Monster Paradise – ตอนที่ 1447

ด้วยการเพิ่มเข้ามาของเทพแท้จริงอย่าง ทาสดาบกับมอนสเตอร์อัญเชิญ  สนามรบเทพเสมือนจึงกลายเป็นการเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว

 

ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา ผู้รุกรานระดับเทพเสมือนทั้งหมดก็ถูกฆ่า ไม่เหลือรอดสักคน

 

หลินฮวงได้เก็บศพมอนสเตอร์จากสนามรบเทพแท้จริงไปก่อนหน้าแล้ว

 

บนสนามรบเทพเสมือน สมาคมนักล่า ขัตติยะกับองค์กรอื่นรวมถึงเผ่าแมลงพากันเก็บสินสงคราม

 

ตงฟางไป่ หัวหน้าฝ่ายรัฐบาลกลางเดินมาหาหลินฮวง

 

สายตาเขาที่มองหลินฮวงแตกต่างออกไป

 

ก่อนหน้านี้ เขามองหลินฮวงเป็นคู่แข่งอาจเพราะหลินฮวงคือจักรพรรดิแห่งขัตติยะ หลังเห็นความสามารถแท้จริงของหลินฮวงในการต่อสู้สุดท้าย ตงฟางไป่เปลี่ยนมุมมอง

 

ทุกคนในขอบเหวนรกชั้นสามรู้ว่าถ้าหลินฮวงไม่มาพร้อมกำลังเสริมกับมอนสเตอร์อัญเชิญที่เขานำมา ผู้รุกรานอาจทำลายโลกกรวดไปแล้ว

 

“จักรพรรดิหลิน ในนามของรัฐบาลกลาง ข้าขอขอบคุณท่าน!”คำพูดแรกที่หลุดจากปากตงฟางไป่คือการขอบคุณจากใจจริง

 

“หัวหน้าตงฟาง โลกกรวดเองก็คือบ้านเกิดข้าเช่นกัน”หลินฮวงรู้สึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของตงฟางไป่

 

“พวกผู้รุกรานมาจากโลกไหนกัน?”ตงฟางไป่ถามเพราะเขาสังเกตเห็นว่าหลินฮวงจับหัวเถิงหรานไว้เพื่ออ่านความทรงจำหลังฆ่าอีกฝ่าย

 

“พวกมันมาจากแดนเทพ องค์กรชั้น 4 โดยมีชื่อว่านิกายพันงู”หลินฮวงอธิบาย

 

“เราได้ฆ่าคนของพวกมันไปมาก จะมีปัญหาตามมาไหมในอนาคต?”ตงฟางไป่ถามด้วยคิ้วขมวด

 

“มีแน่”หลินฮวงพยักหน้า”สำหรับสถานการณ์เจาะจง ข้าจะไปเยือนรัฐบาลกลางทีหลังและจะอธิบายรายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง หัวหน้าตงฟาง ถ้าท่านสามารถ โปรดช่วยข้านัดหมายกับประธานเจียงด้วย มันจะดีสุดถ้าพวกระดับสูงทั้งหมดของรัฐบาลกลางมารวมกันครบได้”

 

“แน่นอน!ถ้ามีอะไรที่รัฐบาลกลางสามารถช่วยเหลือได้ ก็โปรดบอกให้ข้ารู้”ตงฟางไป่รีบพยักหน้า

 

ทั้งสองคุยกันสักพัก สุดท้ายสนามรบเทพเสมือนก็ถูกเก็บกวาดจนเกลี้ยง

 

พวกระดับสูงขององค์กรใหญ่ต่างๆมากล่าวอำลาหลินฮวงทีละคน เหนือสิ่งอื่นใด หลินฮวงถือเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจสุดในโลกกรวดไปแล้ว แถมยังมีขัตติยะ หนึ่งในองค์กรใหญ่ภายใต้บัญชา

 

ในยุคสงครามนี้ ขัตติยะนับว่าได้บดบังรัฐบาลกลางจนมิด

 

หลังซุนโจว หัวหน้าตุลาการของพวกนอกรีตมาทักทายหลินฮวง เขาก็เรียกรวมลูกน้องทั้งหมด ออกจากขอบเหวนรกชั้นสามไป

 

เมื่อพวกเขากลับไปขอบเหวนรกชั้นสอง เกาหยาก็อดพูดไม่ได้

 

“ข้ารู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่าเซี่ยหยูทำผิดพลาดมากที่ดึงหลินฮวงมาเข้าร่วมกับเราไม่ได้ในตอนนั้น!

“จริง ถ้าหลินฮวงคือหัวหน้าตุลากรของนอกรีต มันคงไม่ใช่ขัตติยะที่เฉิดฉาย แต่เป็นเรา!”โจวตงพูดขณะยังแคะขี้มูก

 

“เห้ย พอแค่นั้นแหละ กล้ามาพูดแบบนี้ต่อหน้าข้าได้ยังไง?”ใบหน้าของโจวตงบิดเบีเยว

 

“ถ้าหลินฮวงเป็นหัวหน้าเรา ข้าคิดว่าเราคงสามารถย้ายศูนย์ใหญ่เข้ารังนั่นได้ คิดดูสิว่ามันจะสุดยอดแค่ไหนถ้ามีองครักษ์แมลงระดับเทพเสมือนเป็นล้าน!ไม่ใช่แค่นั้น ไม่ว่าเจ้าจะอยากไปไหน เจ้าก็สามารถไปได้ด้วยรังนั่น ทุกคนต้องอิจฉาเรา”โจวตงไม่สนใจซุนโจว

 

“ข้าคิดว่ามอนสเตอร์อัญเชิญผมขาวนั่นหล่อมาก ข้าจะย้ายโต๊ะทำงานไปข้างเขา ต่อให้ข้าต้องนั่งในห้องทำงานทุกวัน ข้าก็เต็มใจ”หลังแสดงความคิดเห็นนี้ เกาหยาก็หันไปมองซุนโจว”ข้าคิดว่าเจ้าควรไปศัลยกรรมหน้า แต่งงานกับคนจากขัตติยะ…”

“เงียบบบบ!”ซุนโจวคำราม

บนขอบเหวนรกชั้นสาม องค์กรใหญ่ทั้งหมดต่างมาอำลาหลินฮวงก่อนจากไป

 

หลินฮวงเรียกรังและมอนสเตอร์อัญเชิญกลับ หลังคนจากผู้ปลดปล่อยกลับไป เขาก็กลับไปเมืองจักรพรรดิรวมถึงคนจากขัตติยะ

 

อู่โม่กลับไปเกาะลอยฟ้าชั่วคราว

 

หลินซวนตามหลินฮวงกลับไปเมืองจักรพรรดิ

 

หลังขอให้หวงเทียนฟู่ช่วยหลินซวนหาที่พัก หลินฮวง คุณฟู่และพวกเบื้องบนของทั้งขัตติยะกับผู้ปลดปล่อยก็ทำการประชุมผ่านวิดิโอ

 

หลินฮวงอธิบายถึงนิกายพันงูและวังเผ่าหมื่นคณนานับ เขายังแจ้งทุกคนถึงวิกฤต

 

หลังพบข้อมูลเกี่ยวกับวังเผ่าหมื่นคณนานับ ทุกคนที่รู้สึกโล่งใจได้ไม่ถึงชั่วโมงก็พลันรู้สึกกดดันยิ่งกว่าเดิม

 

หลังการประชุม หลินฮวงไปหาหลินซวนก่อน

 

เพราะสงครามในขอบเหวนรก มันจึงมีคำถามมากมายที่เขาไม่สามารถถามหลินซวนได้ แต่ตอนนี้เขามีเวลาแล้ว

 

“ข้ามักสันนิษฐานว่ามันคือองค์กรอื่นที่โคลนเจ้า ไม่คิดเลยว่าจะเป็นรัฐบาลกลาง”

“รัฐบาลกลางได้รับเทคโนโลยีพันธุกรรมจากมิติบรรพกาลกว่าสามร้อยปีก่อน สองปีหลังพวกเขาสำรวจเสร็จ พวกเขาสร้างห้องทดลองพันธุกรรมขึ้น ต่อมา พวกเขาได้รับเทคโนโลยีชีวภาพที่เกี่ยวข้องจากมิติต่างๆ และฝึกฝนนักวิจัยด้านนี้ จนกระทั่งร้อยกว่าปีก่อน พวกเขาได้รับเทคโนโลยีโคลนนิ่งอีกครั้งจากมิติโบราณใกล้ๆ หลังจากนั้น ทั้งห้องวิจัยก็มุ่งเน้นไปที่ด้านนี้”

“กว่าร้อยปีก่อน พวกเขาทำการทดลองลับๆ มันไม่สำเร็จจนกระทั่ง 11 ปีก่อนที่เทคโนโลยีก้าวหน้าพอจนสร้างผู้บ่มเพาะได้สำเร็จ แปดปีก่อน พวกเขาเริ่มใช้ศพของกึ่งเทพมาเป็นตัวทดลองโคลนนิ่ง ท่ามกลางตัวอย่างเหล่านั้นคือโม่ขุ่ย…”

 

“ระดับความปลอดภัยของห้องวิจัยประเภทนี้สูงมาก มันต้องไม่ด้อยไปกว่าศูนย์ใหญ่รัฐบาลกลาง แล้วเจ้าหนีมาได้อย่างไร?”นี่คือคำถามที่ทำให้หลินฮวงสับสน

 

“ก่อนหน้านี้ ข้ามักคิดว่าข้าหลบหนีมาได้เหมือนกัน จากนั้นข้าจึงกลับไปสถานที่นั้น แค่พบว่าข้าถูกส่งออกมา”

 

“เหตุผลคือห้องวิจัยพบว่าโคลนทั้งหมดไม่มีความสามารถสู้กับมอนสเตอร์ขั้นสูงกว่า ร่างกายเราไม่สามารถผสานกับเมล็ดพันธ์ุชีวิตเพื่อหลุดพ้นได้ นับประสาอะไรกับประกายไฟชีวิต เจ้าหน้าที่วิจัยนับร้อยใช้เวลาหลายปีแก้ปัญหานี้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้”

“ดังนั้น บางคนในห้องวิจัยจึงเสนอการส่งโคลนไปในโลกเพื่อสังเกตการเข้าสังคม พวกเขาอนุญาตให้โคลนใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ดูว่าเป็นไปได้ไหมที่จะวิวัฒนาการ”

“สี่ปีก่อน พวกเขาเลือกโคลนร้อยคนอย่างข้า ปล่อยพวกข้าออกมาสู่โลก”

 

“ร่างโคลนเหล่านี้ปรับตัวได้ แต่่วนใหญ่ปรับตัวเข้ากับตระกูลธรรมดา ไม่ได้กลายเป็นผู้บ่มเพาะ มีเพียงไม่กี่คน รวมถึงข้าที่ดันเผยพลังชีวิตของผู้บ่มเพาะ แต่นอกจากข้า พลังชีวิตในตัวคนอื่นสลายหายไปอย่างรวดเร็ว และก็ไม่สามารถรวบรวมพลังชีวิตได้เป็นครั้งที่สอง”

 

“มันเป็นหลังข้าพบว่าถ้ามันไม่ใช่เพราะท่านสอนวิชาโจมตีพยุหะให้ข้า ข้าคงไม่สามารถเดินบนเส้นทางผู้บ่มเพาะได้ มีทางเดียวที่ร่างโคลนจะบ่มเพาะได้ก็คือ ท่านต้องเรียนเคล็ดบ่มเพาะที่ร่างกายเดิมคุ้นชิน

 

“เส้นทางบ่มเพาะของร่างกายเดิมข้า โม่ขุ่ยคือวิชาโจมตีพยุหะ และสิ่งที่ท่านสอนข้าดันกลายเป็นวิชาโจมตีพยุหะ ดังนั้น ข้าจึงกลายเป็นผู้บ่มเพาะคนเดียวท่ามกลางโคลนนับร้อย”

 

“แต่ทว่า รัฐบาลกลางคอยสังเกตข้าอยู่ตลอด พวกเขายังรู้ว่าท่านผสานพลังชีวิตให้ข้า ซึ่งช่วยให้ข้าเป็นผู้บ่มเพาะระดับเงินได้ แต่ทว่า เนื่องจากระยะเวลาที่ข้าบ่มเพาะวิชาโจมตีพยุหะนั้นสั้นไป ระดับพลังข้าจึงไม่เลื่อนเป็นระดับทอง ซึ่งทำให้พวกเขาคือว่าเคล็ดบ่มเพาะโบราณไม่ได้ผล นั่นทำให้พวกเขาทิ้งข้าไว้”

 

“ต่อมา หยดเลือดเทพของโม่ขุ่ยที่คุณฟู่ทิ้งไว้ก็เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายของโม่ขุ่ย ตอนนั้น ข้าไม่รู้ว่าข้าคือโคลน ข้าคิดว่าข้าคือโม่ขุ่ย ผู้สามารถคืนชีพได้ด้วยวิธีการบางอย่าง”

“เพราะความทรงจำไม่สมบูรณ์ รวมถึงคำถามมากมาย ข้าจึงอยากออกไปค้นหาความจริง..”

“หลังข้าได้รับเลือดเทพของโม่ขุ่ยและทิ้งท่านไป ในที่สุดข้าก็หลุดพ้นการสังเกตของรัฐบาลกลาง ระดับพลังข้าเพิ่มขึ้นทุกวันและความสามารถข้าก็ยิ่งทรงพลังขึ้น ข้ายังตรวจสอบต้นกำเนิดข้า”

“ในเวลาแค่ครึ่งปี ข้าเลื่อนเป็นเทพเสมือน หลังผ่านไปอีกหกเดือน ข้าเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้นสามและในที่สุดก็พบตำแหน่งห้องวิจัยพันธุกรรมของรัฐบาลกลาง”

“ที่นั่น ข้าสู้กับเทพเสมือนที่รับผิดชอบการคุ้มกัน หลังข้าชนะ ข้าก็ได้รู้ความจริงจากปากพวกนักวิจัย”

“หลังจากนั้น รัฐบาลกลางก็ติดต่อข้าหลายครั้งเพื่อเจรจา สุดท้าย เจียงฉานก็มาแจ้งข้าเองถึงวิฤตในโลกกรวดและเสนอเงื่อนไข โน้มน้าวให้ข้าช่วยร่วมมือกับการทดลองต่อๆไป”

“ร่างโคลนเทพเสมือนหลายกลุ่มบนสนามรบถูกสร้างขึ้นด้วยข้อมูลที่ข้ามอบให้…”

หลังได้ยินประสบการณ์ของหลินซวนตลอดหลายปี หลินฮวงก็เงียบไปนานก่อนยื่นมือออกไปวางบนไหล่หลินซวน”เจ้าคงลำบากมามากสินะ”
“เจ้าคิดทำอะไรต่อ?!”หลินฮวงถามอีกครั้ง

 

“ข้าไม่รู้ ตอนนี้ความลับของต้นกำเนิดข้าคลี่คลายแล้ว ข้าไม่มึจุดหมายในชีวิตอีก”หลินซวนส่ายหัวและยิ้มขมขื่น”ถ้าข้ามีเป้าหมาย งั้นมันอาจเป็นการเลื่อนเป็นเทพแท้จริง”

“ทำไมเจ้าไม่ไปมหาพิภพกับเราละ?”หลินฮวงเสนอ”ด้วยระดับพลังเจ้าตอนนี้ มีเพียงแต่การไปมหาพิภพเจ้าถึงเลื่อนพลังได้”

“ซินเอ๋อร์เองก็เป็นเทพเสมือนขั้น 9 แล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโลกกรวดอีกต่อไป ครอบครัวเราจะกลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้งในมหาพิภพ”หลินฮวงพูดต่อ”อาจารย์เองก็จะไปมหาพิภพกับเราด้วย เจ้าควรมีความทรงจำเกี่ยวกับเขาในหัวสินะ?”

“อาจารย์..”หลินซวนเงียบไปหลังได้ยิน แน่นอน เขามีความทรงจำของคุณฟู่ คุณฟู่รับเลี้ยงโม่ขุ่ยและเลี้ยงเขามา สำหรับโม่ขุ่ย คุณฟู่เป็นทั้งอาจารย์และพ่อ

 

หลินซวนนึกย้อนตอนเขาพบกับคุณฟู่ในขอบเหวนรก อาจเพราะเขาไม่รู้จักหน้าตาของคุณฟู่ เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่ใช่โม่ขุ่ย แต่ ความทรงจำของโม่ขุ่ยก็เหมือนประสบการณ์ชีวิตของหลินซวน ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าคุณฟู่เป็นทั้งอาจารย์และพ่อเหมือนกัน

 

“อย่าคิดมาก แค่ปล่อยให้เป็นไปตามใจต้องการ”หลินฮวงสังเกตเห็นท่าที แต่ทว่า เขายังรู้ว่าคุณฟู่ไม่มีลูก และมันคงไม่พูดเกินจริงที่เขาจะมองโม่ขุ่ยเป็นเหมือนเดิมเพราะเขาเลี้ยงโม่ขุ่ยมาตั้งแต่ยังเป็นทารก เขาย่อมต้องคิดถึงโมขุ่ยตอนเห็นหลินซวน ผู้เหมือนกันทั้งหน้าตาและนิสัย

 

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองน่าอึดอัดมาก

 

“ข้าอาจยังต้องอยู่ในโลกกรวดสักเดือนหรือสองเดือน หลังจากนั้น ข้าจะพาซินเอ๋อร์กับคนอื่นไปมหาพิภพ”หลินฮวงพูดต่อ”อย่าให้ปมทั้งหมดมัดเจ้าไว้ แค่ปล่อยมันไป”
“งั้นก็ได้”ในที่สุดหลินซวนก็ยอมตกลง

 

เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่ได้มีครอบครัวในโลกกรวด อย่างเดียวที่ผูกมัดเขาที่นี่คือหลินฮวงกับหลินซิน

Monster Paradise

Monster Paradise

Type: Author:
800ปีก่อน มีประตูมิติกว่า3000ที่เปิดกว้างทั่วโลก ในขณะที่ดวงตาที่แตกต่างกัน3000ดวงเปิดกว้างขึ้น ฝูงสัตว์ประหลาดนับล้านก็ได้พรั่งพรูออกมาจากมัน บางตัวสามารถที่จะทำลายกำแพงเมืองด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียว : พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตเท่ายักษ์และกินมนุษย์ บางตัวจะยึดติดกับมนุษย์ พวกมันจะดูดซับสารอาหารในร่างกายและทำให้มนุษย์เป็นทาส บางตัวจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองมนุษย์ ปลอมตัวเป็นมนุษย์ธรรมดาขณะที่ดูดเลือดเพื่อความเป็นอยู่ของมัน ในเวลากลางคืน มนุษย์จะกลายเป็นด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกได้กลายเป็นสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าสัตว์ประหลาด 800 years ago, 3000 dimensional gates opened across the entire world. In that moment, it was as if 3000 different colored eyes opened across the world as hordes of monsters swarmed out of these gates like tears. Some could destroy city walls with one strike; They had bodies the size of a giant and fed on humans Some latched onto humans, absorbing their bodies’ nutrients and enslaving humans Some infiltrated the humans’ cities, disguising themselves as normal human beings while feeding upon human blood to sustain themselves. In a night, the Human race fell to the bottom of the food chain. The world had turned into a paradise for monsters…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset