Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 628 : ข้อห้าม

ราชันเร้นลับ 628 : ข้อห้าม

เมื่อได้เห็นร่างกายสีขาวขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยตุ่มสีน้ำตาลอมเขียวและ ‘ดอกไม้’ เมื่อได้ยินเสียงออดอ้อนเจือความเขินอาย และเมื่อได้เห็นใบหน้าลังเลของซินเธีย ไคลน์พลันสั่นสะท้านไปทุกส่วนของร่างกาย เส้นขนทั่วร่างลุกโชนตั้งชัน

ฉากตรงหน้าคือความสยดสยองที่มันไม่เคยจินตนาการถึงมาก่อน ไม่แม้กระทั่งในความฝัน!

ย้อนกลับไปขณะเมื่อครั้งได้เผชิญหน้าเมกูสในเมืองทิงเก็น ไคลน์ถูกภาพอันน่าสยดสยองข่มขวัญจนก้าวขาไม่ออก แต่ปัจจุบัน หลังจากผ่านประสบการณ์นับไม่ถ้วน และกล้าเรียกตัวเองว่ารุ่นพี่ในวงการศาสตร์เร้นลับ เมื่อได้ยินเสียงเรียกของซินเธีย ถุงมือในมือซ้ายพลันเปลี่ยนสีทันที

สีของถุงมือเข้มขึ้น แผ่ความน่าเกรงขามและกลิ่นอายชั่วร้ายเต็มเปี่ยม สิ่งนี้หมายถึง ไคลน์สลับยุบพองหิวโหยไปเป็นวิญญาณของมีซอร์ ‘บารอนแห่งการเน่าเปื่อย’

ในทันทีทันใด ชายหนุ่ม ‘ดัดแปลง’ ความคิดของซินเธียที่ระบุว่า ‘ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่าน’ ให้กลายเป็น ‘ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่านเพียงคนเดียว’

ไคลน์ทำแบบนี้เพราะเชื่อว่า บรรดาบอดี้การ์ดของนายพลและคนรับใช้ชายรอบต้นไม้จะถูกซินเธียที่ความปรารถนาถูก ‘บิดเบือน’ ผลักจนกระเด็น เป็นโอกาสให้ได้พักหายใจ

ส่วนเรื่องที่ว่า การตัดสินใจเช่นนี้จะทำให้ตัวจริงของนายพลอมิรุสถูกเปิดโปง ชายหนุ่มมิได้ใส่ใจมากนัก เพราะหากใครตกอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้แล้วยังห่วงการปลอมตัว มันผู้นั้นคงเป็นโรคบ้าความสมบูรณ์แบบจนเกินเหตุ และไคลน์มิใช่คนแบบนั้น

เหนือสิ่งอื่นใด ความกระหายทุกรูปแบบได้ถูก ‘ขยาย’ ให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ไคลน์เชื่อว่าทุกคนในเหตุการณ์จะจมอยู่กับความปรารถนาของตัวเอง ไม่มีเวลามาสนใจการต่อสู้ของนายพลอมิรุสแน่นอน

พลัง ‘บิดเบือน’ ของบารอนแห่งการเน่าเปื่อยถูกสำแดงสำเร็จอย่างเงียบงัน แต่ไคลน์กลับต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า กลุ่มบุรุษรอบตัวซินเธียมิได้เกิดการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด

พวกมันยังไม่ถูก ‘ต้นไม้’ ดีดออกมา!

เราบิดเบือนสำเร็จแล้วอย่างแน่นอน…

หมายความว่าซินเธียต้านทานมันได้…

รูม่านตาไคลน์พลันหดลีบ ทิ้งตัวกระโดดไปด้านข้างสองก้าว

ทันใดนั้น ในจุดที่เคยยืน กิ่งไม้สีน้ำตาลพุ่งพรวดขึ้นจากพื้นห้อง สุดปลายกิ่งเป็นดอกไม้ที่มาพร้อมเมือกเหนียวข้น

ขนาดของดอกค่อนข้างใหญ่ พิจารณาจากในสภาพอ้ากว้างที่สุด ไคลน์เชื่อว่าสิ่งนี้สามารถกลืนมนุษย์ทั้งคนเข้าไปได้

แม้ชายหนุ่มจะไม่เคยเห็นดอกไม้กินคนอันโด่งดังในป่าดงดิบของทวีปใต้ แต่มันก็เชื่อว่า ดอกไม้ตรงหน้าก็น่าสะพรึงไม่แพ้กัน

พรวด! พรวด! พรวด!

ไม่ว่าจะกำแพง พื้นห้อง หรือผนัง กิ่งไม้แบบเดิมกระหน่ำพุ่งออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน ปลายสุดของทุกกิ่งล้วนมีดอกไม้เปียกชุ่ม พยายามไล่ล่าไคลน์จากทุกทิศทาง

ระหว่างนั้น ดอกไม้ลึกลับได้งับหัวลัวอาน เลขานุการผมทอง รวมถึงพันธนาการบอดี้การ์ดและสาวใช้ที่กำลังร่วมรักอยู่บนพื้นห้องโดยรอบ

เมื่อประเมินว่าพลัง ‘บิดเบือน’ ถูกต้านทานโดยสมบูรณ์ ไคลน์ชักมือขวาออกมาโดยไม่ลังเล

แสงจากยันต์สีทองเข้มส่องออกจากร่องฝ่ามือ

“กฎหมายที่เก้า!”

ใจจริง มันไม่อยากงัดยันต์ออกมาใช้เร็วนัก ไม่ใช่เพราะเสียดาย แต่เพราะต้องการให้ศึกยืดเยื้อออกไปจนกระทั่งตนพบจุดอ่อนของซินเธียเสียก่อน จากนั้นค่อยทำให้อ่อนแอลง เนื่องจากยันต์กฎหมายที่เก้ามิได้ครอบจักรวาลถึงขั้นสามารถห้ามการใช้พลังพิเศษทุกรูปแบบ ต้องระบุรายละเอียดของกฎหมายที่จะบัญญัติลงไปให้ชัดเจน และเนื่องจากใช้ได้เพียงหนเดียว ความผิดพลาดจะไม่ได้รับการอภัย ต้องเก็บข้อมูลจนแน่ใจเสียก่อน

แต่สถานการณ์อันคับขันได้บีบคั้นให้ชายหนุ่มไม่มีทางเลือก ต้องเผยไพ่ตายตั้งแต่เริ่มศึก ไม่อย่างนั้น ดอกไม้กินคนน่าขยะแขยงคงเล่นงานตนในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า

หากแม้แต่ยันต์กฎหมายที่เก้าก็ยังมิอาจสยบสัตว์ประหลาดซินเธียได้ เราคงต้องหนีออกจากคฤหาสน์ ล่อเธอออกไปข้างนอก หาโอกาสหลบมุมและสวดวิงวอนถึงตัวเอง เข้าสู่มิติหมอกเพื่อใช้พลังคทาเทพสมุทรสร้างฟ้าผ่าโจมตี!

ท่ามกลางความคิด ไคลน์ ผู้เอาแต่กระโดดหลบไปมาระหว่างกิ่งไม้และดอกไม้ เปล่งเสียงคาถาด้วยภาษาเฮอร์มิสโบราณ :

“กฎหมาย!”

หลังจากเสียงเริ่มกังวาน แผ่นยันต์สีทองเข้มในมือพลันเย็นเฉียบ เปลี่ยนให้อารมณ์ของผู้คนเยือกเย็นตามไปด้วย

ในวินาทีนี้ สติของชายหนุ่มกำลังสุขุมจนผิดธรรมชาติ มือขวาขว้างยันต์กฎหมายที่เก้าออกไปพลางครุ่นคิดหากฎหมายที่ตนต้อง ‘บัญญัติ’

ความคิดแรกในหัวไคลน์คือ ‘ที่นี่ห้ามมีแรงกระหายทุกชนิด’ แต่ด้วยความกังวลว่านั่นอาจกว้างเกินไปจนไม่ได้ผล จึงต้องการเปลี่ยนให้เป็น ‘ที่นี่ห้ามร่วมเพศ’ เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ความปรารถนาเดียวของซินเธียคือ ต้องการมีทายาทกับนายพลอมิรุส ความฉิบหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนมีต้นตอมาจากสิ่งนี้!

ขณะยันต์กำลังลอยไปในอากาศ และเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีทองเข้มเจิดจ้า ไคลน์พลันผุดคำถามหนึ่งในหัว :

จะว่าไป ซินเธียเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่หรือ…

นี่คือข้อเท็จจริง!

ตลอดสามวันที่ผ่านมา ไคลน์หมั่นใช้เนตรวิญญาณและการทำนายบนมิติหมอกเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่า ซินเธียไม่ใช่ผู้วิเศษ

เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ต้องนึกสงสัยให้วุ่นวาย หากเธอเป็นผู้วิเศษจริง นักสานกฎหมายอมิรุส ผู้เชี่ยวชาญการระบุตัวตนผู้วิเศษ ย่อมต้องทราบเรื่องนี้นานแล้ว เพราะเขากับซินเธียคบกันมาหลายปี…

ดังนั้น ถ้าไม่ใช่ผู้วิเศษที่ดื่มโอสถเข้าไป หล่อนก็ไม่น่าจะมีเหตุให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดได้เลย

นี่คือความผิดปรกติที่ต้องรีบหาคำตอบ!

เหมือนกับเมกูส? เธอตั้งครรภ์ทายาทของเทพมารผ่านพิธีกรรมบางอย่าง? ไม่สิ ถ้ามีพิธีกรรมแบบนั้นจริง สัมผัสวิญญาณนักทำนายของเราก็ต้องแจ้งเตือน ว่าห้ามใช้เนตรวิญญาณส่องครรภ์ของซินเธีย… แปลว่าต้องมีวัตถุบางอย่างในตัวเธอที่เป็นภาชนะรับพลังจากภายนอก อาจสั่งสมพลังมาแล้วสองคืน จึงค่อยแสดงผลอย่างฉับพลันในคืนนี้… แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน ความน่าพรั่นพรึงที่เกิดกับซินเธียต้องเป็นผลจากอิทธิพลของโลกภายนอกแน่นอน ไม่ใช่พลังของเธอ…

ไคลน์ครุ่นคิดและได้ข้อสรุปภายในสองวินาที จึงประกาศกฎหมายโดยปราศจากความลังเล :

“ที่นี่ไม่อนุญาตให้พลังจากโลกภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว!”

ทันใดนั้น อักษรภาษาเฮอร์มิสโบราณที่แฝงไปด้วยความหมายพลันลอยเต็มอากาศ แสงสีทองเข้มเริ่มถักสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นอักขระเวทมนตร์แห่งประมวลกฎหมาย ก่อนจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า

ฮึ่ม!

มันได้ยินเสียงฉุนเฉียวของใครบางคนดังแว่ว ขณะเดียวกัน คล้ายกับแสงล่องหนที่เต็มไปด้วยกามราคะถูกกีดกันออกไปจากห้องนอน

ในวินาทีดังกล่าว ภาพของดวงดาวมายาพลันปรากฏขึ้นในทัศนียภาพไคลน์ โดยมีดาวดวงหนึ่งกำลังส่องสว่างเด่นชัด

พรวด! พรวด! ดวงตาไคลน์ระเบิดทั้งสองข้างอย่างเหี้ยมโหด ของเหลวผสมกับเลือดสาดกระเซ็นเต็มพื้นในลักษณะสยดสยอง

แม้จะมียันต์กฎหมายที่เก้าช่วยคุ้มครองการแทรกแซงจากโลกภายนอก แต่เนื่องจากอีกฝ่ายทรงพลังเกินไป ถึงจะหลุดรอดเข้ามาในปริมาณน้อย ก็มากพอจะสร้างความเสียหายหนักหน่วงแก่สังขารมนุษย์

ดวงตาทั้งสองข้างระเบิดฉับพลัน!

ความเสียหายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีการเตือนล่วงหน้า ไคลน์หมดโอกาสใช้งาน ‘กระดาษคนตัวแทน’ โดยสิ้นเชิง เหมือนกับกรณีที่นักเชิดหุ่นโรซาโก้ถูกยันต์ ‘ถ้อยคำกัดกร่อน’ เล่นงานทีเผลอ

หากไม่เพราะมียันต์กฎหมายที่เก้าช่วยปกป้องร่างกาย เกรงว่ามันคงไม่จบแค่ดวงตาระเบิด แต่ไคลน์อาจกลายเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนกับซินเธีย!

ขณะเดียวกัน ต้นไม้ซินเธียที่เคยปักหลักบนเตียงนอนใจกลางห้อง พลันสูญเสียส่วนลำตัวทั้งหมดในพริบตา กลายเป็นกองเลือดเนื้อที่มีตุ่มสีน้ำตาลอมเขียวปกคลุม ในเวลาเดียวกัน เหล่าบอดี้การ์ดและคนรับใช้รอบตัวหล่อน ต่างร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นและขอบเตียงจนหมดสติ

ศีรษะซินเธียถูกฝังอยู่บนกองเลือดเนื้อ ปากขยับพึมพำกับตัวเอง

“ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่าน ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่าน…”

หล่อนพยายามควบคุมกิ่งก้านที่ยังหลงเหลือบนกำแพงและเพดาน รัดพันไคลน์ ผู้กำลังยืนตะลึงเนื่องจากดวงตาระเบิด

ชายหนุ่มได้สติกลับมาเล็กน้อย พยายามขัดขืนให้หลุดจากบ่วงไม้ แต่ไม่ว่าจะเป็นการดีดนิ้วจุดไฟหรือใช้พลังของยุบพองหิวโหย ทั้งหมดล้วนล้มเหลว เนื่องจากร่างกายถูกตรึงแน่นจนมิอาจกระดุกกระดิก

ภายในการมองเห็น กองตุ่มสีน้ำตาลอมเขียวขยับใกล้ไคลน์ทุกขณะ มันไม่มีทางเลือกนอกจากแปลงโฉมกลับไปเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์

เกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่เบ้าตาเต็มไปด้วยเลือด!

ทันใดนั้น กิ่งไม้หยุดการรัดพันทันที คลายออกพร้อมกับโยกเอนอย่างอ่อนโยน คล้ายกับพยายามจับคว้าบางสิ่งที่มองไม่เห็น

ซินเธียเผยสีหน้าสับสนปนทันที เปล่งเสียงพึมพำอย่างเหม่อลอย

“ท่านนายพล ท่านอยู่ที่ไหน ท่านนายพล ท่านอยู่ที่ไหน…”

เมื่อไม่มีพลังจากโลกภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว หญิงสาวถูกผลของพลัง ‘บิดเบือน’ จากจังหวะก่อนหน้าเล่นงาน ความปรารถนาจึงเปลี่ยนไปเป็น ‘ต้องการมีทายาทกับนายพลอมิรุสเพียงคนเดียว’ ส่งผลให้ไคลน์ถูกปล่อยตัว

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน รีบเลื่อนมือขวาขึ้นมายังปิดดวงตา จากนั้นก็ตวัดลงมาไว้ตรงหัวไหล่ซ้าย เป็นพลังโยกย้ายบาดแผล

ขณะหัวไหล่เริ่มมีสภาพยับเยิน ยุบพองหิวโหยพลันแปรเป็นเปลี่ยนสีทองสว่าง

ไคลน์ยืนจ้องศีรษะซินเธียบนกองเนื้อด้วยสายตาสงสาร ก่อนจะกางแขนสองข้างออกกว้าง

ลำแสงถูกฉายลงจากเบื้องบน เกิดเป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมซากศพอันน่าเวทนาของสัตว์ประหลาด

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset