Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 415 : แหวน

ราชันเร้นลับ 415 : แหวน

ไคลน์ไม่ประหลาดใจกับคำแนะนำของไอเซนการ์ดสักเท่าใด ชายหนุ่มเพียงชำเลืองประตูห้องปิดสนิทและกล่าวโดยไม่มองหน้า

“ผมทราบมาว่า ปีศาจมีพลังในการหยั่งรู้ถึงอันตรายล่วงหน้า สามารถบอกได้แม้กระทั่งแหล่งกำเนิดอันตราย ส่งผลให้มันเตรียมแผนรับมือได้ทันเวลา ฉะนั้น การวางกับดักเพื่อจัดการมันคงไม่ใช่เรื่องงาน”

ไอเซนการ์ดพยักหน้ารับ

“คุณเข้าใจถูกต้อง แต่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีจัดการเสียทีเดียว”

“วิธีไหน?” คาสลาน่ารีบถาม

ไอเซนการ์ดยิ้ม

“ผมเคยดวลกับมันตัวต่อตัวและได้เห็นพลังหยั่งรู้อันตรายมาแล้ว จึงพอจะทราบถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของพลังดังกล่าว เส้นทางปีศาจสามารถตระหนักถึงอันตรายล่วงหน้าได้ระยะเวลาหนึ่ง หากมีใครวางแผนเตรียมลงมือทำร้ายมัน ปีศาจจะสัมผัสได้ทันทีว่ามีอันตรายคืบคลานเข้าหา แน่นอน ต้องเป็นอันตรายในระดับสามารถทำให้มันบาดเจ็บได้ พลังหยั่งรู้จึงจะแสดงผล”

ผิดแล้วสหาย ความจริงก็คือ ปีศาจแต่ละชนิดสามารถหยั่งรู้อันตรายได้ไม่เท่ากัน บางประเภทจะได้ทราบก่อนภัยมาถึงตัวเพียงสิบห้าถึงยี่สิบนาทีเท่านั้น…

ไคลน์โต้แย้งในใจ มิได้กล่าวออกไป

ไอเซนการ์ดเล่าต่อ

“จุดอ่อนของพลังดังกล่าวก็คือ ปีศาจจะทราบเพียงตำแหน่งและตัวตนของผู้สร้างอันตราย ไม่มากไปกว่านี้ พวกเราจึงสามารถนำช่องโหว่มาใช้ดัดหลังมันได้”

“ช่องโหว่? เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังหยั่งรู้อันตราย กับดักก็ไม่น่าจะได้ผลไม่ใช่หรือ”

คาสลาน่าถามอย่างไม่เข้าใจ

ไคลน์เองก็พยักหน้าเห็นพ้อง

จริงอยู่ เราสามารถใช้พลังของห้วงมิติเหนือสายหมอกในการผนึกลางสังหรณ์ศัตรู แต่ปัญหาคือ เราคงเปิดเผยพลังของมิติเหนือสายหมอกเทาให้พวกเขารับรู้ไม่ได้…

ไคลน์เสริมในใจ · ไอเซนการ์ดหัวเราะ

“ในทางทฤษฎีละก็ใช่ แต่โลกของผู้วิเศษเต็มไปด้วยความพิศวงมากมาย ตัวผมคือลำดับ 7 ผู้พิทักษ์ความรู้ หรือมีฉายาว่า ‘นักสืบ’  ผมยอมเปิดเผยพลังตัวเองเพราะต้องการแสดงให้เห็นความจริงใจ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าความไว้เนื้อเชื่อใจอีกแล้ว”

แค่ลำดับ 7 เนี่ยนะ? แล้วลำดับ 7 เอาชีวิตรอดจากลำดับ 5 ผู้ปลดปล่อยความกระหายได้อย่างไร? ไม่ผิดแน่ มิสเตอร์สแตนธอนคงครอบครองสมบัติวิเศษทรงพลังสักชิ้น…

เมื่อกระจ่าง ไคลน์สลับท่านั่ง

“ผู้พิทักษ์ความรู้มีพลังในการสยบสัญชาตญาณของปีศาจหรือ” คาสลาน่าเอนตัวมาด้านหน้าและซักถามอย่างสนใจ

“เปล่า” ไอเซนการ์ดยิ้มมุมปาก “แต่ผมมีแหวนพิเศษ ถือกำเนิดจากการคลุ้มคลั่งของผู้วิเศษลำดับ 6 เส้นทางนักอ่าน หากผมได้เห็นพลังพิเศษชนิดใด ผมจะสามารถจำแนก บันทึก และเลียนแบบได้ทั้งหมด แต่แน่นอน ยิ่งเป้าหมายมีระดับสูง โอกาสล้มเหลวย่อมมากกว่าสำเร็จ

“ฮะฮะ! นี่คือคติพจน์ของโบสถ์เรา ปัญญาคือพลังอันยิ่งใหญ่!”

ทำไมเราถึงคุ้นหูนัก…

ยิ่งไปกว่านั้น คำอธิบายรายละเอียดนั่น…

ขณะไคลน์กำลังเค้นสมองนึก ไอเซนการ์ดล้วงหยิบแหวนหรูหราวงหนึ่งออกมาแสดง

แหวนเลี่ยมเพชร เต็มไปด้วยเพชรเม็ดเล็กจำนวนมาก รอบนอกเป็นอัญมณีสีเขียวมรกตหรูหราราคาแพง มองผิวเผินจะคล้ายกับดวงตาของมนุษย์

เพียงจ้องเข้าไปในแหวน สมองไคลน์พลันพร่ามัว ประหนึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานเกินขีดจำกัด

ไม่ผิดแน่… นี่คือสมบัติปิดผนึก 2-081!

ไอเซนการ์ด·สแตนธอนคือชายชราเจ้าของนามแฝง มิสเตอร์เนตรแห่งปัญญา?

ไคลน์จ้องมองยอดนักสืบบนเก้าอี้เอนกาย

แหวนวงนั้นคือสมบัติปิดผนึก 2-081 ซึ่งมิสเตอร์เนตรแห่งปัญญาเคยนำมาอวดกับตน แถมยังนำออกมาใช้ตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าภายในชุมนุมลับหลายหน!

เนตรแห่งปัญญา… นามแฝงดังกล่าวสอดคล้องกับการเป็นสาวกโบสถ์เทพปัญญาความรู้…

ไคลน์อาศัยพลังตัวตลกช่วยปกปิดอาการตื่นตระหนักพร้อมกับจ้องมองไอเซนการ์ดอย่างเงียบงัน

หลังจากพิจารณาสักพัก ชายหนุ่มพบว่าไอเซนการ์ดมีความคล้ายคลึงกับเนตรแห่งปัญญาหลายส่วน และแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในหลายส่วน

อำพรางตัวเก่งกาจ… สมกับเป็นเจ้าของชุมนุมลับผิดกฎหมาย… หรือนี่จะเป็นพลังของ 2-081 ด้วยเช่นกัน?

ไคลน์วิเคราะห์อย่างคร่าว

ทันใดนั้น ชายหนุ่มเริ่มสร้างมโนภาพเหตุการณ์ล่วงหน้าภายในสมอง

…ถ้าเกิดมิสเตอร์สแตนธอนบอกว่า :

“เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ ในเมื่อผมได้บอกเส้นทางและสมบัติวิเศษของตนไปแล้ว ถึงตาพวกคุณช่วยบอกลำดับ เส้นทาง และสมบัติวิเศษของตัวเองด้วย”

แล้วเราควรตอบกลับอย่างไร…? ควักเข็มกลัดสุริยันซึ่งซื้อต่อจากเขาออกมาแสดง?

เขาจะไม่ตะโกนใส่หน้าเราว่า “เจอตัวแกสักที ไอ้เด็กเวร!” เอาหรือ?

ขณะจินตนาการไคลน์กำลังเตลิด คาสลาน่าก้มมองแหวนพร้อมกับซักถามด้วยน้ำเสียงอิจฉาแกมประหลาดใจ

“แล้วคุณคิดจะใช้แหวนจำลองพลังชนิดใดเพื่อต่อกรกับสัญชาตญาณหยั่งรู้ของปีศาจ”

ไอเซนการ์ดยกโค้งมุมปาก

“ผมจะต่อสู้กับพลังหยั่งรู้อันตรายด้วย… พลังหยั่งรู้อันตราย”

ในวินาทีนี้ สีหน้าของมันเผยความเจ้าเล่ห์เยี่ยงจิ้งจอกเฒ่า

หือ… ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ… ไคลน์ผงะเล็กน้อยเนื่องจากยังคิดตามไม่ทัน

เมื่อเห็นไคลน์และคาสลาน่าแสดงสีหน้าฉงน ไอเซนการ์ดช่วยอธิบาย

“ประการแรก พวกเราต้องวางแผนอย่างจริงจังเพื่อสร้างอันตรายให้กับปีศาจตนดังกล่าว และแน่นอน ต้องลงมือทำจริงด้วย สอง ผู้ปลดปล่อยแรงปรารถนาจะสัมผัสถึงอันตรายจากพวกเรา และยังทราบด้วยว่ามาจากบ้านหลังนี้ สาม เนื่องจากผู้ปลดปล่อยแรงกระหายมิได้วางแผนไว้ล่วงหน้า สมองของมันจะทำตามสัญชาตญาณเป็นอันดับแรก พฤติกรรมเช่นนี้ถูกฝังอยู่ในสายเลือดและเปลี่ยนกันยาก ห้วงความคิดแวบแรกของมันจึงเป็นการกำจัดต้นตอของปัญหาอย่างเราสามคนทิ้ง ห้วงความคิดถัดมาจึงค่อยเป็นการประเมินว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน มันควรหนีจากพวกเราหรือแก้แค้นตามเดิม สี่ เมื่อผมเปิดใช้งานพลังหยั่งรู้อันตรายบ้าง ด้วยจิตสังหารท่วมท้นจากอีกฝ่าย ผมจะระบุตำแหน่งของมันได้อย่างแม่นยำทันที”

นี่มัน… แผนการขั้นเทพ… ไคลน์กำลังทึ่ง

แต่หลังจากนั้นแล้วยังไงต่อ? ในเวลาเดียวกัน ปีศาจคงตระหนักได้เช่นกันว่านี่เป็นกับดัก และเผ่นหนีไปโดยไม่เปิดโอกาสให้ลงมือ พวกเราไม่มีทางไล่ตามทันอยู่แล้ว…

ไคลน์เริ่มสับสน

ไอเซนการ์ดมองสลับไปมาระหว่างไคลน์และคาสลาน่า

“จากการอนุมานของผม ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายต้องอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้ เพราะไม่ว่าพลังกระตุ้นแรงกระหายจะสะดวกสบายสักเพียงใด แต่ก็ต้องมีขอบเขตแสดงผลจำกัด และเมื่อครู่ มันเพิ่งใช้พลังดังกล่าวไปกับสจ๊วตและคนอื่น ในช่วงบ่าย หลังจากผมหนีจากมันสำเร็จ สาเหตุให้ใช้เวลานานก่อนจะมาถึงบ้านคุณ เพราะต้องวางแผนตลบหลังคนร้ายร่วมกับเหยี่ยวราตรี จิตแห่งจักรกล และกองทัพ พวกเขาสัญญาว่าจะส่งหน่วยพิเศษซึ่งรับงานดูแลละแวกใกล้เคียงมาช่วยราวสองถึงสามทีม ฮะฮะ! แน่นอน สิ่งนี้คงไปกระตุ้นพลังหยั่งรู้ของปีศาจ แต่มันคงไม่ใส่นักเนื่องจากเป็นเหตุการณ์ซึ่งพบได้ตามปรกติ หลักฐานชัดเจนคือ มันยังคงลงมือกับสจ๊วตแม้จะตระหนักถึงอันตรายจากหน่วยพิเศษ หากผมระบุตำแหน่งของปีศาจได้เมื่อไร จะรีบแจ้งให้หน่วยพิเศษทราบทันที และพวกเขาก็จะเริ่มลงมือปิดกั้นเส้นทางหลบหนีรอบตัวผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย”

“ผมมีคำถาม แล้วเราจะแจ้งให้หน่วยพิเศษทราบได้อย่างไร หากแจ้งไม่สำเร็จภายในหนึ่งอึดใจ เกรงว่าปีศาจตนดังกล่าวจะมีเวลามากพอสำหรับหลบหนีออกจากเมือง”

ไคลน์ซักถาม

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็จนปัญญา แน่นอน ไม่มีแผนการใดสมบูรณ์แบบ การจะจัดการปีศาจตนดังกล่าวจำเป็นต้องใช้สมบัติปิดผนึกชนิดพิเศษ ผนึกเส้นทางหลบหนีทั้งหมดและล้อมจับด้วยกำลัง แต่สมบัติปิดผนึกชิ้นดังกล่าวมีขั้นตอนการเปิดใช้งานค่อนข้างนาน หากพวกเราพลาด ผู้ปลอดปล่อยแรงกระหายคงหลบหนีออกจากเบ็คลันด์โดยสมบูรณ์ แต่บางที มันอาจย้อนกลับมาแก้แค้นอีกครั้งก็ได้ ใครจะรู้”

ไอเซนการ์ดอธิบายพร้อมกับล้วงหยิบวัตถุสีทองขนาดเท่าฝ่ามือออกมาแสดง สิ่งนี้คือเครื่องส่งโทรเลขจิ๋ว แต่มีแตรติดอยู่ด้านบน

“นี่คือสมบัติปิดผนึก สามารถขยายเสียงผมออกไปได้ไกลถึงห้ากิโลเมตร” ไอเซนการ์ดยิ้มพลางอธิบายต่อ “ผลข้างเคียงคือ ผมจะได้ยินเสียงทั้งหมดภายในรัศมีห้ากิโลเมตรเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมสามารถใช้พลังพิเศษบางชนิดช่วยบรรเทาได้”

เมื่อฟังจบ คาสลาน่าขมวดคิ้ว

“ในเมื่อมีหน่วยพิเศษของทางการเตรียมลงมือ พวกเราก็ไม่จำเป็นไม่ใช่หรือ”

ไอเซนการ์ดสวม 2-081 อย่างระมัดระวังพร้อมกับกล่าวเสียงขรึม

“เพื่อไม่ให้ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายตรวจพบความผิดปรกติ หน่วยพิเศษของทางการจึงดักซุ่มอยู่ในละแวกห่างออกไป เป็นงานของพวกเราสามคนในการตรึงมันไว้อย่างสุดฝีมือ จนกว่าสมบัติปิดผนึกของหน่วยพิเศษจะเปิดใช้งานเสร็จสมบูรณ์”

“ผมไม่คัดค้าน” ไคลน์พยักหน้ารับหลังจากไตร่ตรองสักพัก

คาสลาน่าก็เช่นกัน

“มิสเตอร์สแตนธอน คุณไม่จำเป็นต้องเปิดเผยพลังของตัวเองเลยสักนิด เพราะไม่ว่าอย่างไร เราสองคนก็ต้องร่วมมือเพื่อความอยู่รอดอยู่แล้ว”

“ฮะฮะ! การเปิดเผยพลังก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเช่นกัน และในเมื่อพวกคุณตกปากรับคำ ผมจะถือว่าปฏิบัติการของพวกเราเริ่มขึ้น ณ บัดนี้…”

ไอเซนการ์ดหรี่ตาลง

เม็ดมรกตบนแหวนในมือขวาพลันส่องแสงออร่าสีฟ้าอ่อน

ทันใดนั้น ไอเซนการ์ดลุกพรวดพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นไปข้างบนด้วยสีหน้าอึมครึม

“ตรงนั้น! ชั้นบน!”

ไคลน์และคาสลาน่ารีบขยับตัวทันที คนหนึ่งเตรียมดีดนิ้วเพื่อจุดไม้ขีดไฟบนชั้นสองและย้ายร่างตัวเองไป ส่วนอีกคนวิ่งตามหลังไอเซนการ์ดไปทางประตู

ไม่มีใครคาดคิดว่า หลังจากแผนการสร้างความโกลาหลล้มเหลว ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายจะยังแฝงตัวอยู่ภายในอาคารหมายเลข 15 ถนนมินส์!

บางที มันคงกำลังเฝ้ามองเราสามคนวางแผนอย่างเลือดเย็น… ไคลน์ผุดความคิดอันน่าขนลุก

ทันใดนั้น ไคลน์บังเอิญเหลือบเห็นดวงตาของคาสลาน่าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ พร้อมกันนั้น นักสืบหญิงชักกำปั้นขวาและเล็งชกใส่แผ่นหลังของไอเซนการ์ดโดยปราศจากความลังเล

จุดดังกล่าวตรงกับหัวใจพอดิบพอดี!

นี่มัน… ตาดำไคลน์หดเกร็ง ข้อสงสัยหลายประเด็นพลันกระจ่างในพริบตา

เหตุผลให้ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายยังไม่หนีออกจากบ้านเรา เพราะมันมีแผนสำรองเตรียมรอไว้แล้ว!

มันยังเหลือเหยื่อ ‘การชี้นำทางจิต’ ซึ่งยังไม่ถูกกระตุ้นอีกหนึ่งคน

และนั่นคือคาสลาน่า!

หนึ่งในสามผู้วิเศษของฝ่ายเรา!

มันจงใจแสดงให้ทุกคนเห็นว่าแผนการกระตุ้นเหล่านักสืบล้มเหลว ทางเราจะได้ลดการป้องกันลง จากนั้นก็รอคอยจังหวะสำคัญเพื่อกระตุ้นแรงกระหายของคาสลาน่า!

เป้าหมายอันดับหนึ่งของผู้ปลดปล่อยแรงกระหายคือไอเซนการ์ดตั้งแต่แรก!

เจ้าเล่ห์ฉิบหาย… ไคลน์รีบดีดนิ้วเพื่อยิงกระสุนอากาศใส่คาสลาน่า

พร้อมกันนั้น มันตะโกน

“หลบ!”

ไอเซนการ์ดย่อมมีประสบการณ์ต่อสู้โชกโชน จึงรีบกระโดดไปข้างหน้าแม้จะไม่ทราบว่าไคลน์ให้หลบสิ่งใด

แต่คาสลาน่าไม่แยแสกระสุนอากาศของชายหนุ่ม เธอปล่อยให้มันพุ่งกระทบแขนจนโลหิตสาดกระเซ็นเปรอะเต็มพื้น

เปรี้ยง!

ขณะเดียวกัน คาสลาน่าบรรจงชกใส่แผ่นหลังไอเซนการ์ดโดยการโถมน้ำหนักทั้งตัว

กร็อบ!

ไคลน์ได้ยินเสียงกระดูกหักแจ่มชัด และจุดดังกล่าวคือกระดูกสันหลังแสนสำคัญ

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset