Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1062 : ‘การสอน’ ออนไลน์

ไคลน์ชำเลืองเลียวนาร์ดพลางยิ้ม

“เป้าหมายไม่ใช่ครึ่งเทพ แต่พวกเขาสามารถ ‘อาศัยอยู่’ มาจนถึงปัจจุบันได้ด้วยอิทธิพลบางอย่าง และนั่นยังเป็นความลับที่ผมเองก็อยากไขให้กระจ่างผ่านความฝัน”

มันจงใจเน้นคำว่า ‘อาศัยอยู่’

โดยไม่รอคำตอบจากเลียวนาร์ด ไคลน์เสริม

“ขุนนางจากยุคสมัยที่สี่รายนี้ก็เป็นสมาชิกของตระกูลโซโรอาสเตอร์ คุณสามารถใช้ความฝันของเขาเพื่อศึกษาเกี่ยวกับพาลีส”

ทายาทของตาแก่… เลียวนาร์ดเริ่มใจเต้นและตั้งตารอสิ่งที่ไคลน์จะเล่าถัดไป

แม้ว่ามันจะเข้ากันได้ดีมากกับพาลีส·โซโรอาสเตอร์และไว้วางใจเทวทูตรายนี้ในระดับหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความระแวงเล็กๆ เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นเพียงคนนอกที่เข้ามาอาศัยอยู่ในร่างกาย

“อย่าเพิ่งเล่าเรื่องนี้ให้พาลีส·โซโรอาสเตอร์ฟัง” ไคลน์เสริมทันที

ในสายตานายฉันเป็นคนไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเชียว? เลียวนาร์ดพึมพำในใจพลางตอบ

“ไม่ต้องบอกก็รู้”

เมื่อเห็นว่าเลียวนาร์ดให้ความร่วมมือ ไคลน์ยิ้ม

“อย่าลืมส่งเลือดของคุณมาให้ผมสักสองสามหยด สิ่งนี้จำเป็นต่อภารกิจสำรวจความฝัน”

ชายหนุ่มมิได้แจ้งว่าต้องส่งเลือดมาทางไหน เพราะเลียวนาร์ดมีมากถึงสองวิธีในใจ หนึ่งคือการสังเวยไปให้มิสเตอร์ฟูลและส่งผ่านมาถึงมือเดอะเวิร์ล ส่วนอีกหนึ่งคือการบรรจุใส่ขวดและวานให้ผู้ส่งสารที่ยังไม่ทราบต้นกำเนิดส่งมาพร้อมกับจดหมาย

“เลือด…” เลียวนาร์ดทวนคำโดยไม่รู้ตัว

ในโลกของศาสตร์เร้นลับ เลือดของคนคนหนึ่งคือสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เป็นการดีที่สุดที่จะไม่ส่งเลือดของตัวเองให้ใคร ไม่อย่างนั้นอาจเผชิญความตายโดยไม่รู้ตัว และในบางกรณีความตายก็ไม่ใช่จุดจบที่เลวร้ายที่สุด

หลังจากลังเลสักพัก เลียวนาร์ดพยักหน้า

“จะเริ่มสำรวจเมื่อไร?”

ไคลน์ตอบทันทีประหนึ่งคาดเดาไว้แล้ว

“คืนวันอาทิตย์… ใกล้เที่ยงคืน”

มันต้องการให้มิสจัสติสทำความคุ้นเคยกับพลังวิญญาณและเรียนรู้วิธีการใช้พลังใหม่ให้คล่อง

“ตกลง” เลียวนาร์ดไม่กล่าวสิ่งใดต่อ

ถัดมาไคลน์อธิบายศาสตร์แห่งวาทศิลป์อย่างชำนาญเพื่อช่วยให้นักกวีเพื่อนรักมีข้ออ้างกลบเกลื่อนคุณปู่ปรสิตหลังจากกลับไป

เมื่อกลับมายังโลกแห่งความจริง ขณะเลียวนาร์ดเรียบเรียงคำพูดในหัว เสียงค่อนข้างชราของพาลีส·โซโรอาสเตอร์ดังขึ้น

“ทำไมอดีตเพื่อนร่วมงานของเจ้าต้องนัดพบกะทันหัน? หรือว่ามีสิ่งที่อธิบายในจดหมายไม่ได้?”

เลียวนาร์ดเปลี่ยนท่านั่งพลางหัวเราะในลำคอ

“เขากังวลว่าเนื้อความในจดหมายอาจรั่วไหล เพราะอาจมีบางสิ่งที่เกี่ยวพันกับท่านผู้นั้น”

แน่นอนว่าคนที่ไคลน์ระแวงคือคุณ… สิ่งที่ผมเห็นก็เท่ากับสิ่งที่คุณเห็น… ยังไม่ทันสิ้นเสียง เลียวนาร์ดรำพันในใจทันที

“ท่านผู้นั้น…” คล้ายกับพาลีส·โซโรอาสเตอร์เข้าใจว่าหมายถึงใคร

“ใช่” เลียวนาร์ดหยิบแก้วบนโต๊ะขึ้นมากระดกดื่มเบียร์คำใหญ่ “เขาบังเอิญได้พบกับนักบวชคนหนึ่งที่มาจากยุคสมัยที่สาม จึงหวังว่าจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านความฝัน”

สิ่งที่เลียวนาร์ดกล่าวคือความจริง แต่เป็นความจริงเพียงส่วนเดียว นี่คือศาสตร์แห่งวาทศิลป์ที่ไคลน์พยายามสอน

“นักบวชจากยุคสมัยที่สาม? เขายังมีชีวิตอยู่หรือ?” พาลีส·โซโรอาสเตอร์ซักถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

แน่นอนว่าพาลีสมิได้ตื่นตระหนักมากนัก เพราะสำหรับวิธีการเอาตัวรอดจากยุคสมัยที่สามมาจนถึงปัจจุบัน แม้ตัวมันจะนึกได้ไม่ถึงร้อยวิธี แต่ก็ไม่ต่ำกว่าห้าหกแน่นอน วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขโมยอายุขัยหรือชีวิตของผู้อื่นมาเรื่อยๆ

“ดูเหมือนว่าจะยังมีชีวิตอยู่… แต่ในสถานะพิเศษ” เลียวนาร์ดอธิบายเท่าที่มันรู้

พาลีส·โซโรอาสเตอร์เงียบไปสองวินาทีก่อนจะหัวเราะแห้ง

“แบบนี้นี่เอง… ถ้าอย่างนั้นข้าคงทำได้เพียงอวยพรให้เจ้าไม่เห็นในสิ่งที่ไม่ควรในความฝัน แน่นอนว่าอดีตเพื่อนร่วมงานของเจ้าต้องถูกคุ้มครองโดยพรแห่งการปกปิด คนที่ต้องระวังจึงมีเพียงตัวเจ้า”

เลียวนาร์ดไม่ตอบสนองในหัวข้อดังกล่าว รีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

“ตาแก่ มีคำถามที่อยากรู้บ้างไหม? เช่นเทพแท้จริงในยุคสมัยที่สามเป็นอย่างไร หรือสาเหตุของมหาภัยพิบัติ?”

นี่คืออีกหนึ่งศาสตร์แห่งวาทศิลป์ที่ไคลน์สอน เมื่อเป็นฝ่ายถูกถามในเรื่องที่เสียเปรียบ จงชิงถามแทนในเรื่องที่ได้เปรียบ

“ข้าพอจะเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้คร่าวๆ” พาลีส·โซโรอาสเตอร์ตอบพลางถอนหายใจและพ่นลม “วันนี้เจ้าพยายามทำตัวเป็นคนชักนำบทสนทนามากเป็นพิเศษ แตกต่างจากนิสัยเก่าๆ โดยสิ้นเชิง แปลว่าเจ้าคงมีความลับสักหนึ่งถึงสองเรื่องที่ปิดบังข้าไว้… ไม่เลวทีเดียว เป็นพัฒนาการที่น่าสนใจ เพราะอย่างน้อยข้าก็ไม่ทันสังเกตเห็นในตอนแรก”

สีหน้าเลียวนาร์ดพลันแข็งทื่อ

พาลีสหัวเราะแห้งทันที

“เห็นไหม… แค่ข้าแหย่นิดเดียวเข้าก็เผยไต๋ทันที… ยังขาดประสบการณ์อีกมาก… อดีตเพื่อนร่วมงานของเจ้านี่ช่าง… หึ”

เลียวนาร์ดทำได้เพียงหัวเราะแห้งกลับไป จากนั้นก็วางแก้วลงและโน้มตัวไปด้านหน้า หยิบมีดเงินสำหรับประกอบพิธีกรรมขึ้นมาเฉือนให้เกิดบาดแผลและปล่อยให้เลือดไหลสองสามหยด

ในเวลาเดียวกัน ณ คฤหาสน์ของเอิร์ลฮอลล์ ออเดรย์ซึ่งกำลังถือมีดเลี่ยมอัญมณีและเตรียมรักษาสัญญากับเดอะเวิร์ลที่ระบุจะช่วยเหลือหนึ่งครั้ง ทำการกดคมมีดลงไปบนหลังมือ

“ไม่เจ็บเลยสักนิด… ไม่เจ็บเลยสักนิด…” ขณะออกแรงเปิดแผล ออเดรย์สะกดจิตตัวเองให้ไม่เจ็บ

ในสภาพปัจจุบัน หากออเดรย์ต้องการสร้างแผลให้ตัวเอง เธอต้องออกแรงมากถึงระดับหนึ่ง ต่อให้ไม่สร้างเกล็ดมังกรขึ้นมาปกป้องก็ตาม

คืนวันอาทิตย์ หลังจากเข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำ ไคลน์เดินทางกลับมายังบ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน เตรียมนอนเร็วกว่ากำหนดโดยอ้างว่าเพลีย

หลังเที่ยงคืน ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงและประกอบพิธีกรรมอัญเชิญตัวเอง

หลังจากจัดการหลายๆ สิ่งเสร็จ ไคลน์นั่งลงบนเก้าอี้ของ ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ ปัจจุบันยืนยันได้ว่าหากตนยกเลิกการอัญเชิญ ระดับพลังอำนาจของมิติหมอกจะช่วยดึงร่างวิญญาณของมันออกจาก ‘การเดินทางของกรอซาย’ ได้ทันที

ด้านหน้ามันมีขวดเลือดสามขวดและหน้ากากสีเงินวางอยู่

สามขวดดังกล่าวบรรจุเลือดของไคลน์ ออเดรย์ และเลียวนาร์ด ส่วนหน้ากากเงินคือสิ่งที่มิสจัสติสสังเวยขึ้นมาล่วงหน้าเนื่องจากทราบว่ามิสเตอร์สตาร์จะเข้าร่วมการสำรวจด้วย จึงต้องการสวม ‘คำลวง’ เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริง

หลังจากตรวจสอบสักพักจนมั่นใจ ไคลน์เสกสมุดปกแข็งสีน้ำตาลเข้ม ‘การเดินทางของกรอซาย’ ออกจากกองขยะและลอยมาวางแน่นิ่งบนโต๊ะทองแดงยาว ขณะเดียวกันก็สอดไม้กางเขนเจิดจรัสเข้าไปในร่างกาย

ถัดมามันถึง ‘จัสติส’ ออเดรย์และ ‘เดอะสตาร์’ เลียวนาร์ดขึ้นมายังมิติเหนือสายหมอก

เสาลำแสงสีแดงสองต้นปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างที่พร่ามัว

ออเดรย์และเลียวนาร์ดต่างจ้องไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวฝั่งตรงข้ามประธานและตรวจสอบวัตถุตรงหน้าเดอะเวิร์ล

จากนั้นความสนใจก็มุ่งมายังหนังสือเล่มเก่าแก่

ออเดรย์กลอกตาเล็กน้อยก่อนจะถาม

“การสำรวจของพวกเรามีความเกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้?”

“ถูกต้อง เป้าหมายของเราอยู่ภายในหนังสือ” ไคลน์ตอบด้วยรอยยิ้ม

“ภายในหนังสือ?” เลียวนาร์ดถามด้วยความประหลาดใจ

แม้มันจะเป็นถุงมือแดงที่มีโอกาสได้อ่านแฟ้มคดีพิสดารมากมาย แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีวิธีสื่อสารกับตัวละครในหนังสือ

ไคลน์พยักหน้า

“ถูกต้อง เจ้านี่คือหนังสือเวทมนตร์ที่ด้านในเป็นโลกซึ่งถูกจินตนาการขึ้น… สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกดังกล่าวได้กลายมาเป็นเนื้อหาของหนังสือ”

“ถูกจินตนาการขึ้น?” ออเดรย์จับคำสำคัญได้ทันที

เธอเพิ่งได้ทราบจากเดอะเวิร์ลเมื่อสองสามวันก่อนว่า ลำดับ 0 ของเส้นทางผู้ชมคือ ‘นักสร้างฝัน’ และยังไม่ลืมว่าราชาแห่งมหามังกร หนึ่งในเทพบรรพกาล แอนเคอร์เวลมีสมญานามว่ามังกรจินตภาพ

หลังจากเรียบเรียงคำพูดสักพัก ไคลน์กล่าว

“คำอธิบายของผมอาจไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะมันเป็นได้ทั้งโลกที่ถูกจินตนาการขึ้นและโลกความฝันแท้จริง… สิ่งเดียวที่รับประกันได้ก็คือมันถูกสร้างโดยเทพบรรพกาลจากยุคสมัยที่สองนามว่า ‘มังกรจินตภาพ’ แอนเคอร์เวล… ผมได้รับสิ่งนี้มาจากพลเรือโทธารน้ำแข็ง”

มรดกจากเทพบรรพกาล… เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงทำให้ยักษ์และเอลฟ์จากยุคสมัยที่สอง นักบวชจากยุคสมัยที่สาม ขุนนางจากยุคสมัยที่สี่ และทหารโลเอ็นจากยุคสมัยที่ห้าดำรงชีวิตอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน… เลียวนาร์ดพลันกระจ่างและอดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่า หลังออกจากเมืองทิงเก็น ไคลน์ต้องเผชิญประสบการณ์แบบใดมาบ้าง

ในเวลาเดียวกันไคลน์มองไปรอบๆ พร้อมกับผลักหน้ากากคำลวงไปหามิสจัสติส

“เข้าไปกันเถอะ”

“ตกลง” ออเดรย์สวมหน้ากาก

เลียวนาร์ดมองซ้ายมองขวาและพยักหน้า

“ตกลง”

ไคลน์นำขวดโลหะบรรจุเลือดออกมาเทและป้ายลงบนปก ‘การเดินทางของกรอซาย’

เลือดมีไว้เพื่อสิ่งนี้… ขณะเกิดความคิดดังกล่าว ทัศนวิสัยของออเดรย์พลันแปรเปลี่ยนเป็นพายุหิมะสีขาวโพลน

ท่ามกลางเกล็ดหิมะเม็ดใหญ่และลมหนาวที่กัดเซาะ ใกล้ๆ กันมีเมืองซึ่งกำแพงชั้นนอกสูงกว่าสิบห้าเมตรอยู่ห่างออกไปไม่ไกล แม้แต่องครักษ์ในชุดเกราะหนังที่เข้าเวรเฝ้ายามก็ยังต้องเข้าไปหลบในจุดอับลม ตราบใดที่ไม่มีคาราวานพ่อค้าแวะผ่านมา มันก็จะไม่เข้าไปกีดขวางการเข้าออกของคนธรรมดา

“ที่นี่คือ… โลกที่ถูกจินตนาการขึ้นโดยสมบูรณ์… สมจริงมาก” เลียวนาร์ดมองไปรอบๆ ก่อนจะเหยียดแขนออกไปคว้าเกล็ดหิมะขนาดใหญ่ มันสัมผัสถึงความเย็นสักพักจนกระทั่งเกล็ดหิมะละลายกลายเป็นน้ำ

หลังจากตรวจสอบสภาพแวดล้อมเสร็จ เลียวนาร์ดเพิ่งตระหนักถึงบางสิ่ง ไคลน์ยังคงรักษาภาพพจน์เย็นชาด้วยตัวตนเกอร์มัน·สแปร์โรว์ ส่วนมิสจัสติสก็สวมหน้ากากเงินปกปิดครึ่งบนของใบหน้า เผยให้เห็นเพียงปาก เส้นผมสีทอง และดวงตาสีเขียวมรกตจนยากจะทราบตัวตนที่แท้จริง

มีเพียงมันที่ไม่ได้ปลอมตัว

นี่คือนิสัยของผู้วิเศษทางการ พวกมันล้วนออกปฏิบัติการอย่างสง่าผ่าเผยและไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน

มิสเตอร์สตาร์เป็นคนง่ายๆ อย่างที่คิด เขาจัดแต่งทรงผมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น… ช่างน่าเสียดาย ไม่อย่างนั้นด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้ การเป็นนายแบบบนนิตยสารคงไม่ใช่เรื่องยากเย็น… ในฐานะสตรีสูงศักดิ์ที่เคยพบเจอบุรุษรูปงามมานับไม่ถ้วน ออเดรย์จ้องหน้าพอเป็นพิธีและถอนสายตากลับโดยไม่เสียมารยาท

ไคลน์หัวเราะในใจก่อนจะชี้ไปทางเมืองท่ามกลางพายุหิมะ

“เป้าหมายแรกของเราคือนักบวชจากยุคสมัยที่สาม… มิสเตอร์สโนวมัน”

ชายคนนี้มีแนวโน้มสูงที่จะเชื่อมต่อกับอามุนด์และพี่ชาย!

ตามแผนของไคลน์ หลังจากสโนวมันจะเป็นคิวของขุนนางจากยุคสมัยที่สี่ โมเบธ นั่นเพราะคนยักษ์กรอซายและเอลฟ์เซียธาสมีแนวโน้มสูงที่จะข้องเกี่ยวกับเหตุไม่คาดฝัน ดังนั้นจึงต้องเก็บไว้ท้ายสุด

และหลังจากสำรวจจิตใต้สำนึกของทุกคนผ่านความฝันเสร็จ พวกมันจะเข้าไปในทะเลจิตใต้สำนึกรวมของที่นี่เพื่อค้นหาความลับที่ลึกกว่าเดิม

………………………..

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset