Long Live The Hokage – ตอนที่ 41 : ก่อนพายุจะมา

Long Live The Hokage Chapter 41 : ก่อนพายุจะมา

 

ตลอดเดือนที่ผ่านมา หลังจากการก่อตั้ง หมู่บ้านอุซึมากิ มาซาฮิโกะ ตัดสินใจที่จะไม่ทําอะไรเลยนอกจากการกินและนอนและทําซ้ำอยู่อย่างนั้น ทุกอย่างดูสงบและผ่อนคลาย แต่เขาก็ไม่รู้ตัวเลยว่าพายุลูกใหญ่กําลังจะมา

 

หลังจากผ่านไป 5 ปี โทบิรามะ ก็ได้ไปเยี่ยมที่บ้านของ อุซึมากิ และในที่สุด มาซาฮิโกะ ก็ได้มีโอกาสได้พบเขาอีกครั้ง

 

“โทบิรามะ ที่ท่านมาหาฉันในครั้งนี้ อย่าบอกนะว่าท่านคิดค้นคาถาใหม่ขึ้นมาแล้ว? ทําไมไม่บอกฉันก่อน หรือท่านคิดว่าคนนี้ไม่มีความสําคัญกับท่านอีกต่อไปแล้ว หึ…”

 

มาซาฮิโกะ เริ่มบทสนธนาด้วยคําพูดที่ทําให้โทบิรามะ อยู่ภายใต้ความกดดัน

 

“เอ่อ…ท่านปู่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้คิดวิชาใหม่ขึ้นมามากมาย อย่างเช่น วิชาที่ใช้ภาพลวงตาเพื่อบดบังทัศนวิสัยของคู่ต่อสู้ , วิชาที่ใช้เพิ่มจํานวนยันต์ระเบิด วิชาที่ใช้น้ำช่วยให้เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น ”

 

ใบหน้าของ มาซาฮิโกะ มืดมนและพูดว่า “วิชาลวงตาคาถารัตติกาล , ยันต์ระเบิดร่วมประสาน , คลื่นน้ำพริบตา…ถูกสร้างขึ้นมาแล้วเหรอเนี่ย”

 

จากนั้น มาซาฮิโกะ ก็เหลือบมองไปที่ใบหน้าของ โทบิรามะ และพบว่า โทบิรามะ ดูตกใจเป็นอย่างมาก

 

“ไอ้พี่ชายทรยศ นี้เขาบอกเรื่องพวกนี้ให้ท่านปู่รู้แล้วเหรอครับ? ผมเพิ่งจะคิดค้นมันขึ้นมาแท้ ๆ แต่ท่านปู่ก็รู้ชื่อมันแล้ว!”

 

มาซาฮิโกะ ชาไปทั้งใบหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะลืมคิดก่อนพูดอีกแล้ว จากนั้นเขาก็พยักหน้าและเออออไปกับ โทบิรามะ อย่างรวดเร็ว “ใช่แล้ว ๆ พี่ชายของท่านเป็นคนบอกฉันเอง…”

 

ฮาชิรามะ ขอโทษด้วยนะ…

 

ไกลออกไป

 

ที่หมู่บ้านตระกูลเซนจู

 

ฮาชิรามะ กําลังคิดเกี่ยวกับการพัฒนาและการก่อตั้งหมู่บ้าน ทันใดนั้นเขาก็จามออกมาเสียงดัง จากนั้นด้วยรอยยิ้มของเขา เขามองขึ้นไปบนฟ้าแล้วพูดว่า “มาดาระ นายกําลังคิดถึงฉันเหมือนกันเหรอ?”

 

ย้อนกลับไปที่ หมู่บ้านตระกูลอุซึมากิ

 

โทบิรามะ พยายามพูดชักชวนและหลอกล้อให มาซาฮิโกะ ไปที่ หมู่บ้านตระกูลเซนจู

 

“ท่านปู นอกจาก 3 วิชานั้นแล้ว ผมก็กําลังคิดค้นสิ่งใหม่อยู่”

 

มาซาฮิโกะ คิดกับตัวเองว่า “เขาต้องกําลังซ่อนอะไรบางอย่างไว้แน่ ๆ เขาคิดค้นวิชาทั้งหมดที่เขามีใน อะนิเมะ แล้ว สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ…คาถาสะกด ปิดผนึกซากอสูร แต่เขาก็ไม่สามารถทําได้สําเร็จจนเขาตาย ถ้าอย่างนั้นเขาน่าจะเริ่มคิดค้นมันอย่างน้อยก็ 10 ปี หลังจากนี้นี่น่า”

 

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ มาซาฮิโกะ ก็จําได้ทันทีว่า ในตอนที่ โทบิรามะ ถูกไล่ล่าโดยกองกําลังของ คินคาคุ เขาได้วางมือลงบนพื้นแล้วสามารถตรวจจับนินจาทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเขาและระดับความแข็งแรงของพวกเขาได้

 

มาซาฮิโกะ ลืมชื่อของวิชานั้น แต่เขาก็จําการใช้งานมันได้ นี้ต้องเป็นหนึ่งในวิชาสายตรวจจับอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน

 

“เฮ้ วิชาอะไรล่ะที่ท่านกําลังคิดค้นอยู่ตอนนี้? วิชาตรวจจับงั้นเหรอ?” มาซาฮิโกะ ถามอย่างตรงประเด็น

 

“วิชาตรวจจับ? ไม่ใช่ครับ ๆ” คําถามของ มาซาฮิโกะ ทําให้ โทบิรามะ รู้สึกงง “ทําไมผมต้องคิดค้นวิชาตรวจจับด้วยละครับ? ในเมื่อผมเองก็มีนินจาสายตรวจจับฝีมือดีอยู่ข้างตัวแทบจะตลอดเวลา…ทําไมท่านไม่กลับไปที่ หมู่บ้านเซนจู กับผมแล้วช่วยผมคิดค้นวิชาใหม่ของผมกันล่ะ?”

 

มาซาฮิโกะ ส่ายหัว “เลิกหลอกให้ฉันกลับไปที่ หมู่บ้านเซนจู กับท่านได้แล้ว ถ้าจะคิดคาถาใหม่ เราคิดกันที่นี่ก็ได้ ที่นี่จะบอกฉันได้หรือยังว่าทําไมฉันต้องกลับไปที่ หมู่บ้านเซนจู?”

 

โทบิรามะ ยิ้มอย่างเสียไม่ได้ จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วถอนหายใจออกมา “ไม่สามารถหลอกท่านได้จริง ๆ สินะ….ท่านปู่ที่จริงแล้วเป็นเพราะ อุจิฮะ…เรากําลังเตรียมตัวทําสงคราม”

 

“อะไรนะ! ทําไมไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้?! เราต้องไปให้เร็วที่สุด ฉันจะไปเก็บของ” มาซาฮิโกะ หันหลังกลับอย่างรวดเร็วทําให้โทบิรามะ สับสนมากขึ้นกว่าเดิม

 

มาซาฮิโกะ รีบกลับไปที่บ้านของเขาในขณะที่เขาดูตื่นเต้นมาก “ในที่สุดก็ถึงเวลาทําสงครามกับ อุจิฮะ เสียที! รอก่อนนะ หมู่บ้านโคโนฮะ!”

 

มาซาฮิโกะ คิดเรื่องนี้และเขาก็ตัดสินใจพาลูกศิษย์ทั้ง 3 ของเขาไปด้วย ไม่มีใครอีกแล้วจาก ตระกูลอุซึมากิ ที่จะไป อีกอย่าง ลูกศิษย์ทั้ง 3 ของเขาจะได้รับประสบการณ์ในการต่อสู้เป็นอย่างมากจากสงครามครั้งนี้

 

“ฮาชิรามะ ก็อยู่ที่นั่นด้วย เราอาจต้องเผชิญหน้ากับ คนของอุจิฮะ แต่ เทพเจ้าแห่งนินจา และ นินจาอัจฉริยะ ก็คงจะสามารถช่วยปกป้องพวกเขาได้แค่นี้ก็น่าจะหมดห่วงแล้ว”

 

หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง โทบิรามะ ก็เห็นคน 4 คนกําลังถือกระเป๋าเดินทางและเดินตรงมาหาเขา

 

หลังจากคําอธิบายสั้น ๆ ของ มาซาฮิโกะ โทบิรามะ ก็ตกลงแล้วพวกเขาก็ไปแจ้งให้ ผู้นําตระกูลอุซึมากิ ทราบ และหลังจากนั้นการเดินทางสู่ ตระกูลเซนจู ก็เริ่มขึ้น

 

ระหว่างทาง โทบิรามะ ก็อธิบายสถานการณ์ให้ มาซาฮิโกะ ฟัง

 

เมื่อ 9 ปีที่แล้ว หลังจากที่ ฮาชิรามะ ไปเยี่ยม มาดาระ ทั้ง 2 ฝ่ายก็หยุดต่อสู้กัน แต่อย่างไรก็ตาม อุจิฮะ ก็ไม่เคยหยุดรุกรานดินแดนของตระกูลเล็ก ๆ ตระกูลอื่น

 

“แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาจะหยุดจัดการกับตระกูลเล็ก ๆ และมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น ผมกลัวว่า มาดาระ กําลังจะล่าหัวท่านพี่อยู่”

 

มาซาฮิโกะ ได้ยินคําอธิบายของ โทบิรามะ แต่ดูเหมือนว่า มาซาฮิโกะ จะไม่เป็นห่วงกับเรื่องนี้สักเท่าไร เขาคิดกับตัวเองว่า “มันจะไม่ใช่อย่างนั้นนะการต่อสู้ครั้งนี้จะทําให้ มาดาระ ตาบอดและนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างพวกเขา..”

 

“แต่…” มาซาฮิโกะ คิดต่อ “จะประมาท มาดาระ ไม่ได้เด็ดขาด เขาเป็นคนที่มักจะมีแผนเสมอ และเขาก็จะเคลื่อนไหวเฉพาะตอนที่เขามีแผนเท่านั้น ดังนั้นหากสิ่งที่ โทบีรามะ พูดนั้นเป็นจริงแล้วแล้วละก็ฮาชิรามะ ลําบากแน่”

 

“อาจารย์คะ! คุณลุงโทบิรามะ กําลังพูดกับอาจารย์อยู่นะคะ!” นานาโกะ เรียก มาซาฮิโกะ เพราะเธอเห็นว่า มาซาฮิโกะ กําลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอยู่

 

มาซาฮิโกะ ดึงสติของเขากลับมาแล้วยิ้มเยาะ “ลุงเหรอ? โทบิรามะ เนี่ยนะ? ฉันว่าพวกเธอเรียกว่าเขาว่า รุ่นพี่โทบิรามะ จะดีกว่านะ”

 

เมื่อได้ยินที่ มาซาฮิโกะ พูด เด็กทั้ง 3 คนก็ตอบสนองแตกต่างกัน นานาโกะ ถอนหายใจและส่ายหัว ยูริโกะ รู้สึกอายเล็กน้อยแต่เธอก็เชื่อเขา และ เคนจิโร่ ก็แสดงความตื่นเต้น จากนั้นก็ตะโกนว่า “โอ้! เข้าใจแล้วครับ อาจารย์!”

 

มาซาฮิโกะ รู้สึกอายเพราะพฤติกรรมของลูกศิษย์ของเขา มันรู้สึกแปลก ๆ เมื่อคุณมีลูกศิษย์มนิสัยเหมือน ร็อค ลี แต่คุณไม่ใช่ ไก!

 

การทะเลาะกันระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ไม่ได้รบกวน โทบิรามะ แต่อย่างใด เขาไม่สนใจพวกเขา เขาแค่คิดเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปของ อุจิฮะ

 

หลังจากมาถึง หมู่บ้านตระกูลเซนจู มาซาฮิโกะ ก็ทิ้งลูกศิษย์ทั้ง 3 ของเขา แล้วลาก โทบิรามะ ไปหา ฮาชิรามะ ทันที

 

เมื่อ ฮาชิรามะ เห็นพวกเขา เขาก็ดีใจเป็นอย่างมาก “โอ้ น้องชาย ในที่สุดนายก็กลับมา! เมื่อไม่นานมานี้ อุจิฮะ ได้ส่งจดหมายเชิญทําสงครามให้เรา”

 

“จดหมายเชิญทําสงคราม?” มาซาฮิโกะ รู้สึกงง ในช่วงสงครามก่อนการก่อตั้ง แม้ว่าการต่อสู้ระหว่างตระกูลต่าง ๆ จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินว่ามี จดหมายเชิญทําสงคราม แม้แต่ครั้งเดียว

 

“ไหนขอดจดหมายหน้อยสิ..”

 

“อ้า! ท่านปู่! ท่านก็มาด้วยเหรอ?!”

 

มาซาฮิโกะ ไม่ได้ใส่ใจกับ ฮาชิรามะ และเขาก็หยิบจดหมายจากบนโต๊ะขึ้นมาดู

 

“หลังจากนี้ 3 วัน เราจะทําการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่หุบเขาแห่งสายลม”

 

ใบหน้าของ มาซาฮิโกะ ดูซีดราวกับว่าเขาเห็นผี มันเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้วเหรอ? แต่มันเร็วเกินไป! ไม่เคยมีการพูดถึงเรื่อง จดหมายเชิญทําสงคราม เลย เนื้อเรื่องได้เปลี่ยนไปแล้วงั้นเหรอ? หัวของ มาซาฮิโกะ เต็มไปด้วยคําถามเหล่านี้

 

เมื่อ โทบีรามะ เห็นเนื้อหาของจดหมายเขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

 

“ท่านพี่ นี่เป็นกลลวงหรือเปล่า? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาหักหลังเราและโจมตีหมู่บ้านหลังจากที่เราไปที่หุบเขาแห่งสายลม?”

 

ฮาชิรามะ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ ไม่! มาดาระ ไม่ใช่คนแบบนั้น! ไปเตรียมคนของเราให้พร้อม พรุ่งนี้ เราจะเดินทางไปยัง หุบเขาแห่งสายลม!”

 

“ท่านพี่” เห็นได้ชัดว่า โทบิรามะ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่จริงจังของ ฮาชิรามะ เขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากพยักหน้าเห็นด้วย

 

“แล้วใครจะอยู่ป้องกันหมู่บ้านล่ะ?”

 

ฮาชิรามะ ใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตอบว่า “ให้ โซระ อยู่ที่นี่…”

 

หลังจากการต่อสู้ที่เหมืองของ ตระกูลซารุโทบิ เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เซนจู โซระ ก็พัฒนาความสามารถขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทําให้ตอนนี้เขามีพลังเกือบจะเทียบเท่าระดับ ผู้นําตระกูล และตอนนี้เขาก็กลายเป็น ผู้อาวุโสคนใหม่ของตระกูลเซนจู

 

“ผู้อาวุโสโซระ” โทบีรามะ หยุดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “เข้าใจแล้ว ฉันจะไปบอกคนอื่น ๆ”

 

หลังจากที่เขากําลังจะเดินออกไป ฮาชิรามะ ก็มองไปที่ มาซาฮิโกะ แล้วพูดว่า “ท่านปู่ การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่เหมือนกับที่เราเคยเจอมาก่อน ถ้าท่านคิดว่ามันอันตรายเกินไป ท่านสามารถอยู่ที่นี่ได้”

 

มาซาฮิโกะ พยักหน้า “ฉันมาที่นี่เพื่อปกป้องลูกศิษย์ของฉัน ดังนั้นไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ทําอะไรทุ่มบ่ามเด็ดขาด…”

ฮาชิรามะ “…”

Long Live The Hokage

Long Live The Hokage

Type: Author:
After Reincarnating into Naruto World at the Warring State Era as an Uzumaki, Masahiko thought that he got a useless System. He lived for 48 years as a normal, below average Uzumaki Shinobi. That changed when he finally knew how the system works the day of his 49th Birthday! นิยายแนว : แอคชั่น ผจญภัย แฟนตาซี ศิลปะการต่อสู้ นินจา เรื่องย่อ : เจิง หยาน ผู้บ้าคลั่งในการ์ตูนเรื่อง นารูโตะ เป็นอย่างมาก เขาได้กลับชาติมาเกิดในโลกของ นารูโตะ ในยุคก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้น และเป็นหนึ่งในสมาชิกของ ตระกูลอูซิมากิ และมีชื่อใหม่ว่า อุซึมากิ มาซาฮิโกะ มาซาฮิโกะ เกิดมาในโลกนี้พร้อมกับระบบไร้สาระอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาอายุได้ 48 ปี เขาก็พบว่าระบบนั้นไม่ใช่ระบบธรรมดา ตลอดเวลาที่ผ่านมาในชีวิตใหม่นี้ เขาใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าและทำความผิดพลาดมามากมายจนถึงอายุ 48 ปี แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ได้โอกาสอีกครั้งจาก ระบบพิเศษ นั้น และมันก็เริ่มทำงานและเปลี่ยนแปลงชีวิตในวันเกิดปีที่ 49 ของเขา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset