Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1093 : เทวทูตของเดอะฟูล

พลังของราชินีเงื่อนงำช่างอัศจรรย์… เหมือนกับในเทพนิยาย… ไคลน์ชำเลืองปากกาที่เขียนเอง ก่อนจะหยิบปากกาและกระดาษจากกระเป๋าของตนออกมาเขียนพิธีกรรมอัญเชิญผู้ส่งสาร รวมถึงเน้นย้ำว่าการส่งจดหมายทุกครั้งต้องจ่ายค่าจ้างหนึ่งเหรียญทอง

ทันทีหลังจากนั้น ชายหนุ่มยื่นกระดาษให้แบร์นาแดต ตามด้วยการหยิบกระดาษของอีกฝ่ายขึ้นมากวาดสายตาอ่าน

“สิ่งมีชีวิตล่องหนซึ่งพเนจรท่ามกลางดินแดนเบื้องบน… วิญญาณพิสดารที่เป็นมิตรกับมนุษย์… ผู้ส่งสารที่เป็นของแบร์นาแดตกุสตาฟแต่เพียงผู้เดียว…”

มีบางจุดแตกต่างจากคาถาทั่วไป แต่แก่นสำคัญยังคงเดิม… อา… ราชินีเงื่อนงำคงจงใจปรับแต่งเล็กน้อย ไม่ให้คนอื่นทดสอบอัญเชิญผู้ส่งสารเพื่อแกะรอยพิกัดแบบย้อนกลับจากสายสัมพันธ์… แต่สำหรับเราคงไม่ต้องกังวล มิสผู้ส่งสารเป็นถึงเทวทูต มีแต่จะไปข่มขู่ผู้อื่น ไม่ใช่ฝ่ายถูกกระทำ หรือต่อให้เผชิญหน้ากับซาราธ ก็คงป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง สามารถการหลบหนีได้ง่ายดาย… ไคลน์พึมพำสองสามคำ ตามด้วยการสะบัดฝ่ามือข้างที่ถือกระดาษ จุดเพลิงสีแดงฉาน

เฝ้ามองกระดาษกลายเป็นเถ้าท่านในเปลวไฟ ราชินีเงื่อนงำ แบร์นาแดตถามอย่างไร้อารมณ์

“เกี่ยวกับแผนการขัดขวางจอร์จที่สาม คุณมีความเห็นอย่างไร”

ไคลน์ที่เตรียมคำตอบไว้แล้ว จงใจกล่าวเชื่องช้า

“อันดับแรก ต้องไม่ประมาท ห้ามเสี่ยงเกินจำเป็น และไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์”

หากไม่ใช่เพราะราชินีเงื่อนงำ แบร์นาแดตเพิ่งพูดออกมาว่าเธอเกลียดสงครามและการเบียดเบียนผู้บริสุทธิ์ ไคลน์คงไม่จงใจกล่าวออกไป เพราะนั่นจะเป็นการเผยจุดอ่อนตัวเอง มันจะเลือกใช้คำพูดที่อ้อมค้อมและนุ่มนวลมากกว่าเดิม

ได้ยินประโยคดังกล่าว แบร์นาแดตพยักหน้าแผ่วเบา เป็นนัยเห็นด้วย

“พวกเรามีสามทางเลือก หนึ่ง ทำลายพิธีกรรมของจอร์จที่สามในช่วงเวลาสำคัญ ส่งผลให้การเลื่อนลำดับล้มเหลว สอง พยายามลอบสังหารล่วงหน้าเพื่อไม่ให้จอร์จที่สามได้มีโอกาสประกอบพิธีกรรม” ไคลน์จงใจเล่าแค่สองวิธี และเริ่มวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสองวิธีแรก “การลอบสังหารเป็นตัวเลือกที่มีโอกาสสำเร็จต่ำมาก จอร์จที่สามซึ่งเตรียมตัวจะเป็นจักรพรรดิมืด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอยู่ในลำดับหนึ่งเป็นศัตรูที่พวกเราไม่มีปัญญาจะกำจัด… หรือถ้าจอร์จที่สามยังไม่ใช่ลำดับหนึ่งแต่ก็คงสวมบทบาทเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ทันทีที่เดิมโอสถลำดับหนึ่งเข้าไป ตัวยาจะถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ทันที พร้อมสำหรับการก้าวไปเป็นเทพ… แต่แน่นอน ต่อให้สมมติฐานที่เป็นไปได้ยากเช่นนี้ดันตรงกับความจริง จอร์จที่สามก็ยังเป็นถึงผู้วิเศษลำดัสอง… ตระกูลออกัสตัสของท่านมีสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ไว้ในครอบครองไม่น้อย อีกทั้งยังมีเทวทูตจำนวนมากคอยอารักขา โอกาสลอบสังหารสำเร็จเกือบเป็นศูนย์”

ถึงตรงนี้ ไคลน์เปลี่ยนสรรพนามของจอร์จที่สามจาก ‘เขา’ เป็น ‘ท่าน’

แบร์นาแดตที่ฟังอย่างตั้งใจ ไตร่ตรองสักพักราวกับกำลังเรียบเรียง

“ตราบใดที่สภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย การลอบสังหารเทวทูตลำดับสองยังพอมีโอกาสสำเร็จ ทว่า ไม่คุณก็ฉันต้องล้มตายไปสักคน หรือไม่ก็ทั้งสอง”

ความหมายโดยนัยก็คือ เธอครอบครองสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ที่ทรงพลัง อัศจรรย์ และน่าสะพรึง แต่หากต้องการใช้งานอย่างเต็มที่ จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนด้วยราคาแพง

ถ้าเธอพูดแบบนั้น ตัวเลือกที่สองก็มีโอกาสสำเร็จอยู่ไม่น้อย นั่นเพราะเราโกหกในตอนแรก… หากเราทุ่มเททุกสิ่งที่มี นั่นจะหมายถึงการได้รับความช่วยเหลือจากวิล·อัสติน พาลีส·โซโรอาสเตอร์ และมิสผู้ส่งสาร โดยทุกคนจะใช้ยันต์วันวานอีกครั้งเพื่อฟื้นคืนพลังชั่วคราว… แต่ปัญหาคือ ต่อให้แผนการสำเร็จ เราอาจต้องเสียใครบางคนไป และไม่รู้ว่าผลลัพธ์หลังจากนั้นจะเป็นเช่นไร สถานการณ์โลกจะดำเนินไปในทิศทางไหน และต้องไม่ลืมว่า การต่อสู้อาจไปกระตุ้นความสนใจของราชาเทวทูตอย่างอามุนด์และโอโรเลอุส…

คงจะดีไม่น้อยถ้ามิสเตอร์อะซิกลืมตาตื่น เพราะเมื่อผนึกกำลังราชินีเงื่อนงำ สมบัติปิดผนึกระดับศูนย์และเทวทูตจำนวนสี่ตนเข้าด้วยกัน ต่อให้ศัตรูคือลำดับหนึ่งก็ยังมีโอกาสสำเร็จ แต่แน่นอน โอกาสล้มเหลวยังคงสูงอยู่ดี คงได้ไม่คุ้มเสี่ยง… ไคลน์เริ่มหวั่นไหวหลังจากทราบว่าสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ของราชินีเงื่อนงำมีพลังเหนือจินตนาการ แต่ท้ายที่สุด มันปัดตกประเด็นดังกล่าว

ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มไม่อยากร่วมมือด้วย หรือเพราะไม่เชื่อใจราชินีเงื่อนงำ แต่วิลอัสตินและพาลีส· ซโรอาสเตอร์ต่างอยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก หากแผนการล้มเหลวจนทำให้พวกเขาถูกตามล่า นั่นอาจหมายถึงการร่วงหล่น เป็นพัฒนาการที่ไคลน์ไม่อยากเห็น

ชายหนุ่มตอบคลุมเครือ

“หากตัวเลือกเหลือแค่การลอบสังหาร ผมสามารถขอความช่วยเหลือจากเทวทูตได้อย่างน้อยสองตน”

สองตนที่ว่าหมายถึง กงสุลมรณะ’อะซิกอายเกสและ อสรพิษปรอทวิล อัสตินซึ่งแบร์นาแดตน่าจะเดาได้จากเลือดของสัตว์ในตำนาน

แบร์นาแดตเผยอาการตะลึงแผ่วเบา

“เป็นความประสงค์ของท่านผู้นั้นหรือ”

หากไม่ได้รับความยินยอมจากเดอะฟูล ลำพังข้ารับใช้คงไม่มีอำนาจเคลื่อนพลเทวทูต

“ท่านไม่คัดค้าน” ไคลน์ตอบตามความจริง

ดวงตาสีฟ้าของราชินีเงื่อนงำมืดลงกะทันหัน ไม่กล่าวสิ่งใดอีก ทำเพียงพยักหน้าเชื่องช้า

ไคลน์นำบทสนทนากลับเข้าประเด็น

“หากเลือกวิธีทำลายพิธีกรรม ผิวเผินอาจฟังดูง่าย แต่ยากในการปฏิบัติจริง เพราะเราต้องลงมือในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ไม่อย่างนั้นการเถลิงบัลลังก์ของจอร์จที่สามก็แค่เลื่อนเวลาออกไป… ท่านได้รับอนุญาตโดยปริยายจากทวยเทพแล้ว ต่อให้สุสานถูกทำลายก็ไม่ต้องกังวล สามารถสร้างใหม่ภายในเวลาอันสั้น… แต่ถ้าทำลายพิธีกรรมในจังหวะสำคัญ จอร์จที่สามจะเลื่อนลำดับล้มเหลวและกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดเสียสติ เหล่าทวยเทพคงไม่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตดังกล่าวเดินเตร็ดเตร่บนโลก จอร์จที่สามจะถูกกำจัด… แต่ปัญหาก็คือ อีกฝ่ายมีราชาเทวทูตคอยมอบคำแนะนำและให้ความช่วยเหลือ จอร์จที่สามคงไม่เปิดช่องโหว่ง่ายนัก ขณะประกอบพิธีกรรมคงมีการยกระดับความปลอดภัยจนถึงขีดสุด โอกาสล้มเหลวมีสูงมาก อาจเป็นรองแค่แผนลอบสังหาร… สำหรับวิธีดังกล่าว เราต้องรวบรวมข้อมูลโดยเร็ว และค้นหาสถานที่ลงมือให้พบ… ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่หนึ่งหรือสอง โอกาสสำเร็จจะเพิ่มขึ้นมากหากคุณเลื่อนเป็นลำดับสองผู้ทรงปัญญา”

แบร์นาแดตพยักหน้าแผ่วเบา เป็นนัยว่าเข้าใจ

เธอกล่าวต่อ

“แล้ววิธีที่สาม?”

ไคลน์ไตร่ตรองสักพักก่อนจะเล่า

“ย้อนกลับไปในอดีต หากพิธีกรรมเลื่อนเป็นลำดับศูนย์ของจักรพรรดิโรซายล์ประสบความสำเร็จ นั่นแปลว่าพระองค์ยังมีโอกาสคืนชีพ ขอเพียงเราพบเบาะแสที่พระองค์ทิ้งไว้และช่วยคืนชีพก่อนจอร์จที่สามจะเถลิงบัลลังก์ แผนการของจอร์จที่สามก็จะล้มเหลวอย่างมิอาจเลี่ยง”

มันเรียนรู้จากแบร์นาแดตว่า ไม่ควรเรียกโรซายล์ว่าท่านไม่อย่างนั้นตัวตนอาจรั่วไหล

ดวงตาราชินีเงื่อนงำสว่างวาบก่อนจะกลับมามืดมิดและสงวนกิริยา

ริมฝีปากของเธอขยับแผ่วเบา

“ฉันจะส่งไดอารีที่เหลือให้แคทลียา”

ไคลน์ไม่สานต่อหัวข้อเดิม ทำเพียงยิ้ม

“อันที่จริง ยังมีตัวเลือกที่สี่”

แบร์นาแดตขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ปิดบังความสงสัย

“นั่นคือการไม่ทำอะไรเลย เฝ้ามองจอร์จที่สามพยายามเลื่อนลำดับเป็นเทพ และแช่งให้ท่านล้มเหลว” ไคลน์หัวเราะจิกกัดตัวเอง “ยิ่งเป็นผู้วิเศษลำดับสูง โอกาสล้มเหลวก็ยิ่งมาก”

ประโยคดังกล่าวมีความจริงแฝงอยู่ เพราะต่อให้พี่ชายอามุนด์เขียนบทเพื่อกรุยทางสู่ความสำเร็จ และต่อให้จอร์จที่สามย่อยโอสถได้อย่างสมบูรณ์ แต่โอกาสในการเลื่อนลำดับเป็นเทพสำเร็จก็ไม่สูงไปกว่าห้าในสิบ

แน่นอน ไคลน์จงใจติดตลกมากกว่า

ราชินีเงื่อนงำ แบร์นาแดตยังไม่ตอบสนอง เพียงจ้องหน้าเกอร์มัน·สแปร์โรว์นานหลายวินาที

“ฉันสัมผัสได้ว่า คุณแตกต่างไปจากการพบกันครั้งก่อน”

“เป็นคำแนะนำจากจิตแพทย์ส่วนตัว” ไคลน์ยิ้ม บอกเป็นนัยว่าตนคือผู้ป่วยทางจิต

แบร์นาแดตไม่เวิ่นเว้อ ถอนสายตากลับมามองปากกาบนโต๊ะ

“ถ้าอย่างนั้น พวกเราจะแยกกันรวบรวมข้อมูลและแลกเปลี่ยนทางจดหมาย”

กล่าวจบ เธอเว้นวรรคครู่หนึ่ง กล่าวต่อโดยไม่ขยับดวงตา

“อันที่จริง ฉันเคยสงสัยว่าเขาอาจคืนชีพสำเร็จแล้ว แต่ยังคงพยายามรื้อฟื้นความทรงจำและอดีต ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดของขั้นตอนการคืนชีพจักรพรรดิมืดมากนัก… บางทีก็สงสัยว่า ในท้ายที่สุดแล้ว เขาเลือกที่จะเป็นจักรพรรดิมืดจริงหรือ…”

เสียงของแบร์นาแดตแผ่วลงทีละนิด แฝงอารมณ์ที่ยากจะพรรณนา

เมื่อได้ยิน ไคลน์เข้าใจทันทีว่าราชินีเงื่อนงำกำลังคิดและหวังสิ่งใด

เธอสงสัยว่าเดอะฟูลคือโรซายล์ที่ฟื้นคืนชีพ สงสัยว่ามหาจักรพรรดิแห่งอินทิสหลอกลวงคนทั้งโลกโดยการย้ายไปยังเส้นทางอื่นที่ไม่ใช่จักรพรรดิมืด และปัจจุบันกำลังรวบรวมไดอารี ไพ่เย้ยเทพ เพื่อเรียกความทรงจำของตนกลับมา

น่าเสียดาย ฉันเป็นแค่ลุงโจวเพื่อนข้างห้อง… ไคลน์อยากรำพันติดตลกในใจ แต่เนื่องจากสถานการณ์กำลังตึงเครียด จึงเป็นการยากที่จะให้ผ่อนคลาย

โดยไม่กล่าวคำใดต่อ มันยืนขึ้นคำนับ สวมหมวกกลับและเดินออกจากห้อง

เมื่อปิดประตูโรงละครทองคำและเดินไปสองสามก้าว ไคลน์ได้ยินท่วงทำนองอันไพเราะดังแว่วจากด้านหลัง

ทำนองดังกล่าวฟังดูล่องลอยและโศกเศร้า

ไคลน์หยุดฟังสักพัก ก่อนจะหันหน้าไปทางห้องโถงและจากไปพร้อมกับเปลวไฟ

เมืองเงินพิสุทธิ์ ทีมสำรวจรวมตัวกันที่ประตูเมืองเพื่อเตรียมออกเดินทาง

จุดหมายคือหมู่บ้านยามบ่าย จากนั้นจะเข้าไปสำรวจวังราชาคนยักษ์

เดอร์ริค เบเกอร์ยืนอยู่กลางขบวน ส่วนสูงน้อยที่สุดเป็นอันดับสอง ถือไม้กางเขนทองแดงประดับหนาม

ประกบซ้ายและขวาเป็นโจชัวร์กับฮาอิมตามลำดับ หน้าที่คือการรับฝากไม้กางเขนเจิดจรัสเพื่อมิให้เดอร์ริคถูกขับตะกอนพลัง

เพื่อจะเอาชนะผลข้างเคียง สมบัติปิดผนึกชิ้นนี้จำเป็นต้องถูกใช้งานโดยทีมสามคน

ขณะก้มมองมรดกจากพระผู้สร้าง เดอร์ริคสัมผัสถึงสายตาที่จ้องมองมา จึงเงยหน้าขึ้นและมองกลับไป พบว่าอีกฝ่ายคือหนึ่งในหกสภาอาวุโสคนเลี้ยงแกะโลเฟียร์

หญิงสาวซึ่งสูงน้อยที่สุดในกลุ่ม เจ้าของผมสีเทาเงินหยักศกตอนปลาย ยืนจ้องไม้กางเขนเจิดจรัสด้วยดวงตาสีเทาซีด สายตาแฝงความร้อนรุ่ม

เมื่อตระหนักถึงการจ้องมองจากเดอร์ริค มุมปากอาวุโสคนเลี้ยงแกะขดขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มซึ่งยากจะอธิบาย

“สิ่งนี้เป็นมรดกจากพระองค์”

ขณะเดอร์ริคกำลังตัวสั่น มันได้ยินเสียงของเจ้าเมืองเงินพิสุทธิ์ โคลินอีเลียดกล่าว

“ออกเดินทางได้”

………………………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset