My Disciples Are All Villains – ตอนที่ 133

สีวู่หยาได้โบกมือก่อนจะสั่งการขึ้น “ไปที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์”

 

“ท่านเจ้าสำนัก ในตอนนี้ที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยองครักษ์ของจักรวรรดิ พวกนั้นไม่อนุญาตให้รถม้าบินเข้าไปใกล้แน่ ข้ากังวลว่าพวกเราอาจจะเจอปัญหาเข้า”

 

ตามกฎที่มีในเมืองหลวง ทหารจักรวรรดิทุกคนสามารถกำจัดรถม้าบินได้ที่เข้าใกล้เมืองหลวงโดยไม่ทราบฝ่ายในทันทีได้ ถ้าหากมีการต่อสู้เกิดขึ้นจริงๆ สำนักแห่งความมืดจะต้องเสียเปรียบมากแน่ๆ เดิมทีคนจากสำนักแห่งความมืดก็ได้มีพลังที่เก่งการในการต่อสู้

 

“ไม่เป็นไร…ข้ามีเหรียญตราจักรพรรดิ พวกเราจะต้องเข้าเมืองหลวงได้แน่” สีวู่หยาพูดออกมาอย่างมั่นใจ

 

“ท่านเจ้าสำนัก ท่านช่างฉลาดหลักแหลมจริงๆ! พวกเราออกเดินทางได้! “

 

 

ในขณะเดียวกันลู่โจวก็ได้รับรางวัลเป็น 200 แต้มบุญจากการสั่งสอนซู่ฮ่องกงมา ตัวเขาลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะจ้องมองยังแต้มบุญที่มีในระบบ 8,962 คะแนน

 

‘ฉันจะต้องหาแต้มบุญอีก 3,000 แต้มเพื่อที่จะซื้อพลังร่างอวตารปัญจแห่งการเกิดใหม่’

 

ลู่โจวกำลังจินตนาการถึงรางวัลใหญ่ที่ได้มาจากการจับฉลากนำโชค ในตอนนั้นเองเขาก็ตัดสินใจที่จะเริ่มจับฉลาก

 

“จับฉลากนำโชค”

 

ลู่โจวได้จับฉลากนำโชคไปทั้งหมด 3 ครั้ง และทุกครั้งลู่โจวก็ได้ค่าความโชคดีมาทั้งหมด ในตอนนี้ตัวเขามีค่าความโชคดี 8 แต้มแล้ว

 

‘คงต้องลืมมันไปสินะ แต้มบุญที่หมิงซี่หยินได้มาจากการสั่งสอนศิษย์คนที่แปดมาในตอนนี้กลับถูกใช้หมดไปอย่างง่ายดาย’

 

ในตอนนั้นเองหยวนเอ๋อตัวน้อยก็ได้วิ่งเข้ามาจากด้านนอก “ท่านอาจารย์! “

 

ต้วนมู่เฉิง, จ้าวยู่ ทั้งสองคนเองก็วิ่งตามมาเช่นกัน

 

ลู่โจวผิดเมนูในระบบก่อนที่จะถามออกมาอย่างเยือกเย็น “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? “

 

“เจียงอาเฉียนได้ส่งข่าวมาบอกพวกเรา เจ้านั่นบอกว่าเหวยซู่หยานส่งคนมากว่า 3,000 คนเพื่อที่จะบุกภูเขาทองของพวกเรา ในตอนนี้เจ้าพวกนั้นผ่านเมืองอันยางมากันแล้ว” หยวนเอ๋อพูดรายงานขึ้น

 

ต้วนมู่เฉิงในตอนนั้นก็พูดออกมาอย่างเสียงดัง “เหวยซู่หยานคนนี้ไม่รู้จักอะไรเลวอะไรดีแล้วสินะ เจ้านั่นไม่แม้แต่จะยอมรับความผิดที่ก่อขึ้น แต่กลับส่งทหารมากันแบบนี้! ท่านอาจารย์ โปรดอนุญาตให้ข้าลงจากภูเขาเพื่อไปจัดการพวกนั้นด้วยเถอะ ข้าจะเป็นคนจัดการเจ้าพวกนั้นเอง”

 

จ้าวยู่เองก็พูดขึ้น “ศิษย์เองก็ขออนุญาตด้วย! “

 

เมื่อหยวนเอ๋อเห็นแบบนั้น เธอก็อยากที่จะไปช่วยศิษย์พี่ทั้งสอง “ศิษย์เองก็อยากลงภูเขาด้วยเช่นกัน! “

 

ลู่โจวโบกมือห้ามก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าคิดว่าเหวนซู่หยานคิดเรื่องนี้มาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เจ้านั่นกล้าส่งคนมามากมายขนาดนั้นเพื่อมาที่ภูเขาทองของพวกเรา”

 

“ท่านอาจารย์ เป็นไปได้ไหมที่เจ้าเหวยซู่หยานจะแข็งแกร่งกว่าสิบสุดยอดฝีมือ? ” หยวนเอ๋อได้ถามมาอย่างสงสัย

 

ลู่โจวพูดออกมาย่างไร้อารมณ์ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งของเจ้านั่นหรอก ข้าไม่คิดว่าเจ้าพวกนั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ซะด้วยซ้ำ แม้ว่าจะส่งคน 10,000 คนมามันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร”

 

จ้าวยู่ได้โค้งคำนับก่อนที่จะถามขึ้น “ท่านอาจารย์ ท่านกำลังบอกว่าคนพวกนี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะต่อสู้อย่างงั้นหรอ? “

 

ต้วนมู่เฉิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พยักหน้าเห็นด้วย “อันที่จริงศิษย์เองก็คิดแบบนั้น”

 

ในขณะนั้นเองผู้ฝึกยุทธหญิงก็ได้เดินเข้ามาก่อนที่จะโค้งคำนับให้ “ท่านปรมาจารย์ ศิษย์พี่สี่กลับมาแล้ว”

 

“ให้เจ้านั่นเข้ามา”

 

ในไม่นานหมิงซี่หยินก็ได้เดินกลับมาที่ห้องโถงใหญ่ “ท่านอาจารย์ข้าไปที่หุบเขาพยัคฆ์มาแล้ว ข้าได้เจอกับศิษย์น้องเจ็ดอีกด้วย เจ้านั่นสัญญากับข้าว่าจะเปิดกล่องให้ ข้าจะกลับไปเอากล่องทีหลังภายใน 7 วันต่อจากนี้”

 

“ดีมาก” ลู่โจวตอบกลับไป

 

หมิงซี่หยินยังคงถามต่อไป “ท่านอาจารย์ ท่านอยากให้ข้าพาศิษย์น้องแปดกลับมาด้วยไหม?”

 

ลู่โจวพูดออกมาพร้อมกับส่ายหัว “เจ้าเจ็ดกับเจ้าแปดน่ะใกล้ที่จะกลับมาแล้ว ถ้าหากเราจับเจ้าแปดกลับมาในตอนนี้ พวกเราจะไม่สามารถหาตัวเจ้าเจ็ดได้อีก เจ้าเจ็ดน่ะเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม เพราะแบบนั้นพวกเราควรจะปล่อยเจ้าแปดเอาไว้ก่อน”

 

“ความคิดของท่านอาจารย์ถูกต้องทุกอย่าง” หมิงซี่หยินได้พูดพร้อมกับโค้งคำนับให้

 

ลู่โจวมองไปที่หมิงซี่หยินก่อนที่จะพูดขึ้นอีก “เจ้าได้พบเจ้าเจ็ดรึเปล่า? “

 

หมิงซี่หยินพยักหน้า “แผนการของศิษย์น้องเจ็ดลึกล้ำเกินไป ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้านั่นถามหาเลย แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในศาลาปีศาจลอยฟ้าอีกต่อไป แต่ถึงแบบนั้นเจ้านั่นก็ยังเป็นศิษย์น้องของศิษย์อยู่ดี สุดท้ายแล้วศิษย์น้องก็ได้ใช้พัดขนนกยูงของเขาเปิดไปที่กล่อง ในตอนนี้พวกเราเหลือเพียงอาวุธของศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รองเท่านั้น ข้าคิดว่าด้วยมันสมองที่น้องเจ็ดมี ข้ามั่นใจมากว่าเขาจะต้องหาอาวุธทั้งหมดมาได้แน่”

 

ลู่โจวได้ส่ายหัวเล็กน้อย “เจ้าศิษย์ทรยศนั่นคงจะสนใจแต่สมบัติในกล่องสินะ”

 

“กล่องใบนั้นลึกลับมาก ยังไงศิษย์น้องเจ็ดก็คงไม่อาจที่จะใช้กำลังเปิดมันได้ กุญแจเปิดกล่องชิ้นสุดท้ายก็คือห่วงแห่งรัก ในตอนนี้มันอยู่ในมือของท่านอาจารย์แล้ว พวกศิษย์พี่กับศิษย์น้องเจ็ดคงจะไม่สามารถเอาสมบัติในกล่องไปได้แน่”

 

ลู่โจวได้หยุดคิดเรื่องนี้ไป ตัวเขาพอจะรู้จักสีวู่หยาอยู่บ้าง คนอย่างเขาคงจะไม่มีวันปล่อยกล่องสมบัติทิ้งเอาไว้แน่ มีมากมายหลายคนที่รู้เรื่องทรัพย์สมบัติของศาลาปีศาจลอยฟ้า ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายในใต้หล้าคงจะไม่รู้แน่ว่าทรัพย์สมบัติที่มีเพิ่มมากขึ้นหรือลดลงไป แทนที่จะทิ้งสมบัติเอาไว้ในกล่องอย่างไร้ค่า การเปิดกล่องขึ้นมาย่อมดีกว่า ยังไงซะสาวกทั้งเก้าก็มีสิทธิ์ที่จะครอบครองสมบัติที่เหลือมากที่สุด

 

“ตอนนี้ปล่อยเรื่องกล่องไปก่อนก็แล้วกัน” ลู่โจวได้พูดสรุปขึ้น

 

“ท่านอาจารย์…นี่คือวิธีการฝึกยุทธของศิษย์ ศิษย์ได้เขียนมันลงไปหมดแล้ว ได้โปรดช่วยชี้แนะด้วย” หยวนเอ๋อรีบวางกระดาษลงบนโต๊ะให้กับลู่โจวได้ดู

 

สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้ลู่โจวดูเหมือนกับอาจารย์แก่ๆ ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ส่วนหยวนเอ๋อเป็นหนึ่งในนักเรียนที่กำลังส่งการบ้านอยู่นั่นเอง ลู่โจวได้หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ขึ้นมาก่อนที่จะอ่านมันอย่างละเอียด

 

เคล็ดวิชาหยกแห่งความบริสุทธิ์ เคล็ดวิชานี้เองมุ่งเน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายและเน้นไปที่การใช้เพลงหมัดเพียงหมัดเดียว ผู้ฝึกยุทธจะต้องฝึกฝนร่างกายของตัวเองอย่างหนักเพื่อที่จะเปลี่ยนพลังธรรมชาติที่อยู่รอบตัวให้กลายเป็นพลังลมปราณของตัวเอง

 

โชคดีที่ลู่โจวพอมีความทรงจำส่วนหนึ่งที่ช่วยในการฝึกฝนเคล็ดวิชานี้อยู่ เพราะแบบนั้นลู่โจวยังคงคุ้นเคยกับมันอยู่ หลังจากที่มองผ่านเพียงแค่พริบตาเดียวเขาก้รู้ได้ทันทีว่าการฝึกฝนนี้ขาดอะไรไป

 

“ฮืม? ” ลู่โจวขมวดคิ้ว “รีบหยิบพู่กันขึ้นมา”

 

“ค่ะท่านอาจารย์” หยวนเอ๋อเตรียมอุปกรณ์สำหรับเขียนกระดาษทั้งหมดให้กับลู่โจวอย่างรวดเร็ว

 

ลู่โจวจุ่มพู่กันลงไปในหมึกก่อนที่จะเริ่มเขียนอะไรบางอย่าง เขาได้เติมเต็มการฝึกฝนที่ขาดลงไปในการฝึกฝนของหยวนเอ๋อ

 

ศิษย์ของเขาทุกคนมองไปที่ผู้เป็นอาจารย์อย่างกระวนกระวาย พวกเขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะพูดอะไรออกมา พวกเขาทั้งหมดทำได้แต่เพียงเฝ้ามองดูผู้เป็นอาจารย์อย่างเงียบๆ

 

ลู่โจวได้เติมเต็มการฝึกฝนตัวเองถึง 10 วิธีด้วยกัน เมื่อเขาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ลู่โจวก็ยิ่งประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะว่าหยวนเอ๋อสามารถฝึกฝนตัวเองในวิธีที่ขาดหายไปได้ เธอเติมเต็มการฝึกฝนด้วยพรสวรรค์ที่เธอมี

 

“หยวนเอ๋อ”

 

“ค่ะ ท่านอาจารย์”

 

“ข้าได้ปรับปรุงวิธีการฝึกฝนเจ้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว เจ้าจะต้องฝึกฝนต่อไปทางแนวทางที่ข้าเขียนไว้ให้” ลู่โจวพูดออกมาอย่างใจเย็น

 

หยวนเอ๋อรู้สึกดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น “ขอบคุณมากค่ะท่านอาจารย์! ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน ศิษย์จะต้องฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะก้าวเข้าสู่ขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์ศิทธิ์ให้ได้! ” หยวนเอ๋อรีบหยิบกระดาษของตัวเองกลับมาก่อนที่จะเริ่มอ่านข้อความที่มีในนั้น

 

เมื่อหมิงซี่หยินเห็นแบบนั้นเขาก็รีบพูดขึ้นมา “ข้าจะรีบกลับไปเขียนการฝึกฝนวรยุทธของข้าเดี๋ยวนี้” หมิงซี่หยินจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป เป็นเวลาผ่านมากว่าเนิ่นนานแล้วที่อาจารย์ของเขาไม่ได้ชี้แนะการฝึกฝนวรยุทธให้ ในตอนนี้หมิงซี่หยินจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

 

“ส่วนนี้คือการฝึกฝนของศิษย์” ต้วนมู่เฉิงได้ส่งวิธีการฝึกฝนตัวเองให้กับมือของลู่โจว

 

“และนี่คือวิธีการฝึกฝนตัวเองของศิษย์” จ้าวยู่เองก็ได้ส่งกระดาษให้บนโต๊ะเช่นกัน

 

‘ดูเหมือนการฝึกฝนเคล็ดวิชายุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์จะขาดอะไรไม่เท่าไหร่…’ ลู่โจวได้ใส่ข้อมูลที่จำเป็นที่ควรจะมีลงไปเท่านั้น

 

แต่เคล็ดวิชาหยกเจิดจรัสของจ้าวยู่ยังคงขาดส่วนที่สำคัญไปอยู่ เคล็ดวิชาหยกเจิดจรัสจะเป็นเคล็ดวิชาที่อาศัยจังหวะการเต้นของหัวใจ ถ้าหากสามารถควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจได้อย่างเหมาะสม ผู้ฝึกยุทธคนนั้นก็จะสามารถใช้พลังสุดลึกล้ำขึ้นมาได้ เมื่อสามารถใช้งานถึงขั้นสูงสุดได้ ผิวหนังของคนๆ นั้นก็จะเปลี่ยนไปราวกับสีของหยก เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วผู้ฝึกยุทธจะสามารถเพิ่มพลังกายของตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาพลังลมปราณได้ เคล็ดวิชานี้สามารถใช้ต่อสู้โดยไม่พักได้ และแหล่งพลังความแข็งแกร่งที่ได้มาก็ยังลึกล้ำไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย

 

หลังจากที่ใช้ความคิดเสร็จ ลู่โจวก็เขียนปรับแก้การฝึกเคล็ดวิชาหยกเจิดจรัสให้ “ทิ้งความคิด ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจ ผสานตัวเองให้เข้ากับโลกภายนอก ดื่มด่ำกับสิ่งที่มี เมื่อเจ้าทำแบบนั้นได้เจ้าก็จะบรรลุถึงพลังอันยืดหยุ่น นี่คือเคล็ดวิชาหยกเจิดจรัสขั้นสุดท้ายของเจ้า จ้าวยู่…”

 

“ค่ะ ท่านอาจารย์! “

 

“เจ้าในตอนนี้ยังไม่หายดี เพราะงั้นอย่าหักโหมมากจนเกินไป” ลู่โจวได้พูดตักเตือนเพิ่มเติม

 

“ได้ค่ะ ท่านอาจารย์”

 

“ติ้ง! สอนเคล็ดวิชาหยกแห่งความบริสุทธิ์สำเร็จ ได้รับแต้มบุญ 200”

 

“ติ้ง! สอนเคล็ดวิชายุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สำเร็จ ได้รับแต้มบุญ 200”

 

“ติ้ง! สอนเคล็ดวิชาหยกเจิดจรัสสำเร็จ ได้รับแต้มบุญ 200”

 

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains
Score 4.0
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง My Disciples Are All Villains ลู่โจวตื่นขึ้นมาเพื่อเป็นผู้เฒ่าผู้ชั่วร้ายที่ทรงพลังและเก่าแก่ที่สุดในโลก และพบว่าเขามีสาวกเก้าคนที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ศิษย์คนโตของเขาเป็นผู้นำนิกาย Nether ที่มีลูกน้องนับพัน และศิษย์คนที่สองของเขาคือ Sword Devil มักจะเข่นฆ่าผู้อื่นด้วยความขัดแย้งเพียงเล็กน้อย…หากไม่มีฐานการฝึกฝนของเขา เขาจะจัดการกับสาวกที่ชั่วร้ายเหล่านี้ได้อย่างไร ศิษย์คนโตของเขา Yu Zhenghai เล่าว่า “ชีวิตข้าไม่เคยมีคู่แข่ง และไม่มีใครนอกจากอาจารย์ที่สามารถทำให้ข้าก้มหัวได้” ศิษย์คนที่เจ็ดของเขา Si Wuya กล่าวว่า “เราจะกินหรือนอนอย่างสงบสุขไม่ได้ตราบเท่าที่ อาจารย์ยังไม่ตาย!”…หยวนเอ๋อศิษย์ที่เก้าของเขากล่าวว่า “ฉันจะจำสิ่งที่อาจารย์พูดและเป็นคนดี”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset