Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1076 : คำขอของโดเรียน

เขตเชอร์วู้ด อาคารหมายเลข 22 ถนนปรารถนา โรงแรมแฮททริค ด้านนอกห้องพักเลขที่ 2016

ฟอร์สเดินทะลุกำแพงผ่านเข้ามาง่ายๆ โดยไม่ดึงดูดสายตาใคร จากนั้นก็ใช้นิ้วเคาะประตูห้องตามจังหวะที่ตกลงกันไว้

เพียงไม่นาน โดเรียน·เกรย์·อับราฮัมในชุดสูทสีดำ เจ้าของร่างกายกำยำและไหล่กว้างทำการเปิดประตู

สุภาพบุรุษรายนี้รีบมองไปรอบๆ และฉากหลบให้ฟอร์สผ่านเข้าไปในห้อง

“…ผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะกลายเป็นนักบันทึกได้เร็วขนาดนี้” ปิดประตูเสร็จ โดเรียนตรวจสอบกลอนประตูอย่างระมัดระวังก่อนจะหมุนตัวกลับมาพลางถอนหายใจยาว

ตามมาตรฐานของยุคปัจจุบัน โดเรียนถือว่าเป็นชายวัยกลางคนค่อนไปทางสูงอายุ แต่มันเพิ่งอยู่แค่ลำดับ 7 โหราจารย์และหมดหวังที่จะเลื่อนลำดับต่อไป

แต่กระนั้น ฟอร์ส·วอลล์ นักเรียนของมันกลับเลื่อนจากลำดับ 9 มาถึง 6 ได้ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี

เมื่อนำมาเปรียบเทียบ โดเรียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจตัดพ้อ

สายเลือดของตระกูลอับราฮัมควรจะมีเกียรติและสูงส่ง แต่กลับต้องเผชิญความน่าอดสูเพียงเพราะคำสาป สิ่งนี้สร้างความท้อแท้ให้ไม่น้อย

“เป็นเพราะคุณสอนเก่งค่ะ อาจารย์” แม้ว่าฟอร์สจะชอบอยู่แต่ในบ้านมากกว่าออกไปข้างนอก แต่ในฐานะนักเขียนนิยายขายดี มีบ่อยครั้งที่เธอได้รับเชิญจากเหล่าขุนนางให้เข้าร่วมซาลอนวรรณกรรม ส่งผลให้พอจะรู้จักวิธีเข้าสังคมและวาทศิลป์อยู่บ้าง นอกจากนั้น เป็นความจริงที่เธอได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากอาจารย์ ไม่ว่าจะความรู้ เงินทอง สูตรโอสถ หรือวัตถุดิบ

โดเรียนเหลือบมองหญิงสาวพลางส่ายหน้าและยิ้ม

“ผมไม่ได้มีคุณเป็นนักเรียนแค่คนเดียว… ด้วยความเร็วระดับนี้ ในความทรงจำของผมมีแค่คนเดียวที่ทัดเทียมกับคุณ”

มันเว้นวรรคก่อนจะกล่าวต่อ

“ถัดไป… เป้าหมายของคุณคือลำดับ 5 นักท่องเที่ยว… แต่ผมคาดหวังในตัวคุณมากกว่านั้น นั่นคือลำดับ 4 จอมเวทลึกลับ… แต่แน่นอนว่าผมมีเรื่องจะขอร้อง นั่นคือเมื่อใดที่คุณกลายเป็นครึ่งเทพ ได้โปรดสวดวิงวอนถึงใครบางคนและพยายามฟังคำตอบจากท่าน พยายามถอดความหมายว่าท่านต้องการจะสื่อถึงสิ่งใด… การทำแบบนี้อันตรายมาก แต่สำหรับครึ่งเทพลำดับ 4 ร่างกายของคุณจะทนทานมากพอที่จะแบกรับผลข้างเคียง หากไม่มีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องก็คงไม่มีปัญหา”

“อาจารย์… คำตอบนั้นสำคัญกับคุณมากเลยหรือ?” แม้ว่าฟอร์สพอจะทราบเรื่องราวอยู่แล้ว แต่เธอก็แสร้งทำเป็นฉงน

โดเรียนเงียบงันสักพักก่อนจะถอนหายใจยาว

“สำคัญมาก… พ่อแม่ของผม น้องชายของผม น้องสาวของผม ลูกของผม… มีผู้คนมากมายต้องสละชีวิตเพื่อแสวงหาคำตอบนี้ แต่พวกเราไม่ได้อะไรกลับมาเลย… แต่คุณไม่ต้องกังวล พวกเราต้องสังเวยมากขนาดนี้เพราะคำสาปในสายเลือดของตระกูล คุณที่เป็นคนนอกสบายใจได้… ผมไม่หวังว่าจะขจัดคำสาปได้ในรุ่นตัวเอง แต่อย่างน้อยก็อยากทราบต้นตอของมัน อยากทราบว่าสิ่งใดคือสาเหตุที่ทำให้ทุกคนต้องตาย”

กล่าวถึงตรงนี้ โดเรียนถอนหายใจเงียบ

ด้วยเหตุผลบางประการ ฟอร์สพลันตระหนักถึงภาระอันหนักอึ้งที่ส่งต่อกันมาเป็นเวลานานนับพันปี

เธอไม่อยากจะนึกภาพตามว่า การที่เหล่าบรรพชน พ่อแม่ พี่ชาย น้องสาว และลูกต้องตายไปด้วยคำสาปเดียวกันไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม คนที่ยังมีชีวิตอยู่จะรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน

เมื่อนึกถึงความใจดีของอาจารย์ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ฟอร์สซึ่งมักถูกผู้สูงอายุเอ็นดูเป็นประจำลืมตาขึ้นและผงกศีรษะหนักแน่น

“ฉันจะทำให้เต็มที่…”

โดเรียนพยายามอดกลั้นความรู้สึก เพียงพยักหน้ารับแผ่วเบาและกล่าว

“จุดแข็งที่สุดของคุณคือความใจดี”

ฟอร์สเขินอายเล็กน้อย จากนั้นก็ทำทีเป็นเอะใจกับคำพูดของอาจารย์

“ตระกูล?”

เธอจำได้ว่าอาจารย์ไม่เคยพูดถึง ‘ตระกูล’ ให้ฟังมาก่อน แค่พูดว่าตน ลาโบโร่ และอาริสาเป็นสมาชิกขององค์กรลับแห่งหนึ่ง

เพื่อที่จะแยกแยะในสิ่งที่อาจารย์เล่าให้ฟังและสิ่งที่ได้ยินจากชุมนุมทาโรต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟอร์สพยายามท่องจำอย่างละเอียดก่อนออกจากบ้าง เพื่อไม่ให้เผลอหลุดปากพูดในสิ่งที่ไม่ควร

โดเรียนตอบกระชับ

“เพื่อแก้คำสาป ทุกคนในตระกูลต้องเข้าร่วมองค์กรลับนั้น”

มันเปลี่ยนหัวข้อทันที

“ทำไมคราวนี้คุณถึงรีบร้อนย้ายบ้าน?”

“ฉันถูกหน่วยพิเศษของทางการจับตามอง” ฟอร์สพูดความจริงเพียงครึ่ง ตามด้วยการตัดพ้อเกี่ยวกับบุรุษไปรษณีย์

โดเรียนไม่กล่าวคำใด เริ่มประกอบพิธีกรรมอัญเชิญสิ่งมีชีวิตจากความว่างเปล่าที่รักในเสียงเพลง มาลมอส และสั่งให้มันคายออกมาสามสิ่ง

ชิ้นแรกคือผลึกที่ใสจนเกือบจะเป็นภาพมายา ชิ้นที่สองคือกระดาษหนังเก่าๆ และชิ้นที่สามคือกระเป๋าสะพายใบเล็กของนักล่า

“สิ่งนี้คือตะกอนพลังที่นักท่องเที่ยวเหลือทิ้งไว้… เมื่อมีมัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องรวบรวมวัตถุดิบหลัก… ส่วนนี่คือสูตรโอสถนักท่องเที่ยว และสำหรับกระเป๋าสะพาย ด้านในอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบเสริม… หากคุณไม่มีวิธีเก็บรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ พยายามย่อยโอสถนักบันทึกให้สำเร็จภายในครึ่งปี ไม่อย่างนั้นพลังวิญญาณจะเสื่อมถอยจนไม่สามารถใช้การได้” โดเรียนมอบทั้งสามสิ่งในมือให้ฟอร์ส

“ขอบคุณค่ะ… อาจารย์” ฟอร์สกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ

จากนั้นก็คลี่กระดาษหนังออก อ่านพิธีกรรมที่เขียนไว้อย่างรวดเร็ว:

“กำหนดพิกัดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงภายในโลกวิญญาณจำนวนสี่แห่ง ทุกแห่งต้องห่างไกลกันมาก… จุดประสงค์คืออะไรหรือ?” ฟอร์สไตร่ตรองสักพักก่อนจะถาม

“หลังจากดื่มโอสถนักท่องเที่ยวเข้าไป ตัวคุณจะหลุดเข้าไปโลกวิญญาณอย่างบ้าคลั่งและควบคุมไม่ได้ รอจนกระทั่งทำความเข้าใจและสามารถควบคุมพลังเบื้องต้น คุณจะพบว่าตัวเองกำลังหลงทาง และพิกัดเหล่านั้นคือตำแหน่งที่ใช้สำหรับกลับสู่โลกความจริง… ไม่อย่างนั้นคุณจะถูกขังอยู่ในโลกวิญญาณไปตลอดกาล ที่นั่นจะกลืนกินคุณและทำให้คุณเสียสติ กลายเป็นสัตว์วิญญาณโดยสมบูรณ์” แม้โดเรียนจะเป็นนักท่องเที่ยวไม่ได้ แต่ก็เคยเห็นพิธีกรรมเลื่อนลำดับของศิษย์มาก่อน

“ฟังดูเหมือนสามารถใช้วิธีอื่นทดแทนได้…” ฟอร์สทำหน้าครุ่นคิด

“ถูกต้อง” โดเรียนผงกศีรษะ “เมื่อก่อนเคยมีวัตถุบางชิ้นในองค์กรที่ช่วยให้ผู้ประกอบพิธีกรรมกลับสู่โลกความจริงได้ทันที… แต่น่าเสียดาย ตอนนี้มันหายไปแล้ว”

โดยไม่รอให้ฟอร์สถาม โดเรียนกล่าวต่อ

“ถ้าเกิดว่า… ผมแค่สมมตินะ… ถ้าคุณกลายเป็นครึ่งเทพได้จริงและเติมเต็มความปรารถนาของผม ผมจะมอบสิ่งที่สำคัญมากซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผมให้คุณ… นี่คือสิ่งระดับความคาดหวังที่อาจารย์มีต่อศิษย์”

หนึ่งในสมบัติปิดผนึกที่ทรงพลังของตระกูลอับราฮัม? ฟอร์สคาดเดาบางสิ่งอย่างคลุมเครือ แต่ไม่กล้ารับปาก เพียงตอบเหมือนเดิม

“ฉันจะทำให้เต็มที่…”

จากนั้นก็ถามด้วยความสงสัย

“อาจารย์บอกว่าลำดับ 4 คือจอมเวทลึกลับ… เช่นนั้นแล้วลำดับ 3 2 และ 1 มีชื่อว่าอะไรบ้าง?”

โดเรียนหัวเราะ

“คุณเพิ่งจะลำดับ 6 เองนะ… อา… ลำดับ 3 ชื่อนักพเนจร ลำดับ 2 จอมเวทท่องมิติ และลำดับ 1 กุญแจดารา… พูดถึงเรื่องนี้ทำให้ผมนึกขึ้นได้ ผมลืมเขียนข้อความระวังในการท่องโลกวิญญาณให้คุณ นั่นเป็นเรื่องสำคัญหลังจากคุณเลื่อนลำดับสำเร็จ… เอาเป็นว่า ผมจะพักอยู่ในเบ็คลันด์ต่ออีกหนึ่งคืน พรุ่งนี้คุณมาหาผมเพื่อรับเอกสารไปอ่าน”

ขณะฟอร์สพยายามจดจำชื่อโอสถลำดับสูงของเส้นทางผู้ฝึกหัด เธอพยักหน้ารับ

“ตกลงค่ะ”

หลังจากสะสางเรื่องราวเสร็จ โดเรียนเดินวนเวียนภายในห้องสักพักก่อนจะตักเตือน

“ตะกอนพลังในเส้นทางเดียวกันจะมีแรงดึงดูดอย่างลับๆ … ในลำดับต่ำอาจยังไม่ชัดเจน ยิ่งลำดับสูงจะยิ่งรุนแรง… สำหรับนักท่องเที่ยว คุณอาจสัมผัสถึงแรงดึงดูดโดยตรงไม่ได้ แต่มันจะแอบทำให้คุณ ‘บังเอิญ’ เข้าใกล้ผู้วิเศษลำดับสูงสองเส้นทางเดียวกันโดยไม่รู้ตัว… หลังจากเลื่อนลำดับสำเร็จ คุณต้องระวังเรื่องนี้ให้มาก”

กล่าวจบ โดเรียนเว้นวรรคก่อนจะเสริม

“ครึ่งเทพของเส้นทางผู้ฝึกหัดที่ยังมีชีวิตนั้นเหลือน้อยเต็มที จากบรรดาทั้งหมด คนที่คุณต้องระวังตัวเป็นพิเศษคือชายที่ชื่อโบทิส… เจ้านั่นคือ ‘นักบุญเร้นลับ’ แห่งชุมนุมแสงเหนือ… เป็นคนทรยศขององค์กรเราเหมือนกับลูอิส·เวย์น ไว้พรุ่งนี้ผมจะส่งภาพเหมือนให้คุณ”

โบทิส… ฟอร์สเน้นย้ำชื่อที่อาจารย์กำชับ

ขณะเดียวกัน เธอเริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เคยเผชิญหน้ากับลูอิส·เวย์นเสียใหม่

บางทีนั่นอาจไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นแรงดึงดูดระหว่างตะกอนพลัง เพราะอาจารย์กำลังพกพาสมบัติปิดผนึกของเส้นทางผู้ฝึกหัดที่ทรงพลังอย่างมาก!

ฟอร์สสลัดความคิดดังกล่าวและถามเกี่ยวกับวิธีสวมบทบาทเป็นนักบันทึก

เมืองเงินพิสุทธิ์ บ้านตระกูลเบเกอร์

มีเส้นทางเลี่ยงไปเข้าด้านหลังวังราชาคนยักษ์… ต้องผ่านไปทางป่าเสื่อมโทรมและอุโมงค์รกร้าง… เดอร์ริค·เบเกอร์นึกทบทวนข้อมูลที่เพิ่งแบ่งปันกับเดอะเวิร์ลบนมิติเหนือสายหมอก

สำหรับเมืองเงินพิสุทธิ์ ข้อมูลนี้สำคัญอย่างมาก เพราะจากผลการสำรวจเบื้องต้นของทีมสำรวจในค่ายหมู่บ้านยามบ่าย เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ายิ่งเข้าใกล้วังราชาคนยักษ์มากเท่าใด ระดับความอันตรายก็ยิ่งก้าวกระโดด

“ต้องรีบไปบอกท่านเจ้าเมือง!” เดอร์ริคลุกพรวดขึ้นและรีบเดินออกจากบ้าน ตรงไปยังหอคอยและขอเข้าพบผู้นำแห่งหกสภาอาวุโส โคลิน·อีเลียด

มันทำตามคำแนะนำของแฮงแมน อธิบายว่าข้อมูลของทางเลี่ยงเป็นสิ่งที่เห็นจากภาพจิตรกรรมฝาผนังในเมืองยามบ่าย ‘จำลอง’

โคลิน·อีเลียดตั้งใจฟังโดยไม่ขัด จนกระทั่งพยักหน้ารับแผ่วเบา

“คุณทำได้ดีมาก… ต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยนกับผลงานในคราวนี้?”

“สมองที่สมบูรณ์ของมังกรจิตโตเต็มวัย” เดอร์ริคคิดคำตอบรอไว้แล้ว

โคลินไม่ถามถึงเหตุผล เพียงไตร่ตรองสักพักและกล่าวต่อ

“ถ้าข้อมูลของทางเลี่ยงเป็นความจริง มูลค่าของมันจะสูงกว่าสมองของมังกรจิตโตเต็มวัยมาก… อา… คุณสามารถเลือกสิ่งอื่นเพิ่มเติมได้ สนใจสูตรโอสถลำดับที่ค่อนข้างสูงของเส้นทาง ‘นักเพาะปลูก’ ไหม?”

นี่คือคำถามไปถึงมิสเตอร์ฟูล… ขณะเดอร์ริคกำลังกระจ่าง มันฉุกคิดบางสิ่ง

“เมืองของเรามีโอสถลำดับสูงของเส้นทางนักเพาะปลูกด้วยหรือ?”

มันไม่เคยมีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน

“มีสิ… คุณต้องไม่ลืมว่าองค์ราชินีของราชาคนยักษ์คือเทพธิดาแห่งฤดูเก็บเกี่ยว แต่เป็นเพราะในละแวกใกล้เคียงไม่มีวัตถุดิบสำหรับปรุงโอสถดังกล่าว เมืองของเราก็เลย… ไม่ต้องรีบ กลับไปคิดมาให้ดีแล้วค่อยมอบคำตอบ” โคลิน·อีเลียดเปลี่ยนเรื่องอย่างสุขุม “ตอนนี้คุณควบคุมพลังของนักบวชแสงได้ชำนาญหรือยัง?”

“ชำนาญแล้วครับ” เดอร์ริคตอบกระชับ

โคลินเงียบงันสักพักก่อนจะพูดพลางจ้องหน้าเด็กหนุ่ม

“แล้วสมบัติปิดผนึกระดับนักบุญที่พวกเราครอบครอง… ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะเลือกชิ้นใด?”

………………………………..

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset