Monster Factory – ตอนที่ 4 โรงงานมอนสเตอร์

ตอนที่ 4 โรงงานมอนสเตอร์

 

 

ยาชายังไม่หมดฤทธิ์พ่อจึงยังไม่ได้สติ

 

เย่ชิงค้นกระเป๋ากางเกงของพ่อแต่ไม่พบอะไรเลย แจ็คเก็ตก็หายไป มันคงจะถูกหมอเอาไป

 

เมื่อว่างแล้วเย่ชิงก็ลงบันไดไปถามแม่ เธอบอกว่าได้โทรหาญาติและขอยืม 50,000 หยวนแล้ว หากเงินไม่พอก็สามารถขอยืมเพิ่มได้ แต่จะต้องรออีกสักหน่อย

 

“50,000 หยวน?” ทันทีที่พูดถึงจำนวนเงินเด็กหนุ่มแต่งตัวดีก็ยืนขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วเดินเข้ามาหาพวกเขา เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา “เอาเงินทั้งหมดของพวกคุณมาเลยนะ ลุงของผมยังนอนบนเตียงผ่าตัด อาการเป็นตายเท่ากัน ค่าชดเชย 200,000 ก็ยังไม่พอด้วยซ้ำ”

 

“เงินค่าผ่าตัดก็จ่ายไปแล้ว ฉันจะหาเงินมาจากที่ไหนอีก” สวีหลันตอบกลับด้วยความโกรธ “สามีของฉันถูกพวกเธอซ้อม ฉันยังไม่ได้ขอค่าชดเชยจากเธอเลยด้วยซ้ำ”

 

“เขาสมควรโดนแล้ว ไม่มีเจ้านายดีๆที่ไหน …… ” เด็กหนุ่มไม่ทันแม้แต่จะพูดจบประโยคเย่ชิงก็กระแทกเขาเข้ากับผนังห้องโถง

 

จากนั้นการโจมตีก็เริ่มขึ้น เข่าของเย่ชิงกระแทกใส่ท้องของเด็กหนุ่มอย่างแรง

 

ทำไมเย่ชิงจะไม่หุนหันพลันแล่น พ่อของเขาถูกซ้อมและผู้ที่ทำร้ายก็ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วยังจะมาเรียกร้องค่าชดเชยอีก ตอนนี้เย่ชิงยังจะคิดอะไรได้อีก?

 

เย่ชิงโกรธจนควันออกหูเหมือนกับปล่องควันจากเรือไอน้ำเก่า ถ้าไม่ใช่เพราะมีตำรวจอยู่แถวนี้เย่ชิงก็คงจะส่งเด็กคนนี้ไปนอนบนเตียงผ่าตัดด้วย

 

“ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ครอบครัวของคนร้ายสามารถซ้อมคนอื่นได้หรือ” เด็กหนุ่มตะคอกออกมาขณะที่เขากุมท้องอย่างเจ็บปวด

 

“รอก่อนเถอะ เรื่องมันไม่จบลงแค่นี้หรอก” หลังประโยคนี้จบนี้เด็กหนุ่มอีกสองคนก็ลุกขึ้นและพยายามจะเข้ามาร่วมด้วย

 

“พอได้แล้ว!” ตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาและคั่นกลางทั้งสองฝั่งไว้ “ถ้าพวกนายยังไม่หยุดฉันจะพากลับไปที่สถานีตำรวจแล้วขังพวกนายทุกคน 15 วันเลยเป็นไง”

 

เฉาหยุ่นก็มาหยุดเย่ชิงจากการอาละวาด เขาบอกเย่ชิงว่าคนที่ทำร้ายเย่เจียงหนิงได้ถูกพาตัวสอบสวนไปแล้ว อีกไม่นานจะได้คำตอบแน่ๆ

 

ตอนนี้เย่ชิงก็ได้สังเกตว่ากลุ่มคนพวกนั้นถูกพาตัวไปแล้ว เมื่อมองไปที่แม่ของเขาและได้รับการยืนยันคำพูดนั้นเย่ชิงก็สงบลง

 

อย่างไรก็ตามเย่ชิงก็เข้าใจว่าในสถานการณ์เช่นนี้ตำรวจก็ต้องนึกถึงความรู้สึกของครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายด้วย ดังนั้นการขังคุก 15 วันจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาสามารถทำได้ในตอนนี้

 

ความสนใจของทุกคนมารวมกันที่นี่จึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่าประตูการผ่าตัดเปิดออกจนแพทย์ผู้รับผิดชอบเรียกสองครั้งทุกคนถึงกลับมาให้ความสนใจ

 

“พวกเขาเป็นยังไงบ้างครับ” เย่ชิงลืมสิ้นทุกอย่างและรีบถามเช่นเดียวกับครอบครัวของลู่เสี่ยวเจินและเฉียนตงตงที่ยืนล้อมรอบหมอ

 

“ไม่มีอันตรายถึงชีวิตค่ะ การผ่าตัดของทั้งสองผ่านไปด้วยดี เฉียนตงตงจะต้องอยู่ในห้องไอซียูสองสามวันเพื่อป้องกันเลือดออกภายในเพิ่มเติม”

 

เมื่อได้ยินว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิตทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและผ่อนคลายลง

 

ญาติๆสองสามคนไม่ทราบว่า ICU หมายถึงอะไร แต่เมื่อพวกเขารู้มันหมายถึงหน่วยดูแลผู้ป่วยหนักถึงกลับมาหน้าซีดอีกครั้ง

 

เดี๋ยวนะ ถ้าไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้วทำไมต้องเข้ารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยหนัก?

 

“ที่นั่นมีเครื่องมือมากมาย เราจึงสามารถตรวจจับชีพจรและความดันโลหิตของผู้ป่วยได้แม่นยำยิ่งขึ้น หากเกิดเลือดออกภายในขึ้นอีกครั้งเราจะสามารถตรวจพบได้ทันทีค่ะ”

 

แพทย์หญิงโบกมือคลายความตึงเครียด “พวกคุณเบาใจได้ แม้ว่าเลือดออกภายในจะเป็นอันตรายต่อชีวิตแต่ตราบใดที่เลือดถูกดึงออกมาในทันทีจะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นกับผู้ป่วย”

 

ดีที่ไม่มีปัญหา การใช้เครื่องมือทั้งหมดและยาที่ดีที่สุดคือสิ่งแรกที่ครอบครัวทั้งสองคำนึงถึง

 

โดยปกติแล้วแพทย์ชอบที่จะรับผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บในอุตสาหกรรมเหล่านี้เพราะมันเป็นอาการบาดเจ็บภายนอก ง่ายต่อการรักษาและดูแล

 

นอกจากนี้ยังง่ายต่อการใช้ขั้นตอนการรักษาที่มีราคาแพงเพื่อให้ได้เงินพิเศษเพิ่มเพราะท้ายที่สุดแล้วเงินทุกบาทก็ออกมาจากกระเป๋าของเจ้านายอยู่ดี

 

เย่ชิงไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้เลยแม้ว่าเขาจะเข้าใจเขาคงจะไม่พูดอะไรออกมา คนงานพวกนี้ได้รับบาดเจ็บในโรงงานครอบครัวเขาดังนั้นจึงต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างไม่มีเงื่อนไข คนที่มีสามัญสำนึกคงจะไม่มีใครมาประหยัดเงินค่ารักษาพยาบาลหรอก

 

เมื่อเห็นลู่เสี่ยวเจินและเฉียนตงตงถูกย้ายเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยแล้วสวีหลันก็ขึ้นไปดูแลสามีของเธอบ้าง

 

เธอรู้ว่าโรงงานไม่มีเงินเก็บมากมาย ตอนที่เห็นสามีนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยพร้อมคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งค่าชดเชยและค่ารักษาพยาบาลของคนงานสองคนน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง

 

เย่ชิงตบไหล่แม่และบอกว่าเขาจะดูแลทุกอย่างเอง ถ้าสถานการณ์มันเลวร้ายที่สุดเขาก็พร้อมจะขายเครื่องจักรบางส่วนในโรงงานได้เสมอ

 

ไม่นานหลังจากนั้นพยาบาลเข้ามาและส่งบิลค่ารักษาให้เย่ชิง ในนั้นระบุไว้อย่างชัดเจนว่าห้องไอซียูหนึ่งวันมีค่าใช้จ่าย 8000 หยวนรวมกับค่าผ่าตัด 22,000 หยวน เป็นจำนวนเงินที่เหลืออยู่ในบัญชีพอให้ถึงวันพรุ่งนี้เท่านั้น

 

เมื่อพยาบาลออกไป คนงานอีกห้าคนก็เข้ามา

 

“เอ่อ …… เจ้านายครับ” คนงานพูดติดอ่าง โดยปกติแล้วคนพวกนี้ล้วนทำตัวอวดเก่งแต่ตอนนี้ทุกคนอยากกจะกล่าวอะไรบางอย่างแต่ยังเรียบเรียงเป็นคำพูดออกมาไม่ได้

 

“อะไร!” เย่ชิงถามอย่างเศร้าๆ

 

“พวกผม …… พวกผมปรึกษากันแล้วและทุกคนก็ตัดสินใจจะลาออก”

 

เฉาหยุ่นซึ่งเป็นคนงานเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มกล่าวอย่างอับอายว่า “เจ้านายครับ ไม่ใช่เพราะพวกเราใจร้าย แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน กำไรจากออเดอร์ล่าสุดจะถูกใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลแล้วมันก็อาจจะไม่เพียงพอ พวกผมก็ยังต้องหาเลี้ยงครอบครัว หากพวกผมยังทำงานต่อไปคุณก็จะยังคงค้างค่าจ้างเรานะครับ”

 

เมื่อได้ยินว่าพวกเขาต้องการลาออก เย่ชิงก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างมากและอธิบายว่า “ผมสามารถขายเครื่องจักรบางเครื่องได้รวมถึงเครื่องกัด CNC ให้เป็นค่ารักษาพยาบาลและไปจ้างโรงงานอื่นให้ทำงานเกี่ยวกับ CNC พวกคุณทำออเดอร์ให้เสร็จก่อนไม่ได้เหรอ?”

 

“เจ้านายครับลู่เสี่ยวเจินและเฉียนตงตง รับผิดชอบงานด้านการกัด CNC ในขณะที่พวกเขาอยู่ในโรงพยาบาลเราหาคนมาทำแทนที่พวกเขาไม่ทันหรอก”

 

“เจ้าของโรงงานก็บาดเจ็บ หากไม่มีเขาคอยคุม คนงานอย่างพวกผมก็ไม่รู้จะทำอะไรบ้าง” คนงานสองสามคนสรุปสถานการณ์ของโรงงานและอธิบายให้เย่ชิงฟังทีละคน “แล้วเราจะทำต่อไปได้อย่างไร? ปัญหาข้อแรกเราคือไม่มีเงินและข้อสองคือไม่มีเจ้าของโรงงานอยู่ที่ไซต์งานด้วยซ้ำ”

 

มาถึงตรงนี้แล้วจะมีอะไรที่เยว่ชิงสามารถพูดได้อีก?

 

“พวกคุณโปรดเข้าใจว่าโรงงานอยู่ในภาวะวิกฤติดังนั้นเราจึงไม่สามารถจ่ายค่าแรงของคุณได้ทันที”

 

เย่ชิงยืนขึ้นและพูดอย่างมั่นใจว่า “ผมจะรีบขายเครื่องจักรและพยายามชดเชยค่าแรงของทุกคน หากพวกคุณยังไม่ได้รับค่าแรงในหนึ่งเดือนก็สามารถกลับมาที่โรงงานแล้วเอาเหล็กกับเครื่องจักรไปได้เลย”

 

คนงานสองสามคนรีบตอบว่า เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้วครับ

 

เย่ชิงฝากเรื่องที่โรงพยาบาลนี้ไว้ให้แม่ดูแล

 

เขารีบไปที่โรงงานเพื่อตรวจสอบความเสียหายของเครื่องกัด CNC เครื่องจักรนี้ยังขายได้แต่ปัญหาก็คือราคา

 

โรงงานเลื่อยเคลียร์สกายตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเขตอุตสาหกรรมในจงหยุน และนี่ก็เป็นที่ๆพ่อและปู่ของเขาอาศัยอยู่ ในปี 09 เมื่อภูมิภาคนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา เย่เจียงหนิงทำตามที่วางแผนไว้และสร้างโรงงานผลิตขึ้น

 

โรงงานครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรและมีโกดังอยู่ด้านหลัง ตอนที่เริ่มต้นทำธุรกิจที่ดินและโกดังที่นี่ราคาค่อนข้างถูก พวกเขาจึงมีพื้นที่มากมายขาดนี้

 

อาคารนี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของครอบครัวของเย่ชิง เพราะอุตสาหกรรมการผลิตในจงหยุนอยู่ในภาวะตกต่ำจึงมีอาคารว่างเปล่าและยังขายไม่ออกเหลืออยู่ในภูมิภาคนี้มากมาย

 

เย่ชิงที่เตรียมพร้อมจะเจอสิ่งเลวร้ายที่สุดก็ได้เข้าสู่ไปในเวิร์กชอปของโรงงาน

 

เครื่องมือประมวลผล, เครื่องมือตัด, ระบบเชื่อมลวดอัตโนมัติ, เครื่องกดหนัก 10 ตัน, เครื่องมือขุดเจาะและกัด และอื่นๆ ล้วนเป็นแกนหลักของโรงงาน แต่สิ่งเหล่านี้ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบันก็เป็นเหมือนกระดาษที่ไร้ค่า ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

 

สิ่งเดียวที่มีค่าในโรงงานคือเครื่องกัด CNC เมื่อเดินผ่านกองเหล็กแผ่นแล้วเย่ชิงก็ได้เห็นความเสียหายของเครื่อง

 

เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าในปี 09 เครื่องจักรอันยิ่งใหญ่นี้ถูกยกขึ้นและติดตั้งด้วยเครนอันทรงพลัง ความตื่นเต้นและความคาดหวังในตอนนั้นไม่สามารถอธิบายได้เลย

 

เครื่องจักรที่ประกอบขึ้นจากเหล็กกล้าที่มีความยาวหลายสิบเมตรและสูงเท่าบ้านหนึ่งชั้นสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กๆ

 

สิ่งน่าตื่นเต้นที่ทำจากโลหะทั้งเครื่องนี้เป็นของโรงงานเลื่อยเคลียร์สกาย หรือก็คือมันเป็นของของเขา

 

ในตอนนี้ ……

 

เย่ชิงเห็นเครื่องกัด CNC และฐานเครื่องที่ตกลงบนโต๊ะทำงานช่าง รอกที่หัก คอมพิวเตอร์คุมระบบแขนที่ถูกทุบแตกกระจายและแน่นอนมีว่าคราบเลือดสีแดงเข้มอยู่บนพื้น

 

เย่ชิงลูบตราปั๊มบนเครื่องกัดเบาๆ แล้วเดินไปยังส่วนออฟฟิศของโรงงานด้วยความแน่วแน่

 

โรงงานมี 3 ชั้น และ 14 ห้อง ชั้นแรกใช้สำหรับเก็บเครื่องจักรทั้งหมด ชั้นสองคือ ออฟฟิศของเย่ชิงและพ่อ ส่วนชั้นสามเอาไว้สำหรับให้คนงานกินและนอน

 

เมื่อมาถึงออฟฟิศบนชั้นสองเย่ชิงก็เปิดคอมพิวเตอร์ของเขาและเตรียมโพสต์โฆษณาขายเครื่องกัด CNC มือสองในฟอรัมท้องถิ่น

 

ความผันผวนของราคาของเครื่องจักรมือสองมีไม่มากเพราะยิ่งเครื่องมีขนาดใหญ่คนก็จะยิ่งดูที่การสูญเสียความแม่นยำของเครื่องอันเกิดจากระดับความเครียด โดยปกติแล้วหลังจากใช้งานไปสองสามปีระดับความแม่นยำของเครื่องก็ยังคงเทียบเท่ากับที่เครื่องที่สร้างขึ้นใหม่

 

แต่ตอนนี้เครื่องกัดเสียหาย เมื่อนึกถึงราคาโลหะที่พุ่งสูงอย่างมากในปี 09 แล้วประเมินดูคร่าวๆ เครื่องจักรที่ซื้อมาเกือบ 1 ล้านหยวนก็จะขายได้ราคาประมาณ 200,000 หยวนเท่านั้น

 

ต้องตั้งราคาแบบนี้ผู้ซื้อจึงจะสนใจและรับประกันได้เลยว่าจะขายได้อย่างรวดเร็ว

 

ในขณะที่กำลังพิมพ์โพสต์โฆษณาอย่างช้าๆ ออฟฟิศที่เงียบสงัดก็ถูกรบกวนโดยการสั่นของโทรศัพท์มือถือ มันทำให้เย่ชิงค่อนข้างตกใจ

 

โทรศัพท์ไม่ได้กำลังอัปเกรดอะไรบ้าๆนั่นอยู่เหรอ? มันสั่นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

 

เย่ชิงดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ตอนแรกเขากะว่าจะปลดล็อคโทรศัพท์ที่มีแผนของเขาอยู่ในเครื่อง แต่ก็เปลี่ยนใจทันที

 

เคสมือถือพลาสติกอันเดิมเปลี่ยนเป็นเคสโลหะเย็นเยียบ

 

รูเสียบสายชาร์จและหูฟังหายไปหมด ……

 

แปลกจัง!

 

มี่มันแปลกเกินความแปลกไปแล้ว!

 

เย่ชิงสะกดความตื่นเต้นแล้วกดปุ่มเปิด เขาสังเกตเห็นว่าคำอัปเกรดสมบูรณ์บนมือถือ ปุ่มบันทึกลายนิ้วมือปรากฏขึ้นที่หน้าจอ

 

“ฉันต้องฝันอยู่แน่ๆ!” เย่ชิงที่มีสีหน้าตกใจวางนิ้วโป้งของเขาลงบนปุ่มบันทึกลายนิ้วมือ

 

* ติ๊ด~ ติ๊ด~” หลังจากเสียงดังขึ้นสองครั้งกระบวนการอ่านลายนิ้วมือก็เสร็จสมบูรณ์

 

แต่สิ่งที่อยู่ภายในความคิดของเย่ชิงก็คือหลังจากการอัปเกรดระบบ ทุกอย่างในระบบเดิมจะถูกลบ ซึ่งรวมถึงรูปภาพทั้งหมดและรายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมดด้วย

 

บนหน้าจอที่น่าเบื่อมีเพียงแอปเดียวเท่านั้น [โรงงานมอนสเตอร์]

 

ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีสัญญาณ

 

โรงงานมอนสเตอร์ นี่คืออะไรกัน?

 

เย่ชิง รู้สึกงงงวย โทรศัพท์ที่สามารถปล่อยไฟฟ้าช็อต 10,000 โวลต์นี่มันก็น่ากลัวพอแล้ว ตอนนี้โทรศัพท์เปลี่ยนไปทั้งเครื่อง

 

บางที……

 

นี่อาจจะเป็นมุขตลกของเอเลี่ยนงั้นเหรอ?

 

เย่ชิงที่กลัวจนตัวชาพยายามระงับความรู้สึกเหล่านี้เมื่อเขาเปิดแอปพลิเคชั่นเพียงหนึ่งเดียวในมือถือ

 

โรงงานมอนสเตอร์: นี่คือถิ่นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์มอนสเตอร์วิเศษ พวกมันรักการทำงานทางกายภาพ เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องจักรและความหลงใหลในเครื่องจักรกลของพวกมันมีมากเกินจินตนาการ พวกมันสนใจเกี่ยวกับเครื่องจักรมากกว่าชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ

 

พวกมันฉลาดมาก มีรูปร่างที่น่าตะลึงและมีความสามารถซ่อนเร้น

 

การเชื่อมไฟฟ้า เครื่องมือกล เครื่องกัด เครื่องเจาะ คอมพิวเตอร์ที่ช่วยเครื่องจักรประมวลผล การเชื่อมเลเซอร์ เครื่องกัด CNC ห้าแกนและเจ็ดแกน เครื่องอัดไฮดรอลิกล้านตัน ……

 

มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่น่าจะเป็นไปได้คือ ไม่มีเครื่องจักรไหนที่มอนสเตอร์เหล่านี้ไม่รู้วิธีใช้งาน

 

แอพนี้ยังมีร้านค้าวิเศษที่มีเครื่องมือประมวลผลทุกชนิด

 

ทั่วไป ~ ไม่ธรรมดา ~ หายาก ~ ไม่เหมือนใคร ~ ระดับตำนาน ~

 

เครื่องมือตัดแบบใช้มือถือ (คุณภาพ: ทั่วไป)

คุณสมบัติ:

ความสามารถในการตัด + 15%

 

สว่านมือถือ (คุณภาพ: ไม่ธรรมดา) คุณสมบัติ:

เจาะลึก + 25% เจาะเร็ว + 5%

 

ไดอัลคาลิปเปอร์ (คุณภาพ: ไม่ธรรมดา)

ความแม่นยำในการวัด + 40%

โอกาส 1% ของการตรวจวัดที่สมบูรณ์แบบ

 

เครื่องตัดเปลวไฟ (คุณภาพ: หายาก) คุณสมบัติ:

ความสามารถในการตัด +150%

อุณหภูมิเปลวไฟ +100%

ความเร็วในการตัด +80%

ความแม่นยำในการตัด +15%

 

เครื่องตรวจจับความเสียหายโลหะ (คุณภาพ: ระดับตำนาน)

คุณสมบัติ:

ความลึกของความเสียหาย +200%

ความแม่นยำของความเสียหาย +200% การทะลุผ่านความหนาแน่น +200%

ประเภทความเสียหาย +50

โอกาส 5% ที่จะเปิดใช้งานการตรวจจับที่สมบูรณ์ เครื่องสแกนนี้จะไม่สนใจสิ่งกีดขวางทุกอย่าง

 

มีเครื่องมือทุกชนิด!

 

ความสามารถในการจ้างงานมอนสเตอร์ระดับฮีโร่จะเปิดให้ใช้ได้ในขั้นตอนต่อไป

 

เย่ชิงถึงกับเหวอ เขาเกาหัวขณะอ่านคำแนะนำนี้

Monster Factory

Monster Factory

ชื่อภาษาจีน : 超級怪獸工廠 ผู้แต่ง : 匣中藏剑 ประเภท: แอ็คชั่น – แฟนตาซี – คอมเมดี้ – อภินิหาร เรื่องย่อ ผมชื่อเย่ชิง โชคดีจริงๆที่ผมไปเจอแอปพลิเคชัน [โรงงานมอนสเตอร์] มอนสเตอร์ที่แข็งแรงสุดๆพวกนี้เทียบได้กับคนกว่าร้อยคนเลยทีเดียวแถมยังใช้ทักษะได้ทุกชนิดเลยล่ะ! ประสิทธิภาพเหรอ? ด้วยความเร็วของทักษะในการทำงาน +300 ยังอยากจะแข่งกับมันไหมล่ะ? ความแม่นยำเหรอ? *แค่ก แค่ก* เอาไดอัลคาลิปเปอร์ระดับตำนานมาซิ แสดงให้พวกเขาเห็นหน่อยว่าความแม่นยำอย่างสมบูรณ์แบบน่ะมันเป็นยังไง เย่ชิง: เมื่อเรา ผมหมายถึงมนุษย์น่ะ อยากจะประสบความสำเร็จเราจะหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา เหล่ามอนเตอร์: อย่ามาเล่นแง่กับพวกข้า การสร้างสรรค์เครื่องจักรที่สุดยอดคือความรักและชีวิตของพวกข้า ร่างกายที่แกร่งกล้านี้คือเครื่องมือทำมาหากินของข้า เหล่ามอนสเตอร์สูง 20 เมตร ร่างเปลือยดูป่าเถื่อนถือเครื่องตัดอันทรงพลังแล้วตะโกนก้องใส่ฟ้า: “ข้าไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น! พวกมันล้วนเป็นขยะทั้งสิ้น!”

Options

not work with dark mode
Reset