Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 904 : วิเคราะห์

ราชันเร้นลับ 904 : วิเคราะห์
ต้องสงสัยว่า ‘ช่างฝีมือ’ อาจถูกควบคุมโดยลัทธิหรือองค์กรลับบางแห่ง? แล้วทำไมคุณยังคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากเฮอร์มิท? ทำไมไม่เรียกใช้บริการของเดอะเวิร์ลโดยตรง! ไม่มีใครทราบว่า ‘อนาคตกาล’ กำลังลอยอยู่ในทะเลใดแถบใด และต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะมาถึง แต่เดอะเวิร์ลสามารถ ‘ท่องเที่ยว’ ได้ทุกเมื่อ! หลังจากฟังคำสวดวิงวอนของแฮงแมน ไคลน์หักล้างคำขอของอีกฝ่ายภายในใจ คิดว่านี่จะทำให้ทุกสิ่งล่าช้าออกไป เกิดความสูญเสียโดยไม่จำเป็น

แต่เพียงไม่นานก็สงบลง คิดอย่างรอบคอบว่ามิสเตอร์แฮงแมนนั้นมากประสบการณ์และเป็นคนรัดกุม ยากที่จะทำผิดพลาดในเรื่องพื้นฐานเช่นนี้ การที่อีกฝ่ายขอความช่วยเหลือจากเฮอร์มิทแทนเดอะเวิร์ล ย่อมต้องมีเหตุผลบางอย่างรองรับ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง มิสเตอร์แฮงแมนพิจารณาว่า เรื่องนี้ไม่เร่งด่วนถึงขั้นต้องดำเนินการทันที ออกไปในทางอยากสังเกตให้มากกว่านี้อีกสักนิดเพื่อหาเบาะแสและรายละเอียดเพิ่มเติม… นอกจากนั้น เป็นเพราะมาดามเฮอร์มิทเสนอตัวช่วยในการชุมนุมล่าสุด เรื่องนี้จึงสามารถตีความได้ว่า กิจกรรมล่าสุดของเธออยู่ใกล้กับตำแหน่งของมิสเตอร์แฮงแมน หากมีปัญหาเกิดขึ้น สามารถแวะไปช่วยได้อย่างทันท่วงที… หรือไม่ก็… เธอมีลูกทางในการใช้พลัง ‘ท่องเที่ยว’ หรือสิ่งที่คล้ายคลึงกัน? ข้อนี้มีความเป็นไปได้ต่ำมาก… ไคลน์ใช้นิ้วเคาะขอบโต๊ะทองแดงยาวที่มีลวดลายโบราณ พบว่าตนควรเชื่อในประสบการณ์ของมิสเตอร์แฮงแมน

แน่นอน นอกจากคำขอร้อง ยังไม่มีคำอธิบายในเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่อีกฝ่ายค้นพบ ยังมีบางเรื่องที่เป็นปริศนา ยากจะคาดเดาหรือเปิดเผยความจริงออกมาในทันที

หลังจากความคิดมากมายแล่นผ่าน ไคลน์โยนภาพการสวดวิงวอนของแฮงแมนเข้าไปในดาวสีแดงเข้มซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเฮอร์มิท

ขณะรอการตอบกลับจากพลเรือเอกดวงดาว ทันใดนั้น ชายหนุ่มพบว่าดาวแดงที่เป็นตัวแทนของ ‘เดอะซัน’ เริ่มยุบพองตัว ตามด้วยเสียงสวดวิงวอนซ้อนทับ

การสำรวจสุสานของอดีตเจ้าเมืองเงินพิสุทธิ์ได้ผลลัพธ์เบื้องต้นออกมาแล้ว? ไคลน์แผ่พลังวิญญาณออกไปหาพลางคาดเดา

เป็นไปตามคาด เดอะซันน้อยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากอาวุโสทั้งสามคนเปิดสุสานอดีตเจ้าเมือง รวมถึงเหตุการณ์ที่วิญญาณของผู้ล่วงลับคืนชีพขึ้นมาใหม่ เหตุการณ์การข้ามแม่น้ำมายาที่มืดมิดโดยระหว่างทางเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด การเผชิญหน้ากับอดีตเจ้าเมืองที่ปกคลุมไปด้วยขนนกสีขาวในร่างสัตว์ในตำนานที่ไม่สมบูรณ์ และ ‘คนเลี้ยงแกะ’ โลเฟียร์แบ่งเงาออกมาพร้อมกับพยายามกระโจนใส่ท่อมายาที่ยื่นออกมาจากร่างอดีตเจ้าเมือง ทว่า โคลิน·อีเลียดใช้ยันต์ ‘โจรปล้นดวง’ เพื่อสลับชะตากรรมของตัวเองและอดีตเจ้าเมือง เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของการต่อสู้

ท่ามายาบางๆ สีดำ… ร่างกายปกคลุมไปด้วยขนนกสีขาวเคลือบน้ำมันสีเหลือง… ทำไมเราถึงคุ้นนัก… ใช่แล้ว สิ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบหลักในฉากที่เราเห็นขณะทำนายถึงนกหวีดทองแดงของมิสเตอร์อะซิก… และสาเหตุที่อดีตเจ้าเมืองสร้างอนุสาวรีย์บรรจุศพ ก็เพราะต้องการสลับไปเป็นลำดับ 3 ‘ผู้ส่งวิญญาณ’ ของเส้นทาง ‘เทพมรณา’ … ไคลน์ฟังจบ สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว นำทุกสิ่งมาประกอบเข้าด้วยกัน พิจารณาหาข้อสรุปที่เป็นไปได้

เพียงไม่นาน มันผุดข้อสันนิษฐานขึ้นมาหนึ่งเรื่อง

การกลายพันธุ์ของอดีตเจ้าเมืองเงินพิสุทธิ์ เกี่ยวข้องกับโครงการสร้างมรณาเทียมของนิกายวิญญาณ!

แม้ข้อสรุปนี้จะฟังดูน่าเหลือเชื่อ ทำใจเชื่อได้ยาก เนื่องจากเมืองเงินพิสุทธิ์ตั้งอยู่ใน ‘ดินแดนเทพทอดทิ้ง’ ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง สามารถเข้าออกได้โดยการเชื่อมต่อระหว่าง ‘วังราชาคนยักษ์’ และ ‘ซากสมรภูมิเทพ’ เท่านั้น ไม่เคยมีบันทึกว่าพลังของเจ็ดเทพจารีตสามารถทะลุทะลวงผ่านไปได้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นต่างๆ มีความคล้ายคลึงกันมาก ส่งผลให้ไคลน์ที่อ่อนไหวต่อความบังเอิญ นำไปผูกปมเข้ากับคน ‘คนเลี้ยงแกะ’ อาวุโสโลเฟียร์ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสำรวจครั้งนี้ จากนั้นก็ตัดความเป็นไปได้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจนหมด พิจารณาหาจุดตัดของเรื่องราวที่อาจเชื่อมโยงกัน

ชายหนุ่มเริ่มต้นจากฉากที่ตนเห็นในการทำนาย รวมถึงประสบการณ์เกี่ยวกับขนนกสีขาวที่เคยงอกตามรูขุมขนเมื่อครั้งพยายามอัญเชิญผลผลิตที่ล้มเหลวของมรณาเทียม หลังจากนำผลการต่อสู้ของอาวุโสทั้งสามแห่งเมืองเงินพิสุทธิ์เข้ามาประกอบ ความคิดแรกในหัวก็คือ โครงการมรณาเทียมของนิกายวิญญาณอาจประสบความสำเร็จจนถึงจุดหนึ่งแล้ว

อาศัยพิธีกรรมบูชายัญและการกลายพันธุ์ของผู้วิเศษลำดับสูงในองค์กรตัวเอง นิกายวิญญาณประสบความสำเร็จในการกระตุ้น ‘มรดก’ ที่เทพมรณาเหลือทิ้งไว้ เปลี่ยนให้ ‘เอกลักษณ์’ ที่เป็นเพียงนามธรรมและเป็นตัวแทน ‘อำนาจ’ แห่งเทพ ค่อยๆ มีอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาทีละนิด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ ‘สิ่งมีชีวิต’ !

ส่งผลให้วัตถุปราศจากปัญญาซึ่งไม่คู่ควรจะถูกเรียกว่า ‘มรณาเทียม’ เริ่มหลอมรวมเป็นหนึ่งกับพิธีกรรมใหญ่ จนกระทั่งสามารถส่งอิทธิพลต่อผู้วิเศษของเส้นทางเดียวกันในลำดับที่ต่ำกว่า

หลังจากบรรลุเงื่อนไขบางประการ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหมอกสีดำ สามารถแผ่ขยายท่อมายาบางๆ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับเป้าหมาย กระตุ้นพลังที่ซ่อนเร้นในร่างกายด้วยการกลายพันธุ์

และวิธีนี้อาจเกี่ยวข้องกับลักษณะพิเศษบางประการของโลกแห่งความตายซึ่งอยู่ในขอบเขตของเทพมรณา ช่วยให้ท่อมายาสามารถทะลวงผ่านการตัดขาดจาก ‘ดินแดนเทพทอดทิ้ง’ และเข้าไปสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตด้านในได้!

ดังนั้น เงาดำที่ ‘คนเลี้ยงแกะ’ โลเฟียร์แบ่งออกไป คงเป็น ‘ของขวัญ’ จาก ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ จุดประสงค์เพื่อไล่ตามท่อมายาสีดำของอดีตเจ้าเมืองไป กัดกร่อนเทพมรณาแบบย้อนกลับ? บางที ‘มารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย’ ก็อาจใช้วิธีนี้เพื่อแทนที่ ‘เทพผู้ถูกล่าม’ จนสามารถยึดครองอำนาจในขอบเขต…

โชคยังดี เจ้าเมืองคนปัจจุบันของเมืองเงินพิสุทธิ์เยือกเย็นและมีสติดีมาก รู้ล่วงหน้าว่าควรขอความช่วยเหลือจากตัวตนลึกลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเดอะซันน้อย ใช้ยันต์ ‘โจรปล้นดวง’ เพื่อทำลายกลอุบายของ ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ อย่างชาญฉลาด

อา… หนึ่งในสองสมบัติปิดผนึกที่ทรงพลังในเมืองเงินพิสุทธิ์ ดูเหมือนว่าจะมีคุณสมบัติในการชำระล้าง สามารถยับยั้งเงาดำที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเทพมรณา

หึหึ ดูเหมือนว่าเดอะฟูลจะเป็นผู้ขัดขวางแผนการของ ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คนที่รับหน้าคืออามุนด์ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ‘หนอนกาลเวลา’ ก็เป็นผลผลิตจากเจ้านั่น… ไคลน์อาศัยคำอธิบายของเดอะซันน้อย ผนวกเข้ากับการคาดคะเนของตัวเอง ช่วยให้เข้าใจความขัดแย้งเบื้องต้นที่ซ่อนอยู่ในปฏิบัติสำรวจสุสานของเมืองเงินพิสุทธิ์

พร้อมกันนั้น ชายหนุ่มสามารถตระหนักถึงสภาพจิตใจในปัจจุบันของอาวุโส ‘คนเลี้ยงแกะ’ ได้เล็กน้อย

สำหรับโลเฟียร์ ท่อมายาบางๆ สีดำที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เมืองเงินพิสุทธิ์หลบหนีออกจากดินแดนเทพทอดทิ้งสำเร็จ ดังนั้น เธอมั่นใจในความถูกต้องของพฤติกรรมตัวเองอย่างมาก เพียงแค่นึกเสียดายที่เจ้าเมืองเป็นคนทำลายความหวังดังกล่าวทิ้งอย่างไม่ไยดี

คนทำชั่วยังไม่น่ากลัวเท่ากับคนที่ทำชั่วแล้วคิดว่าตัวเองทำดี… ไคลน์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ส่วนเหตุผลที่ว่า ทำไมเดอะซันน้อยถึงรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายในอนุสาวรีย์บรรจุศพได้อย่างละเอียดนัก คำตอบนั้นไม่ซับซ้อน ใช้หัวแม่เท้าคิดก็พอจะเดาได้ว่า ‘เจ้าเมือง’ โคลิน·อีเลียดคงหาทางเล่าให้เด็กหนุ่มฟังผ่านการสนทนาอย่างเป็นกันเอง

ถึงจุดที่ ‘เดอะซัน’ เดอร์ริครู้ว่าอาวุโสทั้งสามทำการเก็บกู้สมบัติปิดผนึกชิ้นใหม่ติดตัวกลับมาด้วย เป็นวัตถุที่เกิดจากการผสานระหว่างตะกอนพลังของอดีตเจ้าเมืองและกะโหลกศีรษะของมัน

อดีตเจ้าเมืองไต่เต้าจากเส้นทางคนยักษ์ เริ่มจากลำดับ 9 นักรบ จนมาถึงลำดับ 4 นักล่าปีศาจ ส่วนโอสถ ‘ผู้ส่งวิญญาณ’ นั้นเป็นของลำดับ 3 เส้นทางมรณา การผสมปนเประหว่างตะกอนพลังของสองเส้นทาง คงสร้างความพิสดารได้มากกว่าเส้นทางเดียว เมื่อผนวกเข้ากับอิทธิพลจากมรณาเทียม สมบัติปิดผนึกที่เกิดขึ้นจะต้องทรงพลังอย่างมากแน่นอน แต่ในทางกลับกัน ผลข้างเคียงในเชิงลบเองก็ต้องไม่ธรรมดา

อา… แม่น้ำมายาอันมืดมิดและสิ่งมีชีวิตพิสดารชนิดต่างๆ ตามคำบรรยายของเดอะซัน ส่วนใหญ่สอดคล้องกับโลกแห่งความตายที่เราเคยเห็นในทะเลคลั่ง และคล้ายคลึงกับผลลัพธ์ที่เกิดจากสมบัติวิเศษของชารอน… ไคลน์ครุ่นคิดเรื่อยเปื่อย พลางตั้งใจฟังเดอะซันน้อยสรุปผลการสำรวจและเปลี่ยนหัวข้อไปเป็นสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งซึ่งถูกเรียกว่า ‘ตัวจำแลงกาย’

รอจนกระทั่ง ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคพูดจบ ไคลน์พบว่าตัวจำแลงกายมีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็น ‘มารพิสดาร’

วุ่นวายอยู่กับนำเหรียญทองจากกองขยะสักพัก ชายหนุ่มรีบลงมือทำนายและสามารถยืนยันสมมติฐานของตัวเอง

ด้วยฝีมือในปัจจุบันของเดอะซันน้อย คงเป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปล่าตัวจำแลงกายในซากปรักหักพังอันห่างไกล ทำได้เพียงอดทนรออย่างใจเย็น รอให้เจ้าเมืองสวดวิงวอนถึงเดอะฟูลอีกครั้ง หรือไม่ก็ขอความช่วยเหลือผ่านเดอะซันน้อย… เราไม่รีบร้อนอยู่แล้ว เพราะปัจจุบันยังไม่มีเบาะแสของหัวขโมยโลกวิญญาณ… ไคลน์พยักหน้ากับตัวเองแผ่วเบา

หลังจากขอให้มิสเตอร์ฟูลช่วยส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังเดอะเวิร์ล เดอร์ริคระบุว่าตนมีคะแนนผลงานมากพอแล้ว สามารถนำไปแลกกับตะกอนพลังของแวมไพร์ลำดับ 5 ได้ทันที ปิดฉากการค้าขายสามทางที่คาราคาซังมานาน และบอกให้มิสเตอร์มูนเตรียมตัวให้พร้อม

ณ หมู่เกาะรอสต์ ‘อนาคตกาล’ กำลังแล่นอย่างเชื่องช้า

‘พลเรือเอกดวงดาว’ หลังจากขอบคุณมิสเตอร์ฟูล แคทลียาดันแว่นที่ดั้งจมูกขึ้น เปิดหน้าต่างห้องกัปตัน ตะโกนบอกกับทุกคน

“หันหัวเรือ ตรงไปที่บายัม”

หลังจากออกคำสั่งเสร็จ นายพลโจรสลัดยกมุมปากเล็กน้อย ดีใจที่ในที่สุดก็มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับ ‘ช่างฝีมือ’ เสียที

แต่ทันใดนั้น หญิงสาวผุดคำถามหนึ่งภายในใจ

หากเธอสามารถติดต่อจ้างงานจาก ‘ช่างฝีมือ’ ได้ง่ายขึ้น แฟรงค์·ลีที่ยังหาสูตรโอสถลำดับ 5 ไม่ได้ จะไม่พยายามสร้างสมบัติวิเศษจากตะกอนพลัง ‘ดรูอิด’ หรอกหรือ? เพื่อให้การทดลองที่กำลังค้างคากลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง

แบบนี้ไม่ดีแน่… แคทลียายกมือขึ้นมาจับหน้าผากโดยไม่รู้ตัว

บนเรือโดยสาร ไคลน์ที่สะสางเรื่องยุ่งวุ่นวายทั้งหมดเสร็จ เริ่มกลับมามีความสุขกับการเดินทาง

เนื่องจากทะเลคลั่งมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านสภาพอากาศ เรือโดยสารที่ชายหนุ่มนั่งมาด้วย ตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ไกลกว่าและคดเคี้ยวกว่าเดิม แต่ก็ปลอดภัยกว่ามาก จนกระทั่งแล่นมาจอดเทียบท่าเรือที่ชื่อ ‘ฮาลมันน์’ ในคืนเดียวกัน

ไคลน์ไม่ได้ขึ้นฝั่ง แต่เลือกจองที่นั่งริมหน้าต่างของร้านอาหารชั้นบน เตรียมดื่มด่ำไปกับอาหารมื้อค่ำ

ระหว่างรออาหาร ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งใดเป็นพิเศษ เพลิดเพลินทิวทัศน์ยามค่ำคืนของท้องถิ่น

ทันใดนั้น มันพบบุคคลน่าสงสัยกำลังถือกระเป๋าเดินทางและเตรียมขึ้นมาบนเรือ

ที่บอกว่าน่าสงสัย เป็นเพราะชายคนดังกล่าวไม่เพียงจะสวมเสื้อคลุมสีดำยาวกับสวมหมวกทรงสูงเพื่อซ่อนสัดส่วนร่างกาย แต่ยังใช้ผ้าพันคอปกปิดใบหน้าจนมิดชิด เว้นไว้เพียงคู่ดวงตา

และดวงตาคู่ดังกล่าวเอาแต่ก้มมองพื้น ยากที่จะสังเกตว่ามีจุดเด่นเป็นอย่างไร

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset