหารชั้นเลิศทุกประเภทและสารอาหารคุณภาพสูงที่วางซ้อนกันบนถาดจำนวนมาก
พวกเขาทั้งสามสบตากัน หลังจากนั้นพวกเขาก็เพิกเฉย และเริ่มกลืนทุกอย่างลงคอ
พวกเขาหิวมากและ …
เหนื่อยล้าถึงขีดสุด!

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset