Legend of the mythological genes – ตอนที่ 91 การเปลี่ยนแปลงนับพัน

ในตำนาน ซุนหงอคงมีความสามารถในการแปลงกาย เขาสามารถใช้รูปแบบของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและเลียนแบบความสามารถของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
ทำให้เฟิงหลินเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีทางพันธุกรรม เขามั่นใจได้ว่าเมื่อเขาปลุกยีนซุนหงอคง เขาจะได้รับความสามารถด้านการแปลงกายนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่แค่จินตนาการ แต่เขาไม่รู้อะไรที่แน่นอนเกี่ยวกับมัน
หากเขาสามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ และใช้ความสามารถได้ทุกประเภทจริงๆ มันจะไม่ง่ายเกินไปหน่อยหรอ?
ความสามารถในตำนานทุกประเภทแตกต่างกัน วิธีการใช้งานก็แตกต่างกัน
หากรอยประทับฝ่ามือคุนหลุนสามารถรวมกับความสามารถที่หลากหลายของวิชายุทธ์ยีนหรือใช้ร่วมกับความสามารถในการแปลงกายนับไม่ถ้วนได้ นี่จะเป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบและเขาจะประสบความสำเร็จในทุกๆอย่าง
แม้ว่าเฟินหลินจะเดินบนเส้นทางตามตำนานซุนหงอคง เขาจะไม่ถูกจำกัดเพียงแค่เส้นทางนี้
ไม่ว่าเส้นทางของเทพนิยายจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่มันก็ยังคงเป็นเส้นทางของคนอื่นไม่ใช่ของคุณเอง ขั้นตอนก่อนหน้าการฝึกฝนในการปลุกยีนในตำนานนั้นถือเป็นเพียงกระบวนการเรียนรู้
แต่ถ้าต้องการก้าวขึ้นไปบนเส้นทางที่สูงกว่า ก็ต้องหาเส้นทางของตัวเองเพื่อไปถึงจุดสูงสุด
บางทีรอยประทับฝ่ามือคุนหลุนนี้อาจเป็นโชคที่ทำให้เขาก้าวข้ามเส้นทางของซุนหงอคงได้
เมื่อเขาคิดเรื่องนี้เฟิงหลินก็ตื่นเต้น
อย่างไรก็ตาม การผสมผสานศิลปะการต่อสู้ทางพันธุกรรม ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ในขั้นตอนเดียว
สำหรับครั้งแรกเฟิงหลินตัดสินใจที่จะเริ่มต้นด้วยศิลปะการต่อสู้โบราณ
และอะไรจะดีไปกว่าการเริ่มต้นด้วยวิชาแรกของเขา – หมัดหง!
หมัดหงเป็นหมัดที่ดุเดือด หมัดของเขาจะพุ่งเป็นแนวตรงและดุร้ายอย่างไม่มีที่เปรียบ การโจมตีทุกครั้งคล้ายกับปรอทที่ไหลเวียน ทำให้คู่ต่อสู้ของเขาไม่มีโอกาสตอบโต้ ในสนามรบโบราณ วิชานี้นับว่าดุดัน การเคลื่อนไหวของมันคล้ายกับค้อน
เฟิงหลินค่อยๆแสดงกระบวนท่า เขาใช้คการเคลื่อนไหวทั้งหมดของหมัดหง ซึ่งเขาเข้าใจและทำให้พวกมันช้าลงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะคิดหาวิธีผสานเข้ากับกระบวนท่าของรอยประทับฝ่ามือคุนหลุน – รอยประทับค้อนพลิกฟ้า เขาพยายามหาจุดร่วมระหว่างวิชาทั้งสอง
รอยประทับค้อนพลิกฟ้ามีทั้งหมดสามรูปแบบ แต่เมื่อเฟิงหลินค่อยๆรวมหมัดหงเข้ามามันก็เกิดอีกรูปแบบหนึ่งขึ้น
 
ต่อไป หมัดแปดพิฆาต!
 
หมัดแปดพิฆาตนั้นถูกสร้างขึ้นในยุคอาวุธเย็นของโลกโบราณ มันคือศิลปะหอกมีการเคลื่อนไหวกว้างขวางและเป็นการสังหารอย่างเลือดเย็น
มีคนบอกว่าถ้าใครฝึกฝนแปดหมัดพิฆาตเป็นเวลาหนึ่งปีจะสามารถฆ่ามนุษย์ได้
สำหรับผู้ที่เพิ่งฝึก พวกเขาจะมีความกล้าหาญในการต่อสู้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปีกำลังหมัดจะหนักหน่วงมากและสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ได้
เฟิงหลินฝึกอย่างต่อเนื่อง … เขาพยายามรับรู้พลังงานที่ไหลเวียนในร่างกายของเขา การโจมตีที่เขาปลดปล่อยออกมาเหมือนหอกยักษ์แทงทะลุอย่างรุนแรง
หอกมีจุดสำคัญร่วมกับแส้ แม้ว่าจะมีหลายส่วนที่ไม่เป็นอันตราย แต่เฟิงหลินก็มุ่งความสนใจไปที่จุดร่วมและพยายามรวมเข้ากับ “รอยประทับแส้กระหน่ำเทพ” ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนรูปแบบการโจมตีของรอยประทับแส้กระหน่ำเทพเป็นสาม
หลังจากหลอมรวมศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและดุเดือดเหล่านี้แล้ว เฟิงหลินก็เริ่มพยายามหลอมรวมวิชาที่นุ่มนวลบ้าง
ในตอนแรกศิลปะการต่อสู้ที่เขาต้องการหลอมรวมคือหมัดไทชิ
หมัดไทชิเป็นหนึ่งในสามของการฝึกกำลังภายในที่แข็งแกร่งสุดของฮั่วเซียโบราณ ความลึกของความรู้ในวิชานี้ลึกซึ้ง มันรวมทั้งแข็งและอ่อนเอาไว้ ช่วยให้ควบคุมพลังภายนอกมาเพิ่มพลังภายใน
ไทชิสามารถแบ่งออกเป็นหยินและหยาง, ชีวิตและความตาย, แข็งและอ่อน
มันมีลักษณะเฉพาะของความเป็นคู่ ทั้งหยินและหยางมีจุดร่วมกันและสามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้
จับหางนกกระจอก!
หมัดระเบิด!
 

 
เฟิงหลินแสดงกระบวนท่าของไทชิ และสัมผัสการผสมผสานระหว่างความอ่อนและความแข็ง ผสานเข้ากับรอยประทับกระจกหยินหยาง
 
เขาหลอมรวม ฝ่ามือแปดเหลี่ยมเข้ากับรอยประทับธงต้นกำเนิด หมัดเซียงยี่เข้ากับรอยประทับเสาลี้มังกร และวิชากรงเล็บมังกรกับรอยประทับเชือกบ่วงเทพ
มีวิชามากมายในโลก แต่ตรรกะเบื้องหลังนั้นคล้ายกัน
 
“มหาสมุทรเกิดจากแม่น้ำและลำธารนับร้อย”
รอยประทับฝ่ามือคุนหลุนคือสุดยอดวิชาโบราณจากตำนานจริงๆ มันเต็มไปด้วยแก่นแท้ของทุกวิชา
หากเฟิงหลินสามารถผสมผสานได้หมด แม้เขาจะไม่อาจสำแดงพลังสูงสุดของมันได้ มันก็มากเกินไป
และผ่านการพยายามซ้ำๆ เฟิงหลินก็ค่อยได้รับความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับรอยประทับฝ่ามือคุนหลุน
รอยประทับฝ่ามือคุนหลุนนี้เทียบได้กับสูตรทางคณิตพื้นฐาน และวิชาอื่นก็เทียบเท่ากับตัวแปรที่สามารถรวมเข้ามา ผลลัพธ์สุดท้ายจะก่อเกิดเป็นวิชาและกระบวนท่าใหม่
วิชายุทธ์ยีนก็เหมือนกัน แต่ข้อมูลพวกมันซับซ้อนและยากกว่ามาก
ก่อนหน้านี้ หัวหน้าของกองทัพปฏิวัติดาวอังคารสามารถควบคุมพลังของลมและไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาผสานวิชายุทธ์ยีนบางอย่างเข้ากับรอยประทับฝ่ามือคุนหลุนได้สำเร็จ ซึ่งทำให้พลังของลมและไฟเขาใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบ
หากไม่ใช่เพราะยีนลิงหินเขาที่ต้านน้ำและไฟได้ เฟิงหลินคงต้องเหนื่อยหน่อย
แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้เฟิงหลินหดหู่คือแม้เขาจะระวังแค่ไหน เขาก็ยังไม่รู้ว่าลุคเก็บซ่อนไว้แค่ไหน เขาใช้แค่พื้นฐานของฝ่ามือคุนหลุนและไม่ใช่รูปแบบที่เขาอนุมานและสร้างขึ้นเลย
หากเขาอยากเพิ่มพลังของรอยประทับฝ่ามือคุนหลุน เขาทำได้แค่อนุมานและพยายามผสานวิชาอื่นเข้ากับมัน
แต่นี่ก็พอแล้ว ตราบเท่าที่เขารู้ตรรกะของ’มหาสมุทรประกอบไปด้วยแม่น้ำและลำธารนับร้อย’ เฟิงหลินก็สามาราถสร้างเทคนิคใหม่ได้ เขาไม่ต้องพึ่งพาอะไรอื่น
เฟิงหลินแช่ตัวเองในการฝึก ดูเหมือนจะสนุกกับมันและไม่เบื่อเลยเมื่อเริ่มฝึกอีกครั้ง
แต่ทว่า มันยากมากที่จะทำให้สมบูรณ์แบบ
ตอนนี้ เขาทำได้แค่หลอมรวมวิชาโบราณต่างๆเหล่านี้กับฝ่ามือคุนหลุน ไม่งั้น  มันคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม
วิชายุทธ์โบราณเหล่านี้ส่งต่อมาจากยุคโลกโบราณและย่อมมีความรู้พิเศษภายใน ไม่งั้นมันคงไม่ถ่ายทอดมาถึงทุกวันนี้
และตำนานก็เป็นสิ่งตรงข้าม ในช่วงยุคโลกโบราณ ไม่มีใครคิดว่าการรู้เรื่องตำนานเป็นประโยชน์และพวกเขาก็ไม่สนใจมันเลย หลังสงครามโลกครั้งที่สาม สงครามดาวเคราะห์สองครั้งและสงครามดวงดาวห้าครั้ง อารยธรรมโบราณส่วนใหญ่ก็ถูกทำลายและเหตุนั้น เรื่องเล่าตำนานจึงค่อยๆเริ่มหายไป ทิ้งไว้แค่คำพูดที่ใช้อ้างอิง
สงครามที่ไร้ประโยชน์ปกคลุมกาแล็กซี่จนกระทั่วยุคดวงดาวมาถึง จากนั้นพวกเขาถึงรู้ตัวและค้นพบถึงการมีอยู่ของตำนานใหม่ แต่น่าเศร้า ทุกอย่างสายไป
แก่นสำคัญของวิชาโบราณคือการตกผลึกของภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน
เฟิงหลินไม่เชื่อว่าพรสวรรค์เขาในวิชาต่อสู้จะด้อยกว่าอัจฉริยะยุคโบราณ ช่วยให้เขาเข้าใจแก่นแท้ของวิชาโบราณเหล่านี้และผสานพวกมันกับรอยประทับฝ่ามือคุนหลุน
การบ่มเพาะคงถาวร ทุกๆก้าวต้องใช้พลังงานและความพยายาม
เฟิงหลินไม่รีบ และก็ค่อยๆเริ่มกระบวนการผสาน
เขายังคงทดลองกับกระบวนท่าต่างๆ และนี่ก็เป็นกระบวนการบ่มเพาะประเภทตัวมันเองที่ผลักร่างเขาให้สมบูรณ์แบบขึ้น ช่วยให้เขาควบคุมพลังได้อย่างสมบูรณ์
ศักยภาพพันธุกรรม +5% +5% +5%
ศักยภาพพันธุกรรมของเฟิงหลินยังเพิ่มขึ้น แม้ความเร็วจะไม่สูงนัก มันก็ยังไม่ถือว่าต่ำ หลังผ่านไปสักพัก ศักยภาพพันธุกรรมเขาก็สูงถึง588%
หากมันเพิ่มขึ้นอีกนิ เขาคงสามารถได้รับแต้มพันธุกรรมฟรีและสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของยีนลิงหินได้อีกหนึ่ง
เฟิงหลินใช้ความพยายามอย่างมากกับการบ่มเพาะเขา มันเหมือนกับเขาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ร่างที่ทรงพลังเขาสามารถยืนหยัดได้ ช่วยให้เขาฝึกต่อได้จนจบ ในชั่วพริบตา สิบชั่วโมงก็ผ่านไป
เฟิงหลินขยับและกระโดดภายในห้องฝึก รอยฝ่ามือเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆและเหมือนผีเสื้อบินผ่านดอกไม้ สำแดงกระบวนท่าต่างๆ ใช้มือเขาเป็นค้อน กรงเล็บหรือฝ่ามือ
ฝ่ามือเขาบินวนไปมาอย่างดุเดือด  และกระบวนท่าเขาก็ดูเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงนับไม่ถ้วน
ในที่สุดเฟิงหลินก็สร้างกระบวนท่าใหม่ให้ทุกเทคนิคในรอยประทับฝ่ามือคุนหลุนไ เมื่อเขาสำแดงพวกมัน เขาก็รู้สึกว่าพวกมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้นับพันจริงๆ
ไม่ต้องสงสัย เขาเดินถูกทางแล้ว
จากเทคนิคแรก ‘รอยประทับค้อนพลิกฟ้า’ถึงเทคนิคสุดท้าย ‘รอยประทับธงต้นกำเนิด’เฟิงหลินแสดงทั้งหมดออกมาและหยุดขยับ ไม่ฝึกต่ออีก
ตามเทคนิคดั้งเดิมในรอยประทับฝ่ามือคุนหลุน เฟิงหลินทำการลดและสร้างการเคลื่อนไหวใหม่ เริ่มผสานระหว่างวิชาโบราณต่างๆ นี่ทำให้พลังของฝ่ามือคุนหลุนเพิ่มขึ้นมาก แกร่งกว่าก่อน
เขาตัดสินใจตั้งชื่อรอยประทับฝ่ามือฉบับใหม่นี้ว่า’รอยประทับฝ่ามือคุนหลุนเวอร์ชั่น1.0’ ในอนาคตเมื่อเขาเข้าใจแก่นของวิชาบราณเพิ่ม เขาจะค่อยๆผสานพวกมันภายในและสร้างเป็นเวอร์ชั่น1.1 1.2 1.3
หากเขาสามารถไปถึงรับที่สามารถผสานวิชายุทธ์ยีนเข้าได้ ตอนนั้น เขาคงตั้งชื่อใหม่ว่า’รอยประทับฝ่ามือคุนหลุน2.0’
หลังสำเร็จ เฟิงหลินก็รู้ว่าเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว หากเขาอยากพัฒนาต่อ เขาคงต้องฝึกเพิ่มและเพิ่มระดับความสำเร็จในวิชายุทธ์
แม้เขาจะกระหายพลัง เขาก็ยังเคารพความจริง
และตอนนี้ ความเข้าใจวิชาเขายังไม่พอ เขาเองก็ไม่มีเวลาพอแล้ว
เขายอมแพ้การเพิ่มพลังชั่วคราวและเริ่มวิจัยความสามารถพันธุกรรมเขาต่อไป
หลังสู้กับผู้บ่มเพาะดวงดาวมา เขาก็ได้ยืนยันความสามารถของยีนลิงหินบ้างแล้ว ในฐานะยีนแรกเริ่มผันแปร ความสามารถทั้งสี่อย่างของยีนลิงหินคือ กระดูกเหล็กหายหิน พลังไร้ขอบเขต กายคงกระพันต่อดาบและหอก และต้านไฟและน้ำ ในหมู่ผู้บ่มเพาะระดับเดียวกัน เขาเหมือนแมลงสาป
ต่อมา เฟิงหลินก็เริ่มทดสอบความสามารถของยีนจิตเขา
นี่คือยีนพื้นฐานเกรดสูง เฟิงหลินไม่เชื่อว่ามันจะมีความสามารถแค่การรับรู้ทางจิต
พลังงานจิตไร้รูปร่างและมีพลังยากจะคาดเดา หากเขาพัฒนาการโจมตีระยะไกลที่สอดคล้องกัน นั่นจะช่วยลดความจริงที่ว่าเขาถนัดแค่การต่อสู้ระยะประชิด ด้วยวิธีจมตีมากขึ้น เขาย่อมมีความสามาราถปรับเปลี่ยนีขึ้น และพลังรบเขาย่อมเพิ่มขึ้น นี่มีประสิทธิภาพมากกว่ามาก
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับความสามารถพันธุกรรมคือคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ!
เฟิงหลินวิจัยอย่างพิถีพิถัน พลังงานจิตเขาเกิดจากกึ่งกลางคิ้ว มันเหมือนตาข่ายยักษ์ที่ครอบคลุมทั่ว ทุกที่ที่พลังงานจิตเขากวาผ่าน เขาสามารถรับรู้ทุกอย่างไ
แต่ผลนี้ก็แค่การสนับสนุน
มันจะทำยังไงให้พลังงานจิตเขามีพลังสังหาร?เฟิงหลินพยายามอยู่นาน แต่เขายังไม่อาจหาทางได้ เขาทำได้แค่ยอมแพ้ชั่วคราว
หากมีคำถาม ก็ให้ถามเครือข่ายดาว!
เขาแตะไมโครชิปเขาและเชื่อมต่อกับเครือข่าย จากนั้นก็ป้อนคำ’ยีนจิต’ ‘พลังงานจิต’ ‘อาชีพ’..และคำสำคัญอื่นๆ
ปรากฏผลนับร้อยในทันที เฟิงหลินจับสายตากับชื่ออาชีพที่ปรากฏบนสุด
 
“นักสะจิตพันธุกรรม!”

Legend of the Mythological Genes

Legend of the Mythological Genes

ทุกตำนานคือเส้นทางสู่การเป็นเทพ!เมื่อมนุษย์เข้าสู่ยุคดวงดาว การบ่มเพาะโบราณได้ส่องประกายสู่ชีวิตใหม่ ยีนดำรงอยู่ในตัวคุณ!ประโยคเดียวที่แสดงถึงความหมายแท้จริงของการบ่มเพาะ ตำนานไม่ใช่เรื่องในจินตนาการ มันมียีนในตำนานอยู่จริง ยีนของห่าวยี่ช่วยให้ยิงลูกศรได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ลูกศรนัดเดียวสามารถทำลายโดมแห่งสวรรค์ ยีนกัวฟู่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ไล่ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ ยีนมังกรเทวะจะช่วยให้พุ่งทะยานเหนือหมู่เมฆ แหวกว่ายรอบห้วงอวกาศ … เกือบหมื่นปีได้ผ่านไป เฟิงหลินมาจากศตวรรษที่21สู่ยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ ตามความเข้าใจเข้าถึงตำนานของยุคโลกโบราณ เขาได้เริ่มเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะยีนสุดพิเศษ ยีนลิง+ยีนหิน = ยีนลิงหิน ยีนลิงหิน+??? = ยีนลิงหินวิญญาณ ยีนลิงหินวิญญาณ+??? = ยีนราชาลิงสุดหล่อ ยีนราชาลิงสุดหล่อ+??? = ยีนซุนหงอคง ยีนซุนหงอคง+??? = ยีนมหาเทพเทียมฟ้า Every myth and legend is a path to Godhood! When humans enter the interstellar era, ancient cultivation techniques shone with new life. Your genes exist with you! A single sentence showing the true meaning of cultivation. Myths and legends are not a fantasy, there are ancient mythological genes in the bodies of everyone. The Hou Yi Gene allows you to shoot a hundred miles, using a single arrow to break down the dome of heaven. The Kuafu Gene allows you to run with flying speed, chasing after the sun and moon. The Divine Dragon Gene allows you to soar among the clouds, roaming around the starry space. …. Almost ten thousand years have passed. Feng Lin came from the 21st century to this majestic era that surged forth with great momentum. Based on his understanding on the myths and legends of the ancient earth era, he embarked upon a unique genetic cultivation path. Monkey Gene + Stonebirth Gene = Stone Monkey Gene Stone Monkey Gene + ??? = Spiritual Stone Monkey Gene Spiritual Stone Monkey Gene + ??? = Handsome Monkey King Gene Handsome Monkey King Gene + ??? = Sun Wukong Gene Sun Wukong Gene + ??? = Great Sage Equal to Heavens Gene

Options

not work with dark mode
Reset