Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 623 : คืนแรก

ราชันเร้นลับ 623 : คืนแรก

ขณะใช้มือสัมผัสยันต์กฎหมายที่เก้าในกระเป๋าเสื้อ ไคลน์ปรับส่วนสูงของตน รวมถึงรายละเอียดทางกายภาพด้านอื่นให้สมจริงจนไม่มีใครบอกได้ว่าเป็นอมิรุส·รีเวลต์ตัวปลอม

ชายหนุ่มเดินออกจากประตูอีกบานหนึ่งของห้องพัสดุ ตรงไปตามทางเดินเงียบงัน ย่างกรายเข้าสู่คฤหาสน์ของนายกเทศมนตรี

ตลอดทาง ทั้งบริกรและสาวใช้ที่เดินสวนไปเป็นระยะ ต่างพากันก้มศีรษะต่ำด้วยอากัปกิริยาพินอบพิเทา ไม่มีใครกล้าจ้องตาไคลน์โดยตรง

เพียงได้เห็นเครื่องแบบทหารเรือสีกรมท่ารีดเรียบจนเนียนกริบ ต่างคนต่างแหวกทางให้เดินพร้อมกับทำท่าคำนับ

ขอแค่สวมเครื่องแบบทหารเรือและมีส่วนสูงประมาณนายพลอมิรุส ไม่ว่าใครก็เดินเข้ามาในงานเลี้ยงได้ทันที… คงต้องบอกว่า การปลอมตัวเป็นคนใหญ่คนโต ง่ายยิ่งกว่าการปลอมตัวเป็นคนธรรมดาเสียอีก…

ไคลน์มองตรง สวมสีหน้าเคร่งขรึมเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยอิฐดำ

บทเพลงไพเราะดังคลอเป็นฉากหลัง โคมไฟหรูหราบนผนังทำการเผาแก๊สอย่างต่อเนื่อง ช่วยส่องแสงขจัดความมืดมิดภายในตัวอาคาร

ขณะไคลน์เดินเข้าใกล้เขตห้องพัก มันเห็นประตูบานหนึ่งเปิดอยู่ ด้านในมีชายวัยกลางคนกำลังยืนรอต้อนรับ

ผมสีดำ ตาสีฟ้า โครงหน้าและบรรยากาศรอบตัวคล้ายกับอมิรุส·รีเวลต์เป็นอย่างมาก เพียงแต่หน้าผากเถิกกว่า ถุงใต้ตาบวมคล้ำ และมุมปากมิได้หย่อนยาน

ไม่ใช่ใครนอกจากน้องชายคนเล็กของอมิรุส

ออสเท่น·รีเวลต์

สุภาพบุรุษวัยกลางคนรายนี้เคยทำงานในกองทัพเรือมาก่อน และมีฝีมือเก่งกาจจนได้รับความดีความชอบในสงครามทวีปใต้ เลื่อนไต่ยศอย่างรวดเร็วกระทั่งถึงพันเอก แต่ในเวลาต่อมา ออสเท่นเบื่อหน่ายชีวิตการในรั้วค่ายทหาร กอปรกับเพื่อรักษาสมดุลทางการเมืองให้ครอบครัว จึงตัดสินใจโอนถ่ายมาทำงานราชการ

ราวห้าหกปีที่อยู่บนเกาะโอลาวี ท่ามกลางทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ออสเท่นตัดสินใจกว้านซื้อที่ดินจำนวนมากบนเกาะให้เป็นของตระกูลรีเวลต์

ความสำเร็จข้างต้นเกิดขึ้นได้ มิใช่เพราะฝีมือของออสเท่นเพียงคนเดียว เพราะมันทำกระทั่งหยิบยืมเงินของตระกูลมาใช้ รวมถึงการกู้เงินจากธนาคาร

เรื่องนี้มิได้แปลกใหม่ เพราะจักรวรรดิฟุซัคเคยทำกับอาณานิคมในทวีปใต้มาก่อน พวกมันอาศัยกลอุบายกดดัน ซื้อที่ดินต่อจากชนพื้นเมืองในราคาต่ำ

แน่นอน ต่อให้ออสเท่นมิใช่นายกเทศมนตรีของเกาะโอลาวี แต่ลำพังตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดในกองทัพเรือโลเอ็นประจำน่านน้ำทะเลโซเนียของพี่ชาย ก็มากพอจะช่วยกดดันให้ชนพื้นเมืองขายที่ดินในราคาถูก

บททดสอบแรกมาแล้ว…

ไคลน์เดินเข้าไปหาอย่างสุขุม หยุดยืนตรงหน้าออสเท่น·รีเวลต์

ออสเท่นมองซ้ายขวา กล่าวเสียงต่ำ

“ท่านพี่ ตัดสินใจเรื่องนั้นได้หรือยัง”

เรื่องอะไรอีก…

ไคลน์ผงะเล็กน้อย สมองครุ่นคิดถึงวิธีการรับมือกับออสเท่น : หากออสเท่นถามเกี่ยวกับความลับระหว่างตน หรือต้องการคำตอบในบางเรื่อง ให้บอกไปว่า จะมอบคำตอบเมื่อเดินทางออกจากเกาะโอลาวี

อมิรุสคงคำนวณเรื่องนี้ไว้แล้ว… ไม่มีปัญหา แค่เราตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงและบุคลิกที่เหมือนกับตัวจริงก็พอ… ดีล่ะ… ต้องเลียนสำเนียงและท่าทางการพูดของพวกขุนนาง…

ไคลน์พยักหน้า กล่าวเสียงขรึม

“รออีกสองสามวัน ฉันจะมอบคำตอบเมื่อออกจากโอลาวี”

ออสเท่นไม่โต้แย้ง เพียงหัวเราะในลำคอ

“นึกแล้วเชียว ท่านพี่กำลังรอปัจจัยที่ช่วยในการตัดสินใจอยู่สินะ”

อำนาจตัดสินใจสูงสุดคงอยู่ที่อมิรุส…

ไคลน์ครุ่นคิด ตอบด้วยสำเนียงขุนนางใหญ่

“เลิกเดาส่งเดชได้แล้ว”

กล่าวจบ ชายหนุ่มหันหลังกลับ เดินเข้าไปในโถงจัดงานเลี้ยง

ออสเท่น·รีเวลต์ยืนจ้องแผ่นหลังพี่ชายที่เดินห่างออกไปทุกขณะ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ตามด้วยการส่ายหน้าแผ่วเบา

เมื่อเข้าเขตโถงใหญ่ ไคลน์มองรอบตัว ก่อนจะตรงไปยังโต๊ะยาวที่มีถาดอาหารวางเรียงราย ระหว่างทางได้แวะทักทายคนรู้จักจำนวนหนึ่ง

มันได้เรียนรู้ว่า ตนไม่จำเป็นต้องเข้าใจหัวข้อสนทนาเลยสักนิด เพียงคอยพยักหน้ารับให้ถูกจังหวะ บทสนทนาก็จะดำเนินไปอย่างลื่นไหลจนอีกฝ่ายพึงพอใจ

นึกแล้วเชียว การปลอมตัวเป็นคนใหญ่คนโตสะดวกสบายในบางมุม แต่ขณะเดียวกัน ในอีกมุมก็จะยากจนต้องปวดหัว…

ไคลน์เอาชนะบททดสอบหนแล้วหนเล่า จนกระทั่งมาถึงโต๊ะยาวสำหรับวางอาหาร

มันหยิบถาด กำชับตัวเองว่านายพลอมิรุสชอบอาหารจานปลา วัว แกะ และล็อบสเตอร์ โดยจะเกลียดไก่และห่าน

ชายหนุ่มไม่มีทางเลือก ต้องเลี่ยงไก่ย่างและห่านย่างสูตรเด็ดของเบ็คลันด์ รวมถึงอาหารอื่นที่เข้าข่ายดังกล่าว ลงเอยด้วย มันตักล็อบสเตอร์โอลาวีอบครีมชีส และสเต๊กปลาทอด

เนื่องจากภาชนะใส่อาหารส่วนใหญ่ถูกรองก้นด้วยแร่ใยหิน บางส่วนอุ่นด้วยถ่านฟืนสีแดง และบางส่วนนำน้ำร้อนใส่ในภาชนะ อาหารของงานเลี้ยงจึงมีอุณหภูมิพอเหมาะตลอดเวลา

ไคลน์กัดเข้าไปหนึ่งคำ มันรู้สึกซาบซ่านและประทับใจเหนือคำบรรยาย

ชายหนุ่มรักษามาดของนายพลอมิรุสได้อย่างไร้จุดตำหนิ มือข้างหนึ่งถือถาดพลางสนทนากับสมาชิกสภาเมืองท่า ตัวแทนกองทัพเรือ และอีกมากหน้าหลายตา โดยส่วนมากจะทำเพียงรับฟังอย่างตั้งใจ พยักหน้าพอเป็นพิธี นำอาหารใส่ปากในโอกาสเหมาะสม

ขณะเดียวกัน ไคลน์ตระหนักถึงชายสวมทักซิโดคนหนึ่งที่เอาแต่เดินตามติด

อีกฝ่ายมีเส้นผมสีทอง หวีเรียบไปด้านหลัง หน้าผากค่อนข้างเถิก ตาสีฟ้า ใบหน้าสะอาดสะอ้าน กิริยามารยาทสง่างามแต่เรียบง่าย

ตรงตามภาพถ่าย เลขานุการของท่านนายพล พันโทลัวอาน…

ไคลน์ฝืนตัวเองให้ไม่มองอีกฝ่าย เป็นเช่นนี้ไปจนกระทั่งจบงานเลี้ยง

ออกจากคฤหาสน์นายกเทศมนตรี ไคลน์นั่งรถม้าที่ถูกอารักขาด้วยความปลอดภัยระดับสูงสุด

รถม้าใหญ่โตโอ่อ่า ด้านในมีกระทั่งตู้แช่ไวน์

ลัวอาน เลขานุการผมทอง เดินตามหลังเข้ามาข้างใน เมื่อบูทหนังสัมผัสกับพรมหนา มันหมุนตัวเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามไคลน์

ลัวอานหย่อนก้นนั่งลง กินพื้นที่เพียงหนึ่งในสามของเบาะยาว

เมื่อรถม้าเริ่มเคลื่อนตัว ลัวอานหยิบเอกสารปึกหนาออกจากกระเป๋าหนังสีดำที่มันถือติดตัว

“ท่านนายพล นี่คือเอกสารบัญชีงบดุลของฐานทัพเรือโอลาวีประจำปี 1349”

ไคลน์เหยียดแขนรับกระดาษ พลิกเปิดส่งเดชพลางก้มหน้ากวาดตามอง

อะไรกัน… กระดาษชำระม้วนละหนึ่งปอนด์? เรือนอาบน้ำของฐานทัพเรือมีการปรับปรุงต่อเติมปีละยี่สิบครั้ง?

ไคลน์คำนวณตัวเลขอย่างคร่าว และพบว่าเป็นงบดุลที่เหลวไหลสิ้นดี

เอกสารบัญชีการเงินทางการขนาดนี้ เหตุใดถึงได้คอร์รัปชันอย่างโฉ่งฉ่างนัก? คิดจะโกงกินก็ให้มันมีชั้นเชิงสักนิดไม่ได้หรือ ไม่มีศิลปะในการหาข้ออ้างเบิกเงินแม้แต่น้อย สอนให้เอาไหม…

ไคลน์ครุ่นคิด แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าตนต้องตอบสนองอย่างไร

ตามความเห็นของมัน ปัญหาใหญ่อันดับหนึ่งในการปลอมตัวเป็นนายพลอมิรุสคือลัวอาน

ไม่ใช่ว่านายกเทศมนตรีออสเท่นกับซินเธียไม่สนิทสนมกับอมิรุส เพียงแต่ว่า ถึงสองคนนั้นจะพบความผิดปรกติเกี่ยวกับพลเรือเอก แต่ก็คงยินยอมช่วยปกปิดความลับ และค่อยถามหาคำอธิบายในภายหลัง แต่กับลัวอานนั้นไม่ใช่ มันมาอยู่ที่นี่เพราะถูกส่งจาก MI9 หน้าที่หลักคือการตรวจสอบนายพลอมิรุส·รีเวลต์

แน่นอน ยังตัดประเด็นที่ซินเธียอาจเป็นสายลับออกไปไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังอันตรายต่อไคลน์ไม่เท่าลัวอาน

เราจะทำผิดพลาดไม่ได้… นายพลอมิรุสควรมีท่าทีเช่นไรกับเอกสารโกงกินฉบับนี้ จะโกรธจริง หรือแสร้งทำเป็นโกรธเพื่อกลบเกลื่อน?

ไม่สิ เจ้าหน้าที่ฐานทัพเรือโอลาวีไม่น่าจะโง่เขลาขนาดนั้น หากกล้าส่งเอกสารโกงกินหน้าด้านเช่นนี้ถึงมือนายพล หมายความว่าพวกมันกับนายพลควรรู้เห็นเป็นใจในระดับหนึ่ง…

เนื่องจากเรื่องนี้ไม่มีเขียนไว้ในเอกสารที่บิลต์ส่งให้อ่าน ไคลน์จึงทำได้เพียงตัดสินใจไปตามประสบการณ์

อีกทั้ง ไม่ว่ารายงานงบดุลอันเหลวไหลจากกองทัพเรือโอลาวีจะอยู่นอกเหนือความคาดหมายของอมิรุสหรือไม่ แต่ไคลน์เชื่อว่า พลเรือเอกคนนี้จะตอบสนองอย่างสุขุม ไม่โฉ่งฉ่างออกนอกหน้าและเต็มไปด้วยอารมณ์

เราควรแสดงออกอย่างไรให้สมบทบาทของผู้บังคับบัญชาระดับสูง… นอกจากนั้น เราต้องไม่แสดงจุดยืนในเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีข้อมูลว่านายพลคิดอย่างไรเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน…

ไคลน์ปิดเอกสาร กล่าวกับลัวอาน เลขานุการผมทอง โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“นำไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของผม”

ความนัยของประโยคดังกล่าวคือ ‘ไว้ค่อยอ่านอย่างละเอียดในภายหลัง’ โดยขณะเดียวกัน พฤติกรรมเมื่อครู่ยังสามารถตีความได้สองทาง

ทางแรก หากฐานทัพเรือโอลาวีกระทำโดยพลการ ลัวอานจะตีความได้ว่า อมิรุสกำลังเก็บซ่อนความโมโหไว้ในใจ และรอฟังคำอธิบายโดยตรงจากฐานทัพเรือในภายหลัง

ทางที่สอง หากอมิรุสรู้เห็นเป็นใจ ท่าทีเมื่อครู่จะตีความได้ว่า มันต้องการส่วนแบ่งเพิ่ม และจะเข้าไปเจรจากับฐานทัพเรือในภายหลัง

ส่วนเรื่องที่ว่า คนอื่นอาจนำไปตีความผิดเพราะตนไม่แสดงออกอย่างชัดเจน ไคลน์ไม่แยแสมากนัก เพราะมันปลอมตัวเป็นอมิรุสเพียงไม่กี่วัน หลังจากนั้น ค่อยให้มิสเตอร์ครึ่งเทพมาจัดการกับปัญหาของตัวเอง

ช่วยไม่ได้… ก็ไม่ยอมบอกล่วงหน้า…

ขณะเดียวกัน ภายในใจไคลน์กำลังนึกขอบคุณที่อมิรุสมิใช่ครึ่งเทพของโบสถ์วายุสลาตัน ไม่อย่างนั้น มันคงคิดหนักว่า ตนควรหัวเราะอย่างสะใจ หรือเกรี้ยวกราดพร้อมกับปากระดาษใส่หน้าลัวอาน จากนั้นก็จับเจ้าหน้าที่ของฐานทัพเรือโยนลงทะเลสักคนสองคน

“ขอรับ ท่านนายพล” เลขานุการผมทองไม่เปลี่ยนสีหน้า เอกสารงบดุลถูกเก็บเข้ากระเป๋าหนังสีดำอย่างรวดเร็วประหนึ่งคาดเดาไว้แล้ว

ระหว่างทางที่เหลือ ไคลน์ทำตัวตามนิสัยปรกติของอมิรุส หลับตาลงและเอนหลังพิงเบาะของรถม้า สีหน้าคล้ายครุ่นคิดบางสิ่ง แต่ในความเป็นจริง หัวสมองกำลังว่างเปล่า

ลัวอานไม่กล่าวสิ่งใดตลอดทาง ไม่แม้แต่จะอ้าปากเพียงเล็กน้อย

เสาโคมไฟสีดำสูงเท่าคน แล่นผ่านหน้าต่างรถม้าต้นแล้วต้นเล่า จนกระทั่งห้องโดยสารถูกลากจูงเข้ามาในฐานทัพเรือ เลี้ยวตรงไปยังบ้านหลังหนึ่งที่มีสวนดอกไม้และลานหญ้า

ไคลน์เดินไปหยุดยืนหน้าประตู แม้บ้านรีบเปิดประตูต้อนรับพร้อมกับสาวใช้ที่ยืนเรียงรายสองข้างฝั่ง

ห้องรับแขกของบ้านถูกตกแต่งอย่างหรูหรา บนผนังมีภาพสีน้ำมันแขวนในแนวนอนหลายผืน นอกจากนั้นยังมีรูปปั้นปูนปลาสเตอร์ แจกันลวดลายงดงาม และข้าวของเครื่องใช้ที่ช่วยจรรโลงใจอีกหลายชิ้น กลิ่นหอมเจือจางแต่ติดทนนาน ค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในปอดจนชุ่มฉ่ำ

ไคลน์ที่ควรจะผ่อนคลาย พลันตึงเครียดเมื่อเห็นสาวงามสวมเดรสอยู่บ้านเดินเข้ามาใกล้

อายุราวยี่สิบตอนต้น ผมทองตาฟ้า แววตาคล้ายกำลังเก็บซ่อนบางสิ่ง รูปโฉมงดงามตามแบบฉบับสตรีชนชั้นสูง แต่ยังแฝงกลิ่นอายของเด็กสาวซุกซน

มิใช่ใครนอกจากอนุภรรยาของอมิรุส

มาดามซินเธีย

ไคลน์ฝืนข่มความอึดอัด เปลี่ยนใบหน้าที่เคยเคร่งขรึมของอมิรุสให้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตามด้วยการก็กางแขนกว้าง

ซินเธียโผเข้ากอด ปลายเท้าเขย่งเหยียด แก้มชนแก้มแนบชิด พลางส่งเสียงกระซิบข้างหู

“ท่านนายพล น้ำร้อนในอ่างพร้อมแล้วค่ะ”

ไม่เลว เธอคงส่งคนคอยจับตาสถานการณ์ของงานเลี้ยง… การเป็นภรรยารองก็ไม่ง่ายเหมือนกัน… อมิรุสนอนชอบแช่น้ำอุ่นในอ่าง พลางครุ่นคิดหลายสิ่งอย่างผ่อนคลาย…

เพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่านขณะสองแก้มแนบชิด ไคลน์บังคับสมองให้ใคร่ครวญเรื่อยเปื่อย

ในฐานะมนุษย์เพศชายที่ชื่นชอบสตรี มันควรมีความสุขเมื่อถูกสาวงามพัวพัน แต่ด้วยฤทธิ์ของพันธสัญญาชั่วคราว เลือดลมกลับไม่แล่นลงไปเลี้ยงอวัยวะเบื้องล่าง หัวใจมิได้เต้นระรัวดังกลองศึก มีเพียงความอึดอัดที่ไม่น่าอภิรมย์นัก

“ทำดีมาก” ไคลน์ชมเชย พลางใช้สองมือดันซินเธียออกไปด้วยความรู้สึกต่อต้าน

ซินเธียที่ทราบว่านายพลอมิรุสไม่ชอบแสดงความรักต่อหน้าบ่าวไพร่ รีบถอยหลังหนึ่งก้าว นำทางไคลน์ขึ้นไปชั้นสอง เปิดประตูห้องน้ำพร้อมกับยื่นเสื้อคลุมอาบน้ำให้

เมื่อจัดการเสร็จสรรพ ซินเธียกำชับกับคนรับใช้ว่า ห้ามขึ้นมายังชั้นสองโดยเด็ดขาด นอกจากจะได้ยินเสียงกระดิ่งเรียก จากนั้น เธอรีบกลับเข้าห้องนอนตัวเอง ถอดเดรสอยู่บ้านออก สวมชุดนอนตัวบางเข้าไปแทน

เนินอกถูกเผยมากขึ้น เน้นผิวพรรณสีขาวราวหิมะให้โดดเด่น ใต้คางมีสร้อยคอหนึ่งเส้น ลักษณะคล้ายนอแรดสีดำยาวหนึ่งข้อนิ้ว

ซินเธียถอดสร้อยวางไว้ใต้หมอน เดินออกจากห้องนอนด้วยสีหน้าแดงระเรื่อคล้ายกำลังขวยเขิน ตรงไปทางห้องอาบน้ำของอมิรุส รวบรวมความกล้าบิดกลอนประตูและดันเข้าไป

ครึก.

เธอที่กำลูกบิดค้างไว้ พบว่ากลอนห้องน้ำถูกล็อกตอนไหนก็มิอาจทราบได้

ซินเธียพลันมึนงงเจือสับสน รีบออกแรงบิดอีกสองหนตามสัญชาตญาณ

ครึก. ครึก.

ประตูห้องน้ำแน่นิ่งอยู่เช่นนั้น

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset