My Disciples Are All Villains – ตอนที่ 248

โจวจี้เฟิงได้ปรากฏตัวขึ้นมา การปรากฏตัวของเขาทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น ท้ายที่สุดแล้วการดูการต่อสู้เพียงอย่างเดียวนั้นก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อเกินไป แม้ว่าการต่อสู้จะดูตื่นเต้นในรอบแรก แต่เมื่อการต่อสู้จบลงแบบเดิมซ้ำๆ ทุกๆ คนก็เริ่มที่จะเบื่อ

 

ในตอนนั้นเองเหล่าสาวกสำนักดาบสวรรค์ก็เริ่มที่จะสาปแช่งโจวจี้เฟิง “โจวจี้เฟิง เจ้าน่ะเป็นศิษย์ทรยศของสำนักดาบสวรรค์แท้ๆ! ไหนยังจะกล้าเสนอหน้ามาที่นี่ได้? “

 

“เจ้าคนทรยศ! “

 

“ประหารเจ้าคนทรยศซะ! “

 

คนทรยศมักจะถูกผู้คนดูถูกมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเป็นคนจากสำนักฝ่ายธรรมะหรืออธรรมก็ตามที

 

นี่ถือเป็นเรื่องขัดแย้งระหว่างศาลาปีศาจลอยฟ้าและสำนักดาบสวรรค์ ผู้คนของสำนักดาบสวรรค์ไม่ได้สนใจชีวิตอีกต่อไป พวกเขายอมทำทุกอย่างก็เพื่อที่จะยั่วยุศาลาปีศาจลอยฟ้าให้มาที่นี่ แล้วโจวจี้เฟิงต้องการอะไรในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้กันแน่?

 

ลั่วซิงกงเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก “โจวจี้เฟิง ข้าเสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้ฆ่าเจ้าในตอนที่เจ้าติดตามลูกข้าฉางเฟิงอยู่ วันนี้แหละจะเป็นวันตายของเจ้า! “

 

โจวจี้เฟิงมองไปที่ลั่วซิงกงก่อนที่จะพูดตอบกลับไป “ลั่วฉางเฟิงเลี้ยงดูข้าก็เพื่อพัฒนาพลังวรยุทธของตัวเอง เจ้านั่น…มันฆ่าครอบครัวของข้าก็เพื่อที่จะทำแบบนั้นไม่ใช่หรอ? ” เสียงของลั่วซิงกงฟังดูสงบเยือกเย็น แม้ว่าจะฟังดูสงบแต่มันก็เต็มไปด้วยพลังลมปราณ

 

เมื่อได้ยินแบบนั้นเหล่าผู้ชมต่างก็แตกตื่นออกมาอีกครั้ง ลั่วฉางเฟิงถือเป็นคนของสำนักฝ่ายธรรมะ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตกใจเมื่อลั่วฉางเฟิงได้ทำเรื่องแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าโจวจี้เฟิงเป็นหนึ่งในศิษย์คนสนิทของลั่วฉางเฟิง เรื่องที่เกิดขึ้นดูมีมูลความจริงเกินกว่าที่จะมองข้ามไปได้

 

“โกหก! ลูกชายของข้าทำแต่ความดีไม่เคยทำเรื่องชั่วๆ มาก่อน เจ้ากล้าใส่ร้ายคนตายก็เพื่อที่จะเข้ารวมศาลาปีศาจลอยฟ้าสินะ? ” ลั่วซิงกงได้พูดตอบกลับไป

 

โจวจี้เฟิงรู้อยู่แล้วว่าลั่วซิงกงจะไม่ใช่ เพราะแบบนั้นตัวเขาจึงไม่ได้ประหลาดใจอะไร “ข้ามาจากสกุลเจียง ตระกูลเจียงของข้าอยู่ที่มณฑลยี่…”

 

“ตระกูลเจียงจากมณฑลยี่อย่างงั้นหรอ? ตระกูลเจียงถือได้เป็นตระกูลที่สร้างเหล่าอัจฉริยะมากมายหลายรุ่น…” มีใครคนหนึ่งได้พูดออกมาอย่างประหลาดใจ

 

“โจวจี้เฟิงมาจากตระกูลเจียงอย่างงั้นหรอ? แล้ว…แล้วพวกเราจะรู้ได้ไงว่าเขาพูดความจริงกัน? “

 

โจวจี้เฟิงได้พูดต่อไป “ข้ามีเครื่องหมายพิเศษประจำตระกูลอยู่บนร่างกายของข้า…การฝึกฝนวรยุทธของข้าเข้ากันได้ดีกับลั่วฉางเฟิง วรยุทธขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์แบ่งออกเป็น 3 ระดับด้วยกัน ระดับแรกฐานแห่งเต๋า, ระดับที่สองเต๋าแห่งโกลาหล และระดับสุดท้ายเต๋าผสมผสาน มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะฝึกไปถึงขั้นเต๋าผสมผสานได้…” ในตอนนั้นเองดาบที่อยู่บนด้านหลังของโจวจี้เฟิงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ดาบของเขาได้เคลื่อนที่ไปบนอากาศ ดาบของเขาได้แยกเงาออกมาหลายๆ เงาก่อนที่จะผสานกันเป็นหนึ่งเดียว

 

“นั่นมันวิชาดาบของลั่วฉางเฟิง…ไม่มีใครในสำนักดาบสวรรค์เชี่ยวชาญวิชานี้นอกซะจากโจวจี้เฟิง”

 

ดาบของโจวจี้เฟิงกลับมาหาตัวเขา ในตอนนั้นเงาของดาบนับพันก็ได้หมุนรอบโจวจี้เฟิง เห็นได้ชัดว่าการควบคุมพลังดาบของโจวจี้เฟิงมันแม่นยำแค่ไหน เสื้อผ้าของเขาไม่ได้รับความเสียหายจากการใช้ดาบเลย

 

เหล่าผู้ชมต่างก็จับจ้องมาอย่างประหลาดใจอีกครั้ง

 

แม้ว่ามันจะไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่ดูทรงพลัง แต่การที่จะหาคนที่สามารถควบคุมดาบได้ดีถึงเพียงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ดาบที่โจวจี้เฟิงได้หมุนไปกับสายลม มันดูคล้ายกับกงจักรซึ่งเป็นกระบวนท่าของลั่วฉางเฟิง โจวจี้เฟิงได้หันหลังให้ก่อนที่จะแสดงสัญลักษณ์ที่มีอยู่บนหลังให้กับทุกคนได้เห็น มันเป็นเครื่องหมายที่อยู่บนไหล่ของเขานั่นเอง

 

หลายๆ คนในฝูงชนจดจำเครื่องหมายนั้นได้

 

“นั่นมันสัญลักษณ์ของตระกูลเจียง…ตระกูลเจียงมักจะตีตราเครื่องหมายนี้เอาไว้บนไหล่ของคนในครอบครัว นั่นมันไม่ผิดแน่ เครื่องหมายของตระกูลเจียง! “

 

“น่าเสียดายที่ตระกูลเจียงถูกกวาดล้างไปเมื่อ 30 ปีก่อน ลือมาว่าคนร้ายเป็นผู้ใช้ดาบยอดฝีมือ…”

 

โจวจี้เฟิงมองไปรอบๆ ตัวเองก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันมั่นใจ “คนที่ฆ่าครอบครัวของข้าไม่ใช่ศาลาปีศาจลอยฟ้า คนที่ฆ่าครอบครัวของข้าก็คือสำนักฝ่ายธรรมะ เจ้าสำนักดาบสวรรค์ลั่วฉางเฟิง! ” โจวจี้เฟิงได้พูดออกมาด้วยความโกรธแค้นก่อนที่จะชี้ไปทางสำนักดาบสวรรค์

 

แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ แต่ก็มีหลายคนที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ หลักฐานรวมไปถึงคำพูดของโจวจี้เฟิงดูมีน้ำหนักเกินไป แม้แต่ผู้คนที่ไม่ชื่นชอบศาลาปีศาจลอยฟ้าเองก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อโจวจี้เฟิง…

 

“ถุ้ย! สำนักดาบสวรรค์นี่มันทุเรศซะจริง! “

 

“ถุ้ย! “

 

“สำนักดาบสวรรค์มักจะพูดว่าตัวเองยึดถือเส้นทางแห่งยุติธรรมเสมอ แต่การกระทำของพวกเขากลับสวนทางกัน สมควรแล้วล่ะที่เจ้าพวกนั้นถูกสวรรค์ลงโทษแบบนี้! “

 

ผู้ชมหลายคนต่างก็แสดงความคิดออกมาอย่างมีอารมณ์ ในตอนนั้นเองเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยแสดงความคิดเห็น

 

ความคิดเห็นของเหล่าผู้ชมเริ่มเพิ่มเติมมากขึ้น ฝูงชนทั้งหลายเริ่มพูดสาปแช่งสิ่งที่สำนักดาบสวรรค์ทำ ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ด่าจดหมายทั้ง 13 ฉบับที่ลั่วซิงกงเคยเขียนขึ้น

 

“ลั่วซิงกง ข้ารู้สึกละอายใจแทนลูกชายที่ไร้ยางอายของเจ้าซะจริง…ถ้าหากเป็นข้า ข้าก็คงจะฆ่าตัวตายชดใช้ความอับอายนี้ไปแล้ว! “

 

ลั่วซิงกงเป็นคนที่กังวลกับชื่อเสียงของตัวเอง เขาไม่ใช่คนที่จะยอมให้ชื่อของตัวเองมีความด่างพร้อยได้ ตัวเขาเองก็จะไม่ยอมให้ชื่อเสียงของสำนักมัวหมองด้วยเช่นกัน ลั่วซิงกงจะไปทนให้เหล่าฝูงชนดูถูกชื่อเสียงของตัวเองได้ยังไงกัน?

 

“เจ้า…เจ้า…” ลั่วซิงกงมองไปที่โจวจี้เฟิง หลังจากนั้นเขาก็เดินโซเซถอยหลังกลับไป ตัวเขาโกรธจนกระอักเลือดออกมา “ท่านเจ้าสำนัก! ” สาวกทั้งสองรีบเข้าไปพยุงตัวของลั่วซิงกง

 

จนถึงตอนนี้ฝูงชนเริ่มสาปแช่งลั่วซิงกงรวมไปถึงสำนักดาบสวรรค์น้อยลง ในตอนนี้เริ่มมีคนหัวเราะเยาะแทน

 

“สมน้ำหน้า เจ้านั่นน่ะสมควรที่จะได้รับมันแล้ว! “

 

ลั่วซิงกงรู้สึกเวียนหัวเมื่อต้องฟังคำสบประมาททั้งหมดที่มี

 

หมิงซี่หยินได้พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ตาแก่ ดูเหมือนว่าเจ้าจะบาดเจ็บภายในอยู่นะ…”

 

ดูเหมือนว่าลั่วซิงกงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่น่าแปลกใจที่ตัวเขาจะเร่งรีบแก้แค้นแบบนี้

 

โจวจี้เฟิงมองไปที่ลั่วซิงกงอย่างเย็นชา ตัวเขาชี้ไปยังลั่วซิงกงก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าไม่ได้ฆ่าลั่วฉางเฟิงกับมือตัวเองเพื่อที่จะแก้แค้นในตอนนั้น เพราะแบบนั้นข้าจะฆ่าเจ้าเพื่อแก้แค้นให้กับครอบครัวของข้าเอง! ” ดาบของโจวจี้เฟิงร่ายรำท่ามกลางแท่นประลอง มันได้ลอยไปหาลั่วซิงกง

 

ลั่วซิงกงยกแขนขึ้นมา สาวกทั้งสองเองเดินเซกลับไปที่ด้านหลัง แม้ว่าลั่วซิงกงจะได้รับบาดเจ็บภายใน แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ใช่คนที่โจวจี้เฟิงผู้ที่มีพลังระดับศักดิ์สิทธิ์จะจัดการได้โดยง่าย ลั่วซิงกงได้กางแขนออกมาเพื่อที่จะต้านพลังของโจวจี้เฟิง

 

พลังร่างอวตารของลั่วซิงกงได้ปรากฏขึ้นมา มันได้ต้านทานการโจมตีทั้งหมดของโจวจี้เฟิงเอาไว้

 

หมิงซี่หยินได้ปรากฏตัวขึ้นมาบนอากาศก่อนที่จะพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ให้ข้าเป็นคู่ต่อสู้เจ้าเอง…”

 

“เจ้าคิดว่าจะหยุดข้าได้อย่างงั้นหรอ? ” ลั่วซิงกงได้พูดออกมาด้วยความโกรธ

 

หมิงซี่หยินได้หัวเราะออกมา “ใช่ ข้าคิดแบบนั้น เจ้าน่ะมันไร้ยางอายจริงๆ “

 

ลั่วซิงกงหันไปหาลู่โจวก่อนที่จะพูดออกมาอย่างเย็นชา “เจ้าฆ่าลูกชายข้า เพื่อความยุติธรรมข้าจะเป็นผู้สังหารศิษย์ของเจ้าคนหนึ่งเอง” หลังจากพูดจบเขาก็หันไปหาหมิงซี่หยินที่กำลังลอยอยู่บนอากาศ ลั่วซิงกงยกมือขึ้นมา ในตอนนั้นมีพลังลมปราณผันผวนอยู่ที่มือของเขา หลังจากที่พลังลมปราณได้จางหายไป ในตอนนั้นก็ได้มีดาบเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น

 

“ดาบแห่งการเรียนรู้”

 

“นั่นมันอาวุธระดับสรวงสวรรค์” มีผู้ชมคนหนึ่งตะโกนออกมา

 

ดาบแห่งการเรียนรู้ได้หมุนรอบตัวเองอยู่เหนือฝ่ามือของลั่วซิงกง ในตอนนั้นเองคลื่นพลังดาบก็ได้ลอยตรงไปที่หมิงซี่หยิน

 

หมิงซี่หยินรีบใช้พลังร่างอวตารของเขาก่อนที่จะลงไปที่พื้น

 

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

 

เคียวพื้นพิภพเองก็ได้ปรากฏขึ้นมาเช่นกัน

 

“เจ้ากล้ามาสู้กับข้าด้วยพลังร่างอวตารดอกบัว 1 กลีบอย่างงั้นหรอ? ” ลั่วซิงกงเพิ่มพลังในการโจมตี

 

ในตอนนั้นหมิงซี่หยินได้พุ่งผ่านคลื่นพลังดาบมาก่อนที่จะตรงไปยังคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว

 

พรึ๊บ!

 

หมิงซี่หยินได้ใช้เคียวพื้นพิภพเสียบแทงไปที่ลั่วซิงกง

 

ลั่วซิงกงได้ยกฝ่ามือขึ้นมาป้องกันด้วยพลังลมปราณก่อนที่จะถอยกลับไปจากแรงกระแทก

 

“เยี่ยม! ” ฝูงชนต่างก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

 

“นั่นมันเป็นการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย! “

 

“เป็นไปตามคาด ศิษย์ศาลาปีศาจลอยฟ้าคนนั้นรู้ดีว่าจะต้องรับมือกับการต่อสู้และจะใช้อาวุธให้ได้เปรียบยังไง”

 

ในตอนนั้นหมิงซี่หยินก็สามารถเข้าใกล้ลั่วซิงกงได้สำเร็จ

 

พลังของอาวุธระดับสรวงสวรรค์ไม่ใช่อะไรที่มองข้ามได้ ลั่วซิงกงได้สะดุดถอยกลับไปด้านหลังก่อนที่จะพยายามทรงตัวอีกครั้ง

 

หมิงซี่หยินที่ยืนอยู่ได้ยิ้มออกมา “ใครบอกว่าข้าเป็นแค่ผู้ใช้พลังร่างอวตารดอกบัว 1 กลีบกัน? “

 

“อย่างเจ้าก็คงจะมีแค่ดอกบัว 2 กลีบอย่างงั้นสินะ? “

 

“แล้วใครบอกเจ้ากันว่าข้ามีพลังร่างอวตาร 2 กลีบน่ะ? ” หมิงซี่หยินตอบโต้กลับไปพร้อมรอยยิ้ม

 

เหล่าผู้ชมต่างก็ตกใจ

 

ในตอนนั้นเองหมิงซี่หยินก็ได้มองลงไปที่เท้า แสงสว่างสีเขียวก็ได้ส่องสว่างขึ้นมา

 

“นั่นมันวิชากระจกแห่งแสงของวิถีพุทธ! “

 

“มีชาวพุทธยอดฝีมืออยู่ใกล้ๆ นี่! “

 

วิชากระจกแห่งแสงเป็นวิชาพื้นที่รูปแบบหนึ่ง มันจะต้องใช้เวลาในการใช้ล่วงหน้ากว่าที่มันจะแสดงผลออกมาได้ ถ้าหากสำนักดาบสวรรค์สามารถใช้เคล็ดวิชานี้อีกครั้งได้ มันจะต้องมีชาวพุทธยอดฝีมือคอยให้ความช่วยเหลือพวกเขาอยู่แน่ ดูเหมือนว่าสำนักดาบสวรรค์จะได้รับความช่วยเหลืออยู่ คนคนนี้ทำให้สำนักดาบสวรรค์รู้สึกมั่นใจอย่างงั้นสินะ?

 

ในตอนนั้นเองก็มีแสงปรากฏขึ้นที่พื้นของลั่วซิงกง ด้านหลังของลั่วซิงกงได้มีคนกว่าหลายสิบคนบินผ่านไป

 

“ทุกคนล้วนทำผิดพลาดกันได้ รู้ผิดก็ควรจะรู้แก้ พวกเราควรจะให้อภัยกับคนที่พลั้งพลาดไป “

 

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains
Score 4.0
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง My Disciples Are All Villains ลู่โจวตื่นขึ้นมาเพื่อเป็นผู้เฒ่าผู้ชั่วร้ายที่ทรงพลังและเก่าแก่ที่สุดในโลก และพบว่าเขามีสาวกเก้าคนที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ศิษย์คนโตของเขาเป็นผู้นำนิกาย Nether ที่มีลูกน้องนับพัน และศิษย์คนที่สองของเขาคือ Sword Devil มักจะเข่นฆ่าผู้อื่นด้วยความขัดแย้งเพียงเล็กน้อย…หากไม่มีฐานการฝึกฝนของเขา เขาจะจัดการกับสาวกที่ชั่วร้ายเหล่านี้ได้อย่างไร ศิษย์คนโตของเขา Yu Zhenghai เล่าว่า “ชีวิตข้าไม่เคยมีคู่แข่ง และไม่มีใครนอกจากอาจารย์ที่สามารถทำให้ข้าก้มหัวได้” ศิษย์คนที่เจ็ดของเขา Si Wuya กล่าวว่า “เราจะกินหรือนอนอย่างสงบสุขไม่ได้ตราบเท่าที่ อาจารย์ยังไม่ตาย!”…หยวนเอ๋อศิษย์ที่เก้าของเขากล่าวว่า “ฉันจะจำสิ่งที่อาจารย์พูดและเป็นคนดี”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset