Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 443 : นักแสดงนำ

ราชันเร้นลับ 443 : นักแสดงนำ

ผู้มาเยือนสวมชุดบุรุษไปรษณีย์สีเขียวแก่พร้อมกับส่งรอยยิ้มสดใสให้ไคลน์

“ใช่มิสเตอร์เชอร์ล็อก·โมเรียตี้รึเปล่าครับ”

“ใช่ครับ” ไคลน์เริ่มเดาตัวจริงรวมถึงจุดประสงค์ของบุรุษไปรษณีย์ออก

จากนั้น ผู้มาเยือนปริศนายกมือขวาขึ้นและส่งวัตถุขนาดเท่าฝ่ามือห่อด้วยผ้าดำให้

“กรุณาลงนามรับพัสดุด้วยครับ”

ไคลน์แสร้งทำสีหน้าฉงน

“ไม่ใช่ว่าคุณต้องส่งใบแจ้งมาให้ผมหรือ? จากนั้นค่อยให้ผมเดินทางไปรับพัสดุยังสำนักงานไปรษณีย์ตามรายละเอียดในใบแจ้ง”

ระบบไปรษณีย์โลเอ็นนั้นเลียนแบบมาจากสาธารณรัฐอินทิสทุกประการ รวมถึงข้อเสียและความยุ่งยากด้วย หากวัตถุใดใหญ่เกินกว่าจะยัดใส่กล่องจดหมายหน้าบ้าน พัสดุดังกล่าวจะถูกเก็บไว้ยังสำนักงานไปรษณีย์ในละแวกใกล้เคียง และบุรุษไปรษณีย์จะต้องใส่ ‘ใบแจ้งรับพัสดุ’ ไว้ในกล่องจดหมายแทน

“…ฮะฮะ! เพราะว่าพัสดุคราวนี้มีราคาค่อนข้างสูงครับ จึงต้องมาส่งให้ถึงมือผู้รับ”

หลังจากผงะครู่หนึ่ง บุรุษไปรษณีย์กล่าวอย่างตะกุกตะกัก

ไม่มืออาชีพเอาเสียเลย แค่เลียนแบบบุรุษไปรษณีย์ยังทำไม่ได้…

โดยไม่ถามซักไซ้ให้มากความ ไคลน์รีบรับพัสดุมาถือ พลางควักปากกาออกมาเขียนชื่อลงบนกระดาษ

ชายหนุ่มปิดประตูบ้านและเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นโดยไม่รีบร้อนแกะห่อพัสดุ เพียงหยิบเหรียญทองออกมาโยนขึ้นไปในอากาศ

แปะ!

ไคลน์แบมือรับเหรียญพร้อมกับสำรวจผลลัพธ์การทำนาย

ด้านตัวเลยหงายขึ้น หมายความว่าไม่มีอันตรายซ่อนอยู่ในพัสดุ…

ไคลน์พยักหน้ากับตัวเองและเก็บเหรียญทองเข้ากระเป๋า มือข้างหนึ่งล้วงจับกระดาษรูปคนอย่างไม่ประมาท ส่วนอีกข้างบรรจงแกะห่อพัสดุด้วยความประณีต

หลังจากผ้าสีดำถูกคลี่ออกชั้นแล้วชั้นเล่า ไคลน์เริ่มมองเห็นสิ่งของด้านในซึ่งประกอบด้วยนาฬิกาพกสีทองซีด สลักลวดลายงดงามและเก่าแก่ ผ้าเช็ดหน้าเปื้อนคราบเลือดสีแดงแห้งกรัง เส้นผมสีน้ำตาลสั้นหยักศกเจ็ดถึงแปดเส้นมัดรวมกันอย่างเรียบร้อย และกระดาษจดข้อความจำนวนหนึ่ง

ของใช้ติดตัว ผ้าเช็ดหน้า เส้นผม และตารางกิจกรรมของทาลิมก่อนจะเสียชีวิต… องค์ชายเอ็ดซัคทำงานฉับไวมาก ฟ้ายังไม่ทันมืดด้วยซ้ำ…

ขณะไคลน์กำลังสำรวจสิ่งของบนโต๊ะกาแฟอย่างตั้งใจ ชายหนุ่มพลันตระหนักว่าตนกำลังถูกจ้องมองจากสายตาหลายคู่

ตระกูลเทวทูตซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าสองพันปีย่อมต้องมีพลังอำนาจไม่ธรรมดาอยู่แล้ว… การเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งภายในตระกูลราชวงศ์ เราอาจกลายเป็นปุ๋ยได้ทุกเวลาหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย…

ไม่ผิดแน่ แม้แต่ตอนนี้ก็ถูกจับตามองอยู่… คงต้องทำตัวให้ลีบเล็กเข้าไว้ ต้องแสร้งเป็นคนอ่อนแอและไม่เอาถ่าน ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของชีวิตเราเอง…

ไคลน์เริ่มวางแผนว่าตนควรทำอะไรต่อไป เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการนั่งสำรวจนาฬิกาพก ผ้าเช็ดหน้า เส้นผม และกระดาษรายงาน

ระหว่างขั้นตอนดังกล่าว สัมผัสวิญญาณมิได้ร้องเตือนถึงอันตราย และไม่ได้พยายามขัดขวางการใช้พลังทำนาย

เมื่อเริ่มเข้าใจสถานการณ์ ไคลน์หยิบกระดาษและปากกาออกมา ตามด้วยการเขียนประโยคทำนายลงไป :

“สาเหตุการตายของทาลิม·ดูมงต์”

ชายหนุ่มเตรียมเล่นใหญ่ประหนึ่งไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกจับตามอง

มันหยิบเส้นผมน้ำตาลหยิกและผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดขึ้นมาถือ ตามด้วยการเปล่งเสียงข้อความประโยคทำนายบนกระดาษ และเอนหลังพิงเก้าอี้โซฟาพลางสะกดจิตตัวเองให้หลับสนิท

เมื่อทวนคำครบเจ็ดหน นิมิตความฝันของไคลน์เริ่มผุดภาพของโถงหลักสโมสรครักซ์

เป็นฉากของทาลิม·ดูมงต์กำลังใช้มือกุมหน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวดทรมาน

“ไม่ว่าจะใช้วิธีใดตรวจสอบ แต่ผลลัพธ์ก็จะยืนยันเหมือนกันทุกครั้งว่า ทาลิมเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน…” ไคลน์ลืมตาขึ้นพลางพึมพำ

ชายหนุ่มขมวดคิ้วย่น สวมสีหน้าประหลาดใจ สับสน และครุ่นคิด

มันพยายามทำนายอีกหลายครั้ง แต่ก็ต้องพบว่าคำตอบออกมาเป็นแบบเดิมทั้งหมด

มันลุกยืนและเดินวนไปมาด้วยสีหน้ากระวนกระวายแกมหงุดหงิด

มันตีอกชกตัว ปั้นหน้าโกรธ หัวเสียกับความไม่ได้เรื่องของตัวเอง หงุดหงิดกับการไม่สามารถเข้าใกล้เบาะแสคนร้าย

ลงเอยด้วย ไคลน์นั่งลงบนโซฟาด้วยสีหน้าห่อเหี่ยว ไม่กล่าวสิ่งใดเป็นเวลานาน ประหนึ่งรูปปั้นหินปราศจากชีวิตชีวา

เท่านี้คงพอแล้ว เราไม่ควรเล่นใหญ่จนเกินพอดี ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเป็นน่าสงสัย… ถ้าไม่เกรงใจคนแอบจับตามอง ป่านนี้คงชกอากาศให้พวกมันดูไปแล้ว…

ไคลน์ส่ายหัวพลางรำพันติดตลก ก่อนจะลุกยืนและเดินเข้าไปในครัว

หลังเสร็จอาหารค่ำ ชายหนุ่มกลับมาเริ่มจริงจังกับการสืบสวนอีกรอบ กระดาษรายงานกิจกรรมของทาลิมหลายวันก่อนเสียชีวิตถูกนำมาเปิดอ่านทีละหน้า

บ้านคฤหาสน์กุหลาบแดง สโมสรครักซ์ บ้านพักของไวเคาต์คอนราด… ไม่มีสิ่งใดผิดปรกติในรายการเหล่านี้…

ไคลน์หยิบดินสอแหลมขึ้นมาวาดวงกลมบนแผงผังเมืองเบ็คลันด์ ทำสัญลักษณ์ว่าตนต้องแวะไปตรวจสอบจุดใดบ้าง และสัมภาษณ์ใครบางในวันถัดไป

หลังจากจัดการเสร็จ ชายหนุ่มนำสิ่งของเก็บไว้ในห่อผ้าตามเดิม สีหน้าแสดงออกชัดเจนถึงความไม่มั่นใจในการสืบคดี ปิดท้ายด้วยการเดินเข้าห้องน้ำและตรงเข้านอน

กลางดึกสงัด ขณะจันทร์แดงกำลังถูกหมอกทึบบนท้องฟ้าบดบังจนเกือบมิดชิด นักสืบเชอร์ล็อกลืมตาขึ้นและพยุงตัวลุกนั่ง

มันลุกออกจากเตียง เดินไปเปิดประตูห้องนอนอย่างระมัดระวัง และเข้าห้องน้ำติดกันพร้อมกับใช้เทคนิคอำพรางด้วย ‘กระดาษคน’ เช่นเคย

หลังจากเดินถอยหลังทวนเข็มสี่ก้าว ไคลน์ส่งตัวเองขึ้นมายังพระราชวังโบราณบนเก้าอี้ของเดอะฟูล

ดวงตากำลังกระจ่างใส ปราศจากความห่อเหี่ยว หดหู่ และมองโลกในแง่ร้ายเหมือนกับขณะอยู่บนโลกจริง

จากนั้น มันล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าสีแดงเปื้อนเลือดออกมาถือ สิ่งนี้ถูกซ่อนไว้ในช่องกระเป๋าลับของชุดนอนไคลน์

ย้อนกลับไปขณะจัดเรียงสิ่งของเก็บเข้าไปในห่อผ้าสีดำ ชายหนุ่มฉวยโอกาสใช้เทคนิคลวงตาของนักมายากลเพื่อหยิบผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดของทาลิมซุกไว้ในกระเป๋าชุดนอน

ไคลน์ถอนหายใจยาวและเสกปากกาหมึกซึมกับกระดาษ ตามด้วยการเขียนประโยคทำนายเหมือนกับก่อนหน้านี้ทุกประการ :

“สาเหตุการตายของทาลิม·ดูมงต์”

เมื่อท่องครบเจ็ด สมองและสติของไคลน์เริ่มจดจ่อด้วยความสุขุม มือข้างหนึ่งถือกระดาษประโยคทำนาย ส่วนอีกข้างกำลังถือผ้าเช็ดหน้ามายาเปื้อนเลือด แผ่นหลังเอนพิงพนักและสะกดจิตตัวเองให้หลับใหลท่ามกลางพระราชวังโบราณ

ภายในโลกมายาอันไม่คมชัด ไคลน์มองเห็นฉากซึ่งแตกต่างจากการทำนายในคราวก่อนโดยสิ้นเชิง

ตรงหน้าคือหุ่นกระบอกไม้ขนาดเท่าฝ่ามือ มีการสลักรายละเอียดของดวงตา ปาก และจมูกไว้ครบถ้วน

บนตัวหุ่นกระบอกไม้ถูกเลือดสดสีดำหยดใส่จำนวนหนึ่ง เพียงจ้องมองก็สัมผัสถึงกลิ่นอายความชั่วร้ายและมนตร์ดำอย่างเต็มเปี่ยม

ทันใดนั้น ฝ่ามือข้างหนึ่งยื่นเข้ามาในฉาก ผิวพรรณเจ้าของมือจัดว่าขาวเนียนเปล่งปลั่ง ห้านิ้วเรียวยาวอ่อนช้อย ส่งเสริมให้ฝ่ามือข้างดังกล่าวผุดผ่องและน่าหลงใหลเกินห้ามใจ

วัตถุโดดเด่นเตะตากว่าใครคงหนีไม่พ้นแหวนเลี่ยมพลอยสีฟ้าเม็ดใหญ่บนนิ้วก้อย

พรึ่บ!

ปลายนิ้วชี้ของมือปริศนาพลันลุกโชนด้วยเปลวไฟสีดำ จากนั้น เจ้าของมือทำการเล็งไปยังบริเวณหัวใจของหุ่นกระบอกไม้

นิมิตความฝันแตกละเอียดเป็นเศษเล็กเศษน้อยคล้ายกระจก ไคลน์ได้สติกลับคืนมาอีกครั้งบนเก้าอี้

การคาดเดาของเราถูกต้อง ทาลิมเสียชีวิตจากพลังคำสาป!

แต่คำถามคือ ในเมื่อตนได้เห็นฉากฆาตกรรมด้วยคำสาป แล้วทำไมนิมิตถึงไม่แสดงฉากทั้งหมด เช่นใบหน้าคนร้ายหรือรูปพรรณสัณฐานด้านอื่น

นี่ขนาดว่าห้วงมิติเหนือสายหมอกเทามีพลังยับยั้งการแทรกแซงจากภายนอก…!

ไคลน์นั่งสับสนนานหลายวินาที

โดยทั่วไปแล้ว การได้รับผลทำนายสั้นกระชับจะทำให้ตีความผิดพลาดได้ง่าย ฉะนั้น ผลการทำนายต้องยาวและละเอียดจึงจะหมายถึงผลลัพธ์คุณภาพสูง ในทางกลับกัน ผลการทำนายสั้นกระชับอาจเกิดจากการถูกลดทอนโดย ‘ระดับตัวตน’ ของเป้าหมาย หรือไม่ก็พลังในการลดทอนประสิทธิภาพผลทำนายแบบอัตโนมัติ

มีโอกาสเป็นไปได้มากว่า เป้าหมายการทำนายของไคลน์มีระดับสูงจนแม้แต่ห้วงมิติเหนือสายหมอกก็ไม่ช่วยมอบรายละเอียด เหลือเพียงฉากขณะลงมือฆาตกรรมอย่างคลุมเครือและง่ายต่อการตีความผิด

ทำไมเราถึงรู้สึกว่าเคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาก่อน… ไคลน์พยายามเค้นความทรงจำอย่างสุดฝีมือ

ทันใดนั้น ชายหนุ่มพลันสะดุ้งเมื่อหวนนึกถึงประสบการณ์คล้ายคลึงกับผลทำนายสมัยอดีต

ย้อนกลับไปตอนยังอยู่ทิงเก็น ขณะไคลน์ทำนายถามถึงต้นตอของความไม่กลมกลืนในโชคชะตาของตน มันได้เห็นนิมิตความฝันในลักษณะคลุมเครือแบบเดียวกัน!

ฉากดังกล่าวปรากฏเพียงรอบนอกบ้านและปล่องไฟสีแดง แต่ไม่เห็นตัวอินซ์·แซงวีลล์และสมบัติปิดผนึก 0-08!

น…นี่มัน พลังระดับเดียวกับสมบัติปิดผนึกระดับ 0 ของโบสถ์เลยหรือ? พลังในการลดทอนผลการทำนายจากห้วงมิติเหนือสายหมอกสีเทา… ไคลน์เริ่มหรี่ตาลง

อย่าเพิ่งด่วนสรุป อาจไม่ใช่ก็ได้ ยังมีความไปเป็นไปได้ทางอื่นอีกมาก และเราก็มีวิธีพิสูจน์ว่าสมมติฐานดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่!

ชายหนุ่มพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง

สำหรับวิธีพิสูจน์ คนเคยมีประสบการณ์อย่างไคลน์ไม่ต้องนึกนาน วิธีการแสนง่ายดายก็คือ ทำนายแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง!

หากผลการทำนายยังออกมาตามปรกติ หมายความว่าระดับของเป้าหมายมิได้สูงมากจนต้องกังวล แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาล้มเหลว จะเป็นเครื่องยีนยันได้ทันทีว่าเป้าหมายคราวนี้มีพลังแทรกแซงห้วงมิติเหนือสายหมอกระดับเดียวกับ 0-08!

ไคลน์สูดลมหายใจเข้าลึกและเตรียมทำนายซ้ำแบบเดิมทุกประการ

“สาเหตุการตายของทาลิม·ดูมงต์”

ชายหนุ่มเปล่งเสียงแผ่วเบาพร้อมกับเอนหลังพิงเก้าอี้ ตาดำเริ่มเปลี่ยนจากสีน้ำตาลกลายเป็นคล้ำเข้ม

ท่ามกลางโลกสีเทา ภาพเดียวในหัวไคลน์คือเศษกระจกแตกละเอียด ปราศจากร่องรอยของหุ่นกระบอกไม้หรือฝ่ามือโดยสิ้นเชิง

หงึก.

ร่างกายไคลน์พลันสั่นเทา สีหน้าแววตาอึมครึมเคร่งเครียด

ทาลิมพัวพันกับอะไรเข้า?

ไคลน์ขมวดคิ้วรำพัน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เราต้องทำอย่างไรต่อไปหลังจากนี้… ทางเลือกเดียวคือการสงบเสงี่ยมเจียมตัวให้มาก โกหกองค์ชายเอ็ดซัคโดยการบอกว่า เราไม่มีความสามารถมากพอจะเข้าถึงความจริงของคดี…

ฟู่ว! อันตรายฉิบหาย! ความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยก็มากพอจะทำให้คนธรรมดาเข้าไปพัวพันกับเรื่องใหญ่จนถึงแก่ชีวิต…

ไคลน์ถอนหายใจยาวสุดปอด มันไม่กล้าอยู่นานกว่านี้ จึงรีบห่อหุ้มร่างกายด้วยพลังวิญญาณและส่งตัวเองกลับห้องน้ำ

วันอังคารเก้าโมงเช้า ณ สุสานมงกุฎ

ไคลน์ยืนขอบฝูงชนคลาคล่ำ สวมเชิ้ตสีดำ เสื้อกั๊กสีดำ และเสื้อโค้ทขนสัตว์สีดำ มือข้างหนึ่งถือดอกไม้สดซึ่งซื้อมาในราคาสิบสองซูล สีหน้าไคลน์เกิดความเศร้าหมองจากก้นบึ้งขณะเห็นโลงศพของทาลิมถูกยกผ่านหน้า สวดส่งวิญญาณ และฝังลงดิน

ระหว่างพิธีกรรม มารดาของทาลิมมีดวงตาบวมแดง เธอพะงาบปากหลายหนคล้ายกับต้องการกล่าวบางสิ่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีคำใดถูกเปล่งออกมา บิดาของทาลิมมีผมสีเทาหงอก ร่างกายซูบผอมคล้ายกับไม่มีอาหารตกถึงท้องหลายมื้อ เขายืนสั่นเทาเช่นนั้นเป็นเวลานาน

เมื่อเห็นภาพดังกล่าว ไคลน์แหงนหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับหลับตาลง

จนกระทั่งพิธีกรรมดำเนินมาถึงช่วงวางดอกไม้ ชายหนุ่มรอให้คนอื่นเดินเข้าไปก่อนจนเกือบหมด เมื่อถึงคิวตนจึงค่อยนำดอกไม้สีขาวไปวางด้านบนสุดด้วยสีหน้าสุดอาลัย

ฉันขอโทษ… ไคลน์รำพัน

มันยืนขึ้นและหลบให้คนข้างหลังเข้าไปวางต่อ ขณะกำลังจะกลับ มุมสายตาบังเอิญเหลือบเห็นศัลยแพทย์อลันและนักข่าวไมค์

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าทาลิมก็จะด่วนจากพวกเรา… เฮ่อ” ไมค์สะอื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว มิอาจเติมเต็มประโยคของตนให้เสร็จ

อลัน ผู้สวมสีหน้าเย็นชามาตลอด ยามนี้ถอดแว่นตาออกพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดคราบน้ำตา

“เขาเป็นคนอบอุ่นและใจกว้าง ไม่สมควรต้องมีจุดจบเช่นนี้เลย”

“ถูกต้อง เขาควรได้รับโอกาสกอบกู้ชื่อเสียงด้านลบของปู่เสียก่อน…” ไคลน์เสริม

ขณะเดียวกัน หญิงสาวสวมเดรสดำและหมวกตาข่ายปิดหน้าคนหนึ่งเดินผ่านไคลน์เข้าไปทางหลุมศพ และเฉกเช่นผู้อื่น เธอกำลังถือดอกไม้สีขาวหนึ่งช่อในมือ

ไคลน์ปล่อยผ่าน มิได้สนใจอะไรนัก แต่สายตายังคงมองค้างในทิศทางดังกล่าว

ขณะหญิงสาวคนเดิมเดินเข้าไปวางดอกไม้เหมือนคนอื่น ไคลน์พลันเหลือบเห็นบางสิ่งบนมือซ้ายของเธอซึ่งกำลังสวมถุงมือตาข่ายสีดำ

แหวนพลอยสีฟ้าบนนิ้วก้อย!

แทบจะในพริบตา รูขุมขนทั่วร่างชายหนุ่มพลันหดเกร็ง แขนขาสั่นเทาอย่างมีอาจยับยั้ง อาการชาเริ่มกัดกินใบหน้าก่อนจะลามไปยังทุกซอกมุม

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset