Midterm Fantasy – ตอนที่ 30

การปิดล้อมของก็อบลิน!
โดย
หมอแมว

ตีหนึ่งสามสิบนาที หมู่บ้านโอลเซ่นอยู่ในความเงียบสงบยามราตรี รอนกลับมานั่งอ่านหนังสือในสมาร์ทโฟนเงียบๆตรงทางเข้า
“นั่นใคร” เสียงของชาวบ้านที่เฝ้าที่ทางเข้าด้านนอกตะโกนขึ้นจนทุกคนที่เข้าเวรอยู่ลุกมามอง
“ข้ามาจากหมู่บ้านอัลเลน” เสียงร้องมาจากในความมืด “นี่ข้าเอง โอเดียน จำข้าได้ไหม”
ชาวบ้านโอลเซ่นจำได้ทันที แม้จะคนละหมู่บ้านแต่ว่าก็ไม่ได้ไกลกันมาก ทุกคนจึงจำชายคนนี้ได้
“เกิดอะไรขึ้น”
“ช่วยเปิดทางด้วยเถิดข้าขอร้อง ชาวบ้านคนอื่นกำลังมากัน ก็อบลินไล่ตามพวกเรามา”
“ก็อบลิน”
“มีสองร้อยกว่าตัว”โอเดียนพูดต่อ
ทุกคนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก สองร้อยกว่าตัว!
“รีบตีสัญญาณเร็วเถอะครับ”รอนบอก
แก้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ระฆังทองแดงที่ซื้อมาจากพ่อค้าเร่ถูกใช้ขึ้นเป็นครั้งแรกปลุกทุกคนในหมู่บ้านให้ตื่นขึ้น เบรเซอร์เดินออกมาที่ทางเข้าหมู่บ้านและพบกับผู้อพยพจากหมู่บ้านอัลเลนที่กำลังเดินเข้ามา ทั้งผู้หญิงและเด็กเดอนเข้าไปยังลานกลางหมู่บ้าน พอลกำลังสั่งการให้ชาวบ้านโอลเซ่นสามสิบคนตั้งแนวหลบที่ข้างกำแพงเตรียมตั้งแนวหอก ผู้ชายหมู่บ้านอัลเลนและรอนยืนกระจายอยู่รอบนอกสุดของประตู
“ครบหรือยังครับ” รอนถาม
“ครบแล้ว…. “โอเดียนบอก “จริงๆเหลืออีกสามคน … แต่พวกเขาบอกว่าจะต้านก็อบลินไว้ตรงแม่น้ำ พวกเขา….”
ไม่ต้องบอกต่อก็พอคาดเดาได้ ชาวบ้านธรรมดาสามคนที่ไม่มีเกราะและอาวุธที่ดีพอกับก็อบลินหลักร้อยตัว โอกาสรอดน้อยยิ่งกว่าน้อย
แต่ก็ยังอาจมีหวัง… รอนคิด
“นั่นใคร!” พอลตะโกนจากด้านหลัง เพราะมีร่างสามร่างโผล่มาจากเงามืดไกลๆ ชาวบ้านของหมู่บ้านอัลเลนรีบวิ่งกลับเข้าไปในเขตรั้ว
“นั่นพวกคุณสามคนจากหมู่บ้านอัลเลนหรือเปล่าครับ”รอนตะโกนไป “รีบเข้ามาเร็วครับ เดี๋ยวเราจะตั้งแนวป้องกั…….”
[คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร] [คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร][คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร]
‘เอ๊ะ’
โดยอัตโนมัติรอนยกกระทะเหล็กขึ้นบังใบหน้าและลำคอ
เคร้ง ฉึก ฉึก ฉึก
เสียงของแข็งปักชนเข้าที่กระทะเหล็กที่รอนยกมาบังใบหน้า ตามด้วยเสียงลูกศรที่ปักเข้าที่ลำตัวจนเด็กหนุ่มล้มหงายหลังลงพื้น
“คุณรอนนนน!” พอลตะโกน เบรเซอร์วิ่งไปตรงแนวป้องกันดึงตัวพอลไม่ให้วิ่งออกไปจากนั้นตะโกน
“ทุกคน ยิงลูกหินขึ้นสูงข้ามหัวคุณรอนไปข้างหน้า สกัดพวกมันไว้”
พรึบพรึบพรึบ
เสียงยางหนังสติ๊กสะบัดลูกหินสามสิบลูกลอยข้ามไป
“ยิงไปอย่าหยุด!” เบรเซอร์ตะโกนเมื่อเห็นรอนค่อยๆลุกขึ้นแล้วหันวิ่งกลับมา
ฉึก ฉึก ปุ ปุ
เสียงลูกธนูปักเข้าที่แผ่นหลังของรอน มีสองดอกตกลงพื้น ส่วนอีกสองดอกปักคาไว้ เขาเสียจังหวะนิดหน่อยแต่ยังวิ่งกลับมา
ปุ ปุ ปุ ปุ
รอนวิ่งเข้ามาในเขตรั้ว ทุกคนเห็นธนูปักกระทบเด็กหนุ่มแต่สะท้อนแฉลบตกพื้นทั้งหมด
“มันมีธนู อย่าตั้งแนวหอก เอาแผ่นไม้รั้วมาตั้งเอาไว้” รอนตะโกนบอก
ทุกคนถลึงตาใส่ จากธนูที่ปักอยู่บนตัวรอน5ดอกนี่ ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายนั้นมีธนูใครจะโง่โผล่ไปให้มันยิง
รั้วไม้กระดานถูกนำมาบังปิดทางเข้าด้านใน เสียงลูกธนูขาดหายไป เปลี่ยนเป็นเสียงฝีเท้าจำนวนมาก ดังใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา
“เตรียมรับการปะทะ ตั้งหอกไม้ !” เบรเซอร์ตะโกน
ก่อนหน้านี้รอนเป็นคนเสนอให้เหลาไม้แหลมไว้อีกชุดนึงเพื่อทำเป็นหอกสำหรับป้องกันการปะทะ เพราะในช่วงการปะทะในครั้งที่ผ่านมาหอกที่ทิ่มคาในตัวก็อบลินจนไม่มีเวลาเอาออกทำให้ทุกคนเสียอาวุธ
ไม่นึกว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา จนร่างเล็กๆสีเขียวจำนวนมากโผล่ขึ้นท่ามกลางแสงไฟข้างรั้ว … ก็อบลินหลายสิบตัววิ่งเบียดเสียดผ่านแนวรั้วของ … พวกมันไม่สนใจรั้วไม้สองข้างทางที่ถูกปักเป็นกำแพงเอาไว้ หากแต่สนใจรั้วไม้ด้านหน้าที่พวกมันเห็นว่าชาวบ้านเพิ่งนำมากั้นเอาไว้
“กี๊ซซซซ”
ฉึก ฉึก ฉึก
“กี๊ซซ”
ฉึก ฉึก
เสียงหอกไม้ทิ่มแทงร่างก็อบลินแถวหน้ากับเสียงกรีดร้องของพวกมันดังขึ้น ก็อบลินที่อยู่ด้านหลังก็พลักดันร่างของพวกพ้องให้จมลงกับคมหอกและกำแพง  เพื่อตนจะได้เข้าใกล้ชาวบ้านให้มากขึ้น ….​
ทางฝั่งชาวบ้านที่อยู่ใกล้รั้วก็ช่วยกันทิ่มหอกใส่มอนสเตอร์ตัวที่ยังไม่บาดเจ็บ ส่วนคนที่ใช้หนังยางก็ช่วยกันยิงหินเข้าไปกลางวงก็อบลินที่อยู่ตรงกลางและด้านหลังให้มากที่สุด
“คนที่อยู่ข้างกำแพง รอก่อน รอก่อน” เบรเซอร์ตะโกนสั่งการให้ชาวบ้านที่นั่งคุกเข่าหลบหลังรั้วทั้งสองฟากให้รอก่อน
รั้วที่รอนปักไว้ทั้งสองฟาก สูงประมาณ1เมตร ทำให้ก็อบลินที่ตัวสูงประมาณ1เมตรวิ่งเข้ามาโดยคิดว่าทั้งสองข้างคือกำแพงธรรมดาและสนใจแต่ทางเข้าตรงด้านหน้า

แต่มีก็อบลินตัวหนึ่งที่สูงมากกว่า 1 เมตรอยู่ตรงกลาง
ก็อบลินกัปตัน!
มันเอะใจและมองไปเห็นเส้นผมสีทองของมนุษย์หลายคนซึ่งหลบอยู่หลังกำแพง มันชูดาบและโล่ขึ้นเคาะพยายามบอกพวกพ้อง … มันกำลังจะร้องบอกเมื่อมันเห็นเด็กหนุ่มคนนึงยืนที่รั้วตรงด้านหน้า
เด็กหนุ่มคนที่มันยิงธนูใส่ไปสามครั้งเมื่อสักครู่นี้ … เด็กคนนั้นยกของในมือขึ้นหันมาทางมันแล้วปล่อยมือ
“กี๊ซซซซซ” มันร้องด้วยความเจ็บปวด ตาขวาของมันมองอะไรไม่เห็นในทันทีจากลูกเหล็กที่ถูกยิงเข้าเบ้าตาเต็มแรง ….​เบรเซอร์ที่สังเกตอยู่ตะโกนร้องขึ้น
“คนที่ซุ่มตรงกำแพง ลุกขึ้นแทงได้”
สิ้นเสียงสั่ง ร่าง 20 ร่างของชาวบ้านหมู่บ้านโอลเซ่นลุกขึ้นที่ข้างกำแพง ก็อบลินที่กำลังง่วนกับโจมตีรั้วด้านหน้าเลยเพิ่งสังเกตว่า ศัตรูของมันไม่ได้อยู่แต่ด้านหน้า
หากแต่ล้อมพวกมันเอาไว้ทั้งสามทิศ
กี๊ซซซซซ ฉึก
ฉึก ฉึก ฉึก กี๊ซซซซ ฉึก ฉึก
เหล่าชาวบ้านแทงก็อบลินที่ไม่มีทางสู้อย่างไม่หยุดยั้งหรือปราณี …. พวกมันที่มีอาวุธแต่มีดและดาบสั้นเข้าไม่ถึงตัวมนุษย์ที่ใช้หอกเลยแม้แต่น้อย ได้แต่ถูกทิ่มแทงเหมือนปลาในน้ำที่ไร้หนทางสู้
ซากศพของก็อบลินล้มเกลื่อนลงกลางพื้น เลือดไหลนอง แต่ก็ไม่มีใครหยุด เพราะทุกคนรู้ดีว่า หากมีความสงสารขึ้นมา ตนเองและครอบครัวนั่นแหละจะกลายเป็นซากศพแบบนี้
ก็อบลินกัปตันที่ตาบอดไปข้างหนึ่ง ร้องสั่งก็อบลินอื่นๆไม่ให้หนี แต่ดูเหมือนไม่มีตัวไหนฟังมัน มันหยิบดาบสั้นของมันขึ้น ขยับเกราะทองแดงให้เข้าที่ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าไปที่แนวรั้ว เป้าหมายคือเด็กหนุ่มที่ทำให้มันตาบอด
ตอนนี้ก็อบลินตัวอื่นๆวิ่งหนีไปหมดแล้ว … รอนกระโดดลงไปแล้วประจัญหน้ากับก็อบลินกัปตัน เขาเดินย่างเข้าไปหาร่างสีเขียวนั้นที่เงื้อดาบขึ้น เขายกกระทะไว้ด้านหน้าตามที่เบรเซอร์สอน
เคร้ง! พลั่ก!
ดาบสั้นถูกสะท้อนออกจากกระทะไปทางด้านข้าง และก่อนที่ก็อบลินกัปตันจะทันตั้งตัว ค้อนช่างก็กระแทกเข้าใส่ที่ไหล่ของมันจนกระดูกไหปลาร้าหัก แขนห้อยลงยกไม่ขึ้น … ก็อบลินยกดาบสั้นขึ้นอีกครั้งเตรียมเหวี่ยงดาบใส่เด็กหนุ่ม
เคร้ง
พลั่ก พลั่ก พลั่ก พลั่ก
รอนเงยหน้าขึ้นจากซากของก็อบลินที่เขายืนคร่อมอยู่ ค้อนที่กระหน่ำทุบทะลุหมวกทองแดงและทุบลงบนกระโหลกของมันอีกสามครั้งเปื้อนไปด้วยเลือด เขามองก็อบลินที่วิ่งหนีกระจายไปทั่วทุ่งแล้วรีบวิ่งออกไปนอกแนวรั้วยังจุดที่เขาถูกยิงเมื่อครู่นี้
“คุณรอนจะไปไหน”
“คุณพอล รีบให้ทุกคนเก็บอาวุธของก็อบลินที่ตายเร็วเข้า …​เก็บคันธนูของตัวกัปตันด้วยครับ” รอนร้องแล้ววิ่งออกไป เขาทุบก็อบลินที่วิ่งล้าหลังตายไปอีกสองตัว รีบก้มเก็บลูกธนูที่พื้นแล้ววิ่งกลับมา
“คุณรอน ระวัง”
“แย่แล้ว ระวัง”
“ระวัง”
เสียงคนตะโกนโหวกเหวกให้รอนที่กำลังวิ่งกลับมาระวัง เด็กหนุ่มรู้สึกว่าข้างหลังมีแสงสว่างอะไรบางอย่าง …​เขาเหลียวไปมองดู
“ว้อทเดอะ***” รอนร้องขึ้นเมื่อเห็นลูกไฟขนาดเท่าลูกมะพร้าวพุ่งเข้ามาหาเขา โดยฉับพลันเขายกกระทะขึ้นป้องกัน ลูกไฟพุ่งชนกระทะและลุกคาอยู่ข้างใน
“ทิ้งโล่เร็วเข้า”​ชาวหมู่บ้านอัลเลนคนนึงตะโกนออกมา  … ตอนที่หมู่บ้านของเขาถูกโจมตี โล่ที่ใช้ป้องกันถูกเวทย์ลูกไฟเผาจนแม้แต่มือที่ถือก็ถูกไฟลวกบาดเจ็บกัน
ลูกไฟอีกลูกลอยพุ่งเข้ามา รอนชักกระทะมาบังรับไว้ แรงปะทะของลูกไฟเบามากเหมือนเป็นก็าซหรือน้ำมันอะไรบางอย่างที่บอกไม่ถูก แต่ว่าความร้อนที่เกิดขึ้นมันไม่ธรรมดา … มีไฟบางส่วนพุ่งผ่านรอยแตกของกระทะมาลวกแขนบ้างแต่ไม่หนักหนาอะไร รอนมองไปด้านหน้า…ก็อบลินตัวนึงอยู่ในชุดสีแดงยืนแสยะยิ้มอยู่ข้างๆก็อบลินกัปตันอีก3ตัว
อยู่ตรงนั้นสินะ … ไม่รู้จักกระทะเทฟล่อนซะแล้ว …
รอนหมุนเหวี่ยงกระทะ ลูกไฟในกระทะ’ลื่น’หลุดจากกระทะเทฟล่อนแล้วพุ่งกลับไปหาก็อบลินเมจตัวนั้น ….​ มันหยุดยิ้มแสยะก่อนจะตื่นตระหนกและหลบจ้าละหวั่น  ก็อบลินโชคร้ายที่ยืนอยู่ใกล้ๆตัวนึงถูกลูกไฟเผาจนเจ็บหนักล้มลงไปนอนร้องครวญครางที่พื้น
รอนวิ่งกลับมาที่รั้ว ชาวบ้านช่วยกันขนศพก็อบลินไปตั้งเป็นรั้วไว้ที่ชั้นนอกสุด รอนปีนข้ามซากพวกมันแล้วกลับเข้าไป ยื่นลูกศรให้เบรเซอร์
“คุณเบรเซอร์ครับ มีใครใช้เวทย์ที่เกี่ยวกับน้ำได้ไหมครับ”
“พอจะมีบ้าง ทำไมเรอะ”
“เราต้องระวังพวกมันเผาหมู่บ้านครับ”
“ใช่ครับผู้เฒ่าเบรเซอร์ ตอนที่มันบุกหมู่บ้านพวกเรา มันก็ใช้ลูกไฟข้ามรั้วมาเผาบ้านเรือนพวกเราเหมือนกัน” โอเดียนบอก ชาวหมู่บ้านอัลเลนพยักหน้ากัน
“ว่าแต่คุณรอน … แผลที่ถูกธนูเป็นยังไงบ้าง” เบรเซอร์ถาม เนื่องจากเมื่อครู่เขาเห็นธนูปักที่รอนหลายดอก
“ไม่เป็นไรครับ” รอนโชว์ให้ดูเสื้อแจ็คเก็ต Stab proof ที่มีรอยขาดเล็กน้อย … หัวลูกธนูทำจากหินออฟสิเดียนทำให้ความคมมากกว่าปกติจึงแทงทะลุเสื้อที่ควรจะป้องกันการแทงยิงได้
นี่ถ้าวันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อนี้ ป่านนี้ธนูทั้งหมดคงปักเข้าตัวเขาแล้วแน่ๆ
“ไฟไหม้ ไฟไหม้ ” เสียงตะโกนมาจากอีกฟากของหมู่บ้าน
แสงไฟลุกไหม้บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง แต่ก็ไหม้เพียงครู่เดียวเพราะว่าคนที่ใช้เวทย์เรียกน้ำได้จัดการดับไฟทิ้งเสีย
“พวกเรา รีบควักแกนมอนสเตอร์ออกจากก็อบลินที่ตายแล้ว แล้วเอาให้คนที่ใช้เวทย์น้ำเป็น ถ้าใครรู้สึกว่าพลังเวทย์มานาจะหมดให้รีบดูดซับพลังจากผลึกทันที” เบรเซอร์สั่งการ
“คืนนี้คงต้องดูกัน ว่าใครจะทนกว่ากัน” เบรเซอร์บอกด้วยสีหน้าเคร่งครึม
ไรต์ ปล.
– กระทะมีรูตั้งแต่ตอนซื้อมาแล้ว
– คำว่าเวทมนตร์ ไม่มี -ย์ กำลังค้นว่าถ้าใช้พยางค์เดียวจะใช้ เวท หรือ เวทย์ ดี

Midterm Fantasy

Midterm Fantasy

เมื่อเด็กหนุ่มติดเกมส์ จำเป็นต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆเพื่อให้ขึ้นชั้นม.4ให้ได้ หนำซ้ำในคืนก่อนสอบ Midterm เขายังดันเผลอเล่นเกมจนไม่ได้อ่านหนังสือ … มารู้ตัวอีกทีเขาก็หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งซะแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset