Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 716 : เกาะร้างและซากโบราณสถาน

ราชันเร้นลับ 716 : เกาะร้างและซากโบราณสถาน

นอกจากของเรา มิสเตอร์เวิร์ลยังหาสูตรโอสถ ‘ผู้ขับขานสมุทร’ และวัตถุดิบหลักได้ด้วย… สุดยอด! ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคถอนสายตาจากกระดาษในมือและหันไปทางสุภาพบุรุษสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว

ภายในใจกำลังครุ่นคิดว่า ระดับพลังของมิสเตอร์เวิร์ลได้เพิ่มขึ้นอีกขั้น เทียบได้กับบุคคลที่อ่อนแอที่สุดของหกสภาอาวุโส!

‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สอุทานในใจด้วยถ้อยคำที่คล้ายกัน ความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายเปลี่ยนไปอีกครั้ง

เธอยังจำได้ว่า เมื่อตอนที่ตนเข้าร่วมชุมนุมทาโรต์ครั้งแรก มิสเตอร์เวิร์ลเป็นคนสงวนกิริยาและมีบรรยากาศหม่นหมอง นอกจากจุดก็ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ในการชุมนุมครั้งถัดๆ มา มิสเตอร์เวิร์ลแสดงให้เห็นว่าเขามีประสบการณ์ที่โชกโชน ความรู้กว้างขวาง และมีฝีมือพอตัว มองแวบแรกจะดูเหมือนกับรุ่นพี่เจ๋งๆ ในชุมนุม เป็นรองเพียงมิสเตอร์แฮงแมนแค่คนเดียว

นั่นคือภาพจำแรกของฟอร์ส แต่ผ่านมาหลายเดือน มิสเมจิกเชี่ยนพบว่า เดอะเวิร์ลทำให้เธอประหลาดใจหนแล้วหนเล่า

ในช่วงแรก เดอะเวิร์ลคอยแจ้งข้อมูลสำคัญ แต่พักหลังๆ เริ่มนำตะกอนพลังของผู้วิเศษมาขายเป็นจำนวนมาก หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า เขาอาจเป็นนักฆ่าจากโลกใต้ดิน นั่นทำให้ฟอร์สเกิดความกลัวจากก้นบึ้ง แต่หนึ่งสิ่งที่น่ายินดีก็คือ เธอมีสิทธิ์ในการว่าจ้างนักฆ่าที่มีอัตราความสำเร็จสูง

จนกระทั่งสมาชิกใหม่อย่าง ‘เฮอร์มิท’ ปรากฏตัว ฟอร์สคิดว่าความเฉิดฉายของเดอะเวิร์ลจะถูกสตรีลึกลับและทรงพลังคนดังกล่าวกลบจนมิด แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะ ‘เจิดจ้า’ ยิ่งกว่าเดิมจนทุกคนหมดคำพูด ไม่มีใครกล้าสบตาตรงๆ

สามารถล่าสูตรโอสถ ‘ผู้ขับขานสมุทร’ และวัตถุดิบหลัก รวมถึงสูตรโอสถ ‘ผู้รับรอง’ ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ไม่น่าจะมีมนุษย์ธรรมดาคนใดทำแบบนี้ได้อีกแล้ว!

เขาเจ๋งมาก… เราชื่นชอบคนที่เงียบขรึมแต่มากฝีมือ เฮ่อ… แล้วเราจะได้เป็นไวเคาต์ตอนไหน หลังการแข่ง ‘ล่า’ คราวนี้จบลง ดูเหมือนผู้ชนะจะได้รับรางวัลที่สามารถยกระดับพลังผีดูดเลือด… ‘เดอะมูน’ เอ็มลิน·ไวท์เบนความคิดกลับมายังเรื่องของตัวเอง

‘จัสติส’ ออเดรย์อุทานในใจด้วยอารมณ์ค่อนข้างสับสน

เหตุใดมิสเตอร์เวิร์ลที่เก่งกาจถึงไม่เคยส่งไดอารีจักรพรรดิโรซายล์เลยสักครั้ง? น่าแปลกมาก… เขาไม่เหมือนกับมาดามเฮอร์มิทที่เพิ่งเข้าร่วมชุมนุม ไม่ต้องคอยระวังตัว… จะบอกว่าเขาไม่ต้องการแลกเปลี่ยน? นั่นก็ไม่ใช่ มีหลายครั้งที่ข้อเสนอของเขาสามารถบรรลุได้ด้วยการส่งไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ แต่ทำไมเขาถึงไม่รวบรวมมาส่ง?

แอบส่งลับๆ? แล้วทำไมต้องปิดเป็นความลับ?

ออเดรย์เริ่มรู้สึกว่า มิสเตอร์เวิร์ลกับเดอะฟูลแอบเชื่อมโยงกันด้วยบางสิ่ง แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด ไม่มีใครสามารถเดาสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง

ขณะเดียวกัน ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ผู้เงียบงันมาสักพัก มองไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว

“เรียนมิสเตอร์ฟูล ผมขอสนทนาส่วนตัวกับเดอะเวิร์ล”

มาแล้ว… ไคลน์พยักหน้ารับอย่างคาดหวัง ปิดกั้นประสาทสัมผัสของสมาชิกคนอื่น

อัลเจอร์หยุดรอสองสามวินาทีก่อนจะหันไปทาง ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์

“ผมขอแลกเปลี่ยนด้วยพิกัดของเกาะร้างที่ไม่มีใครรู้จัก… บนเกาะไม่เพียงจะมีสัตว์วิเศษที่สูญพันธุ์ไปจากทวีปเหนือและใต้ แต่ยังมีซากโบราณสถานเก่าแก่ที่ไม่ทราบอายุ… เดิมที ผมพบมันพร้อมกับคีลิงเกอร์ ตอนนั้นยังไม่มีความสามารถมากพอที่จะสำรวจ แต่หมอนั่นพบเบาะแสบางอย่าง สงสัยว่าด้านในซากโบราณสถานจะมีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่ และเชื่อว่ามูลค่าไม่ด้อยไปกว่าไพ่เย้ยเทพที่สร้างโดยจักรพรรดิโรซายล์… สำหรับตอนนั้น ผมยังไม่แข็งแกร่งเท่าคีลิงเกอร์ ประสาทสัมผัสไม่เฉียบแหลม ไม่รู้ว่าหมอนั่นมองเห็นอะไรกันแน่ ทำได้เพียงคาดเดาคำพูดที่อีกฝ่ายพึมพำ”

“…” ประโยคเมื่อครู่ของมิสเตอร์แฮงแมนอัดแน่นไปด้วยข้อมูลมากมาย ดูเหมือนว่าเขากับ ‘พลเรือโทวายุ’ คีลิงเกอร์จะรู้จักกันมานานแล้ว เคยผจญภัยเสี่ยงชีวิตร่วมกันจนพบเกาะร้างโบราณ… ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่บอกให้เรารีบจัดการคีลิงเกอร์ขณะมันกำลังทำภารกิจบนบก… มิสเตอร์แฮงแมนไม่ได้เป็นแค่สมาชิกธรรมดาๆ ของโบสถ์วายุสลาตัน อดีตของเขาซับซ้อนมาก เต็มไปด้วยปริศนา… อา… เกาะร้างโบราณนับว่ามีมูลค่าสูง สำหรับองค์กรลับ สิ่งนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาบุคลากร… ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลด้วยมาดขรึม รอให้อีกฝ่ายพรั่งพรูข้อมูลออกมาเพิ่ม

เมื่อเห็นเดอะเวิร์ลไม่ปฏิเสธ แต่ยังไม่ตอบตกลง ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์เล่าอย่างใจเย็น

“ที่นั่นมีร่องรอยของสัตว์วิเศษระดับครึ่งเทพ สำหรับคุณ สิ่งนี้มีมูลค่าสูงมาก… ผมกล้าสาบานต่อหน้ามิสเตอร์ฟูลว่า ทุกคำพูดล้วนเป็นความจริง”

หลังจากครอบครองสูตรโอสถ ‘จอมเวทพิสดาร’ เราต้องพิจารณาการค้นหาวัตถุดิบไว้ด้วย ในกรณีของวัตถุดิบระดับครึ่งเทพ มีแค่เงินอย่างเดียวไม่สามารถซื้อได้ ส่วนใหญ่จะได้จากการแลกเปลี่ยน… เบาะแสของสัตว์วิเศษลำดับครึ่งเทพนับว่าน่าสนใจมาก ยังไม่รวมถึงซากโบราณสถาน… เดอะเวิร์ลไม่ลังเลอีกต่อไป กล่าวเสียงทุ้มด้วยรอยยิ้ม

“ตกลง”

‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ยังไม่ขอสูตรโอสถ ‘ผู้ขับขานสมุทร’ ในทันที

“ผมมีเงื่อนไขเล็กน้อย การสำรวจเกาะครั้งแรกต้องให้ผมร่วมทางไปด้วย หากมีมิสเตอร์ฟูลช่วยเป็นสักขีพยาน คุณคงไม่ต้องกลัวผมตุกติกกระมัง”

ไคลน์ครุ่นคิด บังคับให้เดอะเวิร์ลพยักหน้าและกล่าว

“ไม่มีปัญหา การไปเยือนสถานที่อันตรายควรมีเพื่อนร่วมทางอยู่แล้ว หวังว่าคุณในตอนนั้นจะแข็งแกร่งพอ”

อัลเจอร์มิได้แสดงท่าทีหงุดหงิด เพียงถอนหายใจโล่งอก

“ผมถึงอยากให้คุณรอผมเลื่อนลำดับก่อน จึงค่อยไปสำรวจเกาะด้วยกัน แน่นอน ถ้าผมเลื่อนลำดับล้มเหลวและเกิดคลุ้มคลั่ง เงื่อนไขดังกล่าวจะถือเป็นโมฆะ”

“ตกลง” เดอะเวิร์ลตอบหน้านิ่ง

‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ไม่กล่าวสิ่งใดต่อ หันไปขอสิทธิ์การเขียนจากเดอะฟูลและลงมือวาดภาพแผนที่ของเกาะร้างโบราณ

สุดเขตน่านน้ำเกาะรอสต์… ขนาดโดยรวมของเกาะไม่เล็กมาก ประมาณเกาะภูเขาสีคราม… ไคลน์รับกระดาษและตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งอย่างคร่าวๆ

จากนั้นก็รีบเงยหน้า

“ผมจะส่งสูตรโอสถและวัตถุดิบหลักให้คุณหลังจบการชุมนุม”

“ตกลง” อัลเจอร์ที่ได้ข้อสรุป ไม่หลงเหลือความกังขาใดอีก หัวใจกำลังเต้นระรัวแม้ว่าสีหน้าภายนอกจะสุขุม

เมื่อสองบุรุษเสร็จการสนทนาส่วนตัว ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาถอนสายตาจากเดอะเวิร์ล หันไปทาง ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์ส

“ดิฉันได้ผลึกอุกกาบาตมาแล้ว หกร้อยปอนด์ต่อหกสิบกรัม”

เร็วมาก… มาดามเฮอร์มิทช่างกว้างขวาง! ฟอร์สตกใจปนกระอักกระอ่วน

หลังจากการชุมนุมเมื่อสัปดาห์ก่อน เธอซื้อผลึกเลือดหมึกลาวามาในราคาหกร้อยปอนด์ ทำให้เหลือเงินสดเพียงสองร้อยสามสิบปอนด์ เมื่อผนวกกับเงินเดือนจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์ของนักเขียน เธอยังขาดอีกสองร้อยยี่สิบปอนด์

คงต้องยืมเงินเก็บฉุกเฉินของซิลมาก่อน เธอน่าจะมีอยู่มาก… หลังจากเลื่อนลำดับ เราต้องรีบหาเงินมาคืน! ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สสูดลมหายใจยาว

“ตกลง เริ่มแลกเปลี่ยนพรุ่งนี้เวลานี้”

แคทลียาพยักหน้า ‘อืม’ และมองไปทาง ‘จัสติส’ ออเดรย์ทันที

“ดิฉันหาไขสันหลังของตะกวดดำนักล่าได้แล้ว ราคาหนึ่งพันแปดร้อยปอนด์ แต่ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสของผลจากต้นกระดิ่งลมหลอนประสาท”

“เท่านี้ก็มากพอแล้วค่ะ เร็วกว่าที่ดิฉันคิดไว้ ขอบคุณมาก มาดามเฮอร์มิท” ออเดรย์ขอบคุณจากก้นบึ้งโดยไม่ได้สนใจเรื่องราคา

เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวเพิ่งค้นพบว่าการก่อตั้ง ‘กองทุนขุดค้นและเก็บรักษาวัตถุโบราณ’ มีผลดีที่คาดไม่ถึงอยู่หนึ่งเรื่อง นั่นคือการช่วยให้เธอสามารถใช้เงินได้อิสระมากขึ้น ถูกพ่อและแม่ตรวจสอบยากขึ้น

หลังจากยืนยันการขายสินค้าสองรายการ แคทลียามองไปรอบตัว

“มีเบาะแสของเลือดสัตว์ในตำนานบ้างไหม”

ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลหัวเราะในลำคอ

“หมายถึงสัตว์ในตำนานร่างสมบูรณ์ใช่ไหม”

สัตว์ในตำนานร่างสมบูรณ์? มีร่างไม่สมบูรณ์ด้วยหรือ? ‘จัสติส’ ออเดรย์และคนที่เหลือต่างมึนงง หันกลับมาสนใจเนื้อหาการสนทนาอีกครั้ง

‘เฮอร์มิท’ แคทลียาผงะเล็กน้อย

“สมบูรณ์… อีกความหมายหนึ่งคือเลือดของเทวทูต แค่หยดเดียวก็เกินพอ”

เธอมิได้ลงลึกรายละเอียดเนื่องจากเชื่อว่า หากเป็นการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบระดับสูงขนาดนี้ สมาชิกชุมนุมทาโรต์คงไม่มีปัญญาหามาได้เอง ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากมิสเตอร์ฟูล และนั่นหมายถึง เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มิสเตอร์ฟูลฟัง ว่าสัตว์ในตำนานร่างสมบูรณ์หมายถึงอะไร

“ผมมีเบาะแส แต่ไม่ขอรับประกันว่าจะหามาได้ นอกจากนั้นคุณยังต้องรออย่างน้อยสามเดือน” ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลตอบสนอง

สมาชิกคนอื่นของชุมนุมทาโรต์พลันปิดปากสนิท ไม่มีใครคาดคิดว่าเดอะเวิร์ลจะมีเบาะแสของเลือดเทวทูต!

มีอะไรที่เขาทำไม่ได้บ้าง? ‘จัสติส’ ออเดรย์ ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์ส และคนที่เหลือต่างตกตะลึงกับความน่าทึ่งของเดอะเวิร์ล

‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ตั้งข้อสังเกตว่า เดอะเวิร์ลอาจใช้หยดเลือดจากหนึ่งในเทวทูตของมิสเตอร์ฟูล

หลังจากบรรยากาศเงียบงันไปอีกสักพัก เอ็มลินที่ตระหนักว่าตนยังห่างไกลจากการเลื่อนลำดับเมื่อเทียบกับสมาชิกชุมนุมคนอื่น เริ่มเปล่งเสียงแผ่วเบา

“จากงานล่าสุดที่ผมมอบหมาย มีใครพบเบาะแสเพิ่มเติมบ้างไหม”

‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สกล่าวทันที

“ฉันได้พบกับคดีประหลาด ตอนนี้กำลังตามสืบอยู่”

ในฐานะลูกหนี้ หญิงสาวมีแรงจูงใจในการหาเงินอย่างเต็มเปี่ยม!

หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคยื่นข้อเสนอขอซื้อผลึกรากของต้นคนชราทันที ในส่วนของขนแพนหางนกพันธสัญญาวิญญาณ เมืองเงินพิสุทธิ์มีเก็บอยู่ในคลัง

นอกจากนั้นยังขอซื้อวัตถุดิบเสริมของโอสถ จำพวกดอกทานตะวันขอบทองและดอกทานตะวันขอบขาว ดอกไม้เหล่านี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปบนโลกภายนอก แต่ไม่ใช่กับเมืองเงินพิสุทธิ์

“ผลึกรากของต้นคนชราและวัตถุดิบเสริมหาไม่ยาก” เอ็มลินกล่าวด้วยน้ำเสียงสดชื่น “แล้วเจ้ามีอะไรมาแลกเปลี่ยน?”

ก่อนหน้านี้มันเคยสังเวยผลของต้นคนชราให้มิสจัสติส ย่อมทราบวิธีหาผลึกราก

‘เดอะซัน’ เดอร์ริคครุ่นคิดสักพัก

“ตะกอนพลังของแวมไพร์ลำดับ 5?”

ในความมืดมิด สัตว์ประหลาดชนิดนี้หาได้ไม่ยากนัก

“ผีดูดเลือด!” เอ็มลินกัดฟันกรอด “ไม่ต้องรีบร้อน แล้วข้าจะบอกอีกทีว่าต้องการอะไร”

มันไม่อยากได้ของซ้ำกับรางวัลที่จะได้จากการแข่ง ‘ล่า’

“ตกลง” เดอร์ริคที่มีประสบการณ์ติดหนี้เดอะเวิร์ล ตอบด้วยท่าทีผ่อนคลาย

หลังจากความเงียบงันเข้าครอบงำสักพัก ‘เดอะฟูล’ ไคลน์เคาะขอบโต๊ะทองแดงยาวลวดลายเก่าแก่ เป็นสัญญาณเริ่มต้นช่วงเวลาแลกเปลี่ยนข้อมูลอิสระ

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset