Monster Paradise – ตอนที่ 1522

เวลาภายในแดนลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

หลินฮวงยืนหยัดมั่นคงที่อันดับหนึ่งบนกระดานทองตั้งแต่ต้น ไม่มีใครท้าทายตำแหน่งเขาได้เลย

เขาได้ฆ่านักโทษเทพสวรรค์ขั้นสองถึง 12-15 ต่อวัน แต้มของเขาเพิ่มขึ้นกว่าห้าพันต่อวัน มันแทบเป็นห้าเท่าของอันดับสอง

 

ในความเป็นจริง ไม่มีใครสามารถเอาชนะแต้มล่าเขาได้แม้กระทั่งก่อนเขาพบไคลี่และเจ้าแดง

 

ในขณะเดียวกัน อันดับสองไม่ใช่เวอชุโอโซจากเคียวแห่งความตาย แต่เป็นเทพแท้จริงชั้นนำจากนครหลวงเทพ คุนถิง

 

ไคลี่และเจ้าแดงคืออันดับสามและสี่

 

ช่องว่างระหว่างแต้มของสองสาวไม่ถึงสามร้อย การคำนวณง่ายๆแสดงให้เห็นว่าเจ้าแดงสามารถไล่ทันได้ถ้านางฆ่าเทพสวรรค์ขั้นหนึ่งกับขั้นสองอีกสักหนึ่ง

 

ในขณะเดียวกัน ไคลี่กับคุนถิงก็ห่างกันแค่กว่าพันคะแนน

 

สำหรับเวอชุโอโซ เขาไม่ได้ล่าอย่างจริงจังเลย เขามีอันดับ 10 และมีแต้มเหนือกว่าอันดับ 11 แค่ร้อยกว่า

 

นอกจากสามอันดับแรก อันดับ 4-10 จะได้รับรางวัลคล้ายกัน

 

ผู้นำเทพสวรรค์หลายคนสงสัยว่าเวอชุโอโซคงรู้สึกว่าการแข่งกับซิวมู่ยากเกินไป เขาจึงยอมแพ้ตั้งแต่ต้น

 

แต่่ทว่า หลินฮวงรู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้สนใจรางวัลเลย เขาไม่คิดสู้ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะรั้งอันดับสิบเพราะใต้สวรรค์สั่ง

 

เทียบกับกระดานทอง การแข่งขันในหมู่กระดานเงินรุนแรงกว่ามาก

 

คนที่ติดอันดับหนึ่งบนกระดานเงินคือคนที่หลินฮวงคุ้นเคยดีอย่างเทพนักรบไร้ผู้ต้านจากวิหารเทพนักรบ

 

เขายอมแพ้ที่จะเลื่อนเป็นเทพแท้จริงตอยพบกับหลินฮวงและทาสดาบภายใต้การทดสอบในแดนจอมเทพกว่าปีก่อน เขามุ่งมั่นที่จะบ่มเพาะทักษะดาบ อันที่จริง ความสามารถของเขาพัฒนาขึ้นมากถ้าเทียบกับปีก่อน เขารั้งอันดับหนึ่งในบรรดาเทพเสมือนของแดนเทพ

 

เขายังเพ้อฝันว่าเขาอาจสามารถเอาชนะหลินฮวงได้ถ้าพบกันอีกครั้ง แต่ทว่า เขาไม่รู้ว่าหลินฮวงได้เลื่อนเป็นเทพแท้จริงแล้ว ถ้าความแตกต่างในความสามารถพวกเขาเหมือนแสงจากหลอดนีออนและแสงเทียนเมื่อตอนหนึ่งปีก่อน ตอนนี้มันก็เหมือนกับแสงนีออนและแสงแดด ไม่มีทางที่จะเทียบกันได้เลย

 

อันดับสองบนกระดานเงินคือผู้บ่มเพาะกระบี่จากนครหลวงเทพ เขาห่างจากเทพนักรบแค่ 120 แต้ม

 

ความแตกต่างแต้มระหว่างอันดับสามกับหกน้อย ห่างกันแค่ 200-300

 

ในขณะเดียวกัน ช่องว่างระหว่างอันดับ 7 -10 อยู่ในช่วง 300 -500

 

ความรุนแรงของการแข่งขันบนกระดานเงินรุนแรงกว่ากระดานทองมาก

 

ทันทีที่การทดสอบหนึ่งเดือนของแดนลับจบ คนของนครหลวงเทพก็ส่งผู้เข้าร่วมทั้งหมดออกมา

 

หลินฮวงสัมผัสได้ถึงสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องเขาวินาทีที่ออกมา

 

เขาเหลือบไปเห็นเทพสวรรค์ทั้งหมดกำลังจ้องเขา พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมขององค์กรตัวเองเลย

 

ความคิดแรกที่แวบผ่านหัวพวกเขาคือ’ข้าได้เปิดเผยตัวตนข้าในฐานะมนุษย์ไปแล้วรึ?!’

 

เขารีบนึกถึงผลงานเขาในแดนลับ

 

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดหาทางออก เสียงของใต้สวรรค์ก็ดัง

 

“มาตรงนี้ อย่ายืนเฉยๆ”

 

แน่นอน ใต้สวรรค์บอกได้ว่าหลินฮวงกำลังกังวลเรื่องตัวตน

 

หลินฮวงโล่งใจเมื่อได้ยินคลื่นเสียง เขาไปข้างใต้สวรรค์ ถามเสียงเบา”ทำไมพวกเขาถึงจ้องข้า?’

 

“เจ้าเป็นอันดับหนึ่งบนกระดานทอง ใครจะไม่จ้องเจ้า?”ใต้สวรรค์ตอบ

 

“แค่นั้น?”หลินฮวงเลิกคิ้ว

 

ใต้สวรรค์เงียบไปและพูดเสริม”มีคนที่สามารถฆ่าเทพสวรรค์ขั้นสามได้ด้วยพลังระดับเทพแท้จริง แต่ทว่า นับรวมเจ้า มีไม่ถึงสิบที่ทำแบบนั้นได้”

 

“ข้านึกว่าตัวตนข้าโดนเปิดเผยแล้วซะอีก..”หลินฮวงไม่สนใจ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังได้ยินคำอธิบายของใต้สวรรค์

 

ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน ผู้เข้าร่วมจากองค์กรอื่นก็กลับไปกลุ่มตน

 

เวอชุโอโซเองก็กลับไปเคียวแห่งความตายเช่นกัน เขาแค่เหลือบมองหลินฮวง จากนั้นเขาก็ยืนข้างใต้สวรรค์ ทุกคนเชื่อว่าทั้งคู่เป็นศัตรูกัน

 

แม้กระทั่งใต้สวรรค์ก็คิดเหมือนกัน เขาลอบโล่งใจตอนตระหนักว่าพวกเขาไม่ได้สู้กัน

 

ดาวหางกับคนอื่นมีความอยากรู้อยากเห็นเต็มตาตอนมองหลินฮวง แแม้พวกเขาจะแข่งขันกันบนกระดานเงิน พวกเขาก็สามารถเห็นอันดับบนกระดานทองได้

 

ตอนแรก พวกเขาคิดว่าเด็กใหม่ที่ใต้สวรรค์พบต้องมีความสามารถไม่ธรรมดา เหนือสิ่งอื่นใด เซี่ยหลินคือตัวอย่างชั้นดี แต่พวกเขาไม่คิดว่าเด็กใหม่ที่ชื่อซิวมู่จะเป็นม้ามืดขนาดนี้

 

อสูรคลั่งที่เป็นอันดับสามบนกระดานเคียวขาวไม่พูดอะไร  ก่อนเข้าแดนลับ เขาเยาะเย้ยหลินฮวงทางอ้อม ระบุว่าหลินฮวงจะถ่วงกลุ่ม

 

เขาไม่คิดเลยว่าความสามารถของเด็กใหม่จะเหนือล้ำขนาดนี้ ในทางกลับกัน เขาต่างหากที่มีแต้มต่ำสุดในบรรดาเทพแท้จริงของเคียวแห่งความตาย

 

เขาไม่กล้ามองหลินฮวงเลย กลัวว่าหลินฮวงจะเยาะเย้ยเขากลับ

 

แต่ทว่า หลินฮวงกลับไม่เหลือบแลเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

 

เขาไม่ได้จงใจเมิน แต่เขาลืมเรื่องเมื่อเดือนก่อนไปแล้ว ในความเป็นจริง เขาจำชื่ออีกฝ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ

 

ขณะที่ใต้สวรรค์กำลังนำผู้เข้าร่วมกลับ เทพสวรรค์ก็เดินมา

 

“ผู้อาวุโสใต้สวรรค์ โปรดรอสักครู่”มันคือคนของศาลาสมบัติที่เรียกเขา

 

เขาค่อนข้างอวบ แก้มแดง ดูใจดี

 

ใต้สวรรค์ขมวดคิ้ว เขาเดาได้ว่าคนคนนี้มีเจตนาอะไร

 

“ข้าอยากพูดคุยสั้นๆกับน้องซิวมู่”เขายิ้มและมองหลินฮวง

 

“ข้า?”หลินฮวงงุนงง เขาจำไม่ได้ว่าเคยติดต่ออะไรกับสาลาสมบัติ

 

“ถูกต้อง”ผู้นำร่างท้วมจากศาลาสมบัติพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอบอุ่น”น้องชาย เจ้าสนใจเข้าร่วมศาลาสมบัติของข้าหรือไม่?”

เขาไม่อ้อมค้อมเลย เขาเชิญหลินฮวงให้เข้าร่วมต่อหน้าใต้สวรรค์

 

หลินฮวงตกตะลึง เขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะมาชิงตัวเขา แต่ทว่า ในไม่ช้าเขาก็ได้เหตุผลชัดเจนที่จะปฏิเสธ

 

“ขอโทษด้วย ข้าเชื่อว่าเคียวแห่งความตายดีพอสำหรับข้าแล้ว”

“ไม่ว่าเคียวแห่งความตายจะยิ่งใหญ่แค่ไหน มันก็แค่องค์กรระดับหก ข้าคิดว่าน้องซิวมู่ควรพิจารณาเข้าร่วมองค์กรระดับเจ็ด”ตอนนัั้น ผู้นำวิหารเทพนักรบเดินมาเช่นกัน”ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงเคยได้ยินถึงเรา วิหารเทพนักรบ”

 

“ไม่มีองค์กรใดในแดนเทพที่ให้ผลประโยชน์มากไปกว่าเรา ศาลาสมบัติ”ผู้นำร่างท้วมรีบพูด

 

“แล้วไง?!เรา ตาข่ายคลุมสวรรค์มีคลังข้อมูลที่ใหญ่สุดในแดนเทพ”

 

แม้กระทั่งคนของตาข่ายคลุมสวรรค์ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแทรก”เรายังรู้ความลับมากมายของจักรวาลที่องค์กรอื่นไม่รู้…”

 

“ข้าคิดว่ามันเป็นการดีสุดที่ซิวมู่จะเข้าร่วมกับซีโน่ ทุกคนรู้ว่าเรามีความอดทนสูงสุดในบรรดาองค์กรระดับเจ็ดทั้งหมด มีหลายเผ่าที่เข้าร่วมกับเรา บางทีอาจมีคนจากเผ่าที่ซิวมู่อยู่ในหมู่สมาชิกเราก็ได้..”

 

นอกจากนครหลวงเทพ สี่ในห้าองค์กรระดับเจ็ดต่างมาชิงตัวหลินฮวง ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขากำลังทำมันต่อหน้าใต้สวรรค์

 

ใต้สวรรค์โกรธ แต่ไม่แสดงออกมา เขายังทำหน้าสงบราวกับกำลังดูการแสดง เหตุผลเพราะเขารู้ว่าหลินฮวงย่อมปฏิเสธ

 

ตามคาด หลินฮวงพูดอย่างสงบหลังพวกเขายื่นคำเชิญ

 

‘ผู้อาวุโส บางทีทข้าคงพูดไม่ชัด ข้าชอบสถานการณ์ปัจจุบันของเคียวแห่งความตาย ดังนั้น ข้าจะไม่ย้ายไปองค์กรใด ขอบคุณสำหรับความมีเมตตา!”

 

คนอื่นอาจย้ายไปองค์กรอื่นโดยไม่ลังเล อย่างไรก็ตาม หลินฮวงรู้ดีว่าเคียวแห่งความตายเป็นองค์กรเดียวที่เหมาะกับเขา

 

ไม่ว่าองค์กรอื่นจะยื่นข้อเสนออะไร พวกเขาก็ต้องฆ่าเขาแน่เมื่อพบว่าเขาเป็นมนุษย์

 

เหล่าเทพสวรรค์ดูเหมือนจะตกใจกับการปฏิเสธของหลินฮวง แต่พวกเขาไม่แสดงมันออกมา

 

พวกเขาพยายามโน้มน้าวเขาอีกครั้ง เมื่อพวกเขารู้ว่าหลินฮวงแน่วแน่ที่จะอยู่กับเคียวแห่งความตาย พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้

 

แต่ทว่าพวกเขายังยืนกรานจะขอหมายเลขติดต่อ พวกเขาอยากโน้มน้าวเขาอีกในอนาคต

 

หลังหลินฮวงปฏิเสธ เหล่าเทพสวรรค์ก็จากไป ผู้นำร่างท้วมจากศาลาสมบัติหน้าหนาสุด เขายื่นขอเสนอต่อเวอชุโอโซอีก

 

เวอชุโอโซยิ่งตรงไปตรงมากว่า แค่พูดว่า”ไม่สนใจ!”

 

ผู้นำร่างท้วมจากไปด้วยรอยยิ้มหลังได้ยินคำตอบ

Monster Paradise

Monster Paradise

Type: Author:
800ปีก่อน มีประตูมิติกว่า3000ที่เปิดกว้างทั่วโลก ในขณะที่ดวงตาที่แตกต่างกัน3000ดวงเปิดกว้างขึ้น ฝูงสัตว์ประหลาดนับล้านก็ได้พรั่งพรูออกมาจากมัน บางตัวสามารถที่จะทำลายกำแพงเมืองด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียว : พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตเท่ายักษ์และกินมนุษย์ บางตัวจะยึดติดกับมนุษย์ พวกมันจะดูดซับสารอาหารในร่างกายและทำให้มนุษย์เป็นทาส บางตัวจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองมนุษย์ ปลอมตัวเป็นมนุษย์ธรรมดาขณะที่ดูดเลือดเพื่อความเป็นอยู่ของมัน ในเวลากลางคืน มนุษย์จะกลายเป็นด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกได้กลายเป็นสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าสัตว์ประหลาด 800 years ago, 3000 dimensional gates opened across the entire world. In that moment, it was as if 3000 different colored eyes opened across the world as hordes of monsters swarmed out of these gates like tears. Some could destroy city walls with one strike; They had bodies the size of a giant and fed on humans Some latched onto humans, absorbing their bodies’ nutrients and enslaving humans Some infiltrated the humans’ cities, disguising themselves as normal human beings while feeding upon human blood to sustain themselves. In a night, the Human race fell to the bottom of the food chain. The world had turned into a paradise for monsters…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset