Monster Paradise – ตอนที่ 1549

ในฐานะสมาชิกสโมสรเช่นกัน ร่างหลักของเวอชุโอโซได้ทำการตรวจสอบหลินฮวงมาแล้ว

 

ไม่เพียงพวกเขาจะรู้ว่าเขาคือผู้บ่มเพาะดาบและผู้ใช้พลังจิต พวกเขายังรู้ว่าเขาเป็นผู้ควบคุม สิ่งีท่คนในแดนเทพไม่รู้

 

แม้จะอย่างนั้น เขาก็ยังเห็นหลินฮวงแสดงวิชาน่าเหลือเชื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ไม่ว่ามันจะเป็นความสามารถตรวจจับที่เขาเผยในดินแดนหุบเหววิบัติหรือวิชาป้องกันที่เขาแสดงในบึงหมอก ไม่มีบันทึกเช่นนี้ในสโมสรเลย

 

เดิมที เวอชุโอโซเชิญหลินฮวงให้เข้าร่วมกลุ่มแค่เพราะความสามารถต่อสู้เขา ด้วยความสามารถของเขาทั้งในฐานะผู้บ่มเพาะดาบและผู้ใช้พลังจิต มันหมายความว่าพลังโจมตีของเขาไม่เพียงจะน่าทึ่ง แต่เขายังมีวิชาโจมตีระยะไกลมาก

 

แต่ทว่า หลินฮวงได้แสดงความสามารถครอบคลุมกว่าที่เวอชุโอโซคิดไว้

 

ด้วยโล่ของเขา กลุ่มจึงเดินทางได้เร็วกว่าที่พวกเขาคิดในบึงหมอก ไร้อุปสรรคใด

 

การป้องกันของกระจกและความสามารถสะทท้อนน่ากลัวมาก เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนสงสัยว่าคงมีแค่เทพสวรรค์ขั้นเก้าถึงทำลายการป้องกันของหลินฮวงได้

 

“มีกลุ่มมอนสเตอร์บึงปีศาจด้านหน้า เราจะอ้อมไหม?”หลานหลิงถามทันที

 

นางถามเพราะมอนสเตอร์บึงปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างพิเศษ

 

พวกมันสามารถแปลงตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของบึงและซ่อนอย่างสมบูรณ์แบบในนั้น เมื่อพวกมันซ่อนตัว เทคนิคตรวจจับส่วนใหญ่จะไม่ได้ผล รวมถึงจิตเทวะ

 

โดยธรรมชาติ จิตเทวะไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง ถ้าระดับพลังของคนสูงกว่ามอนสเตอร์บึงปีศาจ มอนสเตอร์จะไม่สามารถซ่อนจากมันได้

 

นอกจากการปกปิดตัวเอง มอนสเตอร์บึงปีศาจยังเชี่ยวชาญในการลอบสังหาร ด้วยการอำพรางตัวอย่างสมบูรณ์แบบ การโจมตีของพวกมันจึงแทบคาดเดาไม่ได้

 

ทักษะลอบสังหารพวกมันอันตรายมากขึ้นภายในภูมิประเทศของบึงพิษ ถ้าเหยื่อตกลงในบึง มันแทบไม่มีโอกาสหลบหนี

 

ในพื้นที่หมอก แททบทุกคนเลือกหลีกเลี่ยงมอนสเตอร์ที่พวกเขาไม่สามารถสัมผัสได้

 

นั่นทำให้หลานหลิงยังถามคำถามเช่นนั้น ถึงแม้พวกนางจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วโดยไร้สิ่งกีดขวาง

 

เวอชุโอโซไม่ตอบคำถามเมื่อได้ยิน พวกเขาและจิ่วเจี้ยนมองหลินฮวง

 

“ไม่จำเป็นต้องอ้อม แค่มุ่งหน้าต่อไป”ไม่มีการเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าหลินฮวงเลย

 

คนอื่นโล่งใจ เนื่องจากหลินฮวงพูดแบบนั้น มันจึงหมายความว่าเขามั่นใจมากว่าจะผ่านมอนสเตอร์บึงปีศาจไปได้

 

ไม่ช้า หลานหลิงก็ส่งคำเตือน”มีมอนสเตอร์บึงปีศาจซ่อนตัวอยู่ด้านหน้าประมาณพันเมตร”

 

หลินฮวงปลดปล่อยจิตเทวะของเขาแต่ไม่พบอะไร

 

เขาอดลอบอานไม่ได้ว่าคาถาของหลานหลิงเป็นประโยชน์มาก

 

หลินฮวงส่งจิตเททวะของเขาออกไปอีกครั้งหลังกลุ่มได้เดินหน้าไปหลายร้อยเมตร เขาคิดว่าบางทีเขาคงพบบางสิ่งด้วยจิตเทวะเนื่องจากพวกเขาอยู่ใกล้แล้ว แต่ทว่า เขาก็ยังไม่พบอะไรผิดปกติ บึงดูเหมือนจะเงียบสงบมาก นอกจากพื้นจะเต็มไปด้วยโคลน ยังไม่มีอะไรอื่น

 

นอกจากหลินฮวง เวอชุโอโซกับคนอื่นยังส่งจิตเทวะออกไปแต่ไม่พบอะไรเช่นกัน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะคาถาตรวจจับของหลานหลิงสัมผัสถึงมอนสเตอร์บึงปีศาจเหล่านั้น บางทีทั้งกลุ่มคงตกลงไปในกับดักของมันแล้ว

 

ทั้งกลุ่มก้าวไปข้างหน้าต่อ แต่มอนสเตอร์บึงปีศาจได้ยับยั้งตัวเองและไม่โจมตี

 

มันโจมตีในวินาทีที่พวกหลินฮวงบินเหนือมัน

 

หนวดดำถ่านนับร้อยยิงขึ้นจากบึงราวกับภูเขาไฟปะทุ ห่อหุ้มทั้งกลุ่มเหมือนตาข่าย ราวกับมันอยากจับทั้งห้า

 

ถ้าหลานหลิงไม่เตือนล่วงหน้า การซุ่มโจมตีนี้อาจสำเร็จ แม้มันจะยากต่อการจับพวกหลินฮวง การโจมตีก็มากพอจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากสักพัก

 

แต่ทว่า เนื่องจากหลานหลิงพูดถึงมันแต่แรก พวกเขาจึงเตรียมตัวไว้แล้ว

 

วินาทีที่มอนสเตอร์บึงปีศาจโจมตี หลินฮวงก็ได้ตั้งกระจกไว้ใต้ตัวทุกคน

 

หนวดที่พยายามจับทุกคนโดนขวางตรง ๆ พูดตามตรง ไม่เพียงจะโดนขวาง แต่หนวดนับร้อยยังเด้งกลับวินาทีที่ชนกับกระจก

 

มอนสเตอร์บึงปีศาจที่ทำการโจมตีไม่คิดฝันว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ก่อนมันจะได้ตอบสนอง หนวดนับร้อยมันก็ถูกแทงจนพรุน ในชั่วพริบตา พลังชีวิตมันก็หมดไป

 

ซากศพสีเขียวน่าขยะแขยงลอยขึ้นจากบึงน้ำ และทุกคนก็สามารถเห็นหน้าตาจริงมันได้

 

 

มันคือมอนสเตอร์ร่างกายอ่อนนุ่ม มีสีเขียวทั้งตัว มีเนื้องอกหลายขนาดบนผิวมันที่เหมือนคางคก งตัวมันมีกลิ่นเหม็นเหน่าฉุนซึ่งเลวร้ายยิ่งกว่าบึงน้ำ

 

สหำรับหนวดมันที่ยื่นมาก่อนหน้า มันไม่ใช่ว่ามอนสเตอร์มีหนวด มันกลับเป็นส่วนเสริมของร่างกายมัน

 

หลังสัมผัสได้ถึงการตายของมอนสเตอร์บึงปีศาจ รวมถึงพลังกฏเทพและพลังลำดับเทพที่ไหลเข้าตัว หลินฮวงก็เลิกคิ้ว

 

แม้มอนสเตอร์บึงปีศาจจะมีระดับพลังแค่เทพสวรรค์ขั้นสี่ จำนวนพลังกฏเทพและพลังลำดับเทพที่เขาได้รับจากมันก็มากกว่ามอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่ระดับพลังเดียวกัน มันด้อยกว่าความตะกละและความโลภเล็กน้อย

 

นี่เป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับหลินฮวง

 

‘ข้าสงสัยว่านี่เป็นกรณีพิเศษ หรือมอนสเตอร์บึงปีศาจเชี่ยวชาญพลังกฏเทพมากมาย..’หลินฮวงสงสัย แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้คำตอบ

 

ไม่ช้า ทั้งกลุ่มก็พบมอนสเตอร์บึงปีศาจตัวที่สอง

 

หลินฮวงเป็นผู้นำในการฆ่ามันและได้ปล้นพลังกฏเทพจำนวนมากอีกครั้ง

 

มันเหมือนกันกับตัวที่สามและสี่ แต่ละตัวให้พลังกฏเทพจำนวนมาก

 

นี่ช่วยให้หลินฮวงมั่นใจว่ามอนสเตอร์บึงปีศาจจะมอบพลังกฏเทพจำนวนมากให้และตัวแรกไม่ใช่กรณีพิเศษ

 

แต่ทว่า เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมอนสเตอร์เช่นนี้ถึงมีพลังกฏเทพกับพลังลำดับเทพมากขนาดนี้ มันมากเกินกว่าปกติ

 

เขายังคงไขปริศนาต่อเรื่อยๆจนกระทั่งเวอชุโอโซพูดว่าพวกมันเป็นมอนสเตอร์มีพิษสูงที่ช่วยล้างขยะทั้งหมดของบึงน้ำ วิธีการของพวกมันคือกินทุกอย่าง

 

นี่ทำให้หลินฮวงคาดเดาได้ว่ามอนสเตอร์บึงปีศาจมีความสามารถคล้ายกับความตะกละ โดยที่พวกเขาสามารถได้รับพลังกฏเทพและพลังลำดับเทพจากศพของยอดฝีมือ

 

แต่ทว่า เหมือนความตะกละ แม้พวกมันจะได้รับพลังกฏเทพกับพลังลำดับเทพมากมาย แต่พวกมันก็ใช้ได้ไม่มาก ความสามารถโดยรวมพวกมันไม่ได้ทรงพลังไปกว่ามอนสเตอร์ระดับเดียวกัน

 

ในขณะเดียวกัน หลินฮวงสามารถใช้ประโยชน์จากมันที่ครอบครองพลังกฏเทพกับพลังลำดับเทพมากมาย

 

หลินฮวงผู้ซึ่งตอนแรกไม่สนใจมอนสเตอร์บึงปีศาจมีความสนใจอย่างมากหลังยืนยันว่ามอนสเตอร์เช่นนี้สามารถมอบพลังกฏเทพจำนวนมากให้เขาได้

 

ตอนนี้เขาอยู่ในกรอบความคิดล่า เขาตกอยู่ในโหมดล่าอย่างบ้าคลั่งอีกครั้งเหมือนตอนพวกความตะกละและความโลภ…

Monster Paradise

Monster Paradise

Type: Author:
800ปีก่อน มีประตูมิติกว่า3000ที่เปิดกว้างทั่วโลก ในขณะที่ดวงตาที่แตกต่างกัน3000ดวงเปิดกว้างขึ้น ฝูงสัตว์ประหลาดนับล้านก็ได้พรั่งพรูออกมาจากมัน บางตัวสามารถที่จะทำลายกำแพงเมืองด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียว : พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตเท่ายักษ์และกินมนุษย์ บางตัวจะยึดติดกับมนุษย์ พวกมันจะดูดซับสารอาหารในร่างกายและทำให้มนุษย์เป็นทาส บางตัวจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองมนุษย์ ปลอมตัวเป็นมนุษย์ธรรมดาขณะที่ดูดเลือดเพื่อความเป็นอยู่ของมัน ในเวลากลางคืน มนุษย์จะกลายเป็นด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกได้กลายเป็นสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าสัตว์ประหลาด 800 years ago, 3000 dimensional gates opened across the entire world. In that moment, it was as if 3000 different colored eyes opened across the world as hordes of monsters swarmed out of these gates like tears. Some could destroy city walls with one strike; They had bodies the size of a giant and fed on humans Some latched onto humans, absorbing their bodies’ nutrients and enslaving humans Some infiltrated the humans’ cities, disguising themselves as normal human beings while feeding upon human blood to sustain themselves. In a night, the Human race fell to the bottom of the food chain. The world had turned into a paradise for monsters…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset