Midterm Fantasy – ตอนที่ 272

ปลดปล่อยพลังที่เก็บไว้ ด้วยมานา +0.5
โดย
หมอแมว

รอนพุ่งตัวเข้าใส่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้า หมัดเงื้อขึ้นเตรียมต่อยเข้าใส่
“[Alexandria]”
โล่เวทมนตร์ก่อตัวขึ้นต่อหน้าของเวก้า หมัดของรอนพุ่งกระแทกเข้าใส่อย่างจัง  โล่เวทมนตร์ที่เพิ่งก่อตัวขึ้นแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ที่ข้างหลังโล่เวทมนตร์นั่น ไม่มีร่างของเวก้า
ฟุบ ฟุบ! !
หอกสองเล่มพุ่งเข้าหารอนจากด้านข้าง การโจมตีเมื่อครู่ทำให้รอนยังลอยอยู่เหนือพื้นจนขยับหลบไม่ได้
“ย่ะห์”
บูม!
เสียงดังเหมือนเสียงระเบิดดังขึ้นมา ร่างที่เท้ายังไม่แตะพื้นลอยขึ้นจนหอกพลาดเป้า

“ใช้หมัดอัดอากาศจนเปลี่ยนทิศทางได้”
“พละกำลังมากอะไรขนาดนี้!”
ทันทีที่ตกถึงพื้น รอนพุ่งตรงเข้าหานักรบมังกรเวก้า ชักมีดสั้นในมือขึ้นมาฟันเข้าไป เวก้ายกดาบในมือขึ้นป้องกัน

เชียะ!แคร้ง!

“อ้าก!”
ร่างของเวก้ากระเด็นถอยห่างไป ดาบโอริค่อนในมือของมันหักแยกออกเป็นสองท่อน ขณะที่มีดแสตนเลสในมือของรอนก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหากแต่ส่วนด้ามที่ถืออยู่นั้นฟันถูกเข้าที่เกราะแขนของเวก้าจนเลือดสาด เวก้าดึงดาบเล่มใหม่ออกจากแหวนมิติเก็บสิ่งของ แต่แล้วหมัดของรอนก็พุ่งตามมาติดๆ

เป้ง! โล่ในมือของเวก้ากระเด็นหลุดมือออกไปเมื่อถูกหมัดของรอนเข้า และยังไม่ทันจะเอาโล่อันใหม่ออกมา มืออีกข้างของเด็กหนุ่มก็พุ่งเข้ามาพร้อมมีดเล่มใหม่

ฉึก!
มีดแสตนเลสที่ไม่ควรจะแทงเกราะโลหะเข้า แต่เมื่อมาอยู่ในมือที่จู่โจมด้วยพละกำลังมหาศาล ก็ชำแรกผ่านเกราะเข้าไปจนถึงเลือดเนื้อที่อยู่เบื้องหลังได้

“[Explosion]”
ตูม! แรงระเบิดเกิดขึ้นที่ตรงกลางระหว่างทั้งสอง  ร่างของรอนและเวก้ากระเด็นออกจากกันด้วยแรงระเบิดกลิ้งไปตามพื้นห่างกันกว่า 20 เมตร
รอนค่อยๆลุกขึ้นจากพื้น หยิบหัวใจออร์คที่ตกอยู่ขึ้นมาเคี้ยวเข้าปาก
+5 +5 +5 +5 +5 +5 +5 +5

เวก้าค่อยๆลุกขึ้น มันดึงขวดน้ำยาสีแดงออกมาจากแหวนมิติ แล้วกระดกลงไป
+10 +10 +10 +10 +10
เลือดที่ไหลทะลักจากร่างของทั้งสองค่อยๆหยุดลง  เวก้าดึงมีดสั้นที่ปักหน้าอกขวาออก เลือดทะลักเพียงครู่เดียวแล้วก็หยุดลง
“เจ้ามีฝีมือมากกว่าที่ข้าคิดไว้มาก ต้องชมเจ้าจริงๆที่มาได้ถึงขนาดนี้” เวก้าบอก “แต่ข้าจะบอกอะไรให้ เจ้า….”
“พูดมาก” รอนพุ่งเข้าหาอย่างไม่สนใจ หมัดต่อยเข้าที่พื้น  พลาดเป้าจากเวก้าที่หลบได้อย่างทันท่วงที

“เจ้านี่ไม่ชอบพูดคุยสินะ”  เวก้าปล่อยโล่ที่แตกออก เรียกโล่ใบใหม่ออกมา
“อย่าคิดว่าจะหลอกกันได้เลย ที่เจ้าชวนคุยก็แค่ต้องการให้เวทที่ใช้หมดเวลาใช่ไหมล่ะ” รอนตอบขณะที่ปล่อยหมัดออกไปเรื่อยๆ
“ฮ่าๆๆ ข้าไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่รู้ทันแบบนี้มานานแล้ว” เวก้าหัวเราะ ทิ้งดาบในมือที่ถูกต่อยจนบิดเบี้ยวไป

รอนดูที่หน้าจอของตน Power Overwhelming ใช้ได้แค่ 5 นาที
ตอนนี้เขาใช้ไปแล้ว 2 นาที
สำหรับเด็กหนุ่มที่เล่นเกมออนไลน์มาอย่างโชกโชน การชวนอีกฝ่ายคุยหรือแชทเพื่อถ่วงเวลาให้สกิลหมดเวลา เป็นเรื่องที่เขาทำเป็นประจำอยู่แล้ว
“[Fire Ball]” ลูกไฟนับสิบพุ่งออกจากมือของเวก้า
“ย่ะห์ อะต๊ะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” รอนต่อยหมัดอัดอากาศเข้าไปอย่างระเร็วรัว ลูกไฟที่พุ่งมาเจอแรงลมจากหมัดปัดเป่าให้กระจายไปคนละทิศทาง แต่แม้จะไม่บาดเจ็บใดๆ แต่ร่างของเวก้าก็หายไป

“ฮ่าๆๆๆ”
รอนเงยหน้าขึ้นมอง บนท้องฟ้าตอนนี้คือมังกรดำที่กระพือปีกลอยตัวอยู่
“เจ้า! ถ้ากล้าพอก็ลงมาสู้กันสิ” รอนชูกำปั้น
“ไม่ล่ะ ข้าจะรอบนท้องฟ้า รอให้เวทเสริมพลังของเจ้าหมดฤทธิ์เสียก่อน” เวก้าตะโกนลงมา

ชาวบ้านทุกคนหน้าซีดเผือด  เจ้าเวก้าจับจุดอ่อนของคุณรอนได้ … ถ้าแบบนี้พลังเวทของคุณรอนหมดก็แย่น่ะสิ
“[Fire ball]”
ตูม! ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ลูกไฟเวทมนตร์ถูกยิงลงมาจากท้องฟ้า  รอนต้องวิ่งหลบไปมาอย่างโต้ตอบอะไรไม่ได้ เวลาค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ เวท Power Overwhelming ในตอนนี้เหลือใช้ได้แค่ 2 นาทีเท่านั้น

“คุณรอน ระวัง!” เสียงชาวบ้านร้องเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังจะหลบลูกไฟไม่พ้น “[Wind Shield]”
ตูม!
โล่สายลมถูกกางออกเหนือศีรษะของรอน  ลูกไฟที่ตกลงมากระทบแตกออกเป็นสะเก็ดเล็กสะเก็ดน้อย กระจัดกระจายบนโล่สายลมจนเหมือนกับลอยอยู่ในอากาศ

“ฮ่า ๆ ๆ จงเตรียมตัวรับความตายเสียเถอะ” เวก้าหัวเราะลั่น ขณะที่รอนมองสะเก็ดไฟที่ลุกไหม้อยู่ในอากาศบนโล่สายลมนั้นแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ เด็กหนุ่มเกร็งกำลังขาแล้วกระโดดขึ้นไป

“เปล่าประโยชน์ มังกรอยู่สูงขนาดนี้ กระโดดยังไงก็ไม่มีทางถึงหรอก”
เวก้าพูดขึ้นแล้วก็ต้องชะงักไป เพราะภาพและเสียงที่อยู่ต่อหน้านั้นทรยศสายตาของมัน
ร่างของรอนนั้นลอยขึ้นจากแรงกระโดดสูงกว่า 10 เมตร และเมื่อแรงส่งกำลังจะหมด ก็มีเสียงตุบ ก่อนที่ร่างจะลอยขึ้นต่อ … ชะลอ แล้วก็พุ่งลอยขึ้นต่อ ประดุจดั่งสามารถกระโดดได้ในอากาศ
แต่นี่มันอากาศนะ ไม่มีที่ให้เหยียบยืน!
เวก้ามองรอนอย่างไม่เชื่อสายตา จนลืมไปว่ารอนกระโดดครั้งที่ 5 เหลือระยะอีกไม่มากก็จะถึงมันแล้ว … และตอนนั้นเองที่มันได้ยินเสียงของเด็กหนุ่ม
“[Wind Shield]”
ตุบ ฟ้าววว

“แย่แล้ว! มันร่ายเวทโล่สายลม แล้วใช้โล่สายลมเป็นที่เหยียบกระโดด” เวก้าดึงบังเหียนมังกรดำ “บินหลบเร็วเข้า”
มังกรที่กำลังบินลอยตัวนิ่งอยู่รีบออกตัวมุ่งไปด้านหน้า แต่ทว่าก็ช้าไปเสียแล้ว

“จะหนีไปไหน” รอนลอยตัวขึ้นมาอยู่เหนือมังกรดำและเวก้า

“[Dragon Shield]”
“อย่าาาาาาา”
เสียงของเวก้าร้องห้ามแต่ช้าไปเสียแล้ว เพราะมังกรดำได้ร่ายเวทโล่มังกรขึ้นเรียบร้อย โล่สีดำสนิทปรากฎลอยขึ้นในอากาศ … ขณะที่รอนที่ลอยตัวอยู่ก็หล่นลงมา … ยืนอยู่บนโล่พอดี

“เจ้าบ้า บินผ่านไปเฉยๆก็รอดแล้ว”
“แว้กกกก”

มังกรพยายามเร่งความเร็วหนีพริบตาเดียวก็พุ่งไกลกว่า 20 เมตร แต่รอนที่มีที่ยืนอันมันคงไปยืนที่ขอบโล่แล้วเกร็งพลัง ใช้ขอบโล่เวทมนตร์เป็นที่ดีดตัว ร่างของเด็กหนุ่มพุ่งเหมือนกระสุนปืนใหญ่ เป้าหมายคือคอของเจ้ามังกร
“อุ้ค” มังกรร้องจุกเมื่อถูกกระแทกเข้าเต็มๆ มันพยายามสะบัดหัวให้รอนหลุดออกไป แต่มือซ้ายของเด็กหนุ่มเกาะเข้ากับเขามังกรอย่างแน่นหนา มือขวาเงื้อขึ้น
“อะต๊ะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
หมัดที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ประเคนเข้าใส่หัวของมังกรดำอย่างไม่ยั้ง
“ท่านเวก้า ช่วยข้าด้วย”
มังกรร้องเสียงหลงอย่างเจ็บปวด หมัดของรอนที่ใช้เวท Power Overwhelming หนักกว่า 3000 กิโลกรัม กระแทกเข้าไปที่ศีรษะของมังกรยักษ์อย่างไม่ปราณี เกล็ดที่แข็งแกร่งบริเวณศีรษะล้วนแตกกระจายหลุดร่อนเห็นผิวหนังเบื้องล่างที่โชกเลือด
ระหว่างนั้นเวก้าก็พยายามร่ายเวทโจมตีใส่รอน หากแต่ว่าไม่เป็นผล มังกรดำสะบัดหัวของมันไปมาเพื่อหวังให้รอนหลุด แต่ยิ่งสะบัด เวก้าที่พยายามจะช่วยก็ไม่สามารถเล็งเวทมนตร์ได้ เวทมนตร์โจมตีเกินครึ่งพลาดเป้า และที่เหลือพุ่งเข้าใส่รอนและหัวของมังกรในสัดส่วนที่พอๆกัน

“ว้ากกกก”
“ว้ากกกกก”
“อะต๊ะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
ตูม!
ฝุ่นตลบอบอวลที่พื้นสนามรบจากแรงกระแทก โดยมี ร่างของรอนและเวก้ากระเด็นลอยออกจากกลุ่มควันไปคนละทาง
“เท่านี้แกก็บินขึ้นไปไม่ได้แล้ว” รอนยันร่างโชกเลือดขึ้นมาจากพื้น  เลียเลอดเนื้อมังกรที่ใช้มือจกมาเมื่อครู่เข้าปาก …
+100 +100 +100 +100 …..
แผลและเลือดที่ได้มาจากการบาดเจ็บเมื่อครู่หายอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“จบแค่นี้แหละเจ้าเวก้า ตายซะ”
รอนพุ่งเข้าหานักรบมังกรฝ่ายศัตรูอย่างรวดเร็วไม่เปิดโอกาสให้ฟื้นฟูพลัง เวก้ายังไม่ทันแม้จะเปิดฝาขวดยาเพิ่มพลังเลยในตอนที่รอนเข้าถึงตัว

ผัวะ! ตุบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
แครก แครก แครก แครก  เคร้ง
ชุดเกราะสีดำของเวก้าค่อยๆแตกออกตามจุดต่างๆ โดยที่ไม่อาจปัดป้องได้ จะร่ายเวทหรือปล่อยสกิลใดๆก็ไม่ทัน  และแล้วหมัดของรอนก็ซัดเข้าที่หมวกเกราะเหล็กของเวก้าจนกระเด็นหลุดลอยไป
เรือนผมยาวสะบัดออกสะท้อนกับแสงแดดยามกลางวัน เกราะที่หลุดออกไปนั้นเผยให้เห็นโครงหน้าเรียวยาว ดวงตาคม กรามเป็นสันน้อยๆ จมูกโด่งเป็นสัน

งดงาม!
หัวใจของรอนเต้นผิดจังหวะไปชั่วเสี้ยววินาที แบบ Premature ventricular contraction
หมัดที่กำลังเงื้อขึ้นอีกรอบยกขึ้นช้าๆ สมองพยายามบอกว่าเขาไม่อยากทำลายสิ่งที่งดงามเช่นนี้ แต่ว่ารอนไม่มีทางเลือกอื่น … จะให้อารมณ์อยู่เหนือความรู้สึกไม่ได้
เวก้าอ้าปากขึ้นหวังใช้สกิล Purge จัดการศิลานักปราชญ์ของรอน แต่มือซ้ายของรอนเลื่อนเข้ามาที่ใบหน้า นิ้วทั้งสองสอดเข้าไปในปากของนักรบมังกรหนุ่ม และกดจับลิ้นเอาไว้ไม่ให้เอื้อนเอ่ยร่ายสกิล ขณะที่กำปั้นขวาที่เงื้อขึ้นสุด ต่อยลงไปอย่างสุดแรง

ตุบ…
“อ๊ะ!” “อ๊ะ!”
ทั้งเวก้าและรอนร้องออกมาพร้อมๆกัน  รอนเหลือบมองที่ขอบจอของตน …
Power Overwhelming 00:00
มาหมดพลังอะไรกันตอนนี้

“ฉิบหายแล้วพลังหมด … อ๊อค”
เวก้าถีบตัวขึ้นจากพื้น จากนั้นก็ประเคนแข้งเข้าใส่รอนที่ยืนอยู่จนกระเด็นไป รอนยังไม่ทันลุกขึ้นได้ เท้าของอีกฝ่ายก็มาถึงตนเองแล้ว
ปั่ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ชาวบ้านทั้งหมดยืนงงอย่างปรับสภาพไม่ทัน  สถานการณ์พลิกผลันเร็วมาก จากเกือบแพ้เมื่อครู่ กลับมาเหนือว่าจนเกือบเอาชนะได้ … และในวินาทีสุดท้ายที่กำลังจะชนะ พลังของรอนก็ดันหมดพอดี
“[Power Overwhelming] ไม่ได้ ไม่ได้แฮะ … [Might] นี่ก็ไม่ได้ ”รอนพยายามใช้สกิลนักรบคลั่งเพื่อแลกพลังชีวิตของตนไปเป็นเวทเพิ่มพลังแต่ก็ทำไม่ได้ หน้าจอของเวทเกือบทั้งหมดกลายเป็นสีเทา

“นี่คงไม่มีใครบอกเจ้าสินะ … ถ้าใช้สกิลนักรบคลั่งในระดับอัลติเมทไปแล้ว เจ้าจะใช้สกิลนักรบคลั่งไม่ได้อีกชั่วโมงนึง” เวก้าจับไหล่ของรอนยกขึ้นมา เด็กหนุ่มร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“System   เจ้า Bonus stat ของผมที่ล็อคเอาไว้น่ะ จะเปิดใช้ได้ไหม” รอนถามศิลานักปราชญ์ของตนในใจ
“ไม่ได้ จะเปิดต้องใช้เวทมนตร์ … เจ้าไม่มีพลังเวทมนตร์ในตัว เปิดไม่ได้” ศิลานักปราชญ์บอก
“แต่นี่มันคับขันนะ ผมกำลังจะถูกฆ่านะ”
“โอเค  … ต่อไปถ้ามีผู้ใช้คนใหม่ ข้าจะเตือนเขาอย่าให้ซ้ำรอยเจ้าก็แล้วกัน”
“เฮ้ยยยยยย”
เวก้าจับรอนยกขึ้นจนเท้าลอยอยู่ในอากาศได้แต่ดิ้นไปมา
“ท่านเวก้า ท่านจัดการมันแต่อย่าเพิ่งให้ถึงตาย ข้าขอเป็นผู้สังหารมัน ข้าจะจัดการที่มันทำให้ข้าต้องอยู่ในสภาพน่าอดสูเช่นนี้” มังกรดำที่สะบักสะบอมเดินตรงมาที่ทั้งคู่

“ได้สิ … “ เวก้ายิ้ม “เอาล่ะเจ้าหนุ่ม … เจ้ามีอะไรจะสั่งเสียหรือมีอะไรที่อยากจะขอเป็นครั้งสุดท้ายไหม”
รอนมองนักรบมังกรตรงหน้าอย่างพรั่นพรึง ในใจเต็มไปด้วยความเสียดาย …. เขาอุตส่าห์ใส่ Bonus Stat เข้าไปที่พละกำลังจนพลังอยู่ที่ 4000 กิโล … แต่ตอนนั้นเพราะอยากฝึกฝนตนเอง ก็เลยจูบกับแพท ได้มานา +0.5 มาปรับพลังให้เหลือ 200 กิโล
รู้งี้เขาไม่ปรับลงมาเป็น 200กิโลก็ดี
เดี๋ยวนะ !!! ….
“หึ หึ หึ ถ้าเจ้าไม่มีอะไรจะขอ งั้นข้าก็จะส่งเจ้าไปลงนรกซะ!” เวก้ายกดาบในมือขึ้น
“ช้าก่อน ข้ามีคำขอเป็นครั้งสุดท้าย” รอนบอกออกไป

“อืมมม เอาสิ มีอะไรก็ว่ามา” เวก้ายิ้มและลดดาบในมือลง “แต่อย่าขออะไรที่เป็นไปไม่ได้อย่างเช่นให้ข้าปล่อยเจ้าไปก็แล้วกัน”
“ข้า……”
รอนจ้องหน้านักรบมังกรเวก้า … เอาวะ
เสี่ยงเป็นเสี่ยง ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว
“ข้าขอมองหน้าของท่านใกล้ๆให้เต็มตาด้วยเถอะ”
“หืมมมมมม”
เสียงการสู้รบเบาลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งออร์คและมนุษย์ต่างหันมามองเป็นตาเดียวกัน …

“บอกเหตุผลข้ามา” เวก้าถามอย่างสงสัย
“ข้า … ข้าไม่เคยเห็นใบหน้าของชายใดที่งดงามขนาดนี้มาก่อน  ข้าอยากมีเวลาเห็นใบหน้านี้นานกว่านี้อีกสักนิด”
เวก้าชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของรอนก็ละความสงสัยไป
ต่อหน้าทุกคนเมื่อครู่มันออกปากไปแล้วว่าจะยอมทำตามคำขอสุดท้าย ยังไงในตอนนี้เจ้าหนุ่มนี่ก็ไม่มีปัญญาต่อต้านมันอยู่แล้ว
“ได้”
เวก้าปล่อยมือที่ยกร่างของรอนลง เด็กหนุ่มทรงตัวยืนจนมั่นคงแล้วก็เงยหน้าขึ้น
ดวงตาประสานดวงตา
รอนเดินเข้าไปใกล้ชิด ใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของเวก้าสายตามองไปที่คิ้วที่เรียวงาม สันจมูกที่เด่นชัด ดวงตาประกายแจ่มใส ไล่ไปจนถึงริมฝีปากแดงเรื่อ

เอาวะ เสี่ยงเป็นเสี่ยง !

รอนโถมกายเข้าใส่ชายหนุ่มตรงหน้า แขนซ้ายกอดเข้าที่แผ่นหลัง มือขวาจับเข้าที่เรือนผมของเวก้าและประคองศีรษะไม่ให้หันหนี จากนั้นก็ประกบริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย

“ฮื้ยยยยย”
ทั้งออร์คและชาวบ้านโอลเซ่นร้องออกมาพร้อมๆกัน  เชี่ยไรกันเนี่ย

การจูบดำเนินไปไม่ถึง 3 วินาที เวก้าผลักอกเด็กหนุ่มจนกระเด็นออกไป ขณะที่รอนมองที่หน้าจอของตน
มานา +0.5
“ฆ่ามัน” เวก้าร้องสั่งมังกร มังกรดำพุ่งเข้ามา ยกหางมหึมาเตรียมฟาดเด็กหนุ่ม

“System ใช้มานาปลดล็อคพลัง … ใช้พละกำลังทั้งหมด และยัด Bonus stat ที่เหลือใส่พละกำลังStrให้หมด”
“{รับทราบ}”

รอนรู้สึกถึงพลังที่พลุ่งพล่าน ดุจดั่งแม่น้ำที่แห้งขอดมานานได้รับน้ำอันชุ่มฉ่ำ เหมือนเขื่อนที่ปิดกั้นไว้ได้ถูกเปิดออก น้ำที่กักเก็บไว้ทะลักไหลพรั่งพรูไปทั่วสรรพางค์กาย

“ตายยยยยยย” มังกรดำฟาดหางเข้าใส่เด็กหนุ่ม

ปึง!
เลือดสีแดงสดกระจายออกเต็มพื้นที่หางฟาดลงไป เศษหินและเนื้อกระจัดกระจาย …  ตามด้วยเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดของมังกรดำ

“หางข้า หางข้า”
หางที่ฟาดลงไปนั้นค่อยๆฉีกออก จนขาดออกเป็นสองส่วน … ปรากฎร่างของรอนที่ยืนอยู่ตรงกลาง !

ตอนนั้นเองที่ทุกคนรู้ว่าเลือดเนื้อที่กระจายอยู่ตรงนั้น มาจากมังกรดำ

“แก แก เตรียมตัวตาย โอ๊คคคค”
เงาร่างของรอนพุ่งเข้าใต้ท้องของมังกร หมัดทะลวงเข้าใส่ท้องจนร่างของมันยกลอยขึ้น … มังกรสำรอกเอาน้ำย่อยในท้องออกมาเต็มพื้นไปหมด มันกางปีกออกเตรียมยกตัวขึ้นหนี

แต่แล้วก็รับรู้ได้ถึงแรงดึงที่หาง

“จะไปไหน ลงมานี่”
ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง
รอนจับหางของมังกรที่กำลังจะบิน จากนั้นออกแรงเหวี่ยง มังกรดำร่างยักษ์ถูกเหวี่ยงกระแทกพื้น ยกขึ้น ฟาดพื้น ยกขึ้น ฟาดพื้น หลังการฟาดครั้งที่ 10 มันก็ลิ้นห้อยหมดสติไป
“ย้ากกกก”
โครมมมมมม
รอนเหวี่ยงร่างมังกรที่หมดสติไปแล้วเข้าใส่กองทัพออร์คใกล้ๆ ร่างมหึมาของมันบดขยี้ออร์คนับร้อยเละเป็นกองเลือดในพริบตา

แล้วเขาก็หันไปทางเวก้าที่กำลังร่ายเวทฟื้นพลังตนเองอย่างเร่งด่วนอยู่
“เอาล่ะ” รอนบอก “มาต่อเรื่องของเรากัน”
ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเที่ยงตรง เวก้าก้าวถอยหลังไป3ก้าวอย่างไม่รู้ตัว …. ก่อนที่ร่างของทั้งรอนและเวก้าจะหายไปทั้งคู่พร้อมๆกัน

Midterm Fantasy

Midterm Fantasy

เมื่อเด็กหนุ่มติดเกมส์ จำเป็นต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆเพื่อให้ขึ้นชั้นม.4ให้ได้ หนำซ้ำในคืนก่อนสอบ Midterm เขายังดันเผลอเล่นเกมจนไม่ได้อ่านหนังสือ … มารู้ตัวอีกทีเขาก็หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งซะแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset