Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 601 : ทำตัวเอง

ราชันเร้นลับ 601 : ทำตัวเอง

ณ มิติเหนือสายหมอก ไคลน์เอนหลังพิงเก้าอี้พนักสูง จ้องมองยุบพองหิวโหยโดยไม่กล่าวสิ่งใดเป็นเวลานาน

ในที่สุด มันยังคงเลือกทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ปลดปล่อยดวงวิญญาณของนักจิตบำบัดออกจากถุงมือหนังมนุษย์

ด้านข้างโต๊ะทองแดงยาวพลันปรากฏร่างมายาของคนตัวสูง เธอเป็นสตรี ใบหน้าค่อนข้างพร่ามัว แต่สีหน้าอันเจ็บปวดและบิดเบี้ยวกลับแจ่มชัด

ไคลน์จ้องหล่อนสักพัก ชวนเข้าสู่บทสนทนา

“ยังจำตัวเองได้ไหม”

ท่ามกลางมิติลึกลับ ชายหนุ่มสามารถสื่อสารกับดวงวิญญาณได้โดยตรง

นักจิตบำบัดเริ่มบรรเทาความรู้สึกด้านลบ มุมปากเผยรอยยิ้มขื่นขม

“แน่นอน ยังจำได้ ดิฉันเป็นสมาชิกขององค์กรลับแห่งหนึ่ง เดินทางไปยังเกาะทอสคาร์เตอร์เพื่อเยี่ยมเพื่อนสนิท แต่กลับต้องเผชิญหน้าโจรสลัดระหว่างทาง แม้ฉันจะใช้พลังของตัวเองเอาตัวรอดมาได้ แต่โจรสลัดที่หนีไปกลับคาบข่าวไปบอกคีลิงเกอร์ เพื่อที่จะช่วงชิงพลังของฉัน มันถึงกับยอมเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ ซุ่มโจมตีเรือของพวกเรา คุณคงเดาเหตุการณ์หลังจากนั้นได้ไม่ยาก แต่ต้องขอบคุณในความไม่ประมาทของมัน คีลิงเกอร์ฆ่าฉันทันที จึงไม่ต้องเผชิญความทุกข์ทรมานที่เลวร้ายไม่ต่างจากตายทั้งเป็นเหมือนกับผู้โดยสารหญิงคนอื่น”

ไคลน์เงียบงัน พยักหน้ารับอ่อนโยน

“รู้จักหนังสือโบราณที่ชื่อการเดินทางของกรอซายไหม”

ชายหนุ่มเชื่อว่า ในเมื่อการเดินทางของกรอซายถูกเขียนโดยตระกูลมังกร โอกาสที่นักจิตบำบัดจะเคยได้ยินชื่อก็ไม่เป็นศูนย์

นักจิตบำบัดสาวครุ่นคิดอย่างจริงจัง ตามด้วยการส่ายหน้าแผ่วเบา

“ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนั้น”

ไคลน์ไม่ซักไซ้ประเด็นเก่า เปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นแทน

“คุณกำลังจะสลายไป ได้รับอิสรภาพอันเป็นนิรันดร์ มีความปรารถนาสุดท้ายเหลืออยู่ไหม”

นักจิตบำบัดก้มหน้าครุ่นคิด หัวเราะเบาๆ

“อยากคืนชีพอีกสักครั้ง… แต่ดิฉันทราบดีว่าความปรารถนาดังกล่าวคงไม่มีวันเป็นจริง ตอนนี้ไม่เหลือสิ่งใดให้ค้างคาใจอีกแล้ว ผ่านมาก็นาน ครอบครัวและเพื่อนสนิทคงได้รับข่าวการตายกันถ้วนหน้า หากต้องทราบข่าวสะเทือนใจซ้ำอีกหน เกรงว่าจะเกิดความเจ็บปวดขึ้นโดยไม่จำเป็น ขอบคุณมาก ดิฉันไม่ต้องการอะไรแล้ว”

ร่างกายหญิงสาวเลือนรางลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสลายไปโดยสมบูรณ์ เหลือทิ้งไว้เพียงผลึกดวงตาสีทองขนาดใหญ่ ผลึกที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงจิตใจมนุษย์ทุกคน

นี่คือตะกอนพลังของนักจิตบำบัด

ไคลน์ถอนหายใจยาว ครุ่นคิดเกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อยระหว่างคำพูดของหญิงสาว

“เธอถ่อไปถึงเกาะทอสคาร์เตอร์เพียงเพื่อพบเพื่อนสนิท เป็นการเดินทางตามลำพัง ไม่มีญาติคนใดไปด้วยกัน เกาะทอสคาร์เตอร์ตั้งอยู่สุดเขตตะวันออกของทะเลโซเนีย ถูกล้อมกรอบด้วยหมู่เกาะการ์กัสทั้งทิศเหนือและใต้ เกาะดังกล่าวเป็นอาณานิคมทางทะเลที่ไกลที่สุดของอาณาจักรโลเอ็น โดยที่หมู่เกาะการ์กัสเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิฟุซัค… ต้องเป็นเพื่อนแบบใดกันถึงอาศัยบนเกาะทอสคาร์เตอร์… แล้วคุ้มค่ากับการถ่อไปไกลถึงเพียงนั้นจริงหรือ… ถึงเธอมิได้เอ่ยชื่อองค์กรลับ แต่ก็มีโอกาสเป็นสมาคมแปรจิตมากทีเดียว และนี่อาจเป็นภารกิจลับบางอย่าง…”

ไคลน์ตัดสินใจเคารพผู้ตาย หยุดการขุดคุ้ยความลับของอีกฝ่าย คำถามในสมองจบลงเพียงเท่านี้ เปลี่ยนประเด็นไปคิดถึงเรื่องอื่นแทน

หลังจากสังหารนักเจรจา·มีซอร์·คิง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด แต่เราก็ต้องรีบย้ายออกจากบายัมโดยเร็ว… ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เราก่อเรื่องภายในเมืองแห่งการให้ไปไม่น้อย…

อา… คงต้องเข้าร่วมชุมนุมลับอีกสักสองสามแห่งดูก่อน ยืนยันให้แน่ใจว่าเมืองนี้ไม่มีวัตถุดิบหลักของโอสถนักเชิดหุ่น จึงค่อยย้ายออกเป็นการถาวร…

ไคลน์คิดไวทำไว สร้างฉากเดอะเวิร์ลกำลังสวดวิงวอนโดยมีสายหมอกสีเทารายล้อมรอบทิศ ส่งเข้าไปในดาวแดงตัวแทนจัสติส

ออเดรย์บนระเบียงชั้นสามกำลังมองออกไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง หลังคาบ้านส่วนใหญ่ในละแวกดังกล่าวเป็นสีของอิฐแดง จงใจเลียนแบบให้เกิดเป็นลวดลายเกล็ดมังกร

ทันใดนั้น ทัศนียภาพรอบตัวหญิงสาวพลันถูกปกคลุมด้วยสายหมอกสีเทาที่คุ้นเคย

ท่ามกลางกลุ่มหมอกหนา ชายคนหนึ่งกำลังสวดวิงวอนต่อเทพอย่างศรัทธา

“มิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ช่วยแจ้งให้มิสจัสติสทราบด้วยว่า ผมพร้อมทำการแลกเปลี่ยนแล้ว”

พร้อมแลกเปลี่ยน? หมายความว่าเขาหาตะกอนพลังของนักจิตบำบัดได้แล้ว…

แต่เมื่อวานยังไม่มีอยู่เลย…

การลงมืออันฉับไวของเดอะเวิร์ลทำให้หญิงสาวเริ่มเกิดความหวาดกลัว ยืนเหม่อลอยจนเกือบลืมขอบคุณมิสเตอร์ฟูล

น่าทึ่งมาก…

เธอมิได้เป็นหญิงสาวไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกอีกต่อไป เคยเห็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่มาไม่น้อย สติจึงคืนความสุขุมได้รวดเร็ว

ออเดรย์ขอบคุณเดอะฟูลจากก้นบึ้ง และฝากไปถึงมิสเตอร์เวิร์ลว่า ขอเวลาอีกสักสองสามวัน เพราะตนต้องชำระเงินที่ติดค้างกับข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูลให้ครบเสียก่อน

จริงอยู่ เธออาจมีเงินในมือมากเพียงพอ แต่ก็ต้องกันไว้ใช้ในยามฉุกเฉินส่วนหนึ่ง ไม่อย่างนั้น คนรอบตัวอาจพบความผิดปรกติ

รอจนกระทั่งหมอกมายาเลือนหาย หญิงสาวก้มหน้าลงไปมองซูซี่ที่กำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานภายในสวนชั้นล่าง

ออเดรย์เดินกลับเข้าห้อง พึมพำกับตัวเอง

“มิสเตอร์เวิร์ลน่ากลัวจัง…”

ตกเย็น ณ ผับสายหร่ายทะเล

เนตรสีฟ้า·มีธที่เพิ่งนำเงินไปถลุงกับบ่อนพนัน นั่งลงหน้าเคาน์เตอร์ สั่งเแลงติร้อนแรงดื่ม

ขณะเตรียมยกแก้วซด บาร์เทนเดอร์พลันหรี่เสียงลงและกระซิบ

“นักเจรจา·มีซอร์ตายแล้ว”

“งั้นหรือ… ฝีมือใคร?” เนตรสีฟ้า·มีธประหลาดใจในตอนต้น จากนั้นก็ถามด้วยสีหน้าเจือความคาดหวัง “มีใครกล้าท้าทายพลเรือโทโรคภัยด้วยหรือ…”

“นักผจญภัยนามว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์ ไม่เคยมีชื่อเสียงมาก่อน ใครจะไปคิดว่ามีซอร์จะถูกฆ่าโดยคนแบบนั้น!” บาร์เทนเดอร์ไม่เก็บซ่อนสีหน้าหวาดหวั่น “แถมหมอนั่นยังฆ่าโอซิล บอสใหญ่ตัวจริงแห่งผับใบไม้หอม ชายฉกรรจ์·โอซิล!”

เนตรสีฟ้า·มีธที่เตรียมจะกล่าวบางสิ่ง พลันขมวดคิ้วกะทันหัน

ช่วงเช้าของวันนี้ โอซิลส่งคนมาถามมันเกี่ยวกับเบาะแสของเพลิงพิโรธ·เดนิส มีธแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอีกฝ่าย เล่าว่าสรั่งเรือลำดับสี่แห่งฝันทองคำไปไหนมาไหนกับนักผจญภัยปริศนา และด้วยความช่วยเหลือจากพิธีกรรม มันทำการวาดภาพเหมือนส่งให้อีกฝ่าย

โอซิลตาย… มีซอร์·คิงตาย… ถูกฆ่าโดยนักผจญภัยหน้าใหม่นามว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์…

ฝ่ามือของเนตรสีฟ้า·มีธพลันสั่นระริก ภายในใจหวนนึกถึงภาพที่ตนวาดส่งให้โอซิล

สุภาพบุรุษหนุ่มลึกลับคนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าทางเข้าผับ ผมสีดำ ตาสีน้ำตาล ใบหน้าผอมเพรียว สัดส่วนคมชัด คอยสำรวจแขกที่เดินผ่านเข้าออกร้าน คล้ายกับกำลังมองหาเหยื่อ

คิดมาถึงจุดนี้ ร่างกายเนตรสีฟ้า·มีธพลันสั่นเทาไปทุกส่วน ล้มเลิกความคิดที่จะดื่มของเหลวในแก้ว เหยียดตัวยืนตรง รีบจ้ำออกจากผับ

น่ากลัวเกินไป… เจ้านั่นเป็นสัตว์ประหลาด! แม้แต่นักเจรจา·มีซอร์ก็ยังเสร็จมัน ต้องมีฝีมือระดับเดียวกับพลเรือโจรสลัดแน่! ป่านนี้คงกำลังตามล่าตัวเราเพื่อหวังปิดปาก… ไม่ได้การ! เราอยู่ในบายัมไม่ได้แล้ว ต้องรีบกลับเรือ ออกห่างจากที่นี่ให้ไกลที่สุด!

เนตรสีฟ้า·มีธรีบตรงดิ่งไปทางโรงละครแดง ลากตัวพวกพ้องออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจ รวมกลุ่มกันเข้าไปในป่าลึกนอกเขตเมือง เดินวกวนสักพักจนกระทั่งถึงท่าเรือลับที่กลุ่มต่อต้านเป็นเจ้าของ

ร้านสมุนไพรในตรอกเยื้องกับโรงละครแดงยังคงเปิดบริการตามปรกติ นักปรุงยาอ้วน ดัควีลล์ กำลังนั่งหลังเคาน์เตอร์คิดเงิน สีหน้าสุขุมเยือกเย็นภายนอก แต่ในใจกำลังกระวนกระวาย

มันหาทางติดต่อกับสมาชิกของโรงเรียนชีวิตโดยใช้เกือบทุกวิธีที่รู้จัก ร้องขอความช่วยเหลือตามสมควร แต่ก็มิอาจทราบได้ว่าใครจะมาช่วย และมาตอนไหน ทำได้เพียงอดกลั้นความกลัว เปิดร้านต่อไป แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ดัควีลล์ เจ้ากำลังงุ่นง่าน” นกฮูกอ้วนบินโฉบจากท้องฟ้า ร่อนลงบนเคาน์เตอร์

“ไม่ต้องย้ำ… ฉันตระหนักถึงสภาพจิตใจของตัวเองได้ดีกว่าใคร” ดัควีลล์โบกมืออย่างหัวเสีย

มันยังคงจดจำคำสอนของอาจารย์ได้แม่นยำ ‘จงระวังหน่วยพิเศษของทางการและกลุ่มผีดูดเลือดตัวจริงให้ดี’ นอกเหนือจากนั้น รอย·คิงยังยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากถูกกลุ่มดังกล่าวจับตัว มีทั้งการถูกคุมขังในคุกใต้ดินตลอดกาล หมดโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวันตลอดชีวิต ไม่ได้พบสตรี กลายเป็นหนูทดลอง ร่างกายถูกใช้เพื่อทดสอบผลข้างเคียงของสมบัติปิดผนึกบางชิ้น รวมถึงการทดลองอีกหลายสิ่ง หรืออาจถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่พึ่งพาเพียงสัญชาตญาณ ถูกผีดูดเลือดกลืนกินจิตใจ กลายเป็นแค่หุ่นเชิด

ภาพจำดังกล่าวฝังลงในสมองนักปรุงยาอ้วน ความกล้าที่เคยมีเพียงน้อยนิดได้อันตรธานหายไปโดยสมบูรณ์ หลังจากแยกกับอาจารย์ ดีควีลล์แทบไม่เคยแช่อยู่ในเมืองใดนาน หากพบความเสี่ยงแม้เพียงเล็กน้อยก็จะรีบย้ายที่อยู่ทันที

มันพยายามข่มอารมณ์หวาดหวั่น สมาธิถูกนำไปใช้คิดหาวิธีช่วยเหลืออาจารย์

“ตาแก่น่าจะถูกจับตัวไปนานแล้ว แต่ทำไมถึงยังถูกขังอยู่ที่จวนนายกเทศมนตรีอีก… ด้วยขีดความสามารถของกองทัพ ความลับควรถูกรีดออกไปจนหมดแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นการถูกประหาร ฆ่าเพื่อช่วงชิงตะกอนพลัง หรือใช้เป็นหนูทดลองสมบัติปิดผนึก ตาแก่ก็ควรถูกย้ายไปสำเร็จโทษที่อื่น มิใช่ในจวนนายกเทศมนตรี…”

ตาแก่อาจมีเทคนิครักษาความลับเป็นเลิศ… หรือไม่ก็ พวกมันต้องการเก็บไว้เป็นสายข่าว…

เดี๋ยวสิ…!

ดัควีลล์พลันเกาหัวแกร่ก ขอบเขตความคิดเริ่มขยายกว้าง

ทีละเล็กละน้อย มันหวนนึกถึงรายละเอียดในจดหมายฉบับสุดท้ายจากรอย·คิง

“ตาแก่มีนิสัยชอบบอกใบ้ในจุดที่คาดไม่ถึง หรือว่าจดหมายฉบับนั้นจะมีเบาะแสเขียนไว้…? แต่จดหมายมิได้กล่าวถึงเรื่องใดเป็นพิเศษ เพียงนัดหมายให้เรามาพบใกล้กับโรงละครแดง รวมถึงการโอ้อวดเกี่ยวกับฝีมือนักพนัน เฮ่อะ! ฝีมืออะไรกัน การพนันขึ้นอยู่กับดวงเพียงอย่างเดียวไม่ใช่รึไง… หืม… เขายังบอกให้เราแวะไปยังร้านขายของชำ ‘มาร์เบล’ บนถนนเอ็นมาร์ทเพื่อซื้อลูกเต๋าหนึ่งลูก ไว้สำหรับเรียนเทคนิคการพนันจากเขา… เราคิดมาตลอดว่าเดี๋ยวค่อยซื้อหลังจากได้พบกันก็คงไม่สาย จึงไม่เคยไปที่นั่นเลยสักครั้ง… กำลังจะบอกว่าร้านนั้นมีความลับซ่อนอยู่?”

ดัควีลล์เค้นสมองนึกหาทางออกราวกับคนกำลังจะจมน้ำตาย

โดยทั่วไปแล้ว ถนนหลายสายของบายัมจะถูกตั้งชื่อตามเมืองสำคัญของโลเอ็น

ดัควีลล์ใช้เวลานานหลายนาทีเพื่อรวบรวมความกล้า ปิดร้านสมุนไพร เดินออกมายังถนนพร้อมกับนกฮูกอ้วน

ขณะยืนรอรถม้า มันซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่จากเด็กส่ง กวาดตาอ่านข่าวภายในและภายนอกเกาะด้วยท่าทางเบื่อหน่าย

ทันใดนั้น มันได้พบใบหน้าอันคุ้นเคย เป็นภาพของนักผจญภัยคนที่แจ้งเบาะแสว่ารอย·คิงถูกจับขังในจวนนายกเทศมนตรี

“เกอร์มัน·สแปร์โรว์ ลงมือสังหารมีซอร์·คิงยามกลางวันแสก ส่งผลให้โจรสลัดเจ้าของเงินค่าหัวห้าพันสี่ร้อยปอนด์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ… นี่เราจ้างให้นักผจญภัยที่แข็งแกร่งขนาดนั้นช่วยทำงานหาเบาะแส…” ดัควีลล์โพล่งเสียงดัง

แต่เพียงไม่นานก็ขจัดความคาใจ รีบขึ้นรถม้าเช่าตรงไปยังถนนเอ็นมาร์ท ตามหาร้านขายของชำมาร์เบลจนพบ

เจ้าของร้านเป็นหญิงชราใจดี เธอมองสำรวจดัควีลล์หัวจรดเท้าและกล่าว

“ลูกเต๋าที่คุณต้องการมีราคาหนึ่งปอนด์”

คิดจะปล้นกันรึไงวะ!

ดัควีลล์สบถในใจ แต่นั่นยิ่งทำให้มันมั่นใจว่าลูกเต๋าดังกล่าวคือเบาะแส

หลังจากควักเงินจ่าย มันรับกล่องแหวนขนาดเล็กมาถือ เปิดฝาสำรวจ พบลูกเต๋าสีขาวนมสดหนึ่งลูก มีหกด้านตามมาตรฐาน กำลังเผยด้านที่มีสี่จุดสีแดงไว้ข้างบน

แม้จะสงสัยในหลายประเด็น ทั้งความธรรมดาของลูกเต๋า และเรื่องที่มันถูกยัดลงในกล่องขนาดพอดิบพอดี แทบไม่มีช่องว่างเว้นไว้ให้ขยับ แต่ดัควีลล์ตัดสินใจไม่ยืนตรวจสอบทันที เก็บใส่กระเป๋าเสื้อ เดินตรงไปยังอีกฝั่งของถนน

รอจนกระทั่งมาถึงจุดอับสายตา มันอดใจไม่ไหวที่จะเปิดฝาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าไม่มีสิ่งผิดปรกติกับลูกเต๋า

ทันใดนั้น รถม้าลึกลับแล่นผ่านหลังไปด้วยความเร็วสูง ดัควีลล์พลันสะดุ้ง รีบสะบัดข้อมืออย่างลนลาน ทำลูกเต๋าหล่นตกพื้น

ลูกเต๋ากลิ้งกุกกัก จนกระทั่งหยุดแน่นิ่งบนพื้นถนนโดยหงายจุดสีแดงหนึ่งจุดขึ้นด้านบน

ดัควีลล์หันไปสบถด่าคนขับรถม้าอย่างหยาบคาย ตามด้วยการย่างกรายเข้าใกล้ลูกเต๋า เตรียมหยิบมันขึ้นมา

ขณะกำลังเดิน ร่างกายเกิดเสียหลักกะทันหันโดยที่รอบตัวไม่มีอุปสรรคใดเลย นักปรุงยาอ้วนล้มฟุบไปบนพื้นพร้อมกับเกิดอาการวิงเวียน

มันหมดคำจะกล่าวเป็นเวลานาน นอนแน่นอนนิ่งอยู่เช่นนั้น ด้านหน้ามองเห็นเพียงลูกเต๋าสีขาวนมสด

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset