Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 475 : ท่านหญิงสิ้นหวัง

ราชันเร้นลับ 475 : ท่านหญิงสิ้นหวัง

มิสเตอร์ A?

มิสเตอร์ A จากชุมนุมแสงเหนือ?

หลังจากไคลน์เอนหลังแนบกำแพงและหลบซ่อนภายในมุมมืด ร่างกายมันพลันสั่นเทาเมื่อได้ทราบชื่อของหนึ่งในบุคคลปริศนา

ไม่ผิดแน่ อินซ์·แซงวิลล์ร่วมมือกับราชวงศ์หรือไม่ก็ขั้วอำนาจบางกลุ่มภายใน…

เพราะหากไม่ใช่ขั้วอำนาจหลังของอาณาจักรโลเอ็น ก็คงไม่มีฝ่ายใดสามารถจัดหาอาคารใต้ดินหลังใหญ่ใกล้กับกรุงเบ็คลันด์ สำหรับใช้เป็นแหล่งกบดานได้อีกแล้ว…

เมื่อมีอินซ์·แซงวิลล์และ 0-08 เข้ามาเกี่ยวข้อง เราสามารถตัดโบสถ์รัตติกาลทิ้งได้ทันที ทางโบสถ์วายุสลาตันก็เช่นกัน พวกมันป่าเถื่อนและถือเพศชายเป็นใหญ่ จึงไม่น่าจะยอมร่วมมือกับนิกายหญิงล้วนอย่างแม่มด ไม่เพียงเท่านั้น เรายังไม่พบว่าเคยมีผู้วิเศษเส้นทางกะลาสีมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้… และด้วยเหตุผลด้านเส้นทาง โบสถ์จักรกลไอน้ำจึงไม่น่าจะเข้าข่ายเช่นกัน…

แม้แต่ชุมนุมแสงเหนือก็ร่วมด้วย? พวกมันคิดจะทำอะไรกันแน่?

ไคลน์เอนหลังพิงกำแพงพลางหายใจเข้าออกอย่างเชื่องช้า สมองประมวลผลเกี่ยวกับบทสนทนาสั้นกระชับเมื่อครู่

หลังจากเงียบงันหลายนาที เสียงแหบพร่าของเพศชายได้ดังขึ้น

“เรียบร้อย”

บทสนทนาสั้นห้วนเสียจน ไคลน์ไม่สามารถเดาได้ว่าพวกมันกำลังวางแผนใดไว้

หญิงสาวหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงสดใสอย่างแผ่วเบา

“คุณยังไม่เชื่อใจพวกเราใช่ไหม”

“แน่นอน” มิสเตอร์ A ตอบกระชับ

“ฮิฮิ… ถ้าอย่างนั้น ฉันจะแสดงความจริงใจด้วยการอธิบายแผนของพวกเราให้ฟัง รวมถึงเล่าว่าทำไม ฉันจึงต้องการความร่วมมือจากคุณ” เสียงออดอ้อนของสตรีปราศจากเศษเสี้ยวอารมณ์โกรธเคือง “ฝ่ายเราเคยทำบางสิ่งร้ายแรงลงไปและหลงเหลือหลักฐานทิ้งไว้อย่างแจ่มชัด ฉะนั้น ก่อนจะถูกพบโดยโบสถ์รัตติกาล วายุ และไอน้ำ พวกเราต้องเร่งมือเก็บกวาดให้หมดจด โดยขั้นตอนดังกล่าวต้องการความช่วยเหลือจากคุณ

“อา… บางที คุณอาจยังไม่เข้าใจดีพอ จะขอยกตัวอย่างก็แล้วกัน ลองจินตนาการตาม หากคุณลงมือสังหารเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมภายในบ้าน คุณต้องทำอย่างไรเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยและทำลายหลักฐานทิ้งในคราวเดียว?”

“ไม่จำเป็นต้องกลบเกลื่อน ข้าต้องการให้ทุกคนได้ประจักษ์ความโหดเหี้ยมของพวกเราอยู่แล้ว” มิสเตอร์ A ตอบเสียงเรียบ

…คำตอบสมกับเป็นพวกเสียสติของชุมนุมแสงเหนือฉิบหาย… พวกมันไม่มีคนปรกติอยู่เลยหรือไง…

ไคลน์สามารถยืนยันได้ว่า หนึ่งในกลุ่มบุคคลปริศนาคือมิสเตอร์ A ผู้ลงมือลอบสังหารราชทูตอินทิส เบเคอร์ลัน·ฌอง·มาติน

“…ให้ลองสมมติว่าคุณเป็นฉัน” เสียงอ่อนโยนของสตรีเริ่มเจือความระอา

มิสเตอร์ A มอบคำตอบภายในหนึ่งวินาที

“เผาบ้านทั้งหลังไปพร้อมกับเบาะแส”

น้ำเสียงของสตรีเริ่มแฝงความพึงพอใจ

“ถูกต้อง พวกเรากำลังจะทำในเรื่องเดียวกัน ฉันจะเป็นฝ่าย ‘ลงมือเผาบ้าน’ ส่วนคุณคอยทำให้ไฟลุกลามไปไกลกว่าปรกติ สรุปก็คือ จงใช้โอกาสดังกล่าวเพื่อสร้างภาชนะหรืออุโมงค์สำหรับอัญเชิญพระเจ้าของพวกคุณลงมายังโลก ผลเสียของแผนการนี้คือ ทางคุณจะต้องแบกรับความโกรธแค้นและกลายเป็นศัตรูจากทุกกองกำลังทั่วอาณาจักร ไม่เว้นกระทั่งสามโบสถ์หลัก แต่ฉันคิดว่าชุมนุมแสงเหนือคงไม่ถือสาเรื่องนี้กระมัง”

“หึ… ขอเพียงพระองค์ลงมาจุติสำเร็จ ต่อให้ต้องกลายเป็นศัตรูกับทุกกองกำลังบนโลกก็ไม่เกี่ยง พวกเราไม่มีทางแสดงความขลาดกลัวออกมาให้เห็นอยู่แล้ว” น้ำเสียงมิสเตอร์ A เริ่มสั่นเครือ ไม่ราบเรียบไร้อารมณ์เหมือนตอนแรก

วางเพลิงเผาบ้าน? ให้ชุมนุมแสงเหนือฉวยโอกาสนี้เพื่อประกอบพิธีกรรมอัญเชิญพระผู้สร้างแท้จริง?

นี่คือความพยายามหนที่สามของพวกมัน… แล้วเราก็ดันดวงบัดซบเข้ามาพัวพันอีกแล้ว…

นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน! ไคลน์รำพันหยาบคายเป็นภาษาจีนกลาง

ในวินาทีนี้ มันเริ่มหวาดระแวงว่า ทั้งหนึ่งในขั้วอำนาจของราชวงศ์ ทั้งอินซ์·แซงวิลล์ รวมถึงนิกายแม่มด กำลังวางแผนใดไว้กันแน่

จะต้องร้ายแรงถึงขั้นให้พระผู้สร้างแท้จริงลงมาจุติเพื่อกลบเกลื่อนเชียวหรือ…

บางที พวกมันอาจมีไพ่ตายแอบปกปิดไว้ เป็นไม้เด็ดซึ่งสามารถทำลายพิธีกรรมของชุมนุมแสงเหนือ ไปพร้อมกับทำลายของกำลังของสามโบสถ์หลักในคราว โดยตัวเองไม่ได้รับผลกระทบใดเลย…

ไคลน์วิเคราะห์อย่างใจเย็น

“คงจะหมดคำถามแล้วใช่ไหม” เสียงอ่อนโยนของสตรีดังกังวาน

“ไม่ต้องกังวล อาคารหลังนี้ถือเป็นหนึ่งในความลับสุดยอด สามารถใช้เป็นจุดประกอบพิธีกรรมได้โดยไม่มีใครเข้ามารบกวน ในส่วนของปัจจัยภายนอกอื่น ๆ พวกเราเตรียมการเสร็จเรียบร้อยนานแล้ว ขอเพียงมี ‘ประกายไฟ’ ถูกจุดขึ้น ทุกอย่างก็จะเริ่มต้นได้ทุกเมื่อ หรือถ้าหากคุณยังกังวล ก็สามารถตรวจสอบซ้ำอีกครั้งจนกว่าจะมั่นใจ”

ขณะมิสเตอร์ A กำลังจะเปิดปาก ไคลน์ได้ยินเสียง ‘กึก’

เป็นเสียงของประตูหิน

“ใครอนุญาตให้เข้ามา! ฉันประกาศไปแล้วไม่ใช่หรือ ว่าห้ามมิให้ผู้ใดเข้ามาในเขตนี้โดยเด็ดขาด!” เสียงของสตรีแฝงความโมโหไว้อย่างเจือจาง ประหนึ่งกำลังฝืนอดกลั้น

“ท่านหญิงสิ้นหวัง มีเรื่องด่วนขอรับ! ใครบางคนได้บุกรุกเข้าในฐานทัพใต้ดิน! เบื้องบนมอบหมายให้ผมจัดการเรื่องนี้พร้อมกับปิดอุโมงค์เชื่อมต่อทุกเส้นทาง” บุรุษสำเนียงเบ็คลันด์ตอบกลับอย่างฉะฉาน

สตรีผู้ถูกเรียกว่า ‘ท่านหญิงสิ้นหวัง’ เงียบงันนานหลายวินาที คล้ายกับกำลังสนทนากับใครบางคนเพื่อยืนยันสถานการณ์

จนกระทั่ง เธอหันมากล่าวกับชายสำเนียงเบ็คลันด์โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“กลับเข้าไปก่อน แล้วอย่าได้ออกมาอีกเป็นอันขาด จนกว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติม”

“ขอรับ ท่านหญิงสิ้นหวัง!” ชายคนเดิมเดินกลับไปทางบานประตูหิน เสียงฝีเท้าดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง

จากจุดซ่อนตัวของไคลน์ มันย่อมมองเห็นประตูหินซึ่งถูกใช้กลับไปยังอาคารใต้ดิน

จนกระทั่งผ่านไปเจ็ดแปดวินาที บุรุษรูปร่างสันทัด ส่วนสูงปานกลาง ได้เดินมาหยุดยืนหน้าประตูหิน

ฟู่ว…! ชายคนเดิมถอนหายใจยาวพร้อมกับเหยียดแขนออกมาข้างหน้า และออกแรงผลักประตูหินใหญ่ด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไคลน์สามารถจดจำเอกลักษณ์ของอีกฝ่ายได้แม่นยำโดยไม่หลุดรอดแม้แต่รายละเอียดหนึ่งจุด นี่คือความยอดเยี่ยมของผู้ไร้หน้า

อีกฝ่ายมีผิวพรรณน้ำตาลแดง ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นคนของทวีปใต้ ใบหน้าไม่มีจุดเด่นใดเลย ค่อนข้างยากในการจำจด

เนื่องด้วยท่าทางการขบกรามแน่นขณะออกแรงผลัก ฟันบางส่วนจึงเผยให้ไคลน์เห็นเด่นชัด ฟันซี่สามจากทางซ้ายบนส่องประกายสีทองแวววาว เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากฟันปลอมโลหะ

นี่มัน…! สัมผัสวิญญาณของนักทำนายในตัวไคลน์กำลังบ่งบอกว่า ตนคุ้นเคยกับคำอธิบายของรูปลักษณ์อีกฝ่ายเป็นอย่างดี

โดยไม่ต้องรอนาน ความทรงจำในส่วนเกี่ยวข้องถูกเรียกออกมาทันที

ครั้งหนึ่ง แฮงแมนเคยขอให้ชุมนุมทาโรต์ช่วยตามหาเบาะแสของชายผิวน้ำตาลแดง พูดสำเนียงเบ็คลันด์ และฟันซ้ายด้านบนซี่สามหายไป

ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่าบาลุน เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของทาสบนเกาะอาณานิคม

และในวินาทีนี้ ชายตามคำอธิบายของแฮงแมน มีรูปพรรณสัณฐานเหมือนกับบุรุษปริศนาเบื้องหน้าไคลน์ทุกประการ!

การหายตัวไปของทาสในหมู่เกาะอาณานิคม…

ชนเผ่าของทวีปใต้จำนวนมากหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา…

บาลุนปรากฏตัวในอาคารแห่งนี้…

คาพิน ผู้ถือครองส่วนแบ่งใหญ่ของตลาดการค้าทาสในเบ็คลันด์ ถูกคุ้มกันโดยผู้วิเศษซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางผู้ตัดสินของราชวงศ์…

และจากบรรดาบอดี้การ์ด แข็งแกร่งสุดเป็นถึงลำดับ 6 ซึ่งถือครองสมบัติวิเศษจนเก่งกาจเทียบเท่าลำดับ 5 ปลายแถว…

คาพินจงใจลักพาตัวเด็กหญิงไร้เดียงสา…

ร่างกฎหมายเมล็ดพันธุ์และการยกระดับเทคโนโลยีเครื่องจักร สองสิ่งนี้ส่งผลให้คนจนจำนวนมากต้องตกงาน…

แรงงานหญิงโรงงานทอผ้าเดินทางออกจากเขตตะวันออกเนื่องจากได้รับงานใหม่ในเขตอื่น แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีเบาะแสอีกเลย…

ข้อมูลมากมายเริ่มเรียงร้อยปะติดปะต่อในหัวไคลน์ ทั้งหมดได้มุ่งหน้ามายังอาคารแห่งนี้!

พวกมันกำลังเล็งอะไรไว้ แล้วทำไมถึงต้องใช้มนุษย์จำนวนมาก? แถมส่วนใหญ่ยังเจาะจงให้เป็นเด็กสาวไร้เดียงสา…

พิธีกรรม? พิธีกรรมอันตรายซึ่งใช้ระยะเวลาดำเนินการนาน จึงต้องซ่อนตัวเป็นความลับมาตลอด?

ดวงตาไคลน์เริ่มหดเกร็ง

แอ๊ด— ปัง! ประตูหินปิดสนิทพร้อมกับการหายตัวไปของบาลุน

ห้องโถงถูกความเงียบงันปกคลุมนานหลายวินาที จนกระทั่งมิสเตอร์ A เปล่งเสียงแหบพร่าอีกครั้ง

“ข้าสัมผัสถึงอันตราย มาเริ่มกันเลยดีกว่า ต้องรีบทำให้จบก่อนอันตรายจะมาถึง”

ท่านหญิงสิ้นหวังขานรับอย่างใจเย็น

“ฉันเองก็คิดแบบเดียวกัน ถ้าอย่างนั้น คงต้องขอให้คุณช่วยส่งฉันไปยังเขตตะวันออกสักหน่อย”

เขตตะวันออก? ไคลน์เริ่มเกิดลางสังหรณ์เลวร้าย

“ไม่มีปัญหา” มิสเตอร์ A ตอบเสียงเรียบ

ภายใต้ผ้าคลุมหัว หนังสือมายาสีใสโผล่ขึ้นกลางอากาศตรงหน้ามิสเตอร์ A

เสียงคล้ายสวดมนต์ดังล่องลอยกังวาน

“ข้าบรรลุ ข้าประจักษ์ ข้าบันทึก”

หนังสือมายาพลิกไปยังหน้าหนึ่งอย่างรวดเร็ว ตามด้วยการส่องแสงสีฟ้าสว่างสดใส

แสงดังกล่าวโอบล้อมร่างท่านหญิงสิ้นหวังซึ่งสวมชุดคลุมสีขาว ร่างกายของเธอเริ่มพร่ามัวไม่คมชัด ก่อนจะเลือนรางโปร่งใสจนแทบมองไม่เห็น

ผ่านไปเพียงอึดใจ วิวทิวทัศน์รอบตัวท่านหญิงสิ้นหวังพลันเต็มไปด้วยเงามายาสีดำจำนวนมากแหวกว่ายล่องลอย รวมถึงริ้วแสงเจ็ดสีฉูดฉาดอัดแน่นด้วยความรู้มหาศาล

ร่างกายของเธอคล้ายกับถูกกระชากโดยฝ่ามือล่องหน เข้าไปในช่องว่างของห้วงมิติซึ่งถูกกรีดเฉือนจนฉีกขาด เพียงพริบตา เธอถูกเคลื่อนย้ายจากจุดเดิมภายในห้องโถง มายังตรอกแคบ เปลี่ยว ปลอดคน และน่าขยะแขยงแห่งหนึ่ง

ท่านหญิงสิ้นหวังดึงตาข่ายลงมาปิดใบหน้าจนมิดชิด ศีรษะแหงนมองท้องฟ้าด้านบน

ดวงอาทิตย์ยามบ่ายยังคงถูกบดบังโดยเมฆหมอกหนาทึบของกรุงเบ็คลันด์เช่นเคย บรรยากาศจึงอึมครึมและซีดจาง

แสงแดดสีเหลืองอ่อนยามบ่ายอาจไม่เข้มข้นนัก แต่ก็พอจะมอบความสว่างให้กับทุกซอกมุมของกรุงเบ็คลันด์อย่างทั่วถึง นับเป็นภาพอันน่ามองท่ามกลางสายลมเย็นเฉียบเจือความชุ่มชื้น

น่าเสียดาย บรรยากาศยังไม่เหมาะแก่การลงมือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด…

ทั้งการแข็งข้ออย่างไม่คาดฝันของทริสซี ทั้งการสูญเสียการควบคุม 0-08 ไปชั่วขณะ ทั้งการปรากฏตัวของอะซิก·อายเกส ทั้งการปรากฏตัวของจักรพรรดิมืด สิ่งเหล่านี้ดึงดูดสายตาของผู้คนเป็นวงกว้างมากเกินไป จนสามโบสถ์หลักเริ่มสืบสวนหาเบาะแสอย่างจริงจัง ส่งผลให้วันลงมือต้องถูกเลื่อนขึ้นมาเร็วกว่าปรกติ…

ท่านหญิงสิ้นหวังสำรวจวิวทิวทัศน์รอบตัวขณะเดินออกจากตรอก

เมื่อถึงถนน ย่างก้าวของเธอเริ่มช้าลงเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังกรีดกรายไปบนทะเลหมอกอย่างสง่างาม

ไม่ว่าจะหนแห่งใด หากเธอเดินผ่าน หมอกควันในบริเวณดังกล่าวจะเข้มข้นขึ้นเล็กน้อยอย่างไร้เหตุผล

สีของควันจะมีลักษณะดำเข้มเหมือนแท่งเหล็ก ลดทอนการมองเห็นของมนุษย์ปรกติลงเล็กน้อย

หลังจากเดินถึงสุดถนนหนึ่งเส้น คนจรจัดใบหน้าซีดเซียวพลันไอกระแอมอย่างหนักพร้อมกับลงไปนอนกองบนพื้น

คนจนสองคนใกล้กับคนจรจัดรีบถอยหนีด้วยอากัปกิริยาหวาดผวา พลางใช้สองมือจับคอตัวเองคล้ายกับหายใจไม่ออก ประหนึ่งป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบกะทันหัน

ยิ่งเวลาผ่านไป หมอกควันสีดำเหล็กเจือเหลืองซีดเริ่มลอยขึ้นปกคลุมท้องฟ้าเขตตะวันออก ย่านท่าเรือ และย่านโรงงานอุตสาหกรรม

ฉากดังกล่าวสามารถอธิบายได้ด้วยคำว่า ‘จมท่วม’ บางส่วนของกรุงเบ็คลันด์กำลังจมอยู่ใต้ทะเลหมอกควันเข้มข้น แม้กระทั่งหอนาฬิกาสูงก็ยังมองเห็นเป็นเพียงเงาราง

ทีละคนสองคน ทั้งคนงาน คนจน และคนไร้บ้าน ร่างกายของพวกมันอ่อนแอเพราะต้องต่อสู้กับอากาศหนาว เริ่มล้มลงไปนอนบนพื้นในสภาพหมดสติ เกือบทั้งหมดจะใช้สองมือกุมลำคอด้วยสีหน้าทุกข์ทรมาน ชีวิตพวกมันอ่อนแอประหนึ่งฟองผงซักฟอกขณะซักผ้า เพียงสัมผัสนิดเดียวก็มากพอจะทำให้แตกตัว

ทั้งหมดเป็นฝีมือของท่านหญิงสิ้นหวัง

สีหน้าของเธอยังคงอ่อนโยนและเยือกเย็น ประหนึ่งกำลังบรรจงรังสรรค์งามศิลป์

เฉกเช่นคนปรกติ ย่างก้าวของเธอไม่ปรากฏร่องรอยพิรุธ ขณะเดินผ่านผู้คนก็ส่งเสียงพึมพำกับตัวเองไปพลาง

“อาณาจักรโลเอ็นจะจารึกเหตุการณ์ในวันนี้ไว้ในประวัติศาสตร์… มหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์”

ณ หุบเขาลึกและมืด อันกำลังถูกปกคลุมด้วยสายน้ำมายาทุกซอกมุม

0-08 ยังคงไม่หยุดขีดเขียน

มันกำลังแต่งเรื่องราวสุดอัศจรรย์และน่าสะพรึงกลัวทุกครั้งเมื่อปลายปากกาสัมผัสกับพื้นผิว

“…ถึงแม้กางเกงของอินซ์·แซงวิลล์จะหลุดลงมาถึงตาตุ่ม แต่ก็ไม่ทำให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้ลดลง เนื่องจากเขากำลังสวมชุดคลุมยาวปกปิดภายนอกไว้อีกชั้น บางที เขาอาจเตรียมตัวรับมือกับสิ่งนี้ไว้ล่วงหน้า… ‘เจ้าแห่งกฎ’ ทำให้อะซิกต้องหยุดชะงัก พร้อมกับขโมยสองสุดยอดทักษะของเขาไปในจังหวะสุดท้าย ไม่มีผู้ช่วยคนใดจะแสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมไปกว่านี้แล้ว! แต่เป็นเพราะประตูเชื่อมต่อโลกวิญญาณและนรกเริ่มสนใจในความพิเศษของอะซิก·อายเกส ยิ่งเมื่อถูกกระตุ้นด้วยความเข้มข้นของการต่อสู้ บางปัจจัยจึงเข้ามาแทรกแซงเพื่อเปลี่ยนแปลงกระแสของสงคราม! เพียงไม่นานหลังจากบุคคลลึกลับให้ความสนใจ ท่านทำการส่งพลังบางส่วนของตนลงมายังโลกแห่งความจริง… โอ้แย่แล้ว! ท่านเริ่มลงมือกับอินซ์·แซงวิลล์!”

ท่ามกลางความว่างเปล่า ท่อนแขนชุ่มเลือดสองข้ามซึ่งถูกปกคลุมด้วยเนื้อหนังสีแดงสดน่าขยะแขยง ค่อย ๆ โผล่ออกจากรอยแยกห้วงมิติด้านหลังอินซ์·แซงวิลล์!

ท่อนแขนดังกล่าวจับบ่าอินซ์·แซงวิลล์พร้อมกับกระชากมันเข้าไปในโลกวิญญาณผ่านรอยแยกห้วงมิติ

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset