Midterm Fantasy – ตอนที่ 132

สั่งของผิดกฎหมาย
โดย
หมอแมว

ช่วงนี้เป็นช่วงที่รอนรู้สึกว่างและสบายหัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเป็นแต่ก่อน เวลาแต่ละวันของเขาจะหมดไปกับการเล่นเกมออนไลน์ จากนั้นก็ไปโรงเรียนและเฝ้าคิดถึงช่วงที่จะกลับไปเล่นเกม คิดถึงพักกลางวันที่จะไปห้องคอมฯเพื่อเล่นเกม พอใกล้สอบก็ค่อยกังวลและพยายามอัดอ่านหนังสือไม่ให้เกรดตกเกินไป
แต่มาตอนนี้ เขาไม่ได้ไปเล่นเกมออนไลน์อีกแล้วเวลาเหลือเพียบ
จะกลับไปอ่านหนังสือเรอะ? ก็อ่านจบเลยไปของม.ปลายแล้ว จะอ่านซ้ำอีกหลายรอบก็กระไรอยู่
จะซ้อมการต่อสู้เรอะ? เวลาเขากับแพทไปที่โลกโน้น เวลาว่างๆพวกเขาก็เอาตำราการใช้อาวุธจากบ้านของแพทเอาไปโลกโน้นเพื่อไปฝึกอยู่แล้ว  และด้วยความที่เวลาไปโลกโน้นเขาไม่ต้องการการนอนหลับ ทำให้เวลาที่มีในโลกโน้นคือ 24 ชั่วโมงเต็มๆ เทียบๆกันแล้วเขาได้เวลาเพิ่มขึ้นกว่าคนปกติ2-3เท่าเลย
นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่มีเวลาว่างขนาดนี้
ตู๊ดๆๆ
“ฮัลโหล สุธนเองเหรอ มีอะไรรึเปล่า” รอนถามไป สุธนคือรุ่นน้องที่มีความสามารถด้านถอดรหัสทางคณิตศาสตร์และกำลังรับจ้างเขาในการสร้างวงแหวนเวทมนตร์อยู่
“ครับพี่รอน ผมจะโทรมาบอกว่าตอนนี้ผมได้รูปแบบวงแหวนแบบใหม่แล้ว เดี๋ยวจะส่งภาพไปให้นะครับ”
ติ๊กๆ  เสียงโนติฟิเคชั่นดังขึ้น ไฟล์ภาพแบบเวคเตอร์ถูกส่งมายังอีเมล์ของรอน เด็กหนุ่มเปิดไฟล์ขึ้นในคอมพิวเตอร์ ภาพวงแหวนเวทมนตร์ที่ทับซ้อนกัน9ชั้นปรากฎในหน้าจอ
“วงแหวนเวทระเบิดรึ?”
“ใช่ครับ นี่เป็นวงแหวนเวทที่รวมเอาเวทบาเรียแบบชั่วคราว เวทลม และเวทไฟเข้าด้วยกัน” สุธนบอก “เวทลมจะถูกเรียกขึ้นมาพร้อมกับบาเรีย และในจังหวะที่แรงอัดของเวทลมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เวทไฟจะถูกจุดขึ้นที่รอบนอกของบาเรีย ก่อนที่บาเรียจะสลายตัวลงอย่างฉับพลัน อากาศที่อัดแน่นจะขยายตัวออกไปเหมือนกับระเบิดครับ”
“เยี่ยมมาก”
“แต่ก็มีข้อจำกัดนิดนึงครับ ด้วยแบบจำลองสมการที่ทำไว้ พลังเวทที่วิ่งเข้าไปในวงแหวนเวททั้งหมดนี้จะต้องใช้ความเร็วมากกว่าปกติสามเท่า”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกสุธน พี่ลองถามเบต้าเทสเตอร์คนอื่นๆดู พวกเขาทดสอบแล้วในเกมว่าความเร็วเวทมนตร์จะเพิ่มได้ถ้าเราใช้วัสดุที่นำความเร็วเวทมนตร์ในเลเวลที่สูงขึ้น ก็แค่เปลี่ยนวัสดุก็สิ้นเรื่อง” รอนตอบเลี่ยงๆไป “เดี๋ยวพี่จะส่งเงินไปให้ที่บัญชีเดิม”
เสียงโนติฟิเคชั่นดังขึ้น สุธนก้มลงมองหน้าจอมือถือก่อนจะอ้าปากค้าง
“พะ พะ พี่รอน พี่ส่งเงินมาเกินหรือเปล่า พี่ใส่ศูนย์ผิดไปใช่ไหม”
“เปล่านี่ พี่ส่งไปห้าหมื่นบาท”
“แต่เราตกลงกันไว้ 5พันนะครับ”
รอนยิ้มเงียบเว้นจังหวะไปพักนึงก่อนจะบอกออกไป
“พี่คุยกับเบต้าเทสเตอร์คนอื่นๆในกิลด์แล้ว ถ้าเกมนี้เปิดตัวออกมาเมื่อไหร่ข้อมูลที่ได้จากสุธนจะมีค่ามาก จะเป็นไปได้ไหมถ้าหากสุธนจะทำงานให้กับกิลด์ของเราแค่กิลด์เดียวและไม่รับวิเคราะห์วงแหวนเวทของเกมนี้ให้กับใครอื่นอีก พี่จะเพิ่มเงินให้กว่าเดิมที่ตกลงไว้สิบเท่าเลย”
“ตกลงครับ” สุธนตอบอย่างไม่ลังเล ถึงแม้ปกติเขาจะรับงานเล็กๆน้อยๆจากลูกค้าหลายๆคนและอาจจะทำเงินได้มากกว่าถ้าหากไปรับงานจากคนหลายๆคน แต่ว่าการรับงานแต่ละครั้งก็ต้องมีการพูดคุยต่อรองราคากัน บางคนทำงานเสร็จแล้วชักดาบไม่จ่าย การได้ร่วมงานกับกิลด์กระเป๋าหนักแบบนี้ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
ขณะที่รอนเองก็ตัดสินใจจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นเพราะเขาไม่อยากให้สุธนหลุดมือไป และอีกอย่างเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าที่เขาจ้างอยู่ไม่ใช่เกมออนไลน์อะไร ดังนั้นที่สุธนลงแรงไปจะไม่มีลูกค้าคนอื่นมาเพิ่มอีกแน่ๆ ยังไงตอนนี้รอนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเท่าไหร่อยู่แล้ว จัดการจ่ายค่าจ้างให้เต็มที่ไปเลยก็แล้วกัน
“จะว่าไปก็น่าเสียดาย ถ้าเราลดขนาดของมันลงมาอีกได้ก็จะดี” รอนเอ่ยขึ้นขณะเลื่อนดูภาพวงแหวน “ม้วนเวทขนาดเท่ากระดาษเอสี่แบบนี้มันใหญ่ไปนิดนึง”
“พี่รอนครับ ลดขนาดมาได้เท่านี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ถ้าผมไม่ดัดแปลงให้มันเป็นรูปร่างสามมิติทับซ้อนกันหลายชั้น วงแหวนเวทชิ้นนี้จะมีขนาดเท่าสนามบาสเกตบอลเลยนะครับ”
“โอ้ ขนาดนั้นเลยเรอะ” รอนร้องขึ้นอย่างรู้สึกทึ่ง วงแหวนเวทที่ขนาดเท่าสนามบาสเกตบอลนี่จะมีพลังทำลายมากแค่ไหนกัน
“ที่จริงก็น่าเสียดายไปนิด ถ้าเป็นในเกมยังไงเราก็ต้องวาดมันขึ้นด้วยมือบนม้วนเวท แต่ถ้าเป็นในชีวิตจริงล่ะก็เราก็ใช้เครื่องปริ้นท์เตอร์พิมพ์เอา ลดขนาดลงไปได้อีก….” สุธนพูดลอยๆ ขณะที่รอนเองอมยิ้มเพราะตอนนี้เขาเองก็ใช้ปริ้นท์เตอร์พิมพ์อย่างที่สุธนบอกอยู่
“และถ้าหากเป็นในชีวิตจริง เราสามารถใช้เครื่อง3Dปริ้นท์เตอร์ พิมพ์เป็นแบบจำลองสามมิติได้” สุธนบอกออกมาอีก
“หืม ได้ด้วยเหรอ?”
“ได้สิครับ ที่จริงผมลองทำแบบจำลองออกมาเล่นๆแล้วด้วยซ้ำ” สุธนบอก “พี่ลองดูสิครับ”
ไฟล์ STL ถูกส่งไปที่เมล์ของรอน เขาเปิดอินเตอร์เนทเข้าโปรแกรมดูไฟล์สามมิติแบบออนไลน์ เปิดดูภาพที่ส่งมา เป็นลูกกลมๆที่ภายในมีเส้นสีแดงของวงแหวนเวทโยงไปมาในมุมต่างๆกัน
“อันนี้เป็นโมเดลระเบิดสตัน ภายในเป็นเวทบาเรียกับเวทลม ด้านนอกสุดเป็นเวทหน่วงเวลา 5 วินาที” สุธนพูดอย่างภูมิใจในผลงาน “ผมกะว่าถ้าหากเกมเปิดตัวขึ้นมาล่ะก็ผมจะทำโมเดลอันนี้ออกมาขาย ด้านนอกใช้พลาสติกใสให้มองเห็นวงแหวนเวทข้างใน ท่าทางต้องขายดีแน่ๆ”
รอนฟังหูผึ่งสนใจ จริงสินะ ถ้าใช้เครื่องพิมพ์สามมิติล่ะก็ก็สามารถทำโมเดลอุปกรณ์เวทมนตร์เล็กๆได้ก็ไม่ต้องพกกระดาษอีกแล้ว
สุธนวางสายไปแล้วหากแต่รอนยังคงครุ่นคิดอยู่ในใจ เขากดหาข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทรไปที่เบอร์เบอร์หนึ่ง
หลิวลี่จงกำลังคุยเรื่องงานภายในแก็งค์อยู่ แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ทุกคนที่กำลังคุยอยู่หยุดการพูดคุยลงชั่วขณะเพราะโทรศัพท์เครื่องนี้ของพี่ใหญ่หัวหน้าแก็งค์เป็นเครื่องที่ใช้กับงานสำคัญๆเท่านั้น
“คุณหลิว ผมรอนเอง” รอนบอก
“โอ้ คุณนั่นเอง มีเรื่องอะไรให้ผมจัดการรึ” หลิวลี่จงถาม
“ผมอยากสั่งซื้อของชิ้นนึง แต่ไม่รู้ว่าคุณจะหาให้ได้หรือเปล่า” รอนบอก “มันเป็นของผิดกฎหมาย”
พี่ใหญ่หลิวขมวดคิ้วเล็กน้อยใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที แม้ที่ผ่านมารอนจะเคยสั่งของจากเขาหลายต่อหลายอย่าง แต่มันก็เป็นของสีเทา เป็นอาวุธมีคมที่ไม่ได้ผิดกฎหมายซะทีเดียว

แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกรอนระบุมาโดยตรงว่าเป็นของผิดกฎหมาย
“บอกมาได้เลยครับ ถ้าไม่เกินกำลังของแก็งค์เรา พวกเราจะหามาให้คุณให้ได้” หลิวลี่จงรับคำ ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือของรอนในชุดหน้ากากดำล่ะก็ แก็งค์รุ่งโรจน์ของเขาคงไม่สามารถแย่งพื้นที่มาจากแก็งค์เมษาได้ พี่น้องที่อพยพย้ายถิ่นกันมาคงไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้แบบนี้
“ถ้าอย่างนั้นผมจะส่งไฟล์เอกสารไปให้ครับ” รอนบอก “แต่ถ้ามันลำบากหรือเสี่ยงเกินไปก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมจะลองหาทางอื่นดู”
“ไม่ต้องเกรงใจครับ คุณส่งมาได้เลย ผมจะใช้กำลังเท่าที่มีนำของที่คุณต้องการมาให้ได้”
“อ้อ อีกอย่าง เรื่องนี้อย่าให้ผู้กองเฌอมาลย์รู้นะครับ” รอนกำชับ
“ไม่ต้องห่วงครับ ตำรวจจะไม่มีทางรู้แน่นอน” หลิวลี่จงรับคำก่อนจะวางสายไป ลูกน้องทุกคนมองอย่างอยากรู้อยากเห็น
“หน้ากากดำโทรมา เขาต้องการให้เราจัดหาสินค้าให้” พี่ใหญ่หลิวบอกออกไป
“อ้า หน้ากากดำ!” ทุกคนร้องขึ้นเบาๆ หน้ากากดำที่ช่วยให้แก็งค์รุ่งโรจน์ขึ้นครองพื้นที่ในเมืองหลวงได้ในเวลาชั่วข้ามคืนคนนั้น ต้องการให้แก็งค์จัดหาสินค้ารึ!
“ครั้งนี้เป็นของผิดกฎหมาย เขาเลยต้องการให้พวกเราจัดการให้”
“ของผิดกฎหมาย! หน้ากากดำคนนั้นต้องการให้แก็งค์ของเราจัดการให้อย่างนั้นเหรอครับ”
“ถูกต้อง” พี่ใหญ่หลิวกดโทรศัพท์มือถือเปิดไฟล์ที่รอนส่งมาให้ก่อนจะสั่งพิมพ์เอกสาร “เสี่ยวหวัง ไปเอาเอกสารที่เครื่องพิมพ์มา พวกเราจะดูพร้อมๆกัน”​
ลูกน้องคนหนึ่งเดินออกจากห้องไปที่เครื่องพิมพ์ซึ่งตั้งอยู๋ห้องข้างๆ ขณะที่สมาชิกแต่ละคนมองหน้ากันอย่างลังเล
“พี่ใหญ่ครับ แต่ตอนนี้แก็งค์ของเรามีสายสัมพันธ์กับตำรวจด้วย ถ้าหากเราขนของผิดกฎหมายล่ะก็จะไม่เกิดปัญหาหรือครับ” ลูกน้องคนนึงถามขึ้น
“ใช่ครับ ถ้าหากผู้กองหญิงคนนั้นรู้เรื่องเข้าพวกเราจะลำบากได้นะครับ” ลูกน้องอีกคนบอก
“บุญคุณเป็นสิ่งที่ต้องทดแทน ทุกคนอย่าลืมสิว่าที่พวกเราสามารถลงหลักปักฐานได้แบบนี้เป็นเพราะใคร ถ้าไม่ใช่เพราะหน้ากากดำคนนั้นเสี่ยงชีวิตเป็นแนวหน้าบุกโจมตีธุรกิจของแก็งค์เมษาล่ะก็ ป่านนี้พวกเราทุกคนก็คงยังต้องขนของเถื่อนกระจัดกระจายไม่เป็นหลักแหล่งกันอยู่เลย ไหนเลยจะมาอยู่สบายแบบนี้ได้”  หลิวลี่จงยืนยันอีกครั้ง ทุกคนในที่นั้นพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน
จริงสินะ ก่อนหน้านี้ที่ทุกคนต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆอย่างคนหลบหนีเข้าเมือง คอยทำงานส่งสินค้าเถื่อนหนีภาษี มาในตอนนี้ต่างพื้นที่ให้ตั้งหลักกันแล้ว
เพราะเด็กหนุ่มหน้ากากดำคนนั้น
ก๊อกๆ
“เข้ามาได้ อ้าว เสี่ยวหวัง ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
พี่ใหญ่หลิวใจหายวูบ เพราะเสี่ยวหวังเหลือบมองแผ่นกระดาษในมือก่อนจะทำหน้าตาอย่างบอกไม่ถูก
“พี่ใหญ่แน่ใจเหรอครับว่านี่คือของที่หน้ากากดำต้องการ พี่ใหญ่ไม่ได้สั่งพิมพ์ผิดไฟล์ใช่ไหมครับ” เสี่ยวหวังบอก หลิวลี่จงก้มมองมือถือ ก็สั่งไม่ผิดนี่หว่า
“ไม่ผิดแน่ ไหนขอดูหน่อยซิ”
หลิวลี่จงรับเอามาดู ของผิดกฎหมายอะไรกันที่รอนต้องการให้เขาขนมาถึงทำให้เสี่ยวหวังทำหน้าแบบนั้นได้ หัวหน้าแก็งค์รุ่งโรจน์รับเอาแผ่นกระดาษมาอ่าน ตาเบิกกว้าง
“นี่มัน! …​มารดามันเถอะ!”
“อะไรครับพี่ใหญ่ ของอะไรเหรอครับ”
“ใช่ พี่ใหญ่ มันคืออะไรครับ”
ลูกน้องทุกคนตกใจ สินค้าอะไรกันแน่นะ! หลิวลี่จงวางกระดาษลงบนโต๊ะให้ทุกคนอ่าน
“เครื่องพิมพ์3มิติ ของแบบนี้ผิดกฎหมายด้วยเรอะ!” พี่ใหญ่หลิวเอามือกุมขมับ “เสี่ยวหวัง โทรไปบอกพวกของเราที่ฮ่องกง ไปหาซื้อเครื่อง แล้วก็แยกชิ้นส่วนหิ้วเข้ามาคืนนี้เลย โว้ย ทำใจหายใจคว่ำหมดนึกว่าจะเอาอะไร”

Midterm Fantasy

Midterm Fantasy

เมื่อเด็กหนุ่มติดเกมส์ จำเป็นต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆเพื่อให้ขึ้นชั้นม.4ให้ได้ หนำซ้ำในคืนก่อนสอบ Midterm เขายังดันเผลอเล่นเกมจนไม่ได้อ่านหนังสือ … มารู้ตัวอีกทีเขาก็หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งซะแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset