Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 527 : งานไว

ราชันเร้นลับ 527 : งานไว

ทันใดนั้น ถุงมือข้างซ้ายของไคลน์พลันส่องแสง ดวงตาทั้งสองข้างปรากฏจุดสีทองสองจุด ขยายจากเล็กไปใหญ่ จากมืดไปสว่าง

ขณะร่างกายกำลังร่อนลง ดวงตาสีทองได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสายฟ้าทองคำสองเส้น

หลังจากดึงดูดความสนใจของ ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้ด้วย ‘กระดาษคน’ ในจังหวะก่อนหน้า ชายหนุ่มเปิดใช้งาน ‘ยุบพองหิวโหย’ พร้อมกับเปลี่ยนเป็นดวงวิญญาณ ‘นักสอบสวน’ เพื่อใช้พลัง ‘ทะลวงจิต’

“อ๊ากกกกก!”

‘เหล็กกล้า’ แหกปากกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ประหนึ่งกำลังถูกแท่งเหล็กคนกวนเนื้อสมองสีเทาโดยตรง ความทุกข์ทรมานเหนือคำบรรยายพลันปะทุจากก้นบึ้งจิตใจ ครอบงำสตินึกคิดทั้งหมดในทันที

พลังพิเศษของมันเกิดปั่นป่วนและระเบิดออกไปทุกทิศ สร้างลมพายุกระโชกหมุนวนรอบตัวอย่างทรงพลัง

เกล็ดหิมะระยิบระยับเริ่มตกโปรยปราย น้ำแข็งและไอความเย็นทำให้บรรยากาศรอบข้างจับตัวเป็นก้อนผลึก ต้นไม้ริมถนนสองฝั่งเริ่มมีคราบหิมะสีขาวเกาะปลายใบ ก่อนจะเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็วและจบชีวิตลง

วิญญาณเร่ร่อนล้วนถูกกระตุ้นให้ตื่นจากภวังค์หลับใหล พวกมันประสานเสียงครวญครางสะอื้นไห้และแปรเปลี่ยนลมพายุให้กลายเป็นสีเทาหม่น

ไคลน์ปล่อยตัวร่อนลงตามธรรมชาติ พร้อมกับการส่องสว่างจนคล้ายดวงอาทิตย์ของถุงมือข้างซ้าย

ชายหนุ่มกางแขนทั้งสองข้างออก ราวกับเตรียมตัวโอบกอดบางสิ่ง

เมื่อส้นเท้าสัมผัสพื้นน้ำแข็งเย็นเฉียบ ลำแสงสุกสว่างได้สาดทอดลงมาจากอากาศว่างเปล่าด้านบน ฉาบพื้นดินด้านล่างให้กลายเป็นสีทองอร่าม

เสาลำแสงศักดิ์สิทธิ์ได้อาบร่าง ‘เหล็กกล้า’ อย่างท่วมท้น ไม่ว่าจะเป็นผิวหนังสีคล้ำเข้ม กล้ามเนื้ออันบึกบึน หรือเส้นผมหงิกงอเป็นก้อนกลมประหนึ่งลูกเหล็ก

‘แสงศักดิ์สิทธิ์’ ของนักบวชแสง!

โดยปราศจากสุ้มเสียง สีหน้า ‘เหล็กกล้า’ เริ่มทวีความบิดเบี้ยวทีละนิด ผัวหนังภายนอกของมันเริ่มละลายอย่างชัดเจน

ลักษณะคล้ายกับเทียนไขถูกโยนลงไปในเตาผิงร้อนแรง

เมื่อนำไปเทียบกับกรณีของบิชอปมิลเลอร์ ‘เหล็กกล้า’ ผู้มีร่างกายเป็น ‘ซอมบี้’ ได้รับผลกระทบรุนแรงกว่ามาก ความเสียหายเข้าขั้นหนักหน่วง ราวกับเป็นพลังชนะทางโดยตรง

ทันใดนั้น เกล็ดหิมะระยิบระยับกลางอากาศเริ่มสลายตัว น้ำแข็งบนพื้นและหิมะบนต้นไม้เริ่มละลาย เหลือไว้เพียงซากกิ่งก้านสีน้ำตาลอมแดงไร้ชีวิตชีวา

แน่นอน ลำแสงทรงพลังย่อมดึงดูดความสนใจจากเฮนดรี้และสควอล โดยเฉพาะรายแรก สีหน้าของมันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

‘พุ่มหนามสีเลือด’ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า หยิบวัตถุดิบสำหรับร่ายเวทมนตร์ออกมาถือ เตรียมยื่นมือช่วยเหลือ ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้จากพรมบินมุมสูง

ทันใดนั้น มุมสายตาของมันบังเอิญเหลือบเห็นอีกาเพลิงกำลังพุ่งเข้าหาจากทุกทิศ

หนึ่งตัว สองตัว สามตัว…

อีกาเพลิงจำนวนมากถาโถมเข้าใส่ประหนึ่งดาวตกสีแดง บดบังการมองเห็นของเฮนดรี้โดยสมบูรณ์ อีกาทุกตัวล้วนกระพือปีกอย่างเกรี้ยวกราด เปลี่ยนให้บรรยากาศโดยรอบมีอุณหภูมิสูงขึ้นฉับพลัน

ร่างกายเฮนดรี้เริ่มสั่นเทา ดวงตาแข็งทื่อ ฝ่ามือของมันเปลี่ยนอิริยาบถ เลือกหยิบคว้าวัสดุอื่นออกมาใช้งานแทน

ฟุ่บ!

‘พุ่มหนามสีเลือด’ รีบโปรยผงวิเศษสีฟ้าอ่อนรอบตัว ปากขยับพึมพำเป็นภาษาเฮอร์มิสโบราณ :

“คลื่นสมุทร!”

ทันใดนั้น ผงปริศนาเริ่มพองตัว กลายเป็นประกายคลื่นทะเลสีน้ำเงินเข้ม สาดซัดออกไปทุกทิศทางรอบตัว

พวกมันปะทะเข้ากับอีกาเพลิงมายาจนเกิดเสียง ‘ฉ่า’ ดังระงม หมอกควันสีขาวหนาทึบผุดขึ้นจากอากาศว่างเปล่า ปกคลุมน่านฟ้ารอบตัวเฮนดรี้ทุกทิศทาง

เมื่อแรงระเบิดในจังหวะก่อนหน้าเริ่มซาลง สควอลมองผ่านแสงสีแดงเจือจางซึ่งยังตกค้างประปราย เห็นผิวของ ‘เหล็กกล้า’ เริ่มละลายคล้ายกับขี้ผึ้ง โดยด้านข้างมีบุคคลแปลกหน้าในผ้าคลุมสีดำกำลังยืนในท่าเตรียมโจมตี

อย่างไรก็ตาม สควอลยังคงสุขุม มาดคล้ายอสรพิษเลือดเย็นผู้ปราศจากอารมณ์ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง มันยกแขนทั้งสองข้างด้วยหน้านิ่ง ก่อนจะตวัดลงอย่างรวดเร็ว

เพียงพริบตา สควอลเห็นชายหนุ่มใบหน้าผอมเพรียวเกิดอาการชะงัก การเคลื่อนไหวช้าลงอย่างชัดเจน คล้ายกับนกปีกหักซึ่งมิอาจโบยบิน โดยในทางกลับกัน แม็ควิตี้กำลังดิ้นรนให้หลุดพ้นจากผลกระทบทางจิต เพื่อเตรียมหลบเสาลำแสงสุริยันระลอกถัดไป

ทันใดนั้น สควอลพบว่าร่างกายอีกฝ่ายเริ่มแบนเป็นแผ่นกระดาษบาง ก่อนจะถูกบดราบติดกับพื้นด้วยพลังปริศนา และจมลงในพื้นโคลนซึ่งเกิดจากการละลายของหิมะ

ไคลน์ปรากฏตัวจากมุมอื่น นำนิ้วโป้งข้างขวาวางทาบกับนิ้วกลาง พลางกระโจนเข้าหาแม็ควิตี้พร้อมกับดีดนิ้วสามครั้งซ้อน

ปัง! ปัง! ปัง!

เข็มกลัดสีทองเข้มทรงวิหคสุริยันพลันสว่างวาบสามครั้ง เปลี่ยนธาตุของกระสุนอากาศให้กลายเป็นสุริยันศักดิ์สิทธิ์

กระสุนสามนัดเรียงต่อกันโดยไม่เว้นจังหวะพักหายใจ ทั้งหมดประสบความสำเร็จในการทะลวงหน้าอกฝั่งขวาของแม็ควิตี้ ผู้ยังฟื้นฟูสติจากการโจมตีแรกได้ไม่สมบูรณ์ หัวกระสุนเจาะผ่านผิวหนังซึ่งละลายไปกว่าครึ่ง สร้างบาดแผลฉกรรจ์และน่าหวาดเสียว พร้อมกับเกิดประกายไฟแผ่กระจายไปรอบทิศ

วืด! สควอลโยนมีดผ่าตัดใส่ แต่ไคลน์อาศัยความคล่องตัวหลบหลีกได้ไม่ยากเย็น

พร้อมกันนั้น ‘เหล็กกล้า’ ใช้สองมือพยุงตัวลุกยืน ตามด้วยการพุ่งโถมเข้าใส่ไคลน์ในระยะประชิด มิได้เกรงกลัวว่าจะบาดเจ็บจากการโจมตีของอีกฝ่าย

ทุกย่างก้าวจะสร้างแผ่นน้ำแข็งบางๆ ฉาบปกคลุมผิวดิน กำปั้นอัดแน่นด้วยออร่าพลังเน่าเปื่อยเข้มข้น

ทันใดนั้นเอง แม็ควิตี้เห็นดวงตาสีน้ำตาลเข้มของศัตรูส่องแสงคล้ายสายฟ้าสองเส้น

โดยไม่ทันได้เตรียมใจ ‘เหล็กกล้า’ พลันยกสองมือขึ้นมากุมศีรษะ ขบกรามแน่นจนเกิดเสียงกรอด พร้อมมีเลือดไหลซึมออกจากจมูก ปาก และใบหู ผสมผสานเข้ากับผิวหนังละลายของมัน

ขณะยิงปืนใส่ในจังหวะก่อนหน้า ไคลน์ได้เปลี่ยนดวงวิญญาณของถุงมืออีกครั้ง

‘ทะลวงจิต’ ของ ‘นักสอบสวน!’

เพื่อจัดการกับเส้นทางซอมบี้ผู้มีร่างกายแข็งดุจดังเหล็ก การโจมตีทางจิตใจย่อมสร้างความเสียหายได้มากกว่าทางกายภาพ!

แรงกดดันทางจิตส่งผลให้แม็ควิตี้ชะงักงัน สติของมันขาดผึ่งโดยสมบูรณ์ ผิวสีเข้มของ ‘เหล็กกล้า’ เริ่มมีขนดำแข็งปกคลุม ฟันและเล็บยื่นยาว ผิวหนังด้านนอกเปลี่ยนจากสีเข้มเป็นซีดจาง กลายเป็นซอมบี้กระหายเลือดและขาดสติ!

อาศัยโอกาสดังกล่าว ไคลน์โน้มตัวพุ่งไปทางไหล่ขวาของแม็ควิตี้ พร้อมกับยัดวัตถุในฝ่ามือ ฝังแน่นเข้าไปในปากแผลฉกรรจ์จากกระสุนปืนสามนัดในจังหวะก่อนหน้า

วัตถุดังกล่าวคือขวดแก้ว มัดติดกับกระสุนสีทองทองเหลืองสามนัด ด้านในขวดบรรจุ ‘น้ำมนต์สุริยัน’ ซึ่งไคลน์สร้างกรอกไว้ล่วงหน้าจนเต็ม!

วืด!

เนื่องจากไคลน์ไม่เคยอยู่นิ่ง มีดผ่าตัดของสควอลจึงพลาดเป้าไปอีกหน

ชายหนุ่มม้วนตัวไปโผล่ด้านหลังแม็ควิตี้ในลักษณะหลังชนหลัง

เป๊าะ! ไคลน์ยกมือขวาขึ้นมาดีดนิ้วโดยไม่ปล่อยให้ ‘เหล็กกล้า’ มีโอกาสดึงขวดออก

บึ้ม!

เกิดเสียงระเบิดทื่อ เปลวเพลิงสีแดงเข้มลุกโชนอาบขวดแก้วอันบอบบางจนแตกละเอียด ‘น้ำมนต์สุริยัน’ จำนวนมากไหลราดใส่บาดแผลและลำตัวอีกฝ่ายทุกซอกมุม

โจรสลัดอันโด่งดังเจ้าของค่าหัวหกพันปอนด์พลันยืนตัวแข็ง ในลำคอส่งเสียงครวญครางอย่างทุกข์ทรมาน

มันโซซัดโซเซจนล้มในท่าคุกเข่า ควันสีดำสลับเขียวผุดออกจากผิวหนังเป็นระยะ ก่อนจะสลายไปในอากาศ

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ดวงตาสควอลพลันดำมืดกะทันหัน มันรีบควักแผ่นยันต์โลหะพลางตะโกนถ้อยคำภาษาเฮอร์มิสโบราณ

“หวีดร้อง!”

สิ้นเสียงคาถา ยันต์โลหะแตกตัวและสลายไปอย่างสมบูรณ์ ทำงานของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

คลื่นเสียงล่องหนซัดโถมออกไปทุกทิศในลักษณะคล้ายสึนามิ ทุกคนในบริเวณล้วนได้รับผลกระทบถ้วนหน้า

หลังจากสมองไคลน์ได้ยินเสียงกรีดร้องหวีดแหลม โพรงจมูกของมันเริ่มเย็นเนื่องจากมีเลือดสีแดงไหลซึม แต่อาการของเฮนดรี้บนพรมวิเศษนั้นเลวร้ายยิ่งกว่า พรมลอยฟ้ามีสภาพโคลงเคลงอย่างฉับพลัน สติของมันหลุดลอยจนหมดโอกาสส่งเสียงร้อง แต่ในทางกลับกัน ‘เพลิงพิโรธ’ เดนิสไม่ได้รับผลกระทบใดเลย จึงทำการขว้างก้อนเพลิงควบแน่นซึ่งเกิดจากการอัดพลังธาตุไฟเข้าไปซ้ำๆ หลายชิ้นด้วยสีหน้ายินดีปรีดา

ลูกไฟปะทะร่าง ‘พุ่มหนามสีเลือด’ อันไร้การต่อต้านขัดขืน มาพร้อมเสียงระเบิดกังวานสนั่นโสตประสาท

เศษเนื้อพุ่งกระจัดกระจายไปรอบทิศ ปลายนิ้ว น่อง ศีรษะ และอวัยวะอื่นๆ ถูกไฟคลอกอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะล้มลงหมดสติอย่างสมบูรณ์และปล่อยให้พรมวิเศษหล่นกระแทกพื้นอย่างไร้คนควบคุม

สควอลฉวยโอกาสความวุ่นวาย หันหลังกลับและเริ่มออกวิ่งเต็มฝีเท้า ใบหน้ายังคงเยือกเย็นและไม่ปรากฏความลังเล

แต่มันกลับต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า บุคคลปริศนาอันน่าหวาดหวั่น ผู้สามารถจัดการ ‘เหล็กกล้า’ ได้ภายในไม่ถึงสิบวินาที มิได้เกิดอาการชะงักงันจากผลของยันต์แม้แต่น้อย อีกฝ่ายหันหลังกลับมาไล่ล่าตนอย่างคล่องแคล่วแทบจะในพริบตา!

เป็นไปได้ยังไง? นี่คือ ‘ยันต์หวีดร้อง’ ฝีมือพลเรือเอกเชียวนะ!

สควอลมิอาจสลัดความคาใจ ขณะเดียวกันก็พยายามอย่างหนักเพื่อเลี้ยวเข้าตรอกซอกซอยหลบหนี

ทันใดนั้น ศีรษะมันถูกบางสิ่ง ‘ทะลวง’ เข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดทางจิตเจียนตายส่งผลให้อวัยวะทั้งหมดหยุดชะงัก

เมื่อสายฟ้าสีทองเริ่มเลือนหายไปจากดวงตาไคลน์ ชายหนุ่มยกมือขวาพร้อมกับดีดนิ้วอีกครั้ง

ปัง!

กระสุนแหวกอากาศเป็นระยะทางสิบเมตร เจาะทะลุท้ายทอยสควอลอย่างแม่นยำและอำมหิต

เนื่องจากร่างกายสควอลมิได้แกร่งเหมือน ‘เหล็กกล้า’ แววตาของมันจึงอับแสงอย่างฉับพลัน เปลือกตาปิดตัวลงอย่างเชื่องช้า

ไคลน์ไม่มากพิธีรีตอง เหยียดมือซ้ายออกไปด้านหน้า ปล่อยให้ ‘ยุบพองหิวโหย’ เพลิดเพลินไปกับการกินอาหารมื้อใหญ่

เราเคยได้ยินเสียงของ ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ มาแล้ว รวมถึงการอดทนต่อเสียงเพรียกขอความช่วยเหลือจาก ‘มิสเตอร์ประตู’ หรือแม้กระทั่งเสียงหวีดร้องของ ‘วิญญาณอาฆาต’ สตีฟโดยตรง ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเสียงเพรียกอ่อนหัดจากยันต์…

ไคลน์รำพันในใจ สายตาจ้องมองก้อนเนื้อของสควอลถูกสูบเข้าไปใน ‘ปาก’ บนฝ่ามือข้างซ้ายทีละนิด

ผ่านไปไม่กี่วินาที เมื่อ ‘ยุบพองหิวโหย’ สวาปามจนพึงพอใจ ชายหนุ่มรีบย้อนกลับไปหาแม็ควิตี้ผู้ยังคงอยู่ในท่าคุกเข่า

‘ซอมบี้’ ตนนี้ถูกชำระล้างอย่างสมบูรณ์ ถึงแม้ศีรษะจะยังติดกับลำตัว แต่ก็เสียชีวิตมาได้สักพักแล้ว

ไคลน์เดินไปด้านข้างสามก้าว ก้มหยิบพรมหางนกยูงสีน้ำเงินบนพื้นและนำมาห่อหุ้มร่างแม็ควิตี้ ก่อนจะยกพาดบนบ่า

ชายหนุ่มมองย้อนกลับไปยังความวุ่นวายใกล้กับอาคารหมายเลข 15 ถนนไม้หอม

หลังจากได้ยินเสียอึกทึกอันเกิดจากฝูงซอมบี้และหุ่นกระบอก ไคลน์ทราบทันทีว่า ‘ทูตพิพากษา’ กำลังรุดหน้ามายังตำแหน่งปัจจุบันของตน จึงรีบดึงผ้าคลุมสีดำของเดนิสขึ้นมาปกปิดศีรษะ พร้อมกับโค้งคำนับไปยังทิศทางดังกล่าวในเชิงทักทาย

เป๊าะ!

ไคลน์ดีดนิ้ว เศษกระดาษจำนวนหนึ่งซึ่งโปรยไว้รอบตัวพลันลุกโชติช่วง เกิดเป็นเสาเปลวเพลิงสีแดงเข้มพวยพุ่งขึ้นฟ้า

ท่ามกลางกองเพลิง ร่างกายชายหนุ่มเริ่มเลือนหาย แม้แต่สิ่งของขนาดใหญ่บนบ่าก็ไม่หลงเหลือ ทั้งหมดอันตรธานไปพร้อมเปลวไฟ

สำหรับตะกอนพลังของสควอลและเฮนดรี้ซึ่งยังควบแน่นไม่เสร็จ ไคลน์ไม่นึกแยแสแม้แต่น้อย

ความโลภจะนำมาซึ่งอันตรายเกินควร… เพียงเท่านี้ก็นับว่ากำไรมากพอแล้ว!

หลังจากทูตพิพากษาจัดการกับซอมบี้ หุ่นกระบอก โจรสลัดปลายแถวซึ่งได้รับบาดเจ็บจากพวกพ้อง และกลุ่มนักผจญภัยผู้วิเศษ จอห์น·สมิธเสร็จ คอร์โดบา·รอยย์นำกำลังจำนวนหนึ่งตรงมายังซากสนามรบอันดุเดือด

แต่มันกลับพบเพียงเศษเนื้อกระจัดกระจาย ซากศพ มีดผ้าตัด และต้นไม้แห้งเหี่ยวสีน้ำตาลเข้ม

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset