Long Live The Hokage – ตอนที่ 16 : เยี่ยมเยือน

เมื่อ มาซาฮิโกะ บอก ผู้นำตระกูล เกี่ยวกับผลการฝึกวิชาของเขา ผู้นำตระกูล ก็รู้สึกพึงใจเป็นอย่างมาก

“ถ้าอย่างงั้น พลังของท่านในตอนนี้…” ผู้นำตระกูลประหลาดใจกับความสามารถของ มาซาฮิโกะ เป็นอย่างมากจนเขาไม่สามารถพูดได้จนจบประโยค

“อ๊า ใช่แล้ว ตอนนี้ฉันแข็งแกร่งขึ้นแล้ว” มาซาฮิโกะ ตอบเบา ๆ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แสดงให้เห็นว่าเขาก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้น…ท่านจะช่วยมารับตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสของตระกูลเราได้ไหม?”

มาซาฮิโกะ คิดอยู่แล้วว่า ผู้นำตระกูลจะขอให้เขามารับตำแหน่งผู้อาวุโส แต่เขาก็ไม่ต้องการอะไรแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงจะปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป แต่ก่อนที่เขาจะได้ตอบผู้อาวุโสกลับไปนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“เข้ามา” ผู้นำตระกูลพูด หน่วยอารักขา

“ท่านผู้นำ ท่านมาซาฮิโกะ เราได้รับข้อความจาก ตระกูลเซนจู พวกเขาบอกว่ากำลังจะมาเยี่ยม เซนจู ฮาชิรามะ และ มิโตะ กำลังจะมาถึง ครับ”

“อะไรนะ? มาโตะ กำลังจะมาเหรอ?!” สีหน้าของ ผู้นำตระกูล เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ซึ่งทำให้เขาลืมเรื่องที่กำลังพูดกับ มาซาฮิโกะ ไปในทันที เพราะตอนนี้เขาคิดเพียงแค่ว่า ลูกสาวของเขากำลังมาหาเขา

“ดูเหมือนว่าความคิดถึงของท่านจะส่งไปถึงเธอนะ…เพียงแต่ว่า…ท่านผู้นำ ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าพวกเขาเดินทางมาถึงที่นี่เพื่อมาเยี่ยมท่านเฉย ๆ? การที่ ฮาชิรามะ พา มิโตะ มาด้วย ฉันไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่เพื่อเยี่ยมพ่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น…ฉันคิดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ จำไว้ว่าท่านจะต้องปฏิเสธทันทีถ้าเขาให้เราช่วย เขาใจไหม?” มาซาฮิโกะ อดไม่ได้ที่จะออกคำสั่งกับเขา

“ไม่ต้องกังวลหรอก ท่านลุง” ผู้นำตระกูล ตอบส่ง ๆ ออกไป

เมื่อเห็นว่า ผู้นำตระกูล ไม่สนใจคำพูดของเขาแล้ว เขาจึงคิดในใจว่า “เฮ้อ…ช่างเถอะ เอาไว้ค่อยคุยใหม่พรุ่งนี้ก็ได้ แต่ตอนนี้เรามาคิดดีกว่าว่าจะใช้แต้มการเข้าร่วมไปทำอะไรดี”

ในวันต่อมา มาซาฮิโกะ และ ผู้นำตระกูล ก็มายืนรออยู่ที่หน้าประตูหมู่บ้านเพื่อรอต้อนรับ ตระกูลเซนจู ที่กำลังมาถึง

เมื่อขบวนเดินทางมาถึง ผู้นำตระกูล ก็ทักทายพวกเขาอย่างมีความสุข ขบวนเดินทางในครั้งนี้ประกอบไปด้วย ฮาชิรามะ , มิโตะ , ผู้บัญชาการหน่วยอารักขาตระกูลเซนจู และ โทบิรามะ

หลังจาก 5 ปีที่ยาวนาน ในที่สุด มาซาฮิโกะ ก็ได้พบกับพวกเขาทั้ง 3 อีกครั้ง

ฮาชิรามะ และ โทบิรามะ ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ส่วน มิโตะ เธอยังคงเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ในตอนนี้เธอมีสัญลักษณ์รูป 4 เหลียมข้าวหลามตัดบนหน้าผากของเธอ

“มิโตะ ดูเหมือนว่าเธอจะสำเร็จ วิชาเบียคุโก แล้วสินะ” มาซาฮิโกะ พูดด้วยรอยยิ้ม

“ใช้แล้วค่ะท่านปู่ นี่ไงคะ ผนึกเบียคุโก…โอ้ หนูเกือบลืมไปเลย ท่านปู่ก็ใช้การผนึกจักระด้วย วิชาเบียคุโก เหมือนกันใช่ไหมคะ?” เธอพูดว่าด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังหยอกล้อ มาซาฮิโกะ ด้วยคำโกหกของเขานั้นเอง

ฮาชิรามะ รู้สึกแปลกใจ เขาคิดว่าเขาเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์นี้ที่หน้าผากภรรยาของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงถามออกมาว่า

“อ่าว…วิชานี้ไม่ได้ฝึกได้เฉพาะผู้หญิงเหรอครับ? มันเป็นการรวบรวมจักระธาตุหยินเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?” ฮาชิรามะ ถาม มิโตะ ด้วยความสับสน

มาซาฮิโกะ ทำอะไรไม่ถูก เขาได้แต่ขยิบตาให้ มิโตะ เพื่อขอให้เธอช่วยแก้ต่างให้เขา

“ใช่แล้วค่ะคุณ สงสัยฉันคงจำผิด ท่านปู่จะฝึกวิชานั้นได้ยังไงกันละ” มิโตะ มองไปที่ มาซาฮิโกะ และยิ้มให้เขา

“อ่อ…อย่างนั้นเหรอ…” ฮาชิรามะ ยังมึนงงอยู่

มาซาฮิโกะ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขารู้สึกโล่งใจที่สามารถเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาได้ และโชคดีที่ โทบิรามะ ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

พวกเขาทั้ง 3 พูดคุยกันต่อไปอีกพักหนึ่ง ก่อนที่ผู้นำตระกูลจะเชิญพวกเขาเข้าไปข้างใน

ฮาชิรามะ เดินไปกับ ผู้นำตระกูล และคุยกันเล็กน้อย

“จริงเหรอ?! มิโตะ ท้องเหรอ?!” ผู้นำตระกูล พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นจนลืมลดเสียงของเขาลง

มาซาฮิโกะ ก็อยากรู้เรื่องนี้เช่นกัน นี่เขาได้ยินผิดไปหรือ มิโตะ ท้องจริง ๆ กันแน่

“ใช้แล้วครับ ท่านพ่อ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เรามาที่นี่ในวันนี้” ฮาชิรามะ เกาหัวของเขาขณะที่พูดแบบนั้นออกมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขิน

“ทำไมท่านไม่บอกฉันก่อน?!” ผู้นำตระกูล พูดด้วยความตื่นเต้นขึ้นยิ่งกว่าเดิม

มาซาฮิโกะ มองไปที่ มิโตะ อย่างรวดเร็ว เขามองดูเธออย่างละเอียด

‘ท้องยังไม่ใหญ่…ดูเหมือนว่าเธอยังตั้งครรภ์ได้ไม่ถึง 3 เดือน…เธอท้องจริงหรือเปล่านะ?…มิโตะ ยังดูเป็นนินจาที่แข็งแกร่ง…แต่…ถ้า มิโตะ ท้อง…ฮาชิรามะ ก็ต้องเป็นพ่อสินะ!” มาซาฮิโกะ คิดแบบนั้น ขณะที่ตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น

ในการ์ตูน ตัวตนของลูกของ มิโตะ ได้ถูกปกปิดเป็นความลับ ไม่มีใครรู้ว่าพ่อหรือแม่ของ ซึนาเดะ เป็นใคร

มาซาฮิโกะ เคยมีทฤษฎีว่า ก่อนที่ตัวตนของ โอบิโตะ จะถูกเปิดเผย ชายสวมหน้ากากที่เข้าโจมตี โคโนฮะ อาจเป็นลูกชายของ ฮาชิรามะ ก็เป็นได้

แต่ตอนนี้ เขาจะมีโอกาสได้เห็นลูกชายของ เทพเจ้าแห่งนินจา!

มาซาฮิโกะ รู้สึกตื่นเต้นมาก เขาแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้รู้จักกับเด็กคนนี้

มิโตะ ก็ตื่นเต้นเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่ได้เจอพ่อของเธอมานานแล้ว

ในที่สุดพวกเขาทั้ง 5 ก็เดินเข้ามาในห้องโถงกลางของ ตระกูลอุซึมากิ แล้วนั่งลงที่โต๊ะรับแขก หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ผู้นำตระกูลก็ตั้งสติกลับมาได้แล้วพูดว่า

“ฮาชิรามะ ฉันยินดีด้วยที่ท่านได้เป็นผู้นำตระกูล และฉันก็รู้สึกซาบซึ้งมากที่ท่านเจียดเวลาพา มิโตะ มาหาฉัน”

จากนั้น ผู้นำตระกูลก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นสีหน้าที่จริงจังและพูดออกมาว่า “สถานการณ์ของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?”

ผู้นำตระกูล ไม่ได้ฟังสิ่งที่ มาซาฮิโกะ เตือนไว้ก่อนหน้านี้เลย เมื่อ มาซาฮิโกะ ได้ยินดังนั้นเขาก็ได้แต่ถอนหายใจและได้แต่ภาวนากับ ฮาโกโรโมะ ว่า ของให้ลูกของ มิโตะ อย่าได้ความโง่เขลาของปู่ของเขาด้วยเถอะ

ฮาชิรามะ ตอบทันทีว่า “มันไม่แย่อย่างที่คิด เรายังคงมีความได้เปรียบอยู่”

“แต่…” ฮาชิรามะ หยุดพูดกระทันกัน

“พูดเลยสิ!” มาซาฮิโกะ คิดในใจ

“เราพบปัญหาเล็กน้อยที่เขตตะวันตกเฉียงใต้ของ แคว้นแห่งไฟ…มีตระกูลเล็ก ๆ โจมตีคนของเราที่นั้น”

“ตระกูลเล็ก?” ผู้นำตระกูลรู้สึกมึนงง “ตระกูลเล็ก ๆ ตระกูลไหนที่โง่พอที่จะโจมตี ตระกูลเซนจู?”

“พวกเขาเรียกตัวเองว่า กลุ่มราศีตุลย์” ฮาชิรามะ ตอบ

“พวกเขามีจำนวนน้อย แต่พวกเขาก็มีความสามารถในการเปลี่ยนร่าง เมื่อพวกเขาเปลี่ยนร่างพวกเขาก็จะบ้าคลั่งและต่อสู้โดยไม่สนชีวิต มันทำให้เรามีปัญหาเป็นอย่างมาก”

“คุ้น ๆ เฮ๊ะ…ราศีตุลย์?…กลุ่มของ จูโกะ รึเปล่านะ?” (จูโกะ ลูกน้อง โอโรจิมารุ/ซาสึเกะ)

มาซาฮิโกะ จำไม่ได้อย่างชัดเจนเท่าไรนัก เพราะเขาดูการ์ตูนเรื่องนี้ครั้งสุดท้ายก็เมื่อ 50 ปีก่อนที่เขาจะตายและมาอยู่ในโลกนี้!

เมื่อผู้นำตระกูล ได้ยินเรื่องนี้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ “เราต้องจัดการพวกมันให้เร็วที่สุด ถ้าพวกมันยังมีชีวิตอยู่…อย่ามาเรียกฉันว่า อุซึ…”

ก่อนที่ผู้นำตระกูลจะพูดจบ ฮาชิรามะ ก็พูดขัดขึ้นมาก่อนว่า “ใจเย็นไว้ก่อนท่านพ่อ เราไม่ได้ต้องการกองทัพเพื่อไปต่อสู้กับพวกเขา เราต้องการเพียงแต่ นินจาของอุซึมากิ ที่มีความเชียวชาญด้านวิชาสะกด เพื่อผนึกความสามารถในการแปลงร่างของพวกเขาเพียงเท่านั้น”

“โอ้ อย่างนั้นเหรอ…” ผู้นำตระกูลสงบลง “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะส่งผู้อาวุโสท่านหนึ่งไปกับท่าน”

“ผู้อาวุโส? เยี่ยมไปเลย และผู้อาวุโสคนนั้นคือคนไหนละครับ?” ฮาชิรามะ รู้สึกยินดีกับข่าวนี้

มาซาฮิโกะ รู้สึกสับสนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินผู้นำตระกูลพูดแบบนั้นออกมา เขาจำได้ดีว่าเมื่อวานผู้นำตระกูลเพิ่งจะบอกเขาว่า ผู้อาวุโสทั้งหมดกำลังจะเกษียณออกจากตำแหน่ง แล้วทำไมผู้นำตระกูลถึงถูกแบบนั้นออกไปละ?

“เอาละ นอกจากผู้อาวุโสท่านนี้ ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็ได้เกษียณไปหมดแล้ว แต่ฉันเชื่อว่าท่านรู้จักผู้อาวุโสท่านนี้เป็นอย่างดี…อันที่จริง…เขานั่งอยู่กับเราที่นี่” ผู้นำตระกูล พูดขณะหันหน้าไปทาง มาซาฮิโกะ

เมื่อเห็นดังนั้น มาซาฮิโกะ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับเขาเห็นผี

เขาไม่ต้องการเป็นผู้อาวุโส เขาต้องการที่จะเป็นอิสระ แต่ในใจลึก ๆ แล้วเขาก็ยังต้องการเห็น กลุ่มราศีตุลย์ เพราะเขาคิดว่าบางทีเขาอาจได้รับแต้มการเข้าร่วม หากเขาได้พบกับ กลุ่มราศีตุลย์

ความคิดต่าง ๆ เริ่มเข้ามาในหัวของเขาอย่างต่อเนื่อง

“ท่านปู่?” ฮาชิรามะ รู้สึกงงเล็กน้อย “ท่านสามารถใช้วิชาสะกดได้เหรอ?”

“ไม่ต้องกังวลเลยลูกชาย” ผู้นำตระกูลพูดด้วยความมั่นใจกับ ฮาชิรามะ ขณะที่ตบไหล่ของ ฮาชิรามะ เบา ๆ แล้วพูดต่อว่า “ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เขาซุ่มซ้อมฝึกฝนวิชาสะกดมาโดยตลอด จนตอนนี้เขากลายเป็นผู้ที่มีความสามารถในการใช้วิชาสะกดที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลอุซึมากิ”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมก็ต้องขอโทษด้วยที่สงสัยในตัวของท่าน” ฮาชิรามะ พูดขณะโค้งให้กับ มาซาฮิโกะ จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับผู้นำตระกูลต่อว่า “เราเตรียมบางอย่างมาให้ท่านด้วย…โทบิรามะ! เอามันออกมา”

โทบิรามะ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เอาม้วนคัมภีร์ออกมาและส่งมันให้กับ ผู้นำตระกูล

“นี้เป็นวิชาใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาโดย โทบิรามะ น้องชายของผม” ฮาชิรามะ อธิบาย

“เขาเรียกมันว่า คาถาเงาแยกร่าง มันเหมาะมากสำหรับ ตระกูลอุซึมากิ ที่มีจักระมากกว่านินจาส่วนใหญ่”

ผู้นำตระกูล เปิดมันออก และหลังจากที่เขาได้มองดูอย่างคร่าว ๆ เขาก็ถาม โทบิรามะ เกี่ยวกับมันด้วยความตื่นเต้น

มีเพียง มาซาฮิโกะ คนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกไม่พอใจ เขาได้แต่คิดในใจว่า

“คาถาเงาแยกร่าง?! หนอย…โทบิรามะ! ทำไมไม่บอกฉันก่อน แทนที่ฉันจะได้แต้มการเข้าร่วมเพิ่มอีกแท้ ๆ!”

Long Live The Hokage

Long Live The Hokage

Type: Author:
After Reincarnating into Naruto World at the Warring State Era as an Uzumaki, Masahiko thought that he got a useless System. He lived for 48 years as a normal, below average Uzumaki Shinobi. That changed when he finally knew how the system works the day of his 49th Birthday! นิยายแนว : แอคชั่น ผจญภัย แฟนตาซี ศิลปะการต่อสู้ นินจา เรื่องย่อ : เจิง หยาน ผู้บ้าคลั่งในการ์ตูนเรื่อง นารูโตะ เป็นอย่างมาก เขาได้กลับชาติมาเกิดในโลกของ นารูโตะ ในยุคก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้น และเป็นหนึ่งในสมาชิกของ ตระกูลอูซิมากิ และมีชื่อใหม่ว่า อุซึมากิ มาซาฮิโกะ มาซาฮิโกะ เกิดมาในโลกนี้พร้อมกับระบบไร้สาระอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาอายุได้ 48 ปี เขาก็พบว่าระบบนั้นไม่ใช่ระบบธรรมดา ตลอดเวลาที่ผ่านมาในชีวิตใหม่นี้ เขาใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าและทำความผิดพลาดมามากมายจนถึงอายุ 48 ปี แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ได้โอกาสอีกครั้งจาก ระบบพิเศษ นั้น และมันก็เริ่มทำงานและเปลี่ยนแปลงชีวิตในวันเกิดปีที่ 49 ของเขา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset