Legend of the mythological genes – ตอนที่ 397 พัฒนาการที่รวดเร็ว

คนหนึ่งมีเจตนาที่จะสอน และอีกกลุ่มมีความตั้งใจที่จะเรียนรู้
นักปรุงยาเป็นนักพันธุศาสตร์ซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของชนชั้นสูงในหมู่มนุษย์ระหว่างดวงดาว สติปัญญาของพวกเขาได้รับการพัฒนามากกว่าคนรุ่นเดียวกัน ส่วนใหญ่มีความจำดีและมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความรู้ทางพันธุกรรมและทฤษฎีเกี่ยวกับตำนาน
คนเหล่านี้ที่เฟิงหลินเก็บรักษาไว้ ล้วนเป็นคนที่เชื่อฟังเขา
และด้วยการที่เขาใช้เทคนิคการปรุงแต่งยาตะกั่วแดงกลั่นเข้มเป็นการส่วนตัว พวกเขาจึงเรียนรู้ได้เร็วมาก
เฟิงหลินแสดงให้เห็นเพียงครั้งเดียว และพวกเขาสามารถเรียนรู้ได้ทันที 70% ถึง 80% พวกเขาเพียงแต่ต้องใส่ใจกับรายละเอียดเล็กน้อยและฝึกฝนเพิ่มเติม เพื่อให้ได้มาซึ่งความสมบูรณ์แบบ
พวกเขาฝึกฝนเป็นเวลาสามวัน และล้มเหลวถึงสามวัน
แม้กระทั่งตอนนี้ยังไม่มีการผสมที่ประสบความสำเร็จใด ๆ ที่ออกจากห้องปรุงแต่ง
เฟิงหลินยังไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไร นอกเหนือจากการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง เขาแค่แนะนำคนเหล่านี้เกี่ยวกับเทคนิคการสร้างการตกผลึกยา
หากไม่มีพื้นฐานในการเล่นแร่แปรธาตุและไม่มีพลังงานทางจิตเพียงพอที่จะสำรวจโลกแบบโมเลกุล มันก็ยากที่จะเชี่ยวชาญเทคนิคการสร้างยาตกผลึก
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กังวล
แม้ว่าจะช้า แต่พวกเขาก็ได้รับความรู้และประสบการณ์ทีละนิดทีละนิด
ตราบเท่าที่พวกเขาเข้าใจประเด็นหลัก สิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดจะเข้ามาหาพวกเขาโดยธรรมชาติ มันไม่สำคัญแม้ว่าพวกเขาจะล้มเหลวในตอนนี้
ทีมที่รับผิดชอบในการปรุงแต่งตะกั่วแดงกลั่นเข้มเริ่มพัฒนาอย่างช้าๆ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย
ขั้นตอนสุดท้ายนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด พวกเขาต้องกลั่นสารละลายของเหลวให้เป็นผลึกแข็ง
มันเกี่ยวข้องกับการแยกอะตอม ควบคุมอุณหภูมิและปริมาณของพลังวิญญาณที่ใส่เข้าไป … ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดที่ต้องการความแม่นยำสูงมาก!
ต้องเพ่งสมาธิอย่างเต็มที่!
ในความเป็นจริงพวกเขาทุกคนเข้าใจขั้นตอนก่อนหน้านี้ทั้งหมดแล้ว พวกเขาแค่ติดอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้นและไม่มีทางผ่านพ้นอุปสรรคด้านความละเอียดนี้ไปได้
พวกเขาสามารถใช้การฝึกฝนจำนวนมากเพื่อปรับปรุงทีละนิด ค่อยๆค้นหาปมให้เจอ
ในที่สุดก็มีคนทำสำเร็จในวันที่หก!
คนที่ประสบความสำเร็จนี้เป็นชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปี นอกจากเฟิงหลินแล้วเขาเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในห้องปรุงแต่ง เขาเป็นนักปรุงยาขั้นสามและเป็นขั้นต่ำที่สุดในบรรดาคนที่เหลือ
ดังนั้นเขาจึงเข้าใจว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ยังได้อยู่ต่อ
จากการพิจารณาของเฟิงหลินเขาไม่กล้าที่จะประมาทเลย เขาฝึกฝนทั้งกลางวันกลางคืน ใช้เวลาทั้งหมดในห้องปรุงแต่ง ในที่สุดเขาก็กลายเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการปรุงตะกั่วแดงกลั่นเข้ม
แม้ว่าอัตราความสำเร็จในปัจจุบันของเขายังคงต่ำมาก ประมาณ 10% แต่ความสำเร็จก็คือความสำเร็จ
หากประสบความสำเร็จครั้งหนึ่ง เขาจะสามารถประสบความสำเร็จเป็นครั้งที่สองได้อย่างแน่นอน
เมื่อฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง อัตราความสำเร็จจะเพิ่มขึ้นเองตามธรรมชาติ
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้าถึงความสำเร็จแบบเฟิงหลินและประสบความสำเร็จได้ 100% เนื่องจากความสามารถที่แตกต่างกัน แต่เขาก็ยังคงประสบความสำเร็จอยู่บ้าง
ตราบเท่าที่เขาเต็มใจทุ่มเท มันก็เป็นไปได้ที่เขาจะบรรลุอัตราความสำเร็จประมาณ 50%
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!
 
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หานเจิ้นจะเป็นรองหัวหน้าของพวกนาย ในอนาคตพวกนายสามารถขอคำแนะนำจากเขาเกี่ยวกับการปรุงตะกั่วแดงกลั่นเข้มได้ ฉันบอกเทคนิคทั้งหมดให้พวกนายแล้ว เหลือเพียงความเข้าใจและความรู้สึกของแต่ละคน พวกนายทุกคนต้องหาจังหวะที่เหมาะกับตัวเองเพราะฉันไม่สามารถสอนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ บางทีหานเจิ้นอาจสร้างแรงบันดาลใจทั้งหมดแก่พวกนายได้” เฟิงหลินกล่าว สำหรับคนที่เรียนรู้อย่างจริงจังเขาจะไม่ขี้เหนียวและจะมอบรางวัลให้เมื่อจำเป็น หานเจิ้งได้เลื่อนตำแหน่งจากนักปรุงยาขั้นต่ำสุดเป็นตำแหน่งรองหัวหน้า
มันเป็นที่เข้าใจได้ว่าคนอื่นจะรู้สึกไม่พอใจ
ในหมู่พวกเขามีนักปรุงยาขั้นสูงมากมาย มันยับว่าน่าอายอยู่แล้วที่ชายหนุ่มอย่างเฟิงหลินกลายเป็นหัวหน้าของพวกเขา แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มอีกคนที่เป็นเพียงนักปรุงแต่งยาขั้น3กลับปีนข้ามหัวพวกเขาไป?
เฟิงหลินใส่ใจความรู้สึกของพวกเขา แม้ว่าคนเหล่านี้จะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับมัน
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักปรุงยาขั้นสูงและหลายคนมีความเชี่ยวชาญในเทคนิคการปรุงแต่งยาที่ลึกซึ้ง แต่ก็ไม่สามารถช่วยทีมของเฟิงหลินได้ในขณะนี้
เนื่องจากนี่เป็นทีมปรุงแต่งตะกั่วแดงกลั่นเข้ม เกณฑ์ที่สำคัญที่สุดคือการผสมตะกั่วแดงกลั่นเข้ม
นักปรุงยาขั้นต่ำสุดคนนี้เป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จของเขาในด้านความเข้าใจในการปรุงแต่งตะกั่วแดงกลั่นเข้มนั้นเหนือกว่าคนอื่น ๆ เขาได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าทีมนี้ด้วยความสามารถของตัวเอง
เมื่อหานเจิ้นได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น ใบหน้าของเขาดูตกใจ
“หัวหน้า มันจะดีหรอครับ?” น้ำเสียงของเขาสั่น “นักพันธุศาสตร์เหล่านี้ล้วนเป็นรุ่นพี่ของผมและผมก็ประสบความสำเร็จได้เพราะโชคช่วย ผมจะแนะนำพวกเขาได้ยังไง?”
(ไอ้เด็กนี่นับว่าอยู่เป็น!)
คนอื่น ๆ มองไปที่เด็กหนุ่ม
เฟิงหลินไม่สนใจพวกเขา เขาตบไหล่หานเจิ้น “อย่าประเมินค่าตัวเองต่ำไป ถ้าฉันบอกว่านายทำได้นั่นก็หมายความว่านายทำได้ แม้ว่านายจะทำไม่ได้นายก็ต้องทำให้ได้! ด้วยข้อกำหนดที่เข้มงวดยังไงก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าโชคดี เมื่อนายทำได้สำเร็จนั่นก็หมายความว่า ความเข้าใจของนายเหนือกว่าพวกเขา”
หัวใจของหานเจิ้นเต็มไปด้วยความขอบคุณ เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้จะพูดอะไร
 
เฟิงหลินโบกมือ “การตัดสินใจของฉันถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่จำเป็นต้องมาชักชวนให้ฉันเปลี่ยนใจ”
 
หานเจิ้นอ้าปากและปิดมันอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงหลิน
เมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงบนใบหน้าของคนอื่น เฟิงหลินก็ยิ้มอย่างเย็นชา “ในทีมนี้ ความสามารถของพวกนายคือทุกอย่าง ไม่ว่าจะมีภูมิหลัง ระดับขั้นหรือประสบการณ์ก็ไม่สำคัญ หากใครไม่เต็มใจก็สามารถออกไปได้ คนจากกองทัพสุดยอดกำแพงยินดีที่จะมาแทนที่พวกนาย”
เสียงของเขามีน้ำเสียงที่น่าเกรงขาม ทำให้นักพันธุศาสตร์ในทีมตัวสั่นไม่กล้าคิดอะไรโง่ ๆ อีกต่อไป พวกเขาลดหัวลงและยังคงค้นคว้าตะกั่วแดงกลั่นเข้มต่อไป
หานเจิ้นมองด้วยความขอบคุณ เขารู้ว่าหัวหน้าของเขาทำเช่นนี้เพื่อช่วยให้เขามีอำนาจ ในอนาคตคนเหล่านี้จะไม่กล้าเล่นกลเม็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ และมุ่งเป้ามาที่เขาอีกต่อไป
และภายใต้การกระตุ้นจากความสำเร็จของหานเจิ้น คนอื่น ๆ ก็เริ่มใช้ความพยายามมากขึ้นในการฝึกฝน
ด้วยการเริ่มต้นที่ดี ความพยายามในการผสมต่อไปจึงราบรื่นขึ้นเช่นกัน
มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ประสบความสำเร็จในการผสมตะกั่วอดงกลั่นเข้ม
ในที่สุดห้องปรุงแต่งก็เริ่มการผลิตอย่างเป็นทางการ!
คำแนะนำของเฟิงหลินเป็นกุญแจสำคัญ เมื่อนักปรุงยารายอื่นพยายามจะปรุงยา เขาจะชี้ให้เห็นข้อบกพร่องและแก้ไขได้ทันที ช่วยให้การปรุงยาราบรื่นขึ้น รวมทั้งช่วยให้นักปรุงยาได้รับประสบการณ์ สิ่งนี้ทำให้อัตราความสำเร็จของพวกเขาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
อัตราการผลิตของห้องปรุงยาเพิ่มขึ้นทุกวัน
20 กก. 50 กก. 80 กก. 100 กก. …
พวกเขาไม่มีการผลิตเลยในช่วงสองสามวันแรก แต่เมื่อลูกบอลกลิ้งไปมาภายใต้ความพยายามของหุ่นยนต์และนักพันธุศาสตร์ ห้องปรุงแต่งก็กลายเป็นเครื่องจักรที่รับผิดชอบในการผลิตตะกั่วแดงกลั่นเข้มจำนวนมาก
ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างเท่าทวีคูณในแต่ละวัน
ในกรณีนี้อัตราการเพิ่มขึ้นนั้นดีมาก เนื่องจากไม่มีปัญหาใดๆ การผลิตตะกั่วแดงกลั่นเข้มจึงเพิ่มเป็น 100 กิโลกรัมต่อวัน!
สำหรับตัวของเฟิงหลินเอง เขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากๆเพียงแค่ดูแลการผลิตโดยรวมเท่านั้น
ในช่วงเวลาว่าง เขามุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะของเขาเอง สำหรับตอนนี้ชีวิตของเขาค่อนข้างเงียบและสงบ
การบ่มเพาะของเขายังทำให้ศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาพุ่งทะยาน!
หลังจากเจ็ดวัน เขาได้รับจุดพันธุกรรมสวรรค์ฟรีอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เพิ่มมันเข้าไปในยีนราชาลิงอย่างเด็ดขาดทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นถึงสี่จุด เขตปกครองราชาลิงของเขาขยายรัศมีเป็น12เมตร
และในวันนี้การผลิตของห้องปรุงแต่งยาก็มีมากถึง 800 กก.
เฟิงหลินเตรียมพร้อมที่จะออกไปรับภารกิจจากมหาวิทยาลัย เมื่อการผลิตมีน้ำหนักถึง 1,000 กิโลกรัม แต่ในขณะนี้เองจู่ๆประตูห้องปรุงแต่งก็เปิดออก ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้พันกับกลุ่มนักรบที่กล้าหาญ ทุกคนมีสีหน้าหนักใจ
 
“ มีอะไรเหรอครับท่าน?” เฟิงหลินเดินออกไปถามอย่างใจเย็น
“ตอนนี้คุณผลิตตะกั่วแดงกลั่นเข้มได้เท่าไหร่แล้ว คุณช่วยส่งพวกมันมาให้หมดก่อนเลยได้ไหม? เราต้องการมันอย่างเร่งด่วน!” ผู้พันกล่าวอย่างหนัก
“800 กิโลกรัมครับ” แม้ว่าเฟิงหลินจะไม่รู้เหตุผล เขาก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมา
“มากขนาดนั้นเลย?” ผู้พันสะดุ้งก่อนที่ความปิติยินดีจะปรากฏบนใบหน้าของเขา ในอีกครู่ต่อมา “เฟิงหลินการตัดสินของผมเกี่ยวกับคุณนั้นถูกต้องแล้ว จังหวะเวลานั้นสมบูรณ์แบบ ด้วยตะกั่วแดงกลั่นเข้มจำนวนมากเพียงนี้ มันจะมีประสิทธิภาพอย่างมากสำหรับแผนของเรา!”
 
ก่อนที่เฟิงหลินจะสามารถคิดอะไรได้ ใบหน้าของผู้พันก็เข้มงวดขึ้นขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
 
“เฟิงหลินเพราะอัตราการผลิตของคุณโดดเด่นมาก ผมเชื่อว่า 1,000 กิโลกรัมจะไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณ เนื่องจากเป็นเช่นนี้ มันตจึงไม่จำเป็นต้องรออีกต่อไป ตอนนี้ผมจะเป็นตัวแทนของกองทัพสุดยอดกำแพง เพื่อเลื่อนขั้นให้คุณเป็นผู้หมวด! ผู้หมวดเฟิงหลิน ตอนนี้ผมจะแจ้งให้คุณทราบอย่างเป็นทางการ เผ่าพันธุ์วิญญาณเพิ่งเริ่มการโจมตี สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์กำลังจะเริ่มขึ้น! “

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset