Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1086 : อนุมานง่ายๆ

ในวินาทีที่เห็นวิญญาณมารเทวทูตสีชาด รูม่านตาไคลน์พลันเบิกกว้าง ถุงมือหนังมนุษย์ข้างซ้ายพลันโปร่งใส

มันไม่สนใจในสิ่งอีกที่ฝ่ายกำลังจะพูด ท่าทีตอบสนองแรกตามสัญชาตญาณคือการเทเลพอร์ตออกไปจากที่นี่ทันที แต่ทันใดนั้น โลกวิญญาณในการมองเห็นของไคลน์กลับผิดแผกไปจากปรกติ

สิ่งมีชีวิตโปร่งใสจำนวนมากล้วนถูกย้อมด้วยสีเหล็กและเลือดผสมควันดินปืน ริ้วแสงทั้งเจ็ดด้านบนสุด ซึ่งอัดแน่นความรู้มหาศาลกลับถูกบดบังจนแทบมองไม่เห็น

หัวใจไคลน์เต้นระรัวอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่เทเลพอร์ตบุ่มบ่าม

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า วิญญาณมารเทวทูตสีชาดหัวเราะ

“เจ้ากลัวอะไร? ซาราธ?”

ได้ยินคำพูดดังกล่าว ไคลน์มองไปรอบตัวตามสัญชาตญาณ แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปรกติ

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดยังคงรักษารอยยิ้มที่น่ารำคาญ พลางชี้ไปยังโซฟาฝั่งตรงข้ามเก้าอี้เอนหลัง

“ถ้าข้าเป็นคนบอกซาราธว่าดอนดันเตสคือเกอร์มันสแปร์โรว์ ในตอนที่เจ้ากลับไปยังบ้านเลขที่หนึ่งหกศูนย์ ถนนเบิร์คลุนในช่วงเช้า เหล่าพ่อบ้านและคนรับใช้ที่อยู่ในห้องเก็บไวน์คงไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว แต่จะถูกแขวนกับเพดานเหมือนกับแฮมตากแห้ง แน่นอนว่าทุกคนจะยังต้อนรับเจ้าอย่างอบอุ่น… นั่งลงก่อน… ในสถานการณ์แบบนี้ การรับฟังความเห็นของข้าไม่ใช่ตัวเลือกที่เลวร้ายนัก”

เมื่อจินตนาการถึงฉากที่วิญญาณมารเทวทูตสีชาดบรรยาย แม้ว่าไคลน์จะเคยเห็นภาพที่คล้ายคลึงกันมาก่อน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขนลุกไปทั่วร่าง

มันยังคงไม่ประมาท บังคับให้หุ่นเชิดโจนาส·โคลเกอร์ที่อยู่ในร่างดอน·ดันเตส นั่งลงบนโซฟาและให้ตัวเองยืนด้านข้างในฐานะบุรุษรับใช้เอ็นยูน

ชายหนุ่มใช้พลังสลับตำแหน่งร่างต้นกับหุ่นเชิดอย่างแนบเนียน แถมรูปลักษณ์ก็ยังเปลี่ยนไปในพริบตา

“อาจเป็นไปได้ว่า คุณเพิ่งทราบข้อมูลนี้จากแพทริคเบรน จึงยังไม่ทันได้แจ้งข่าวให้ซาราธ” ไคลน์ตอบโต้ผ่านหุ่นเชิด

พร้อมกันนั้น จากคำพูดของวิญญาณมารเทวทูตสีชาด ชายหนุ่มสามารถยืนยันได้ว่า ซาราธมาถึงเบ็คลันด์แล้วจริงๆ!

อีกฝ่ายเป็นถึงเทวทูตลำดับหนึ่งตัวจริง ไม่มีข้อจำกัดหรือพันธนาการ เป็นตัวตนที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัว สามารถเรียกว่าตัวตนลึกลับได้อย่างเต็มปาก!

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดมองสลับไปมาระหว่างเจ้านายและคนรับใช้ ตามด้วยยิ้มและกล่าว

“แพทริคเบรนเป็นแค่ไอ้งั่ง ข้าสามารถเค้นข้อมูลทั้งหมดที่อยากทราบได้ภายในสิบห้านาที นับประสาอะไรกับช่วงเวลาที่ยาวนานตั้งแต่เสร็จพิธีกรรมจนถึงเช้า”

…เขาตั้งฉายาให้แพทริคเหมือนกับมิสผู้ส่งสาร… ไคลน์บังคับให้หุ่นเชิดเลิกคิ้วพร้อมกับถาม

“แล้วยังไงต่อ?”

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดโยกเก้าอี้เอนหลังแผ่วเบา

“ข้าไม่ทราบว่าเจ้าเคยได้ยินประโยคนี้หรือไม่… หลังจากเลือกเส้นทางผู้วิเศษ มิตรและศัตรูจะถูกกำหนดขึ้นทันที… ข้ากับเจ้าไม่ใช่มิตร แต่ก็ไม่ใช่ศัตรูเช่นกัน… จริงอยู่ที่เจ้ากับข้าอาจเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาบ้าง แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่เจ็บตัวมากนัก เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว… สำหรับข้า พัฒนาการของเจ้าทำให้บางคนที่ข้าเกลียดขี้หน้าต้องเดือดร้อน ข้าจึงยังไม่อยากฆ่าเจ้าทิ้งในตอนนี้ ยังอยากเห็นเจ้าเลื่อนลำดับต่อไปเรื่อยๆ”

จักรพรรดิเคยพูดบางสิ่งที่คล้ายคลึงกันไว้… บางคนที่เขาเกลียดขี้หน้า… ไคลน์ตัดสินใจถาม

“ผู้เย้ยเทพอามุนด์?”

“ข้อมูลแน่น… แถมไม่โง่…” วิญญาณมารเทวทูตสีชาดหัวเราะ ตามด้วยยกมือลูบคาง

ไม่ว่าจะเป็นวาจาหรือพฤติกรรม ทุกองค์ประกอบล้วนส่งเสริมให้คู่สนทนาอยากซัดปากสักหมัด

หลังจากไตร่ตรองสักพัก ไคลน์เริ่มเข้าใจปัญหา

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เลือกซาราธได้เลย… หากท่านผู้นั้นเลื่อนลำดับ อามุนด์ก็จะเดือดร้อนไม่ต่างกัน เทียบกับซาราธ ผมยังอ่อนแอเกินไปและต้องการเวลาอีกมาก สามารถเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้มากมาย”

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดพยักหน้าขรึม

“อันที่จริงข้าก็เคยคิดแบบนั้น เมื่อเทียบกับลำดับ 1 อย่างซาราธ เจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขข้างถนน… เจ้ามีสิ่งใดเหนือกว่าหมอนั่นบ้าง? แข่งกันว่าใครตายเร็วกว่า?”

กล่าวถึงตรงนี้ วิญญาณมารเทวทูตสีชาดถอนหายใจยาว

“แต่ว่า… ถ้าทุกปัญหาในโลกมีทางออกง่ายดายเช่นนั้นเสมอ นั่นคงวิเศษไปเลย…”

ยังไม่ทันจบประโยค ปากเปื้อนเลือดได้ปริแตกบนแก้มข้างซ้ายของมัน

ช่องว่างขยายกว้างขึ้นพร้อมกับเผยให้เห็นฟันซี่ขาวสองแถว

“ข้าตรวจสอบมาแล้ว ตระกูลเซารอนล่มสลายเพราะซาราธและโรซายล์!”

นี่คือวิญญาณของบรรพชนตระกูลเซารอน? อาการหลายบุคลิกของเทวทูตสีชาดร้ายแรงกว่าที่เราคิด… ไม่สิ นี่ไม่ใช่อาการหลายบุคลิกแล้ว แต่เป็นการยัดวิญญาณของคนสามคนไว้ในร่างเดียว จะทำสิ่งใดก็ต้องผ่านการเห็นชอบ ไม่อย่างนั้นจะเกิดความขัดแย้งภายใน… ไคลน์เริ่มเชื่อว่าวิญญาณมารเทวทูตสีชาดมิได้วางกับดัก อีกฝ่ายยังไม่ได้แจ้งข่าวกับซาราธจริงๆ

นี่คือจุดอ่อนที่เราสามารถนำมาใช้ได้ในอนาคต… หลังจากพึมพำกับตัวเอง ไคลน์ซักถาม

“แล้วมีธุระอะไรกับผม?”

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดยกมือลูบแก้มซ้ายจนปากเลือนหายไป จากนั้นก็ยิ้มและกล่าว

“ไม่ใช่ว่าเจ้ากำลังตามสืบราชวงศ์โลเอ็นอยู่หรือ? เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับแม่มดระดับสูงนามว่าคาร์เทอริน่า หาเจ้าพบเบาะแสของหล่อน ช่วยแจ้งข่าวกับข้าก่อนจะลงมือกระทำสิ่งใด”

‘นักบุญสีขาว’ คาร์เทอริน่า… วิญญาณมารเทวทูตสีชาดต้องการสิ่งใดจากเธอ? ลำดับ 4 ของเส้นทางนักล่าสามารถเปลี่ยนให้สตรีกลายเป็นบุรุษ ส่วนลำดับเจ้ดของเส้นทางแม่มดจะเปลี่ยนให้บุรุษกลายเป็นสตรี หมายความว่าทั้งสองเส้นทางอาจสับเปลี่ยนกันได้ในลำดับสูง… หรือว่าเทวทูตสีชาดกำลังมองหาทางเลือก หากหาตะกอนพลังลำดับสี่ของเส้นทางนักล่าไม่ได้ ก็จะย้ายไปยังเส้นทางแม่มดแทน? สำหรับวิญญาณมาร ตราบใดที่มันมีวิธียืดอายุขัยออกไปได้เรื่อยๆ การดื่มโอสถและตะกอนพลังก็ยังช่วยให้เลื่อนลำดับได้… ไคลน์ผงะในตอนต้น ก่อนจะนำข้อมูลมาประกอบกันและเริ่มคาดเดาบางสิ่ง

นั่นมาพร้อมกับคำถามสุดประหลาด

ถ้าในร่างกายมีตะกอนพลังลำดับสูงของเส้นทางนักล่าและแม่มดอยู่ด้วยกัน วิญญาณมารเทวทูตสีชาดจะมีเพศเป็นชายหรือหญิง? ฝั่งไหนมีศักดิ์สูงกว่าและเป็นตัวกำหนดเพศ?

ทันใดนั้น วิญญาณมารเทวทูตสีชาดมองสลับระหว่างดอน·ดันเตสและบุรุษรับใช้ ก่อนจะ ‘หึ’ ในลำคอและพูด

“เจ้าเองก็มีพรสวรรค์ด้านยั่วยุ”

เรายังไม่ทันได้ตอบอะไรเลย… ไคลน์รำพันด้วยความฉงน

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดขดริมฝีปาก

“ข้าพอจะเดาได้ว่าเจ้ากำลังคิดสิ่งใด เว้นเสียแต่เจ้าจะยอมรับว่าตัวเองโง่… นั่นสินะ เรื่องนี้อาจจะส่งผลดีกับ ‘พวกเขา’ ก็ได้”

“หุบปาก!” ปากเปื้อนเลือดโผล่ขึ้นบนแก้มทั้งสองข้างของวิญญาณมาร

ไคลน์มองหน้าชายผู้เป็นเจ้าของอาการหลายบุคลิกฝั่งตรงข้าม ตัดสินใจล้มเลิกความคิดที่จะถามไถ่ในเชิงลึก เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน

“ทางนี้ก็ไม่ได้ติดขัดอะไรหากต้องแจ้งข่าว… แต่คำถามก็คือ ผมจะแจ้งข่าวด้วยวิธีใด”

ตามความเห็นของชายหนุ่ม ‘แม่มดยุพนิรันดร์’ คาร์เทอริน่าไม่ใช่คนดี เฉกเช่นวิญญาณมารเทวทูตสีชาด เป็นเรื่องดีแล้วที่พวกมันทะเลาะกัน

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดหัวเราะ

“แน่นอนอยู่แล้ว เจ้าต้องเอ่ยพระนามเต็มอันสูงส่งของข้า”

“มหาเทพแห่งสงคราม สัญลักษณ์แห่งเหล็กและเลือด เจ้าแห่งความวุ่นวายและขัดแย้ง”

“เฮ่อะ!” ปากบนแก้มทั้งสองข้างของวิญญาณมารเทวทูตสีชาดพ่นลมหายใจเย้ยหยันโดยพร้อมเพรียง ราวกับไม่เห็นด้วยแม้แต่น้อย

ฟังดูเหมือนชื่อทั่วไปของเทพ… หรือว่าหลังจากปรองดองกับ เอกลักษณ์สำเร็จ เมดีซีก็เข้าใกล้ความเป็นเทพเข้าไปทุกที? ตราบใดที่ยังไม่มีคนใหม่มาปรองดองกับ ‘เอกลักษณ์’ ของเส้นทางนักบวชสีชาด ระดับของวิญญาณตนนี้ก็จะไม่ลดลง? พระนามเต็มอันสูงส่งนี้จะชี้ไปหาเขาเสมอ? ไคลน์พยักหน้าครุ่นคิดพลางไต่ถามด้วยความไม่มั่นใจ

“คุณรู้อะไรเกี่ยวกับโบราณสถานลับของจักรวรรดิโลหิต อลิสต้าทูดอร์บ้าง?”

เมื่อได้ยินเชื่อดังกล่าว กล้ามเนื้อบนใบหน้าวิญญาณมารเทวทูตสีชาดพลันบิดเบี้ยวเล็กๆ ก่อนจะหัวเราะเยาะ

“เจ้าอยากถามว่าราชวงศ์โลเอ็นซ่อนความลับใดไว้?”

“คุณอาจไม่ทราบ แต่คุณน่าจะคุ้นเคยกับโบราณสถานลับของจักรพรรดิโลหิตเป็นอย่างดี” ไคลน์จงใจยั่วยุอีกฝ่าย

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดหัวเราะพลางตบที่พักแขนของเก้าอี้เอนหลัง

“ลูกไม้ของเจ้าช่างไร้เดียงสาเหมือนกับเด็กสามขวบ! หึหึ… ความลับของราชวงศ์โลเอ็นนั้นไม่ซับซ้อน ข้าสามารถเดาได้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ประจำวัน… เจ้าฉลาดแค่หน้าตาสินะ แต่สมองคงเต็มไปด้วยหนอนแมลงยุบพอง”

“เดาได้จากการอ่านหนังสือพิมพ์?” ไคลน์ขมวดคิ้วพลางย้อนคำถาม

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดหัวเราะในลำคอ

“ใช่แล้ว แต่ก็ต้องมีความรู้ทั่วไปอยู่บ้าง ข้าคิดว่าเจ้าควรมีมันนะ… เอาแบบนี้เป็นไง ข้าจะตั้งคำถามสักสองสามข้อ แล้วเจ้าจะเข้าใจทันทีว่าเรื่องราวนั้นง่ายดายเพียงใด… ข้อแรก เจ้าคิดว่าบรรดาโบสถ์หลักรู้เรื่องโบราณสถานจักรพรรดิโลหิตมาก่อนหรือไม่?”

“ไม่” ไคลน์ส่ายหน้าหนักแน่น

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดยิ้มและถามต่อ

“เจ้ารู้ไหมว่า ‘จักรพรรดิโลหิต’ อลิสต้า·ทูดอร์อยู่ในลำดับและเส้นทางใดก่อนจะกลายเป็นลำดับ 0?”

“เส้นทางจักรพรรดิมืด… ลำดับหนึ่ง… องค์ชายวิปลาส” ไคลน์ตอบสุขุม

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดพยักหน้าแผ่วเบา

“เจ้ารู้ไหมว่า ก่อนที่อลิสต้าทูดอร์จะกลายเป็นจักรพรรดิโลหิต ชายคนนั้นคือหนึ่งในกงสุลแฝดของจักรวรรดิร่วมทูดอร์·ทรันซอสต์ และผู้สนับสนุนหลักคือหกจากเจ็ดเทพจารีต โดยสองจากหกคือรัตติกาลและวายุสลาตัน?”

ไคลน์พยักหน้าเป็นนัยว่าทราบ

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดในท่าเอนหลังครึ่งหนึ่งทำการไขว่ห้าง

“แล้วเจ้ารู้ไหมว่า หลังจากกลายเป็นจักรพรรดิโลหิต อลิสต้าทูดอร์เสียสติโดยสมบูรณ์ และร่วงหล่นท่ามกลางสงครามทวยเทพ?”

“ก็พอจะ” ไคลน์ไม่กล้าแสดงความมั่นใจเกินเหตุ เพราะความรู้นี้นำมาจากจักรพรรดิโรซายล์ และอีกฝ่ายก็นำมาจากมิสเตอร์ประตู

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดหัวเราะและกล่าวต่อ

“ถ้าเช่นนั้น เจ้าคิดว่าอลิสต้าทูดอร์มีเหตุผลหรือมีโอกาสที่จะสร้างโบราณสถานลับหลังจากกลายเป็นจักรพรรดิโลหิตหรือไม่?”

“ไม่…” ไคลน์ส่ายหน้าเชื่องช้า

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดผายมือออก

“ในเมื่อเป็นโบราณสถานที่อลิสต้าทูดอร์สร้างไว้ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นจักรพรรดิโลหิต และแม้แต่หกเทพจารีตที่คอยสนับสนุนก็ไม่ทราบเรื่องนี้ เช่นนั้นแล้ว โบราณสถานดังกล่าวจะยังเป็นอะไรได้อีก? หากเลือกได้ เจ้าจะเลือกเดินบนเส้นทางที่ตัวเองต้องเสียสติหรือไม่?”

นี่มัน… ไคลน์หวนนึกถึงสุสานทั้งเก้าแห่งที่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมเลื่อนเป็นเทพของเส้นทางจักรพรรดิมืด

สำหรับองค์ชายวิปลาส ก่อนที่จักรพรรดิมืดคนเดิมจะหวนกลับมา มันย่อมต้องหาทางเลื่อนตำแหน่งเป็นจักรพรรดิมืดอยู่แล้ว!

“โบราณสถานดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิมืด?” ไคลน์ถามเสียงทุ้ม

วิญญาณมารเทวทูตสีชาดลูบคางและกล่าวพลางยิ้ม

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้จักพิธีกรรมของจักรพรรดิมืดสินะ… ก็ง่ายๆ แบบนั้นแหละ… กษัตริย์ทำสิ่งใดบ้างในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา? ยกเลิกพระราชบัญญัติเมล็ดพันธุ์ มีการเปิดสอบข้าราชการหลายรอบ ความสัมพันธ์ทางการทหารถูกจัดระเบียบใหม่ สภาขุนนางและเหล่าขุนนางถูกลิดรอนอำนาจ สภาสามัญเข้มแข็งขึ้น… สิ่งเหล่านี้มีเขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ประจำวันไม่ใช่หรือ? นอกจากนั้น เรื่องที่เส้นทางผู้พิพากษาสามารถสลับไปเป็นเส้นทางจักรพรรดิมืดได้ นี่ก็เป็นความรู้ทั่วไป”

เนื่องจากหลายๆ สิ่งที่กล่าวมาเป็น ‘กระแสแห่งยุคสมัย’ สำหรับไคลน์ และหนึ่งในนั้นเกิดจากการผลักดันด้วยตัวไคลน์เอง มันจึงไม่เคยตรวจสอบในมุมมองของศาสตร์เร้นลับมาก่อน

ในไม่ช้า ชายหนุ่มฉุกคิดได้อีกหนึ่งสิ่ง

คนสุดท้ายที่ปรารถนาจะเป็นจักรพรรดิมืดคือโรซายล์ และชายคนนั้นบังเอิญเกี่ยวข้องกับพี่ชายของอามุนด์!

………………………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset