Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 821 : ตราประทับดวงวิญญาณ

ราชันเร้นลับ 821 : ตราประทับดวงวิญญาณ
ซิลตกอยู่ในภวังค์เป็นเวลาสิบวินาที ก่อนจะสะดุ้งตื่นและจ้องชายสวมหน้ากากทอง

“ตกลง ฉันจะคอยสอดส่องว่าไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดติดต่อกับใครบ้าง”

คล้ายกับชายสวมหน้ากากทองไม่สังเกตเห็นความผิดปรกติที่เกิดขึ้น

“ยังมีอีกหนึ่งงาน… ถุงมือแดงกำลังตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับนิกายวิญญาณ หากมีข้อมูล ติดต่อผมมาทันที”

ซิลอืมในลำคอ อารมณ์บึ้งตึงคล้ายกำลังค้างคา

ชายสวมหน้ากากทองครุ่นคิดสักพัก กล่าวหลังจากเรียบเรียงคำพูด

“คุณอยากเข้าเป็นสมาชิก MI9 อย่างเป็นทางการไหม? ตัวตนปัจจุบันยังคงอยู่ รับผิดชอบในเขตตะวันออก”

ซิลชะงักไปสองวินาที พะงาบปากเล็กน้อย ตัดสินใจไม่ถูก

ชายสวมหน้ากากทองไม่รบเร้าเอาคำตอบ พูดพลางยิ้ม

“ไม่ต้องรีบร้อน รอให้คุณเป็นนักสอบสวนก่อนค่อยมอบคำตอบ”

จัดการเสร็จ มันก้าวถอยหลัง หลอมรวมเป็นหนึ่งกับเงามืดด้านหลังตรอก

ในคืนวันเดียวกัน ไคลน์สะดุ้งตื่นจากฝันอีกครั้ง

ตราประทับวิญญาณที่มันวางไว้ในท่อระบายน้ำถูกกระตุ้น!

กลางดึกแบบนี้ ใครยังไม่หลับไม่นอน… เฮเซลไม่กลัวจะถูกวิญญาณอาฆาตสิงร่างหรือ? ไคลน์ถอนหายใจอย่างจนปัญญา หยิบกล่องบุหรี่โลหะที่ห่อหุ้มกำแพงวิญญาณจากใต้หมอน ถือเดินไปยังระเบียงห้องนอนที่ม่านปิดสนิท

‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลกระโดดกระจกไปโผล่บนโคมไฟริมถนนอย่างรวดเร็ว ผ่านฝาท่อระบายน้ำ ดำลึกลงไปข้างล่าง

ไคลน์มองผ่านดวงตาของหุ่นเชิด เห็นเฮเซลในชุดสามัญชน

สตรีผู้นี้กำลังย่างกรายด้วยความหวาดระแวง ยกมือซ้ายขึ้นเป็นระยะ สัมผัสสร้อยคอที่ประดับด้วยหินมรกตเจ็ดเม็ด ฝ่ามือข้างขวาถือแผ่นยันต์ทองคำ

แม้ว่ายันต์จะยังไม่ถูกเปิดใช้งาน แต่ก็ช่วยให้ผู้ถือรู้สึกอบอุ่น แผ่กลิ่นอายความสดชื่นของน้ำค้างยามเช้า

เห็นฉากดังกล่าว ไคลน์หวนนึกถึงสิ่งที่ได้พบเจอในการเดินเล่นเมื่อเช้า

เฮเซลตื่นเช้าเพื่อเดินเล่นในสวนบ้านตัวเอง!

เธอกำลังรวบรวมวัสดุสำหรับสร้างยันต์ขอบเขตสุริยัน? น้ำค้างยามเช้า? ไคลน์คาดเดาอย่างคลุมเครือด้วยความประหลาดใจ เพราะนอกจากเฮเซลจะอ่อนต่อโลกเหนือธรรมชาติ เธอยังแทบไม่มีพื้นฐานของศาสตร์เร้นลับ แถมยังเป็นสาวกของโบสถ์รัตติกาล

ตามปรกติแล้ว ผู้วิเศษในลักษณะนี้จะไม่ได้รับการตอบสนองเมื่อสวดวิงวอนถึงเทพสุริยันเจิดจรัส และถ้าจะมีความผิดปรกติใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นน่าจะเป็นการลงทัณฑ์จากพระองค์มากกว่า!

เป็นเพราะเธอไม่ได้ลงไปในท่อระบายน้ำนานเกินไป การขุดจึงไม่คืบหน้า ทำให้ผู้วิเศษที่คอยชักนำเธอผ่านความฝันเป็นกังวล? อีกฝ่ายก็เลยสอนสร้างยันต์ในขอบเขตสุริยันผ่านความฝัน? อา… เมื่อพิจารณาว่าเส้นทางนี้เริ่มด้วยโอสถนักจารกรรม และตัวแทนของลำดับสูงอย่างอามุนด์มีฉายาว่า ‘ผู้เย้ยเทพ’ หมายความว่า มีโอสถบางลำดับที่สามารถปลอมตัวเป็นสาวกของเทพตนอื่น สวดวิงวอนและสร้างยันต์ได้โดยไม่ถูกแนวป้องกันตรวจจับ? ฟังดูสอดคล้องกับธรรมชาติของเส้นทางนี้… อาศัยทัศนวิสัยของวิญญาณอาฆาต ไคลน์เฝ้ามองเฮเซลเดินไปตามส่วนลึกของท่อระบายน้ำ

จากสัมผัสวิญญาณของชายหนุ่ม แม้ว่ายันต์ในขอบเขตสุริยันจะเป็นอันตรายต่อวิญญาณอาฆาต แต่หากต้องการคุกคามผู้วิเศษลำดับ 5 ยันต์ระดับแค่นี้ยังไม่เพียงพอ อย่างมากก็สร้างความเสียหายได้จำนวนหนึ่ง เพราะท้ายที่สุด เฮเซลคงไม่มีปัญญาหาวัตถุดิบมาสร้างยันต์ลำดับสูง อย่างไรก็ตาม ไคลน์ไม่บังคับให้วิญญาณอาฆาตเข้าไปสิงร่างอีกฝ่ายทันที ด้วยกังวลว่าจะไปทำให้ผู้วิเศษที่กำลังครอบงำเฮเซลผ่านความฝันตื่นตัว ไว้รอให้ถึงชุมนุมทาโรต์วันพรุ่งนี้ หาซื้อสมบัติวิเศษเส้นทางนักจารกรรมลำดับต่ำเพื่อตรวจสอบความลับในท่อระบายน้ำ ก่อนหน้านั้นจึงไม่ควรทำตัวเอิกเกริก

ไคลน์ค่อนข้างมั่นใจว่าเฮเซลจะขุดไม่พบอะไรในอีกสองวันข้างหน้า ส่งผลให้ตนมีเวลาเตรียมตัวเหลือเฟือ

ในฐานะนักทำนาย มีหลากหลายวิธีในการยืนยันเรื่องนี้ ง่ายที่สุดคือการเข้าไปในมิติหมอก

เรียกหุ่นเชิดกลับ ไคลน์ถอยหลังสี่ก้าว ส่งตัวเอาเข้ามาในพระราชวังโบราณที่มีเสาหินค้ำจุน เสกปากกาและกระดาษ เขียนประโยคทำนายที่สอดคล้อง

“จะมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นบนถนนเบิร์คลุนภายในสามวัน”

อ่านลักษณะการหมุนของจี้บุษราคัม ไคลน์ได้รับคำตอบในเชิงปฏิเสธ หมายความว่าภายในสามวันถัดไป ถนนเบิร์คลุนจะไม่มีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้น

สำหรับในกรณีที่ว่า สิ่งที่เฮเซลขุดขึ้นมาจะไม่ส่งผลต่อถนนเบิร์คลุน แต่มีผลเสียกับตน ไคลน์ไม่ใส่ใจนัก เพราะเหตุการณ์เล็กน้อยดังกล่าวจะไม่ทำให้แผนการใหญ่ของตนคลาดเคลื่อน ไม่มีความจำเป็นต้องป้องกัน

ชายหนุ่มเคยเตือนอีกฝ่ายแล้วในงานเลี้ยงเต้นรำ ถ้าเฮเซลไม่เชื่อหรือไม่เข้าใจ นั่นเป็นปัญหาของตัวเธอเอง ไม่มีเหตุผลที่ไคลน์ต้องรู้สึกผิดต่ออีกฝ่าย

กลับมายังโลกความจริง อดทนรออีกเกือบสี่สิบห้านาที จนกระทั่งเฮเซลกลับออกมา เมื่อยืนยันว่าไม่มีความผิดปรกติจากใต้ดิน ไคลน์เอนหลังลงบนเตียง เข้าฌานและสะกดจิตตัวเองให้หลับ

วันจันทร์ บ่ายสามโมงตรง

ต่อหน้าเดอะฟูล เดอะเวิร์ล และเดอะซัน เสาลำแสงสีแดงเข้มปรากฏขึ้นทั้งสองฝั่งโต๊ะทองแดงยาว

‘จัสติส’ ออเดรย์ยังคงสดใสเหมือนเคย กล่าวทำความเคารพบุคคลที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทา

“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ฟูล~”

ไคลน์ยิ้มพลางพยักหน้า ตอบสนองต่อสตรีที่ช่วยให้ตนกระชุ่มกระชวยได้เสมอ

ขณะเดียวกัน ออเดรย์เหลือบไปเห็นไพ่ที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งใบข้างๆ มิสเตอร์ฟูล!

ไพ่เย้ยเทพใบใหม่? เส้นทางไหน? ถ้าเป็นเส้นทางผู้ชมก็คงดี… หัวใจออเดรย์เริ่มเต้นแรงขณะหันไปทักทายสมาชิกคนอื่น

รอจนกระทั่งบรรยากาศสงบลง หญิงสาวมองผ่านหน้า ‘เฮอร์มิท’ ไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวซึ่งมีลวดลายเก่าแก่

“เรียนมิสเตอร์ฟูล ดิฉันรวบรวมไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ได้สามหน้า”

ทั้งหมดมาจากกองทุนขุดค้นและเก็บรักษาวัตถุโบราณ ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก เธอมีสิทธิ์ได้รับฉบับคัดลอก

ออเดรย์ภูมิใจกับสิ่งนี้มาก มองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสร้างรากฐานในอนาคต แต่น่าเสียดาย เธอไม่สามารถเล่าให้ใครในชุมนุมทาโรต์ฟัง ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเปิดเผยตัวตน

“ทำได้ดี” ไคลน์ยิ้มพลางผงกศีรษะ ส่งสัญญาณให้มิสจัสติสเขียนไดอารี

ขณะเดียวกัน ‘เฮอร์มิท’ แคทลียามิได้พูดแทรก คล้ายกับเธอไม่ได้รับไดอารีหน้าใหม่

ราชินีเงื่อนงำยังไม่ตอบกลับ? หรือกำลังมีสมาธิกับเรื่องอื่น? ไคลน์นั่งมองมิสจัสติสคัดลอกไดอารีสามหน้า ก่อนจะเสกให้มาอยู่บนฝ่ามือตัวเอง

กวาดสายตาผ่านหนึ่งรอบ มุมปากไคลน์เริ่มกระตุก เนื่องจากคุ้นเคยกับลักษณะเนื้อหาเป็นอย่างดี

เมื่อเทียบกับไดอารีที่อัดแน่นด้วยข้อมูลของราชินีเงื่อนงำ ไดอารีของสมาชิกคนอื่นมีเนื้อหาไม่สลักสำคัญนัก โน้มเอียงไปทางชีวิตประจำวันของโรซายล์ และไดอารีทั้งสามหน้าของมิสจัสติสก็เข้าข่ายนี้ หลังจากพลิกอ่านแบบสุ่ม ไคลน์พบว่ามีเพียงหน้าเดียวที่น่าสนใจ สำหรับหน้าอื่น หากไม่ใช่บันทึกการหลีสาวหรือเล่นชู้กับชาวบ้าน ก็จะเป็นการดูแคลนขุนนางฝ่ายชายที่มีเงินมากกว่าสมอง และบางครั้งก็แสดงความโหยหาแม่มดในข่าวลือ

เพียงไม่นาน ไคลน์หันมาสนใจกับไดอารีหน้าที่มีค่ามากที่สุด

“…จากข้อมูลบางส่วนของโบสถ์ สัตว์ประหลาดที่เกิดจากการ ‘เย็บ’ ดวงวิญญาณเข้าด้วยกันมีอยู่จริง”

“หลังจากผู้วิเศษลำดับสูงเสียชีวิต ตะกอนพลังจะถูกประทับ ‘ดวงวิญญาณ’ ลงไปในระดับที่เข้มข้นและขจัดได้ยาก หากอาศัยเวลาเพียงอย่างเดียว เกรงว่าหลายร้อยหลายพันปีก็คงไม่หายไปอย่างสมบูรณ์”

“เช่นเดียวกันกับสมบัติวิเศษที่เกิดจากการผสานระหว่างตะกอนพลังลำดับสูงและสิ่งของใกล้เคียง ผู้ใช้งานต้องมีดวงวิญญาณที่คล้ายคลึงกัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดผลข้างเคียงด้านลบรุนแรง ในส่วนของตะกอนพลังลำดับสูงที่ถูกใช้ปรุงเป็นโอสถ ผู้ดื่มก็ต้องมีดวงวิญญาณที่คล้ายคลึงกันจึงจะทนรับไหว ไม่อย่างนั้นจะล้มเหลวได้ง่าย”

“ในเชิงศาสตร์เร้นลับ ความล้มเหลวหมายถึงการคลุ้มคลั่งหรือความตาย มีเพียงคนโชคดีไม่มากนักที่สามารถรักษาสมดุลและสติเอาไว้ได้ แต่ก็มีข่าวลือว่า สมบัติปิดผนึกบางชนิดสามารถดึงตะกอนพลังออกมาและจัดโครงสร้างใหม่ได้ ช่วยให้คนที่ล้มเหลวมีสภาพเหมือนกับไม่ได้ดื่มโอสถ แค่ได้รับอาการบาดเจ็บทางวิญญาณบางส่วน… แต่ตามสมมติฐานของเรา คนที่ดื่มโอสถเข้าไปแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับพันธุกรรม เพราะจากข้อมูลทางสถิติ ถึงจะรอดชีวิตมาได้ แต่ในอีกไม่เกินห้าปีก็จะล้มป่วยหนักและเสียชีวิต”

“หมายความว่า การดื่มโอสถที่มีลักษณะ ‘ดวงวิญญาณ’ คล้ายกับตัวเองจะช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จได้มาก แต่แลกมากับการได้รับอิทธิพลจากตราประทับดวงวิญญาณรุนแรง เป็นบ่อเกิดของโรคหลายบุคลิกโดยไม่รู้ตัว ค่อยๆ วิวัฒนาการกลายเป็น ‘ดวงวิญญาณที่ถูกเย็บเข้าด้วยกัน’ ประหนึ่งผู้วิเศษลำดับสูงคนดังกล่าวได้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง… ใช่แล้ว… คืนชีพ”

“เมื่อลองคิดดูให้ดี เรื่องนี้น่ากลัวมาก… ทางโบสถ์บอกกับเราว่า มีสองสามวิธีในการขจัดตราประทับดวงวิญญาณ แต่จะเป็นวิธีอะไรนั้น พวกเขาไม่ได้เล่าให้ฟัง แปลว่าอาจทำได้ไม่ง่าย… เข้าใจแล้วว่าทำไมคนของตระกูลเซารอนถึงเรียกสิ่งนี้ว่าพรสวรรค์… อา พรสวรรค์สินะ ชักเห็นใจฟลอเร็นขึ้นมานิดหน่อย”

ดวงวิญญาณที่ถูกเย็บเข้าด้วยกัน… ตราประทับดวงวิญญาณของผู้วิเศษลำดับสูง… น่ากลัวชะมัด… ตะกอนพลังของครึ่งเทพขึ้นไปจะมีอันตรายแบบนี้ซ่อนอยู่สินะ อา… แต่ทางโบสถ์มิได้ขาดแคลนเทวทูต มิได้ขาดแคลนสมบัติปิดผนึกระดับ 0 จึงมีหลากหลายวิธีในการจัดโครงสร้างตะกอนพลังใหม่… สำหรับบางตระกูลเก่าแก่ สิ่งนี้คือฝันร้าย เพราะพวกมันมีเทวทูตไม่มากนัก เช่นเดียวกับสมบัติปิดผนึกระดับ 0 บางตระกูลจึงไม่สามารถจัดโครงสร้างตะกอนพลังใหม่… ท่ามกลางความคิดที่หมุนวน ไคลน์สลายไดอารีในมือและหันไปมองมิสจัสติส

“ต้องการแลกเปลี่ยนกับสิ่งใด”

ปัจจุบัน ออเดรย์กำลังรอให้วัตถุดิบหลักโอสถของเธอถูกส่งมอบ และด้านอื่นๆ ก็ยังไม่มีสิ่งใดขาดแคลน จึงเลือกจะสนองความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง

“เรียนมิสเตอร์ฟูล ไพ่ที่วางอยู่ข้างๆ ฝ่ามือของท่าน… ใช่ไพ่เย้ยเทพหรือไม่? เส้นทางใด?”

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset