Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 859 : เห็ดชนิดใหม่

ราชันเร้นลับ 859 : เห็ดชนิดใหม่
ณ ส่วนล่างสุดของเขตห้องโดยสาร ‘อนาคตกาล’ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มืดมิด

แฟรงค์·ลีจุดเทียนไข มอบแสงสว่างแก่โต๊ะยาวที่เต็มไปด้วยเนื้อ เห็ด ข้าวสาลี และปลา

มันผลักสิ่งของข้างต้นออกไปจนเหลือที่เพียงพอสำหรับวางกระดาษจดหมาย

ถัดมา มันคลี่กระดาษจดหมายและวางลง หยิบปากกาออกมาเขียนด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“ถึงเกอร์มัน·สแปร์โรว์เพื่อนรัก ฉันดีใจที่นายชอบเห็ดแห้ง บางทีมันอาจจะมีประโยชน์กว่าที่ฉันคิดไว้ หากมีเวลาและโอกาส ฉันจะสร้างมันขึ้นมาใหม่”

“เนื่องจากฉันทุ่มเทให้กับทฤษฎีใหม่ที่นายแนะนำ เห็ดแห้งของเก่าจึงหยุดผลิตโดยสมบูรณ์ เห็ดที่เหลือส่วนมากถูกนีน่านำไปเผาทำลาย ปัจจุบันจึงเหลือเพียงสามดอก หวังว่าจะยังมีประโยชน์กับนาย”

“นอกจากนั้น ฉันยังจะแนบผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดไปด้วย พวกมันคือเห็ดที่สามารถขยายพันธุ์ท่ามกลางสภาพแวดล้อมมืดสนิทโดยการกินเลือดเนื้อ แบ่งออกเป็นสามสายพันธุ์ ประกอบด้วย พันธุ์ข้าวสาลี สามารถบดเป็นผงและนำไปอบเป็นขนมปัง พันธุ์วัวนม สามารถรีดนมออกจากเห็น และสุดท้าย พันธุ์ปลา สามารถนำมาปรุงอาหารได้โดยตรง มีเนื้อหนาและแน่น”

“ข้อควรระวังก็คือ ห้ามกินดิบโดยเด็ดขาด ต้องต้มในน้ำร้อนอุณหภูมิไม่ต่ำกว่าเก้าสิบองศาเซลเซียสนานห้านาทีเพื่อขจัดสัญญาณชีพทั้งหมดออกไป ไม่อย่างนั้น ไม่ว่าจะถูกปรุงเป็นอะไร มันจะดูดซับเลือดเนื้อโดยรอบอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมถึงอวัยวะภายในของมนุษย์”

“อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องระวัง เห็ดเหล่านี้ไม่สามารถจำแนกระหว่างเลือดเนื้อปรกติและเลือดเนื้อสัตว์ประหลาด จึงมิอาจขจัดปัญญาที่จะตามมาหากกินเนื้อสัตว์ประหลาดเข้าไป เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการปนเปื้อนหรือความบ้าคลั่งหลงเหลือ”

“ฉันคิดว่าเห็ดจะเกิดกลายพันธุ์หากกินเลือดเนื้อของสัตว์ประหลาดที่แตกต่างกัน ก่อให้เกิดอันตรายที่แตกต่าง แต่เรื่องนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน เนื่องจากตัวอย่างทดลองมีไม่มากพอ หากนายผจญภัยและได้รับซากศพสัตว์ประหลาด รบกวนส่งจดหมายมาให้ฉันทดสอบ ใช้แค่ปริมาณไม่มาก”

“ส่วนจะมีปัญหาอื่นซ่อนอยู่อีกหรือไม่ ฉันเองก็ไม่แน่ใจ เพราะนี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่สมบูรณ์และเลิกผลิตไปแล้ว”

“ขอให้นายโชคดี มีความสุขกับการผจญภัย จากเพื่อนที่จริงใจที่สุดของนาย แฟรงค์·ลี”

หลังจากวางปากกาลง แฟรงค์อ่านทวนคำตอบของตัวเองอีกครั้งด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะหาเหรียญทองมาวางไว้บนกระดาษจดหมาย

ถัดมา มันรีบตั้งแท่นบูชาเพื่อประกอบพิธีกรรมอัญเชิญผู้ส่งสาร แต่ก็ต้องชะงักขณะเตรียมท่องคาถา

แฟรงค์มองไปรอบๆ ตามสัญชาตญาณ ก่อนที่ดวงตาจะแข็งทื่อราวสองสามวินาที

จากนั้น มันรีบย้ายสิ่งสกปรกที่กองอยู่ใกล้ๆ ไปไว้หน้าประตู

เขตราชินี คฤหาสน์แสนหรูหราของเอิร์ลฮอลล์

ออเดรย์หมกตัวอยู่ในห้อง จ้องมองขวดแก้วในมือ

ขวดแก้วบรรจุของเหลวหนืดใส ไม่มีสี เมื่ออยู่ในภาวะสงบนิ่ง ผิวของเหลวจะทำตัวเหมือนกระจก สะท้อนทุกสิ่งในการมองเห็น แต่เมื่อแกว่งเล็กน้อย กระแสน้ำวนเล็กๆ จะหมุนอยู่ใต้ผิวของเหลวอย่างเงียบงัน

นี่คือโอสถ ‘นักสะกดจิต’ ที่เพิ่งถูกปรุงเสร็จ!

ออเดรย์ย่อยโอสถนักจิตบำบัดเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะติดต่อกลับไปหาสมาคมแปรจิต เธอวางแผนเลื่อนเป็นลำดับ 6 ให้เรียบร้อย

หลังจากใช้พลัง ‘ปลอนโยน’ เพื่อปรับสภาพจิตใจ หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น ตามด้วยการกระดกโอสถและดื่มอึกอึก

หลังจากสงบจิตใจ จู่ๆ หญิงสาวพบว่าจิตของเธอระเบิดออก ร่างกายคล้ายกับถูกปนเปื้อน กลายเป็นเลือนรางและขาดความคมชัด

ทันใดนั้น คล้ายกับร่างวิญญาณ กายอากาศ และวิญญาณดาราของเธอได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับดวงจิต ราวกับคนทั้งคนกลายเป็นกลุ่มก้อนความคิดที่บริสุทธิ์ มอบความรู้สึกล่องลอย สัมผัสได้ถึงทะเลจิตใต้สำนึกรวมที่เชื่อมต่อทุกชีวิตเข้าด้วยกัน สัมผัสถึงผืนนภาแห่งวิญญาณที่ตรงข้ามกับทะเล

เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ทำนองเดียวกันสมัยเลื่อนลำดับเป็นนักจิตบำบัด ออเดรย์ในปัจจุบันมิได้ตื่นตระหนัก สามารถครองสติมั่นคงตลอดเวลา ยับยั้งตัวเองมิให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับ ‘ทะเล’ ดึงจิตให้หดกลับประหนึ่งยางรัดผม

ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ จนกระทั่งหญิงสาวได้สติกลับมา พบว่าหลังมือของตนถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดแข็งสีทองคำ พบว่าเส้นผมตรงบ่าทั้งแข็งและมีน้ำหนักมากขึ้น ประหนึ่งถูกหล่อจากทองคำ

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวค่อยๆ กลับคืนสู่ภาวะปรกติ ทว่า เมื่อออเดรย์ส่องกระจก เธอพบว่าดวงตาสีเขียวมรกตของเธอ แม้จะยังกระจ่างใสเช่นเคย แต่กึ่งกลางกลับมีวังวนปริศนาไร้ก้นบึ้ง หากใครเผลอสบตาคงยากจะหันไปทางอื่น เกิดความลุ่มหลงได้ง่ายดาย

นี่คือภาวะพลังวิญญาณขาดเสถียรภาพ… ออเดรย์ค่อยๆ คลายคิ้วพร้อมกับเผยรอยยิ้ม

หญิงสาวมองตัวเองในกระจก ผงกศีรษะเล็กน้อย กล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส

“ออเดรย์ เธอกลายเป็นลำดับ 6 เรียบร้อยแล้ว!”

รอจนกระทั่งทุกสิ่งสงบลง หญิงสาวสำรวจตัวเองอย่างจริงจังเพื่อยืนยันพลังพิเศษใหม่ รวมถึงของเก่าที่เปลี่ยนแปลง

หลังจากใช้เวลาสักพัก ออเดรย์ค้นพบสถานการณ์ปัจจุบัน

ประการแรก สมรรถภาพร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากพลังกำลังและความว่องไวที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปมาก เธอยังสามารถเสกเกล็ดขึ้นมาปกคลุมผิวหนัง ช่วยลดทอนความเสียหายได้หลายส่วน ประการที่สอง มีการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพของพลัง ‘การชี้นำทางจิต’ สิ่งนี้พัฒนาไปเป็นพลังใหม่ที่ชื่อว่า ‘สะกดจิตนอกศึก’ ขอเพียงเป้าหมายกำลังจดจ่ออยู่กับบางสิ่ง เธอสามารถฝังการชี้นำทางใจลงไปอย่างแนบเนียน ปรับเปลี่ยนจิตใต้สำนึกโดยตรง

ด้วยวิธีนี้ เป้าหมายจะทำในสิ่งที่เธอชี้นำโดยไม่รู้ตัว เชื่อว่านั่นเกิดจากความปรารถนาที่แท้จริง

แน่นอน หากการ ‘ชี้นำ’ ของออเดรย์ทำให้ชีวิตของผู้ถูกสะกดจิตและสิ่งสำคัญจากจิตใต้สำนึกของมันตกอยู่ในอันตราย ดวงวิญญาณผู้ถูกสะกดจิตจะเกิดการต่อต้านรุนแรง ส่งผลให้การชี้นำล้มเหลว นอกจากนั้น หากเป้าหมายมีดวงวิญญาณและจิตที่มั่นคงแข็งแรง มีโอกาสที่จะต้านทานการชี้นำได้บางส่วน

พลังที่สาม ‘สะกดจิตระหว่างศึก’ ออเดรย์สามารถบังคับสะกดจิตศัตรูได้ทันที สั่งให้ทำในเรื่องผิดปรกติ เช่นโจมตีพวกเดียวกัน หรือแสร้งทำเป็นไม่เห็นเธอซึ่งเป็นผู้สะกดจิต แต่การสะกดจิตด้วยวิธีนี้จะคงอยู่ได้ไม่นาน และเมื่อเป้าหมายคืนสติ จะค้นพบความผิดปรกติได้ทันที นอกจากนั้นยังไม่สามารถสั่งให้เป้าหมายฆ่าตัวตายหรือจบชีวิตตัวเองทางอ้อม

พลังที่สี่ ‘ล่องหนทางจิตใจ’ เข้าควบคุมจิตใจเป้าหมายและเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็น ‘จุดอับ’ ของจิตใจอีกฝ่าย ส่งผลให้แม้จะยืนอยู่ตรงหน้า แต่อีกฝ่ายก็จะมองไม่เห็นประหนึ่งล่องหน

สุดยอด… เรื่องเดียวที่น่าเสียดายก็คือ เรายังไม่มีพลังพิเศษที่ใช้โจมตีได้หนักหน่วง… ออเดรย์ทำแก้มป่องเล็กๆ พลางข่มจิตใจเพื่อรักษาเสถียรภาพของพลังวิญญาณ เปลี่ยนให้ดวงตาลดความเย้ายวนและน่าหลงใหล

เมื่อขจัดความผิดปรกติเบื้องต้นออกเกือบหมด หญิงสาวเปิดประตูให้ซูซี่เข้ามาในห้อง อาศัยความช่วยเหลือจากโกลเดนรีทรีเวอร์ตัวใหญ่ ช่วยให้คุ้นเคยกับพลังใหม่ได้เร็วขึ้น

ถัดมาไม่นาน สาวใช้ส่วนตัว แอนนี่ เดินเข้ามาพร้อมกับจดหมายเชิญ

“คุณหนู ทางศาสนจักรจะจัดงานเลี้ยงบำเพ็ญกุศลขึ้นในคืนวันเสาร์ เนื่องในโอกาสก่อตั้งกองทุนการศึกษาเพื่อคนยากไร้ พวกเขามีความประสงค์จะให้คุณหนูเข้าร่วมงาน”

ออเดรย์มิได้ตอบกลับทันที เลือกจะตั้งคำถาม

“พวกเขาเชิญท่านพ่อกับท่านแม่ด้วยไหม?”

“เชิญค่ะ นอกจากคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงแล้ว พวกเขายังเชิญลอร์ดฮิบเบิร์ตด้วย” แอนนี่เล่าตามจริง

ออเดรย์พยักหน้าพลางยิ้ม

“บอกกับทางโบสถ์ว่าดิฉันจะเข้าร่วม… นอกจากนั้น ช่วยรวบรวมข้อมูลของกองทุนให้ด้วย ดิฉันจะได้พิจารณาว่าควรบริจาคสมทบทุนมากน้อยเพียงใด”

ตกดึก ณ ภัตตาคารอินทิสเซอเรนโซ่

“ที่นี่งดงามมาก… งดงามยิ่งกว่าห้องนั่งเล่นของขุนนางใหญ่หลายคน” ฟอร์สมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าคล้ายกำลังเก็บรวบรวมวัตถุดิบสำหรับเขียนงาน

แม้เธอจะเคยเข้าร่วมซาลอนวรรณกรรมของขุนนางหลายครั้ง แต่ทั้งหมดล้วนถูกเชิญไปจัดในบ้าน ไม่ใช่ภัตตาคารหรูกลางใจกลางเมืองหลวงเช่นนี้

ซิลสางเส้นผมสีทองกระด้างของตน

“นี่คือการตกแต่งสไตล์อินทิส อาจดูหรูหรา แต่ขาดความวิจิตรและคุณค่าทางศิลปะ”

“จะขาดคุณค่าทางศิลปะได้ยังไง? ที่นี่เต็มไปด้วยภาพวาดสีน้ำมันที่โด่งดัง รวมถึงประติมากรรมเลื่องชื่อ…” ฟอร์สโต้แย้ง

ระหว่างนี้ เธอลดเสียงลงพลางหยุดอยู่หน้าทางเข้าหลัก

เมื่อกล่าวจบ พวกเธอพบห้องส่วนตัวที่พ่อบ้านวอลเตอร์เคยเอ่ยถึง ฟอร์สจึงใช้พลัง ‘เปิดประตู’ พร้อมกับดึงซิลผ่านเข้าไปหลบในตู้ภายในห้อง รอให้นายจ้างของพวกตน ดอน·ดันเตสและแขกมาถึง

“เธอคิดว่าหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ของบริษัทโคอิมมีมูลค่าเท่าไร?” ฟอร์สที่เบื่อหน่ายเพราะไม่มีอะไรทำเริ่มชวนคุย

ในตอนเช้า เธอเข้าไปในวิหารนักบุญแซมมวลพร้อมกับซิล แสร้งทำเป็นสวดวิงวอน แต่ความจริงแล้วคอยให้ความคุ้มครอง

ซิลลังเลสักพัก

“อย่างน้อยก็หลายพันปอนด์แน่… บิชอปดูจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก”

“รวยชะมัด… บริจาคเงินหลายพันปอนด์อย่างง่ายดาย… ทำไมถึงไม่ช่วยคนจนๆ แบบเราบ้าง?” ฟอร์สรำพันติดตลก

ขณะเดียวกัน ประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดออก ดอน·ดันเตสและครอบครัวส.ส. มัคท์เดินเข้ามาและแยกกันนั่งตามเก้าอี้ ทางด้านบริกรที่รับผิดชอบเองก็เริ่มลงมืออย่างขยันขันแข็ง

ซิลและฟอร์สหยุดคุยทันที สมาธิเพ่งไปยังบทสนทนาด้านนอกรวมถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม จมูกฟุดฟิดเป็นครั้งคราวเนื่องจากกลิ่นอาหาร

ทันใดนั้น ซิลขมวดคิ้วเนื่องจากพบความผิดปรกติ แต่เพียงไม่นานก็คล้ายออก ประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มีอะไร?” ฟอร์สโน้มตัวมาทางเพื่อนสนิทพลางกระซิบ

ซิลส่ายหน้า

“ไม่มีอะไร ฉันคงเครียด สัมผัสวิญญาณก็เลยอ่อนไหวเกินไป”

ขณะเดียวกัน ไคลน์วางมีดส้อมลง สายตาชำเลืองไปทางด้านข้าง

ในการมองเห็นของมันที่กำลังเปิดเนตรวิญญาณ ศีรษะที่เจ้าของผมสีทองสว่างและดวงตาสีแดงโผล่ออกจากความว่างเปล่า ในปากคาบจดหมายหนึ่งฉบับ

ฟุดฟิด! คล้ายกับไคลน์ได้กลิ่นนม ข้าวสาลี และปลาทะเล

มุมปากชายหนุ่มกระตุกแผ่วเบาขณะเหยียดแขนออกไปรับจดหมาย โดยที่ครอบครัวมัคท์สามคนฝั่งตรงข้ามไม่มีใครค้นพบความผิดปรกติ

หลังจากไคลน์ยัดจดหมายใส่กระเป๋าเสื้ออย่างแนบเนียน บริกรเดินออกไปนอกห้องและกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเสิร์ฟอาหารสำหรับสี่ที่ จากบรรดาทุกจาน มีสองจานเป็นเห็ดผัดเนย

ได้เห็นฉากตรงหน้า ไคลน์รู้สึกคลื่นไส้กะทันหัน สีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย เช่นเดียวกับมือซ้ายที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อซึ่งกำลังสั่นระริกแผ่วเบา

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset