Midterm Fantasy – ตอนที่ 3

ไม่ได้ฝันไป! สามารถเลเวลอัพด้วยการอ่านหนังสือ!
โดย
หมอแมว

เด็กหนุ่มหลับสนิทจนถึงเช้าโดยไม่ได้ฝันอะไรแปลกๆอีก เก็บกระเป๋าอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปกินข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ แล้วก็ขึ้นรถสองแถวหน้าปากซอยไปโรงเรียน หน้าห้องเรียนนั้น เพื่อนๆกำลังนั่งอ่านหนังสือกันอยู่
รอนทรุดตัวลงนั่ง หยิบหนังสือภาษาอังกฤษออกมาเปิดอ่าน เมื่อคืนเขาหลับไปตอนเที่ยงคืน อ่านไปได้นิดเดียวเท่านั้น ดังนั้นทุกนาทีต่อจากนี้มีค่า
“เอ๊ะ” … เขามองไปที่หนังสือ เนื้อหาด้านในนี้เขาเคยอ่านมาแล้วนี่
รอนพลิกดู … ไม่ใช่แค่เคยอ่าน แต่ว่าแม้แต่การขีดเส้นใต้ แบบทดสอบ หรือการจดโน็ตที่เขาทำไว้ในฝันเมื่อคืนนี้ ก็มาปรากฎในหน้งสือนี่ทั้งหมดเลย
เก๊งๆๆ
เสียงระฆังบอกเวลาเข้าห้องสอบดังขึ้น นักเรียนทุกคนทยอยกันเก็บหนังสือและเตรียมดินสอ2B ขณะที่รอนยังนั่งงงอยู่
“เฮ้ยรอน ได้เวลาเข้าห้องสอบแล้ว” บดินทร์ตบบ่า “สู้ๆเว้ย”
บดินทร์เข้าห้องสอบไป เพื่อนอีกสองคนเดินเข้ามาตบบ่ารอนและพูดเหมือนๆกัน … ทุกคนรู้ว่าเขาได้เกรดไม่ดีและมีโอกาสไม่ได้ขึ้นชั้นกับเพื่อนคนอื่นๆ
รอนเก็บหนังสือและหยิบกล่องดินสอเข้าห้อง นั่งประจำโต๊ะ บนโต๊ะมีกระดาษชุดหนึ่งคว่ำหน้าอยู่
“อะไรกันนะ” เขาพึมพำเบาๆแล้วนั่งลง
[กระดาษคำถามวิชาภาษาอังกฤษ100ข้อ]
เอ๊ะ! ว่าไงนะ
[กระดาษคำถามวิชาภาษาอังกฤษ100ข้อ]
เสียงดังขึ้นในหัวของเด็กหนุ่มเหมือนเมื่อคืนนี้ไม่มีผิด … รอนยกมือขวาขึ้นมา
เผียะ! เสียงมือกระทบแก้มดังขึ้นจนทุกคนหันไปมอง
“รอน มีอะไรหรือเปล่า” ครูดุษฎีถามขึ้น
“เปล่าครับ …. คือ มียุงกัดแก้มครับ” เด็กหนุ่มตอบ
[ความทนความเจ็บปวด Lv 1 : 25/100]
ห๊ะ แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ
เพื่อนๆเริ่มฝนกระดาษคำตอบแล้วขณะที่ รอนยังนั่งงงๆครู่หนึ่งก่อนจะเปิดกล่องดินสอ ครูดุษฎีแอบถอนหายใจเบาๆ
“เค้าคงจะอ่านหนังสือจนดึกจนง่วง เลยต้องตบแก้มให้ตื่น …. นี่ถ้าเราเฉลียวใจเตือนเด็กคนนี้ตั้งแต่เปิดเทอม เค้าคงไม่ต้องทำอะไรแบบนี้”
เด็กหนุ่มค่อยๆเปิดข้อสอบดูทีละข้อๆ น่าแปลก … ครั้งนี้ข้อสอบออกง่ายกว่าทุกรอบ เขาอ่านโจทย์แล้วฝนคำตอบลงไปอย่างรวดเร็ว ทีละข้อ ทีละข้อ … เวลาผ่านไปช้าๆ จนกระทั่งเขาทำครบทั้ง 100ข้อ แน่นอนว่ามีบางข้อที่เขาไม่มั่นใจและเว้นว่างไว้ แต่ข้อที่เขามั่นใจว่าทำได้และถูกต้องแน่ๆก็มี70ข้อ อีกราว30ข้อเป็นพวกที่ไม่แน่ใจเท่าไร
รอนนับดูคำตอบที่ฝนไปแล้ว70ข้อ ข้อที่ถูกเลือกน้อยที่สุดใน ก ข ค ง คือข้อ ง. เขาเลยฝนคำตอบ ง. ในข้อที่เขาเว้นว่างทั้งหมด เช็คความเรียบร้อยอีกครั้งของกระดาษคำตอบ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปส่งกระดาษคำตอบกับครูดุษฎี
รอนทำแบบนี้ทุกครั้งที่สอบ ข้อไหนที่เขาทำได้ เขาก็จะทำ
ข้อไหนที่เขาทำไม่ได้ เขาก็จะเลือกข้อที่เป็นไปได้มากที่สุด
ข้อไหนไม่รู้เลยเขาก็จะมั่ว โดยเลือกจากช้อยส์ที่ถูกเลือกน้อยที่สุด
ไม่มีประโยชน์ที่จะนั่งจนหมดเวลา มองคำถามที่นึกคำตอบไม่ได้!
การมองไม่ได้ช่วยให้ได้คำตอบอะไรขึ้นมา สู้เอาเวลาไปใช้อ่านวิชาถัดไปดีกว่า!
เด็กหนุ่มเดินออกจากห้องไป ครูดุษฎีมองตามไปและถอนหายใจอีกครั้ง
“แค่40นาที … ท่าทางเด็กคนนี้จะทำข้อสอบไม่ได้จริงๆ”
รอนออกจากห้องเรียนแล้วไปนั่งอ่านเลข แม้ว่าจะเป็นวิชาที่เขาทำได้ดีอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่อยากประมาท … เด็กหนุ่มนั่งอ่านและทำโจทย์ฝึกหัดในหนังสือซ้ำ … เขาชักอยากรู้ว่าวิชาคณิตศาสตร์ของเขาตอนนี้พร้อมสอบแค่ไหนแล้ว
[คณิตศาสตร์ Lv7 :45/100]
เขาไม่ได้ฝันไปจริงๆสินะ …
รอนสลัดความตื่นเต้นทั้งหมดออกไป ไม่ว่าเรื่องนี้จะประหลาดพิลึกแค่ไหน แต่เขาก็ต้องสอบให้ได้คะแนนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อน … เขาอ่านและทำโจทย์ไปเรื่อยๆจนระฆังเรียกเข้าห้องสอบดังขึ้นอีกครั้ง
******
ตกเย็น เด็กหนุ่มกลับมาถึงบ้านแล้วรีบขึ้นห้องนอน เขาจัดหนังสือที่จะอ่านเตรียมสอบวันพุธวิชาวิทยาศาสตร์และสังคม จากนั้นลงไปกินข้าวเย็นกับคุณพ่อคุณแม่
[ผัดผักบุ้งไฟแดง 3pt]
[แกงจืดเต้าหู้สาหร่ายทะเล 4pt]
[ข้าวหอมมะลิ 1.5pt]
“เป็นอะไรรึเปล่าลูก”  พ่อถามขึ้น “วันนี้เราดูเงียบๆไปนะ”
“ไม่มีอะไรครับพ่อ” เด็กหนุ่มตอบ ….
จะให้บอกยังไงล่ะว่าเขากำลังใช้สกิลอยู่
“สอบวันนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ” แม่ถาม
“เลขก็ได้เหมือนๆเดิมครับ” รอนตอบ ” ส่วนอังกฤษ วันนี้ผมว่าผมทำได้มากกว่าทุกครั้ง”
พ่อกับแม่พยักหน้าโดยไม่ได้ถามอะไรต่อ … ทั้งคู่รู้ดีว่าลูกชายเรียนได้ไม่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ เขาไม่เคยพูดโกหก ทำได้ก็คือได้ ทำไม่ได้ก็คือไม่ได้ … ดังนั้นวันนี้วิชาอังกฤษน่าจะทำได้จริงๆ
ทั้งพ่อและแม่รู้ดีว่าลูกชายของตนได้คะแนนไม่ดีและมีโอกาสที่จะต้องซ้ำชั้น แต่ก็ยังไม่อยากบังคับลูกชายคนเดียวคนนี้มากจนเกินไป …
แม้แต่วันสอบในปีที่ผ่านๆมา พอสอบเสร็จแล้วมีวันหยุด1วันคั่นไว้ รอนก็จะเล่นเกม1-2ชม.เป็นอย่างน้อยเสมอๆ
“เดี๋ยวผมไปอ่านหนังสือก่อนนะครับ” รอนเก็บจานข้าวก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองไป พ่อกับแม่มองตามก่อนจะมองหน้ากัน …
เครื่องเกมกับคอมพิวเตอร์อยู่ที่ห้องรับแขก!
ส่วนลูกชายขึ้นไปชั้นสอง!
ทั้งคู่กินข้าวจนเสร็จ รอนก็ยังไม่ลงมา … ช่างผิดจากปกติจริงๆ
เมื่อเข้าห้อง เด็กหนุ่มเปิดหนังสือสังคมขึ้นมาอ่าน ก่อนอ่านก็ลองเช็คสถานะของตนก่อน
[ประวัติศาสตร์สังคม Lv1 :45/100]
เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ วิชาที่เขาเกลียดที่สุดก็วิชานี้ … การท่องปี ท่องชื่อคน ท่องเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตประจำวัน คือสิ่งที่เขาไม่ถนัดมากที่สุด …  เป็นวิชาที่เขาผ่านเกรด1แบบคาบเส้นทุกปี
รอนวางหนังสือลงและเอาเป้กีฬามา เอาอาหารกระป๋องและขวดน้ำใส่ลงไป … ถึงแม้ทางนั้นจะมีน้ำผึ้งและน้ำเปล่า แต่ว่าถ้าให้กินทุกมื้อก็คงไม่ไหวแน่ๆ เขาใส่อาหารและน้ำจนเต็มรูดซิปปิด ก่อนจะกลับไปอ่านหนังสือต่อ
2ทุ่ม .. 3ทุ่ม .. 4ทุ่ม .. 5ทุ่ม
23:45น.
รอนเช็คอีกครั้ง
[ประวัติศาสตร์สังคม Lv3: 10/100]
ใน4ชั่วโมงที่ผ่านมา เขาอ่านเนื้อหาที่ต้องสอบสังคมรอบนี้จบหมดแล้ว1รอบ
23:50น.
เขามองดูนาฬิกา
23:55น.
[อีก5นาที]
เสียงดังขึ้นในหัวอีกครั้ง รอนถือเป้มือนึง อีกมือถือหนังสือสังคม
[อีก60วินาที 59 58 57…]
เขากำมือแน่นขึ้น
[5 4 3 2 1…0]
ภาพแสงไฟในห้องเลือนราง ก่อนจะมืดดับไป
ภาพและแสงในห้องนอนค่อยๆหายไป … ก่อนจะแทนที่ด้วยภาพใหม่ แสงสลัวๆภายในห้องศิลา ห้องเดียวกับที่เห็นเมื่อคืนนี้
[เตรียมตัว 59 58 57 …]
ดูเหมือนจะมีการนับถอยหลังก่อนกลับ 60วินาที ภาพที่เห็นตอนนี้เป็นภาพหยุดนิ่งทั้งหมด
[5 4 3 2 1…]
รอนขยับมองซ้ายขวา
เขากลับมายังห้องนี้แล้ว …
เขาเดินไปที่โต๊ะหิน วางหนังสือสังคมลงบนโต๊ะ … ปากกาที่ลืมไว้เมื่อวานนี้ยังอยู่บนโต๊ะ …
รอนยกเป้ขึ้นวางเตรียมหยิบอาหารและน้ำออกมา
… เอ๊ะ
ทำไมเป้เบา…เขารูดซิปออก เปิดดูภายใน
ว่างเปล่า!
เด็กหนุ่มพลิกดูเป้จนทั่ว ไม่มีรอยแตกรั่วที่ไหน … เขาพิจารณาเป้ใบนี้ครู่นึงก่อนจะนึกขึ้นได้ หยิบหนังสือสังคมขึ้นมา เปิดพลิกภายใน …
ใช่จริงๆ
ปากกาที่คั่นหน้าที่อ่านค้างไว้เมื่อครู่ ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว… ดูเหมือนว่าเขาสามารถหยิบของที่สัมผัสได้เพียงมือละชิ้นเท่านั้น …
แต่ก็แปลก … ถ้ามันเป็นแบบนั้น ทำไมเขาจับที่ปกพลาสติกของหนังสือ แต่หนังสือถึงมาทั้งเล่มได้ล่ะ?
รอนลองค้นในเป้อีกครั้งจนแน่ใจว่าไม่มีทั้งน้ำหรืออาหารที่เพิ่งใส่มาในวันนี้เหลืออยู่เลย … ลองรูดซิปเปิดดูช่องด้านหน้าแล้วล้วงมือลงไป มือกระทบกับของบางอย่างข้างใน … เด็กหนุ่มจึงหยิบของนั้นออกมาดู
[Slingshot : กระสุนเหล็ก50pcs]
เขานึกๆดู หนังสติ๊กยิงลูกเหล็กนี่เป็นของที่รอนสั่งจากinternetมาเมื่อ2เดือนก่อน แต่หลังจากได้มาเขาก็เอามาใส่เป้ไว้แล้วไม่ได้เปิดออกมาอีกเลย
“แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหาคำตอบเรื่องนี้ … เราต้องอ่านหนังสือก่อน”
เด็กหนุ่มไปนั่งที่โต๊ะหินและเริ่มอ่านหนังสือต่อ … เขาค่อยๆอ่านเนื้อหาวิชาสังคมใหม่อีกครั้ง ค่อยๆจดจำปีที่ไม่เคยจำได้ จำชื่อคนที่ไม่เคยนึกออก และท่องเนื้อหาที่ปกติเขาไม่เคยท่องได้มาก่อน จากนั้นเขาก็อ่านเนื้อหาที่ต้องสอบวิชาสังคมกลางภาคจนหมดเป็นรอบที่2
ตอนนี้รอนเพิ่งนึกได้ว่าตั้งแต่มาที่นี่เขาไม่รู้เวลาเลย ความที่ห้องปิดทึบทั้งหมด แสงสว่างในห้องมาจากลูกแก้วที่ฝังในเพดาน … เขาไม่รู้กลไกการทำงานของมันและรู้สึกหวาดๆอยู่เพราะไม่รู้ว่าหากมันดับไปจะทำยังไง
ครั้งหน้าที่มาที่นี่เขาต้องพกไฟฉายมาด้วย
แต่ถ้าพกไฟฉาย แล้วน้ำกับอาหารล่ะ? แล้วหนังสือเรียนล่ะ?
รอนเตือนตัวเองว่าจุดประสงค์หลักที่เขากระตือรือล้นในการมาห้องศิลานี้ คือการอ่านหนังสือเตรียมสอบ ดังนั้นหนังสือเรียนต้องมาเป็นอันดับแรก นี่ไม่นับว่าถ้าให้เขามานั่งในห้องแบบนี้เฉยๆหลายชั่วโมงโดยไม่มีอะไรให้ทำ เขาต้องเบื่อสุดๆแน่
จริงๆตอนนี้ก็เบื่อแล้ว … เขาอ่านหนังสือสังคมเป็นรอบที่สาม หลังจากการอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ เด็กหนุ่มเริ่มจำเนื้อหาได้แล้วว่ากำลังจะอ่านเจออะไร รอบนี้เพื่อไม่ให้เบื่อเขาจึงอ่านเลยไปกว่าเนื้อหาจุดที่ต้องสอบรอบนี้ไปด้วย
“สถานะที่เกี่ยวข้องกับหนังสือนี้” รอนพูดขึ้นหลังจากอ่านจบเป็นรอบที่3
[ภูมิศาสตร์ : Lv2 30/100]
[กวี : Lv8 10/100]
กวี ได้ระดับ8เชียวเหรอ … นึกดูดีๆคงไม่แปลก เพราะเขาอ่านการ์ตูน นิยาย และไลท์โนเวลเยอะพอตัวอยู่ เพียงแต่สงสัยนิดๆว่ามันมาเกี่ยวอะไรกับวิชาสังคม
เขาอ่านหนังสือไปเรื่อยๆจนกระทั่งมีเสียงดังในหัวขึ้น
[เหลือเวลาอีก 5 นาที]
ครั้งนี้รอนตัดสินใจไม่เอาหนังสือกลับไปด้วย … เพราะยังไงเขาก็จะต้องย้อนกลับมาที่ห้องนี้อีกครั้งในคืนก่อนสอบวิชาสังคมอยู่ดี … ดังนั้นทิ้งหนังสือไว้ที่นี่แหละ

..
.
รอนกลับมาที่ห้องภายในบ้านอีกครั้ง เขามองดูมือทั้งสองข้างที่ว่างเปล่า เป้ใส่ของและหนังสือสังคมไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว … ที่พื้นห้องมีขวดน้ำและอาหารกระป๋องตกกองอยู่
เช้าวันถัดมารอนตื่นแต่เช้า อาบน้ำกินข้าวแล้วมานั่งอ่านวิชาวิทยาศาสตร์
“สถานะที่เกี่ยวข้องกับหนังสือนี้!” เด็กหนุ่มพูดขึ้น
[วิทยาศาสตร์ :Lv 5 15/100]
จากนั้นเขาก็นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆอีกชั่วโมงนึง
“สถานะ”
[วิทยาศาสตร์ :Lv 5 23/100]
ดีแฮะ รู้ได้ด้วยว่าอ่านแล้วได้ความรู้ … รอนอ่านต่อไปเขารู้สึกได้ว่าการอ่านและทำความเข้าใจวิชาทั้งหลายทำได้ง่ายกว่าปกติ และสมาธิในการอ่านหนังสือของเขาก็มากกว่าที่เคย เพราะก่อนหน้านี้อย่าว่าแต่การนั่งอ่านหนังสือทั้งวันเลย … เอาแค่อ่านต่อเนื่องได้เกิน30นาทีก็เป็นเรื่องแปลกแล้ว
“ลูกยังอ่านหนังสืออยู่รึ” พ่อเอากระเป๋าไปเก็บก่อนจะเดินมาถามแม่ … ตามองไปที่เก้าอี้คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีใครนั่ง
“อืม … ลูกอ่านหนังสืออยู่ข้างบนตั้งแต่เช้าแล้ว ลงมากินข้าวเที่ยงครั้งนึง กับออกไปซื้อขนมรอบนึง … นอกนั้นแม่ขึ้นไปเอาของหวานไปให้สองครั้ง ก็เห็นอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่” แม่ตอบ
ทั้งคู่เริ่มกังวลนิดๆ เพราะแม้ลูกชายคนเดียวจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ทั้งคู่ชินกับการเห็นลูกติดเกมแบบเล่นมาราธอนในวันหยุดวันละ8-9ชั่วโมงมากกว่าที่จะเคยเห็นลูกอ่านหนังสือแบบนี้
“สวัสดีครับพ่อ” รอนเดินลงบันไดลงมา
“ไงลูก เตรียมสอบไปถึงไหนแล้ว”
“ผมอ่านที่จะสอบพรุ่งนี้ครบทั้งสองวิชาอย่างละสองรอบแล้วครับ เดี๋ยวว่าจะพักหน่อยนึง”
… รอนโกหกนิดนึง เพราะจะให้บอกความจริงว่าเขาอ่านจบไปแล้วอย่างละ4รอบพ่อคงไม่เชื่อแน่ๆ
พ่อมุมปากกระตุกนิดนึง
อ่านหมดแล้ว! วิชาละสองรอบ! ตั้งแต่ขึ้นมัธยมมาอย่าว่าแต่อ่านสองรอบเลย ทุกครั้งที่สอบ เขาจะได้ยินลูกชายบอกว่ายังอ่านไม่ทัน อ่านไม่เสร็จ และขอเล่นเกมพักเหนื่อยก่อน … ไม่มีสักครั้งที่จะอ่านทันก่อนสอบ!
… รอนเดินไปเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นเข้าYoutube
‘โอเค แต่เจ้ารอนก็ยังเป็นปกติแหละ อย่างน้อยก็ยังลงมาเล่นเกมหรือเปิดนั่งดูแคสเกมแบบที่ทำอยู่ประจำ’ พ่อคิดในใจหลังจากที่เห็นลูกชายเปิดYoutube แล้วหันไปอ่านหนังสือพิมพ์แทน

..
‘ เดี๋ยวนะ … แคสเกมที่เจ้าลูกชายเปิดรอบนี้มันแปลกๆ’
‘ เกมอะไรกันมีพูดถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติด้วย’
พ่อวางหนังสือพิมพ์ในมือลงก่อนจะหันไปมอง
‘เจ้ารอนเปิดคลิปสอนวิชาสังคม’
และต้องตกตะลึงพรึงเพริดอยู่ในใจ
‘เฮ้ย ทำไมมันยิ้ม!”
เด็กหนุ่มนั่งดูคลิปวิชาสังคมไปยิ้มไป
[ภูมิศาสตร์ Lv2 89/100]
ฟังเลคเชอร์จากอาจารย์ที่สอนดีๆ ค่าประสบการณ์กับความรู้ขึ้นเร็วกว่าอ่านเองแฮะ
เขาหัวเราะกับตัวเองเบาๆ โดยไม่ทันเห็นว่าพ่อกำลังมองอย่างบอกไม่ถูกกับการเห็นลูกชายดูคลิปสอนสังคมไปหัวเราะไป

Midterm Fantasy

Midterm Fantasy

เมื่อเด็กหนุ่มติดเกมส์ จำเป็นต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆเพื่อให้ขึ้นชั้นม.4ให้ได้ หนำซ้ำในคืนก่อนสอบ Midterm เขายังดันเผลอเล่นเกมจนไม่ได้อ่านหนังสือ … มารู้ตัวอีกทีเขาก็หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งซะแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset