Monster Paradise – ตอนที่ 1404

เจ้าอ้วนเปิดร้านอาหารใกล้กับสาขาหลักของราชวงศ์ในเมืองจักรพรรดิ เนื่องจากความสัมพันธ์เขากับหลินฮวง ตำแหน่งมันจึงดีมาก มันเป็นตำแหน่งที่ดีสุดในเมืองจักรพรรดิและราชวงศ์ก็ไม่เคยเก็บค่าเช่าสักนิด

คนจากราชวงศ์มักมาอุดหนุนร้านของเจ้าอ้วนเพราะรสชาติ เจ้าอ้วนยังไม่เก็บคริสตัลชีวิตเป็นค่าอาหาร เขาแลกมันกับการให้คนของราชวงศ์หาวัตถุดิบมาให้เขาทุกสัปดาห์

เขาอาจเปิดร้านนี้ แต่เขาไม่เคยละทิ้งฝันที่จะเป็นนักล่าอาหาร แต่ตอนนี้เขาตระหนักว่าฝันนี้อยู่คนละทาง

เจ้าอ้วนไม่ได้ล่าวัตถุดิบเองแต่กลับได้รับมันผ่านคนของราชวงษ์ เขารับผิดชอบแค่การเตรียมวัตถุดิบและเปลี่ยนพวกมันเป็นอาหารจานเด็ด

ตรงข้ามกับที่คาดหวัง การร่วมมือแบบนี้กับคนของราชวงศ์ได้พัฒนาฝีมือการปรุงอาหารเขาอย่างรวดเร็วและรายได้เขาก็สูงมาก

ร้านอาหารเขามีผู้บ่มเพาะมากินบ่อยครั้งและเมนูเขาก็ประกอบไปด้วยวัตถุดิบพิเศษที่มีแค่นักล่าอาหารถึงเตรียมการได้อย่างเหมาะสม

ผลกำไรเขามากกว่าผลประกอบการของร้านอื่นหลายเดือน

มีแม้กระทั่งคนธรรมที่ได้ยินว่าเจ้าของร้านอาหารนี้คือนักล่าอาหาร พวกเขาจึงอยากมาลิ้มลองฝีมือของนักล่าอาหารในตำนาน

นี่ทำให้เกิดคิวยาวที่ร้านอาหารทุกวันก่อนเก้าโมงเช้า มันควรเป็นที่รับรู้ว่าเจ้าอ้วนจะไม่บริการมือเช้าที่ร้านเขา

แต่ทว่า วันนี้ เจ้าอ้วนกลับมาถึงร้านเขาตอนประมาณแปดโมงเช้า

เมื่อเห็นว่ามีแถวยาวแล้ว เขาก็ยิ้มและนำป้ายที่เขียนว่า’ปิดชั่วคราว’ออกมา

 

“ขออภัยลูกค้าที่รักทุกท่าน วันนี้ร้านเราปิดให้บริการ ข้าได้จองที่พิเศษไว้ให้เพื่อนเก่า”ก่อนคนที่รอกันจะได้บ่น เขาก็พูดต่อ”หากต่อแถวกันแล้ว พวกท่านจะได้รับคูปองส่วนลด50%จากเด็กเสิร์ฟเรา ด้วยคูปองนี้ ท่านสามารถจองที่ได้หนึ่งตอนไหนก็ได้ภายในปีนี้”

 

คนที่กำลังจะบ่นรีบปิดปากและรีบไปหาเด็กเสิร์ฟเพื่อรับคูปอง

ไม่เพียงพวกเขาจะได้รับส่วนลดครึ่งหนึ่ง แต่พวกเขายังได้รับสิทธิพิเศษจองที่นั่ง ซึ่งหมายความว่าครั้งหน้าที่พวกเขามร้านอาหาร พวกเขาไม่ต้องต่อแถวแบบนี้

หลังเห็นลูกค้าในแถวเดินจากไป เจ้าอ้วนก็นำของตกแต่งที่เตรียมไว้มาและมอบหมายให้เด็กๆในร้านเขาจัดร้าน

หลังจัดเสร็จ มันก็เกือบเก้าโมงพอดี

หยี่เสิ่นและคนอื่นมาถึงทีละคน

เมื่อหลินฮวงมาถึง ทุกคนก็มากันแล้วยกเว้นเล้งเยวี่ยซินและเฉินเตา

“เสี่ยวโม่กับหลินซินละ?”เมื่อเห็นหลินฮวงมาคนเดียว หยี่เยว่หยู่ก็ถาม

“เสี่ยวโม่ไปทำภารกิจ ซินเอ๋อร์กำลังปิดประตูบ่มเพาะ”

หลินฮวงมองหยี่เสิ่นและน้องสาวเขา เขาสังเกตเห็นว่าทั้งสองไม่ได้เปลี่ยนไปมาก พวกเขายังเหมือนเดิม แต่ระดับพลังก็ก้าวหน้าขึ้นพอสมควร

“ดูเหมือนพวกเจ้าสองพี่น้องจะไม่เกียจคร้านกันเลยนะ พวกเจ้าเลื่อนเป็นจักรพรรดิกันแล้ว”
“ปีนี้ ความเร็วการบ่มเพาะเราพัฒนาไปมาก นอกจากนี้ ด้วยคนมากมายที่แข่งขันกับพันธมิตรสวรรค์ เราจึงไม่กล้าหย่อนยาน”หยี่เสิ่นส่ายหัวและยิ้ม หลังใช้การ์ดไร้ที่ติ พรสวรรค์อัจฉริยะและศักยภาพเขาก็เลื่อนเป็นสุดยอดอัจฉริยะ แน่นอน เขาย่อมฝึกหนักกว่าเดิมหลังจากนั้น

 

สำหรับหยี่เยว่หยู่ นางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่ชายตัวเอง จนถึงจุดที่ความสามารถเทียบได้กับห้าเจ้าชายอย่างเฉินเตา ไม่นานหลังหลินฮวงออกโลกกรวด นางก็ยังเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ภายใต้การแนะนำของหยี่เสิ่น หลังจากนั้น นางก็กลายเป็นคนสำคัญของพันธมิตรสวรรค์ ในสมาคมอัจฉริยะ นางยังติดหนึ่งในสามเทพธิดาที่มีผู้บ่มเพาะชายหลงใหลมากสุด ก่อนหน้านี้ เมื่อนางเลื่อนเป็นจักรพรรดิและออกสมาคมอัจฉริยะ แฟนๆหลายคนยังจัดงานเลี้ยงอำลานางที่ต้นไม้ขั้นบันได

แน่นอน หลินฮวงไม่รู้เรื่องนี้

ตั้งแต่เลื่อนเป็นจักรพรรดิ เขาก็แทบไม่ได้ให้ความสนใจกับสมาคมอัจฉริยะ นับประสาอะไรหลังเขาออกโลกกรวดไป

“การแข่งขันทำให้คนมีแรงจูงใจจริงๆ เดิมข้าเองก็ใช้เฉินเตาเป็นอุดมคติและฝึกหนัก”
ก่อนหลินฮวงจะมาถึงจุดนี้ ห้าเจ้าชายคืออุปสรรคทั้งห้าต่อทุกคนในสมาคมอัจฉริยะ ตอนนั้น หลินฮวงเองก็ฝึกหนักโดยมีเป้าหมายที่จะกลายเป็นแบบเฉินเตา

 

แต่ทว่า หลินฮวงก็ได้ทำลายอุปสรรคนั้นด้วยพลังอันไร้เทียมทานและกลายเป็นจักรพรรดิแห่งสมาคมอัจฉริยะ

หลังคุยกับหยี่เสิ่นและน้องสาวเขาสักพัก หลินฮวงก็หันความสนใจไปหาหลี่หลาง

ไม่เหมือนหยี่เสิ่นและน้องสาวเขา การเปลี่ยนแปลงในตัวหลี่หลางถือว่ามาก ในวิดิโอคอลก่อนหน้า หลินฮวงสังเกตหัวตัดสั้นเกรียนของเขา แต่ตอนนี้เมื่อเจอกับตา เขาก็พบว่ามันดูแปลกตา

 

“ผมเจ้าร่วงหรืออะไร?”หลินฮวงแซว

“เจ้าสิผมร่วง!ตาเจ้าบอดหรือไง?ข้าแค่ตัดสั้น!”หลี่หลางคำราม

“ข้าคิดว่าเจ้าไม่ได้ตัดสั้น แต่อยากเป็นพระซะอีก”
ทันทีที่หลินฮวงกล่าวแบบนี้ สองพี่น้องก็รีบรุม

ต่อมา ศิษย์พี่ลั่วหมิง(ตอนก่อนแปลว่าหลิวหมิง ขอโทษด้วยครับพอดีสับสน)ก็เข้ามาหยุดสถานการณ์

“เอาละ หยุดล้อผมเขาได้แล้ว มันเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อเขานะ”
“ไม่เป็นไร ยังไงมันก็จบไปแล้ว”หลี่หลางโบกมือและยิ้ม”ก็แค่อกหัก แค่นั้นแหละ”

“หือ?”จากนั้นหลินฮวงถึงเข้าใจว่าทำไมหลี่หลางยังไม่กลายเป็นจักรพรรดิ มันเพราะเขาใช้เวลาไปกับเรื่องรักๆ

“ข้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนโพสต์ข้อความนี้ในกลุ่มทุกวันอยู่หลายเดือน ‘จะมีการพบปะที่ไม่คาดฝันและความสุขที่ไม่คาดคิดในโลกนี้ แน่นอน จะต้องมีการอำลาที่ไม่คาดคิดและการลาจาก’”หยี่เยว่หยู่บ่นข้างๆ

 

ข้างนาง หยี่เสิ่นรีบดึงน้องสาวเขาและส่ายหัว

“ทำไมถึงไม่ทุ่มเทกับการบ่มเพาะ?มหาพิภพเต็มไปด้วยสาวงาม ทันทีที่เจ้าเลื่อนเป็นเทพเสมือน ข้าจะพาเจ้าไปมหาพิภพ ดีไหม?”หลินฮวงยิ้มและตบไหล่หลี่หลาง

หลินฮวงไม่ซักถามถึงรายละเอียด แต่กลับหันไปมองศิษย์พี่เขาอย่างลั่วหมิง

ระดับพลังปัจจุบันของลั่วหมิงถึงจุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิทองม่วงแล้ว ห่างจากระดับเทพเสมือนแค่ก้าวเดียวเท่านั้น

“ระดับพลังของศิษย์พี่ก้าวหน้าขึ้นมาก”
“มันต้องขอบคุณเจ้า หลังจากวันนั้น พรสวรรค์และศักยภาพข้าก็เพิ่มขึ้น เดิม ข้าคิดว่าข้าแก่แล้ว  เส้นทางบ่มเพาะจึงยิ่งยาก แต่ข้าไม่คิดเลยว่าความเร็วการบ่มเพาะข้าในปีนี้จะเร็วกว่าตอนข้ายังหนุ่ม”การเพิ่มพรสวรรค์ของลั่วหมิงย่อมเป็นผลมาจากการ์ดไร้ที่ติของหลินฮวง เขามีรากฐานแน่นแล้วและหลังเพิ่มศักยภาพ ไม่เพียงระดับพลังเขาจะพุ่งทะยาน แต่ความสามารถเขาเองก็เพิ่มขึ้นด้วย

“การเตรียมการเลื่อนเป็นเทพเสมือนของท่านเป็นยังไงบ้าง?ท่านมีมอนสเตอร์เป้าหมายหรือยัง?”
“ข้าพบแล้ว การเตรียมการของข้าก็เกือบเสร็จแล้วเช่นกัน ข้าวางแผนจะลงมือสัปดาห์หน้า!”ลั่วหมิงวางแผนไว้นานแล้ว

“ท่านต้องการให้ข้าช่วยไหม?ข้าจะขอให้เทียนฟู่หาคนมาช่วยท่าน”
“ข้าได้ติดต่อหวงเทียนฟู่ก่อนเจ้าจะกลับมาเสียอีก สมาชิกกลุ่มพร้อมไปแล้ว”
“ดีแล้ว”เดิม หลินฮวงกังวลว่าลั่วหมิงจะคัดค้านการล่าเป็นกลุ่ม แต่ตอนนี้มันดูเหมือนเขาจะคิดมากไป

 

ขณะคุยกันสักพัก เล้งเยวี่ยซินและเฉินเตาก็มาถึงเก้าโมงตรงพอดี

หลินฮวงสังเกตเห็นว่าระดับพลังของเล้งเยวี่ยซินได้เลื่อนเป็นจักรพรรดิแล้ว แถมยังเป็นถึงระดับจักรพรรดิทองแดง ซึ่งสูงกว่าหยี่เสิ่นและหยี่เยว่หยู่

สำหรับเฉินเตา เขาได้เลื่อนเป็นเทพเสมือนแล้ว แม้เขาจะเป็นแค่ขั้นหนึ่ง กลิ่นอายเขาก็มั่นคงมาก ยิ่งไปกว่านั้น หลินฮวงยังตระหนักว่าความสามารถจริงของเขานั้นเหนือกว่าเทพเสมือนขั้น1

เมื่อทุกคนมากันครบ เจ้าอ้วนก็เริ่มบริการอาหาร

ทุกคนคุยกันขณะกินดื่ม และในไม่ช้าหัวข้อก็วนมาหาหลินฮวง

 

“หลินฮวง ระดับพลังเจ้าอยู่ที่ระดับใด?”มันคือเฉินเตาที่ถาม

 

เฉินเตาเป็นเทพเสมือนแล้วแต่กลับไม่อาจสัมผัสถึงกลิ่นอายของหลินฮวงได้เลย แต่ทว่า เขามั่นใจมากว่าหลินฮวงต้องเลื่อนเป็นเทพเสมือนแล้ว

เมื่อคนอื่นได้ยิน พวกเขาก็ลดเสียงลง พยายามเงี่ยหูฟัง

“ปัจจุบันข้าเป็นเทพเสมือนขั้น3แล้ว”

ไม่จำเป็นที่หลินฮวงต้องปิดบังอะไรต่อเพื่อนเขา ต่อให้คนนอกรู้ มันก็จะไม่ส่งผลอะไรต่อเขามากนัก

“ขั้น3..”เฉินเตาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบของหลินฮวง”เจ้ารู้เกี่ยวกับปผู้บุกรุกที่อยากโจมตีโลกกรวดมากแค่ไหน?”
“ข้าไม่รู้มาก พื้นที่ตรงกับรอยแยกมิติคือสนามรบระหว่างโปรตอสและเผ่าหุบเหว สนามรบสามารถเข้าถึงได้โดยสมบูรณ์ ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าได้”หลินฮวงยังถามเจ้าแดงถึงคำถามเดียวกัน แต่นางไม่สามารถพบได้ว่าผู้บุกรุกเหล่านี้เป็นใคร “เราไม่อาจตรวจสอบเรื่องนี้ได้อย่างเปิดเผย ยิ่งมีคนรู้ พิกัดของโลกกรวดก็จะยิ่งเปิดเผย ซึ่งหมายความว่าอาจดึงดูดความสนใจของเทพสวรรค์หรือแม้กระทั่งจ้าวเทวะ”

“เราไม่รู้ว่าศัตรูเป็นใคร เรายังไม่รู้อะไรเลยถึงระดับพลังหรือจำนวน การต่อสู้นี้ยากกว่าที่คิด”เฉินเตาดูหมดหนทาง

“สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้ตอนนี้คือพัฒนาความสามารถเราให้ได้มากที่สุด!”
“เอาละ วันนี้คือวันรวมตัวของเพื่อนๆ เราไม่ควรนำเรื่องเครียดมาคุยกัน…”ลั่วหมิงทำลายบรรยากาศ

 

เมื่อเปลี่ยนเรื่องคุย บรรยากาศจึงสบายขึ้นมาก สุดท้ายทุกคนก็กลับไปเริงร่ากันเหมือนเดิม

Monster Paradise

Monster Paradise

Type: Author:
800ปีก่อน มีประตูมิติกว่า3000ที่เปิดกว้างทั่วโลก ในขณะที่ดวงตาที่แตกต่างกัน3000ดวงเปิดกว้างขึ้น ฝูงสัตว์ประหลาดนับล้านก็ได้พรั่งพรูออกมาจากมัน บางตัวสามารถที่จะทำลายกำแพงเมืองด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียว : พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตเท่ายักษ์และกินมนุษย์ บางตัวจะยึดติดกับมนุษย์ พวกมันจะดูดซับสารอาหารในร่างกายและทำให้มนุษย์เป็นทาส บางตัวจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองมนุษย์ ปลอมตัวเป็นมนุษย์ธรรมดาขณะที่ดูดเลือดเพื่อความเป็นอยู่ของมัน ในเวลากลางคืน มนุษย์จะกลายเป็นด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกได้กลายเป็นสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าสัตว์ประหลาด 800 years ago, 3000 dimensional gates opened across the entire world. In that moment, it was as if 3000 different colored eyes opened across the world as hordes of monsters swarmed out of these gates like tears. Some could destroy city walls with one strike; They had bodies the size of a giant and fed on humans Some latched onto humans, absorbing their bodies’ nutrients and enslaving humans Some infiltrated the humans’ cities, disguising themselves as normal human beings while feeding upon human blood to sustain themselves. In a night, the Human race fell to the bottom of the food chain. The world had turned into a paradise for monsters…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset