Monster Paradise – ตอนที่ 1422

วิญญาณต่อสู้เผยตัว!

กู่หรงยืนอยู่ตรงหน้ารอยแยกมิติด้วยตาที่ปิดครึ่งหนึ่ง ราวกับเขากำลังเพิกเฉยความผันผวนมิติตรงหน้าที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด เขาสวมชุดคลุมพระสีขาว เสื้อผ้าเขากระพือตามแรงลมที่เกิดจากความผันผวน ทำให้เขาดูเหมือนเทพเจ้า

วินาทีที่ผู้รุกรานมาถึง เขาก็พลันลืมตาขึ้น

แม้จะไม่ขยับร่างกาย แต่ร่างของมอนสเตอร์ระดับเทพเสมือนทั้งสิบกลับเริ่มสลายตัวทีละนิ้วทันทีที่พวกมันปรากฏ ไม่ใช่แค่ร่างพวกมัน แต่แม้กระทั่งวิญญาณพวกมันก็ยังสลายตัวอย่างรวดเร็ว

ในชั่วพริบตา นักสำรวจทั้งสิบก็หายไป ไม่เหลือแม้แต่เลือดสักหยด

ไม่ไกลจากกู่หรง ไป่สวมชุดดำสนิท ผมขาวมันปลิวตามแรงลม

มันจ้องรอยแยกมิติ ด้วยใบหน้าที่ปราศจากอารมณ์

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ความผันผวนก็มาถึงจุดสูงสุดและเงาสิบร่างก็ค่อยๆเผยตัว

ตอนนี้เอง ไป่ชี้นิ้วไปในอากาศและเลือดสิบสายก็พุ่งออกมาเหมือนสิ่งมีชีวิต ทันใดนั้น มันก็พุ่งใส่ร่างของผู้มาใหม่ทั้งสิบ

วินาทีต่อมา ร่างทัง้สิบก็เริ่มเหี่ยวเฉา และเพียงไม่กี่อึดใจ พวกมันก็กลายเป็นศพแห้งเหี่ยว แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด หลังผ่านไปประมาณครึ่งวินาที ศพแห่งก็เริ่มย่อยสลายด้วยตัวมันเอง เปลี่ยนเป็นเศษฝุ่น

ไทแรนด์ตรงไปตรงมามากกว่าใคร

ทันทีที่นักสำรวจทั้งสิบถูกส่งมา มันก็กระโจนไป ชกทีละตัว บดขยี้พวกมันเป็นเศษเนื้อ

ในทางกลับกัน ชาโคลกลับเปิดปากกว้างและพ่นเพลิงมังกรออกมา แผดเผาผุ้รุกรานทั้งหมดเป็นเถ้าถ่าน

ส่วนทางด้านราชาจักรกล มันกลับวางป้อมปืนขนาดเล็กไว้ตรงหน้ามัน

วินาทีที่นักสำรวจมาถึง ป้อมปืนนับสิบก็แผดเสียงคำรามพร้อมกัน และเปลวไฟก็ได้กลืนผู้รุกรานทั้งสิบ

เมื่อถึงเวลาที่ประกายไฟดับ มอนสเตอร์ทั้งสิบก็กลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าลักษณะเดิมองพวกมันเป็นอย่างไร

เมื่อเห็นว่าพวกมันไม่หลงเหลือแม้แต่ซากศพ หลินฮวงก็อดร่ำร้องในใจไม่ได้’ช่างเสียเปล่าจริงๆ!’

แลนเซล็อต จอมสังหารและตัวอื่นมีแผนการมากกว่าและใช้วิธีสังหารแบบเดิม ความแตกต่างคือความเร็วการสังหารของพวกมันเหนือกว่าเดิมมากและก็กำจัดศัตรูได้ภายในไม่กี่วินาที

นั่นคือทั้งหมด ยกเว้นตัวลก ที่เป็นคนโอ้อวดสุด

วินาทีที่ผู้รุกรานทั้งสิบมาถึง ตัวตลกก็ควบคุมร่างพวกมันและส่งพวกมันเดินกลับไปแดนเทพเอง

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ไม่มีใครรู้

มอนสเตอร์อัญเชิญทั้ง21กำจัดศัตรูได้แทบจะทันที

แต่ทว่า ทางฝั่งของผู้บ่มเพาะไม่ได้ราบรื่นแบบนั้น

ต่อให้พวกเขาจะมีมากกว่า แต่ก็มีเพียงสามกลุ่มที่มีเทพเสมือนขั้น4เป็นแกนถึงสามารถฆ่าได้อย่างหมดจด แต่ทว่า พวกเขาสามารถฆ่าได้แค่สองหรือสามผู้รุกราน

เมื่อเห็นแบบนี้ คุณฟู่ก็ลงมือ

แต่ทว่า ตอนนี้อง คลื่นพลังสีแดงเลือดนับร้อยสายกลับระเบิดมาพร้อมกัน ก่อนการโจมตีของคุณฟู่จะไปถึง คลื่นพลังเหล่านั้นก็พุ่งทะลุร่างมอนสเตอร์ที่เหลือ112ตัวไปแล้ว

อย่างน่าประทับใจ คนที่โจมตีคือไป่ ผู้จัดการงานตัวเองเสร็จแล้ว

ก่อนหน้านี้ หลินฮวงได้ย้ำว่าหากจัดการทางตัวเองเสร็จแล้ว พวกมันควรยื่นมือมาช่วยเหลือทางอื่น

ดังนั้น หลังเสร็จภารกิจแรก มันจึงหันมาจับจ้องนักสำรวจที่เหลือทั้งหมดและลงมือทันที!

คลื่นพลังเจาะไปในตัวของมอนสเตอร์เหมือนสายฟ้าฟาดและสิ่งมีชีวิตก็แห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็วเป็นซากศพแห้งด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ก่อนจะสลายตัวไป

เมื่อเห็นแบบนี้ คุณฟู่ก็ถอนการโจมตีด้วยสีหน้าอึดอัดใจ

เหล่าเทพเสมือนที่สร้างค่ายกลเผยสีหน้างุนงงตอนเห็นฉากตรงหน้า

การโจมตีเช่นนี้ทำให้พวกเขาตกใจ

มอนสเตอร์ที่พวกเขาหลายคนรุมกลับถูกจัดการได้ง่ายๆ นี่ทำให้ทุกคนมีความเข้าใจใหม่ต่อพลังของหลินฮวง

 

“นั่นคือเทพเสมือนขั้น5 และพวกมันยังถูกฆ่าในชั่วพริบตา!เป็นความสามารถที่น่ากลัวมาก!”

“ข้าบอกแล้ว มอนสเตอร์ผมขาวนั่นดูเหมือนมนุษย์มาก มันต้องเป็นโปรตอสแน่!พวกเจ้ายังสงสัยกันอีกไหม?!”

“มอนสเตอร์ผมขาวนั่นอาจเป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งสุดภายใต้หลินฮวงแล้วก็ได้?หรือจะมีตัวที่แข็งแกร่งกว่านี้?”
..

ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน กำลังเสริมอีกระลอกก็มาถึง

กำลังเสริมชุดนี้ประกอบด้วยคนกว่า20 หลินฮวงเห็นหน้าคุ้นเคย เหล่านั้นคือทาสดาบภายใต้บัญชาเขา

เหตุผลที่ทาสดาบมาสายเพราะส่วนใหญ่ไม่เคยมาขอบเหวนรก นับประสาอะไรกับการระบุพิกัด

พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากเดินทางมาเองผ่านประตูมิติทีละอัน จากนั้นก็ค่อยบินมา

มีเพียงผู้ใช้กฏมิติได้ถึงมาถึงก่อนใคร แต่ก็มีคนเช่นนั้นน้อยมากในหมู่ทาสดาบ นี่ทำให้ทาสดาบมาถึงช้ากว่ากำลังเสริมจากขุมกำลังอื่น

ณ จุดนี้ นับรวมทาสดาบทั้ง20ที่อยู่  เทพเสมือนกว่า260จากโลกกรวดต่างถูกส่งมา

เกือบ80%ของเทพเสมือนจากโลกกรวดได้รวมกันที่ชั้นสามขอบเหวนรก

ตัดสินจากสถานการณ์ก่อนหน้า เห็นได้ชัดว่ากองกำลังขนาดเล็กที่ประกอบด้วยคน7-8คนไม่พอจะรับมือกับการรุกรานอีก

ตงฟางไป่จึงเริ่มหารือเรื่องการจัดค่ายกลใหม่

ในฐานะจักรพรรดิแห่งขัตติยะ หลินฮวงย่อมเข้าร่วมด้วย แต่เขาไม่ได้แสดงความเห็นใดๆเลย

เขายังคงพิจารณาว่าเขาควรเรียกแมลงออกมาหรือเผยพลังของทาสดาบ

ตงฟางไป่สังเกตเห็นว่าหลินฮวงกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างและอดถามไม่ได้”จักรพรรดิหลิน หากท่านมีความเห็นใด โปรดแจ้งให้เราทราบ”
“ข้า…”เพียงเมื่อหลินฮวงกำลังจะพูด ความปั่นปวนก็พลันมาจากภายในตัวเขา มันคือเพลิงนิรันดร์(นิ้วทองคำของฉีหมิงเซี่ยง)ที่ส่งข้อความหาเขา’ข้าสามารถให้พลังงานวิญญาณแก่รูปแกะสลักเทพได้”

เหตุผลที่หลินฮวงไม่เคยคิดใช้วิญญาณต่อสู้รูปแกะสลักเทพเพราะพวกมันมีกันแค่สิบ ส่วนรอยแยกมิติที่เหลือมีอีก12 แม้จะยังมีรูปแกะสลักเทพที่ไม่ได้ใช้มากมาย แต่เขาก็ไม่มีทางใช้พวกมันได้และคนอื่นก็ไม่มีทางปลดปล่อยพลังพวกมันได้ต่อให้ใช้มัน

แต่ทว่า ตอนนี้เพลิงนิรันดร์กลับกล่าวเช่นนั้น เขาจึงเรียกรูปแกะสลักเทพออกมาเพิ่มอีกสองอันและปิดกั้นรอยแยกมิติทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

“ปล่อยอุโมงค์มิติที่เหลือทั้ง12ให้ข้า พวกท่านสามารถใช้เวลานี้ฝึกฝนค่ายกลและเริ่มเตรียมการสำหรับสงครามได้”หลินฮวงพิจารณาสักพักก่อนตัดสินใจพูดอย่างเปิดเผย

ทุกคนตกตะลึง

คุณฟู่กังวลเล็กน้อย”มันไม่เป็นไรจริงๆหรือ?”
“ข้าสามารถจัดการได้”หลินฮวงพยักหน้า จากนั้นก็เรียกวิญญาณต่อสู้ทั้งสิบออกมา อย่างจิ้งจอกเก้าหาง รวมถึงรูปแกะสลักเทพอีกสองที่ได้รับพลังงานจากเพลิงนิรันดร์

ภายใต้คำสั่งของหลินฮวง วิญญาณต่อสู้ทั้ง12รีบเข้าไปประจำตำแหน่งใกล้กับรอยแยกที่เหลืออีก12และกลายเป็นผู้พิทักษ์คนใหม่

Monster Paradise

Monster Paradise

Type: Author:
800ปีก่อน มีประตูมิติกว่า3000ที่เปิดกว้างทั่วโลก ในขณะที่ดวงตาที่แตกต่างกัน3000ดวงเปิดกว้างขึ้น ฝูงสัตว์ประหลาดนับล้านก็ได้พรั่งพรูออกมาจากมัน บางตัวสามารถที่จะทำลายกำแพงเมืองด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียว : พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตเท่ายักษ์และกินมนุษย์ บางตัวจะยึดติดกับมนุษย์ พวกมันจะดูดซับสารอาหารในร่างกายและทำให้มนุษย์เป็นทาส บางตัวจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองมนุษย์ ปลอมตัวเป็นมนุษย์ธรรมดาขณะที่ดูดเลือดเพื่อความเป็นอยู่ของมัน ในเวลากลางคืน มนุษย์จะกลายเป็นด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกได้กลายเป็นสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าสัตว์ประหลาด 800 years ago, 3000 dimensional gates opened across the entire world. In that moment, it was as if 3000 different colored eyes opened across the world as hordes of monsters swarmed out of these gates like tears. Some could destroy city walls with one strike; They had bodies the size of a giant and fed on humans Some latched onto humans, absorbing their bodies’ nutrients and enslaving humans Some infiltrated the humans’ cities, disguising themselves as normal human beings while feeding upon human blood to sustain themselves. In a night, the Human race fell to the bottom of the food chain. The world had turned into a paradise for monsters…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset