Midterm Fantasy – ตอนที่ 104

เมื่อความหวังดีพาซวย(อีกแล้ว)
โดย
หมอแมว

ในจังหวะที่รถกำลังเลี้ยวขวาเข้าโรงพยาบาล รอนก็เห็นมอเตอร์ไซค์ที่ตามหลังบิดเสียงดัง
บรื้น! เสียงมอเตอร์ไซค์เร่งเครื่องดังปาดออกขวาแล้วตัดหน้ารถโรงพยาบาล
เอี๊ยดดดด โครมมม!
เสียงรถโรงพยาบาลกระแทกรถมอเตอร์ไซค์ จนต้องจอดอยู่ที่ทางเข้าโรงพยาบาลโดยมีมอเตอร์ไซค์ไม่ติดป้ายทะเบียนล้มอยู่ คนบนรถนั้นสองคนลุกจากพื้น
“เฮ้ย ซื้อใบขับขี่มารึไง แซงซ้ายได้ยังไง” เสียงคนขับมอเตอร์ไซค์ร้องอย่างโมโห
“เกิดอะไรขึ้นเหรอลุง” หมอเคถาม
“เมื่อกี้ที่ผมกำลังเลี้ยว มอเตอร์ไซค์คันนี้ปาดจากด้านหลังแล้วมาปาดแซงหน้ารถเราแต่ไม่พ้นครับ” คนขับรถบอก
“เฮ้ย อย่าคิดว่าเป็นรถโรงพยาบาลแล้วจะมาขับผิดกฎหมายได้ ลงมาไอ้แก่” คนขับตะโกนด่าและพยายามเปิดประตูรถแต่เปิดไม่ได้ รถหลายคันเริ่มชะลอดูเหตุการณ์
“เกิดอะไรเพ่”​มอเตอร์ไซค์คันนึงจอดถาม
“พวกเราจอดรอจังหวะอยู่ พอเลี้ยวเข้าโรงพยาบาล รถโรงพยาบาลก็ตามหลังมาแล้วเลี้ยวชนพวกเรา”
“อ้าว ไอ้ห่านี่ รถคนเค้ารอเลี้ยวอยู่ทำไมไม่มีน้ำใจ”
“ใช่ๆ ขับเห้ๆอย่างนี้ได้ยังไง แซงซ้ายตอนเลี้ยวนี่อันตรายนะ”
เสียงคนหลายคนที่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ด่าผสมโรง ขณะที่รอนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เขาเห็นชัดๆว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้มาทีหลังและพยายามแซงปาดหน้าหากแต่ไม่พ้นเอง คนขับรถโรงพยาบาลไม่ผิดชัดๆ
แล้วคนนั่งมอเตอร์ไซค์ทั้งสองคนก็ถอดหมวกกันน็อคออกมา รอนจ้องหน้านั้นดีๆแล้วอุทาน
“สองคนนี้นี่มันคนที่เจอที่ร้านของเป๋งโมบายนี่”
หมอเคเหลือบไปมองรอนแต่ยังไม่พูดอะไร จนกระทั่งมีเสียงเอะอะจากด้านหน้า
“ว้าย”
“ลงมาอีนี่ ชนกูเจ็บแล้วยังนั่งลอยหน้าลอยตา”
รอนทำท่าจะลงไปแต่หมอเคห้ามไว้
“เดี๋ยวหมอลงไปเอง”
แม้จะไม่รู้แน่ชัด แต่หมอเคพอจะเดาถึงสถานะของรอนได้ ถ้าหากรอนเป็นคนๆนั้นล่ะกห็ การให้คนของแก็งค์เมษาเห็นคงไม่ดีแน่ๆ
หมอเคเปิดประตูรถโรงพยาบาลลงไป ไอ้วุธกำลังชี้หน้าด่าพยาบาลที่นั่งร้องไห้ที่พื้นอยู่ ส่วนคนอื่นๆหลายคนกำลังช่วยไอ้แมนล้อมลุงคนขับรถอยู่
“หยุดเดี๋ยวนี้ อย่าทำผู้หญิง” หมอเคเข้าไปดึงมือนักเลงคนนั้น แต่ไอ้วุธร้องแหกปาก
“เฮ้ย ทำร้ายร่างกายเหรอ”
โป๊ก!
ไอ้วุธใช้หมวกกันน๊อคในมือฟาดเข้าไปที่หมอเคเต็มๆ หมอเคล้มลงกับพื้น ไอ้แมนผละจากลุงคนขับรถพุ่งเข้ามา
“นึกว่ารวมแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ มึงโดน”
คนอื่นๆที่มุงอยู่แถวนั้น
“เฮ้ย ทำผิดแล้วยังทำร้ายคนเจ็บเหรอ ไอ้เลว”
“พวกเรา ช่วยกันจัดการเลย”
จากนั้นหมอเคก็เจอยำตีน รองเท้านานาชนิดต่างประเคนเข้าใส่หมอหนุ่ม แว่นตาที่ใส่อยู่กระเด็นไป แต่ก็มีหลายคนที่ลังเลไม่กล้าทำร้ายเพราะเห็นว่าหมอเคแค่เข้าไปดึงมือเฉยๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้”
เสียงดังจากด้านหลังพร้อมมืออันแข็งดุจดั่งเหล็กที่กำที่ข้อมือของไอ้แมน
“เฮ้ยใครวะ มึงสู้เหรอ อ๊ากกกก”
รอนตุ๊ยท้องนักเลงคนนั้นจนล้มฟุบลงไปที่พื้น ไอ้วุธกระโดดเข้ามา
“ไอ้นี่ ขับรถชนคนอื่นแล้วยังทำร้ายร่างกาย มึงมีมโนธรรมบ้างไหม… เฮ้ย แก”
มันค้างอยู่แค่นั้น หน้าที่กำลังแดงด้วยความโกรธเปลี่ยนเป็นสีซีดเหมือนปลาตาย มือที่กำลังชี้หน้ารอนอยู่ไร้เรี่ยวแรงลงทันที
ไอ้เด็กที่เล่นงานพวกเขาจนเละที่ริมท่าน้ำนั่น
“หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดๆๆ เกิดอะไรขึ้น” ตำรวจที่อยู่ป้อมฝั่งตรงข้ามเดินมาห้ามไว้
“คุณตำรวจครับ รถโรงพยาบาลคันนี้เลี้ยวชนมอเตอร์ไซค์ครับ แถมคนบนรถยังลงมาทำร้ายคนเจ็บ”
“เนี่ย เจ้าหมอนี่ลงมาทำร้ายคนอื่น ตอนเกิดเรื่องผมพลอยเจ็บตัวไปด้วย” ชายคนนึงชี้ข้อเท้าที่แพลงขณะกระทืบหมอเคให้ตำรวจดู
“รถโรงพยาบาลแซงซ้ายเบียดมอเตอร์ไซค์ แบบนี้ผิดชัดๆนะครับคุณตำรวจ”
“ไม่จริงครับ ตอนที่รถโรงพยาบาลเลี้ยวแล้ว ผมเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของสองคนนี้วิ่งมาแล้วแซงขวาออกไปแล้วค่อยเกิดการชน มอเตอร์ไซค์ไม่ได้จอดอยู่ก่อน” รอนแย้ง
“โกหก มันมาด้วยกันมันโกหก พวกเราเห็นเหตุการณ์เป็นพยานได้”
“ใช่ๆๆ”
บางคนร้องขึ้น หากแต่บางคนก็ลังเลไม่แน่ใจเพราะทุกคนรู้ดีว่าไม่มีใครทันเห็นเหตุการณ์จริงๆเลยนอกจากเชื่อที่คนถูกชนบอก
หลายคนผสมโรงจนตำรวจปวดหัว หันไปซักถามคนที่บอกว่าเห็นเหตุการณ์ ขณะที่พิเชฐค่อยๆเดินลงจากรถโรงพยาบาลแล้วดูเหตุการณ์ด้วย เขาถามรอนอย่างสงสัย
“คุณรอนไปเจอสองคนนี้ที่ร้านของเป๋งโมบายได้ไงครับ พวกนี้มันนักเลงไม่ใช่เหรอครับ”
ชิ้ง~
ไอ้แมนกับไอ้วุธที่ยืนอยู่ชะงักพร้อมๆกัน
มันเคยเจอรอน 2 รอบ
รอบแรกคือตอนที่ล้อมไถเงินตามคำบอกของกวินและเอกชัย
รอบที่สองคือที่ตอนเจอกระทึบที่ท่าน้ำ
พวกมันเคยแสดงตัวว่าเป็นคนของเป๋งโมบายแต่ไม่เคยไปเจอที่ร้าน จะมีก็แต่ตอนที่เจ้าเด็กหนุ่มหน้ากากดำนั่นบุกถล่มรังของเป๋งโมบาย

รึว่าไอ้นี่คือคนๆเดียวกันกับหน้ากากดำคนนั้น แต่ว่าตอนนั้นมีคนบอกไม่ใช่นี่นา หรือว่าคนที่มาตรวจสอบจะตรวจสอบผิดพลาด
ทั้งสองคนเหงื่อแตก มองไปยังรอนที่กำลังจ้องเขม็ง
ตำรวจรู้จักลุงคนขับรถของโรงพยาบาลดีว่าไม่ใช่คนที่ทำผิดกฎจราจร และคลับคล้ายว่าสองคนนี้คือคนของแก๊งค์เมษา แต่ว่าดันมีพยานโผล่มาหลายคนนี่สิ
“ว่ายังไงครับ ตกลงพวกคุณสองคนถูกเขาแซง หรือไปแซงเขากันแน่” ตำรวจบอก “ไหนขอดูชื่อขอดูใบขับขี่ด้วยทั้งสองฝ่ายเลย แล้วนี่พักอยู่ที่ไหนกัน” ​
ไอ้วุธและไอ้แมนเหลือบมองรอน รอนค่อยๆยิ้มที่มุมปากขึ้นมาช้าๆเมื่อได้ยินว่าตำรวจขอดูชื่อที่อยู่ทำให้ขนแขนของทั้งคู่พากันลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“เอ่อ …. เอ่อ พวกเราขับแซงแล้วไปปาดหน้าชนเขาเองครับ” ไอ้วุธตัดสินใจตอบไปทันที
“เอิ้วววว”
“ไหงงั้นล่ะ”
คนที่มุงเชียร์ร้องพร้อมๆกันก่อนจะเริ่มถอยคนละก้าว
“อ้าว แล้วเห็นคนอื่นๆบอกว่าเห็นเหตุการณ์ ตกลงมันยังไงกันแน่” ตำรวจหันไปมอง “อ้าว เฮ้ย!”
ทุกคนตรงนั้นล้วนคว้าหมวกกันน๊อคจากตะกร้าหน้ามาสวมอย่างมิดชิด บางคนสตาร์ทเครื่องหนีไปแล้ว
“ผมแค่มามุงเฉยๆ”
“เราถูกเจ้าสองคนนั่นหลอก” อีกคนนึงพูด
“แกสองคนนี่มันเลวจริงๆ” คนที่ขากระเพลกร้องก่อนจะขึ้นคร่อมรถแล้วขับขี่ออกไป
“เดี๋ยว คุณ คุณ อย่าเพิ่งไป”
ตำรวจร้องเสียงหลงพยายามจะเรียกคนที่กระจายออกไปให้หยุดแต่ไร้ผล จะยกกล้องมาถ่ายเลขทะเบียนก็ไม่ได้ เพราะว่าทุกคันไม่มีใครติดป้ายสักคัน
“หมอเป็นไงบ้างคะ” พยาบาลสาวเดินไปดึงมือของหมอเค
“ไม่เป็นไรครับคุณแพรว” หมอเคปาดเลือดที่มุมปากออกค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ
“น่าเสียดายที่ไม่มีกล้องวงจรปิดหน้าโรงพยาบาล” ตำรวจบ่น หมอเคก็พยักหน้ารับ ก่อนหน้านี้พื้นที่นี้เป็นเขตเรียกค่าคุ้มครองให้กับเป๋งโมบาย พวกกล้องวงจรปิดของเอกชนถูกสั่งให้ถอดเก็บไปหลายที่โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีพวกของมันมารักษาบ่อยๆ
ลุงคนขับรถขับพาทุกคนไปที่ห้องฉุกเฉิน พิเชฐถูกเข็นลงไปตรวจโดยหมออีกคน ส่วนหมอเคเข้าไปเปลี่ยนชุดและเช็ดรอยเลือดกับรอยรองเท้าที่เปื้อนทั่วๆตัวก่อนจะกลับออกมา
“เธอไม่ควรลงจากรถมา” หมอเคบอกกับรอนยิ้มๆ
“แต่เมื่อกี้หมอเจอกระทืบอยู่นะครับ” รอนบอก “หมอไม่โกรธเลยเหรอที่เจอทำอะไรแบบนั้น ทั้งเจอกล่าวหา ทั้งพยานเท็จ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย”
“รถโรงพยาบาลมีกล้องติดอยู่ ยังไงถ้าเป็นเรื่องขึ้นมาจริงๆก็ยังพอมีโอกาสต่อสู้โต้แย้งได้” หมอเคบอก “ส่วนเรื่องพยานเท็จ ผมชินแล้วแหละ”
“คนหลายคน พอมีเรื่องมีอารมณ์พาไป ก็สามารถทำทุกอย่างได้โดยบอกกับตัวเองว่ากำลังทำเพื่อความถูกต้อง คนบางคนไม่เห็นแต่บอกว่าเห็น เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งที่เขาได้รับการบอกเล่าคือความจริง” หมอเคบอก “และความยุติธรรม มันก็แค่การหาพยานหลักฐาน ถ้าหากไม่มีคลิปหน้ารถเลย พวกคนเมื่อครู่นี้ก็จะเป็นพยานที่แท้จริง แต่หากมีคลิปออกมา คนเมื่อครู่นี้ก็แค่บอกว่าตนจำผิดไปสถานการณ์สับสน นี่แหละความยุติธรรม”
“ดังนั้นเพราะผมรู้ว่ารถโรงพยาบาลมีกล้อง ยังไงก็ไม่แพ้ เลยไม่อยากให้เธอลงจากรถ” หมอเคพูดยิ้มๆ “แต่ตอนนี้สายไปแล้ว ได้แต่ภาวนาว่าจะไม่มีเรื่องอะไรตามมา”
“เอ๊ะ” รอนชะงักทำหน้าประหลาดใจ
“เธอพูดว่าเจอคนสองคนนี้ที่ร้านของเป๋งโมบาย ขณะที่สองคนนั้นจำเธอได้ก็จริงแต่ไม่ได้กลัวอะไร จนกระทั่งพิเชฐถามว่าเธอไปเจอสองคนนั่นที่ร้านของเป๋งโมบายได้ยังไง”
หมอเควิเคราะห์
“ถ้าให้หมอเดาตามสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ก่อนหน้านี้มันสองคนเคยเห็นเห็นหน้าและรู้จักเธอมาก่อนที่อื่นแต่ไม่ใช่ที่ร้าน แต่พอมันได้ยินว่าเจอที่ร้านมันเลยตกใจ แปลว่าคืนนั้นที่ร้านเป๋งเจอถล่มมันอาจจะเจอใครสักคนที่คล้ายๆเธอ” หมอเคบอกและหันไปทางแพท “และมองจากที่แม่หนูคนนี้ไม่มีท่าทีตกใจอะไรเลย เป็นไปได้ว่าเธอทั้งสองคนคงจะรู้เรื่องราวในคืนนั้นอยู่บ้าง หมอเดาถูกไหม”
ทั้งรอนและแพทอ้าปากพะงาบๆ ไม่นึกว่าจะเจอการอนุมานอย่างแม่นยำแบบนี้
“ถ้าแบบนี้..” รอนนึกขึ้นได้
“ใช่แล้ว เพราะเธอลงมาจากรถคันเดียวกันและลงมาช่วยหมอเอาไว้ ถ้าพวกมันสงสัยและต้องการจะตามหาเธอ มันก็จะมาตามที่หมอก่อน” หมอเคบอก “สงสัยต้องทำเรื่องลาพักร้อนแล้วล่ะ”
รอนอ้าปากค้าง ไม่นึกว่าแค่การลงไปช่วยจะก่อเรื่องได้แบบนี้มันเกิดจะคาดคิดจริงๆ
ไอ้วุธและไอ้แมนบึ่งรถหนีไปอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นถิ่นที่คุ้นเคยแต่ตอนนี้แถบนั้นไม่ใช่เขตอิทธิพลของแก๊งค์มันแล้ว มันบิดรถไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงตึกสำนักงานของแก๊งค์อีกแห่ง สำนักงานของเฮียโต้งมิวสิค
“เฮ้ยวุธ เจ้าเด็กนั่นมันคือคนเดียวกับที่เราเจอที่ร้านเฮียเป๋งรึเปล่าวะ”
“น่าจะใช่นะแมน ตอนที่เราเจอมันครั้งที่สอง เราบอกว่าเป็นลูกน้องเฮียเป๋งก็จริง แต่เราไม่เคยเจอมันที่ร้านนี่หว่า”
“ถ้างั้น เรื่องนี้เรื่องใหญ่แน่ๆ” ไอ้แมนบอก “เราต้องบอกเฮียโต้งมิวสิค”
“ห๊ะ” วุธร้อง
“ใช่ เราต้องบอก ถ้าเราบอกข้อมูลเรื่องสำคัญขนาดนี้ออกไป เฮียโต้งต้องให้รางวัลพวกเราแน่ๆ จริงไหม” แมนบอก
“แต่เราจะมีข้อมูลอะไรเล่า เรารู้แค่ว่ามันอยู่โรงเรียนไหนแค่นั้นไม่ใช่เหรอ” วุธนึกถึงก่อนหน้านี้ที่ติดต่อกับเอกชัยและกวิน กับตอนที่เกิดเรื่อง ก็รู้แค่โรงเรียนและชั้นม3
“โรงพยาบาลไง”
แมนพูดอย่างเหี้ยมเกรียม
“ไอ้เด็กนั่นลงมาจากรถโรงพยาบาลที่ชนพวกเรา แถมยื่นมือช่วยไอ้หมอคนนั้น เราก็ไปเค้นถามจากหมอนั่นก็สิ้นเรื่อง”

Midterm Fantasy

Midterm Fantasy

เมื่อเด็กหนุ่มติดเกมส์ จำเป็นต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆเพื่อให้ขึ้นชั้นม.4ให้ได้ หนำซ้ำในคืนก่อนสอบ Midterm เขายังดันเผลอเล่นเกมจนไม่ได้อ่านหนังสือ … มารู้ตัวอีกทีเขาก็หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งซะแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset