My Disciples Are All Villains – ตอนที่ 61

ชายแปลกหน้าได้พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “แล้วทำไมพวกเจ้าถึงเลือกที่จะหนีกันล่ะ”

 

หยวนเอ๋อในตอนนั้นกำลังจะตอบกลับ แต่เธอก็จำได้ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถเปิดเผยตัวเองได้ ดังนั้นเธอจึงพยายามปิดปากเพื่อไม่ให้หลุดพูดออกมาอีกต่อไป

 

เมื่อชายหนุ่มแปลกหน้าเห็นหยวนเอ๋อมีท่าทีลังเล ในตอนนั้นเองเขาก็พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอีกครั้ง “ข้าเฝ้าสังเกตพวกเจ้ามาตลอดทั้งคืน อย่ามาหลอกกันเลยดีกว่า เด็กน้อยเจ้าน่ะเป็นผู้ฝึกยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์ ส่วนนายท่านท่านนี้เองก็มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง เขาคงจะมีวรยุทธอยู่ที่ขั้นสังหรณ์หยั่งรู้อย่างแน่นอน”

 

หลังจากนั้นชายคนนั้นก็ได้ปัดมือก่อนจะพูดต่อไป “กลับมาที่เรื่องของพวกเราจะดีกว่า คนที่สองที่จะจัดการกับซูผิงได้นั่นก็คือชายผู้ใช้ดาบ เขาเป็นผู้ที่ฝึกดาบจนไปถึงขั้นสุดยอดได้ ชายคนนั้นมีชื่อว่ายู่ฉางตง เขาเป็นลูกศิษย์คนที่สองของศาลาปีศาจลอยฟ้า

 

“แล้วใครคือคนที่สาม? “

 

“คนที่สามที่ข้าพูดถึงอยู่ไม่ห่างมากนัก เอาจริงๆ แล้วเขาคนนั้นอยู่ใกล้มาก”

 

“เจ้าหมายถึงคนจากสำนักดาบปีศาจเฉิงเหวินเจี๋ยอย่างงั้นหรอ? ” ลู่โจวได้ถามออกมาอย่างสงสัย

 

“ไม่ ไม่ใช่…แม้ว่าเฉินเหวินเจี๋ยจะเป็นคนที่หลงไหลในดาบแต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ใช่คนที่รักในดาบหรอกนะ ข้ากับเจ้านั่นน่ะแตกต่างกัน ข้าน่ะชื่นชอบในดาบและการใช้ดาบมาก…ไม่เหมือนกับเจ้าเฉิงเหวินเจี๋ย เจ้านั่นน่ะมีท่าทีที่ไม่ชัดเจน คนอย่างเจ้านั้นไม่ช้าก็เร็วจะต้องได้พบกับจุดจบอันน่าสยดสยองแน่” ชายหนุ่มคนนั้นพูดออกมาอย่างโกรธแค้น

 

ทันทีที่ลู่โจวได้ยินคำพูดแบบนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้เป็นใคร “เจ้าเป็นชายผู้รักดาบจนเปรียบเสมือนแขนและขาของตัวเอง เจียงอาเฉียน! “

 

เจียงอาเฉียนได้เปลี่ยนฉายาของเขาเพื่อแสดงความเคารพที่แท้จริงที่มีให้กับดาบที่เขารัก การมีชีวิตอยู่ของชายคนนี้มีไว้เพื่อเพียงตามหาดาบที่คู่ควรเท่านั้น ตัวเขานับว่าเป็นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธผู้ชั่วร้ายโดยแท้จริง เขายอมที่จะทรยศทุกคนในโลกยุทธภพเพียงเพื่อแย่งชิงดาบเพียงเท่านั้น

 

วรยุทธที่ชายคนนี้มีเองก็สูงมากเช่นกัน พลังของเขามีมากพอที่จะทำให้หลบหนีจากฆาตกรผู้ที่สังหารซูผิงได้ ชายคนนี้มีความต้องการอยู่เพียงสองอย่างเท่านั้น ความต้องการแรกก็คือความรักที่เขามีให้ต่อดาบ และความต้องการอย่างที่สองมีเพียงการอยู่ให้ห่างจากปัญหาเพียงเท่านั้น และก็เพราะความต้องการอย่างที่สองนี้เองทำให้ตัวเขาสามารถเอาตัวรอดจากปัญหาใหญ่มาหลายครั้งต่อหลายครั้ง

 

“ท่านน่ะพูดเกินไปแล้ว” เจียงอาเฉียนพูดพร้อมรอยยิ้ม

 

ลู่โจวในตอนนี้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบอาวุธนิรนามที่ตัวเขามีขึ้นมา ในตอนนี้อาวุธนิรนามอยู่ในลักษณะของมีดสั้น มันดูงดงามเป็นอย่างมาก

 

เจียงอาเฉียนตกตะลึงทันทีที่ได้เห็น ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อจ้องมองไปที่อาวุธอันนั้น มันสวยงามอย่างแท้จริง ความยาวที่ไม่ยาวเกินไปรวมไปถึงการออกแบบแบบกะทัดรัดทำให้เขารู้สึกหลงใหลในสิ่งที่เห็น เจียงอาเฉียนได้พูดออกมาอย่างตื่นเต้น “นะ…นายท่าน…”

 

ลู่โจวโบกมือขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนั้นเองอาวุธนิรนามก็ได้หายสาบสูญไป ลู่โจวที่เก็บอาวุธได้พูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึก “ถ้าหากเจ้าอยากที่จะมีชีวิตอยู่อย่า่งสงบสุขต่อไปเจ้าก็ไม่ควรจะมายุ่งกับอาวุธชิ้นนี้นะ”

 

แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!

 

ในตอนนั้นเองเสียงระฆังก็ได้ดังมาจากพิธีศักดิ์สิทธิ์

 

ลู่โจวในตอนนั้นขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

 

พิธีศักดิ์สิทธิ์เป็นพิธีการที่ยิ่งใหญ่ที่สำนักฝ่ายธรรมะและสำนักฝ่ายอธรรมจะเข้ามาร่วมพิธีกัน แล้วทำไมถึงมีเสียงระฆังแบบนี้กัน?

 

เจียงอาเฉียนที่ได้ยินเสียงระฆังเองก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “นายท่าน ที่พิธีศักดิ์สิทธิ์น่ะเต็มไปด้วยคนแปลกประหลาด! เหล่าผู้ฝึกยุทธจากสำนักต่างๆ ในยุทธภพต่างก็มารวมตัวกัน สถานที่แห่งนี้น่ะมันอันตรายเกินไป ข้าแนะนำว่าท่านอย่าได้ไปที่พิธีแห่งนั้นจะดีกว่านะ ข้าได้ยินมาว่าพระธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาเลือกมในครั้งนี้เป็นศิษย์วายร้ายคนที่ห้าจากภูเขาทอง” หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อไป “ช่างน่าขันจริงๆ ปีศาจผู้ชั่วร้ายถูกเลือกเป็นพระธิดาศักดิ์สิทธิ์แบบนี้”

 

ลู่โจวไม่ได้สนใจคำเตือนแต่อย่างน้อย

 

เจียงอาเฉียนได้พูดออกมาอีกครั้ง “ถ้าหากพวกเจ้าวางแผนที่จะไปฆ่าตัวตายจริงๆ ก็ดี ข้าเองก็จะได้อาวุธด้วย ในเวลานั้นข้าจะเป็นคนฝังศพของพวกเจ้าด้วยมือข้างนี้เอง ข้าจะจดจำทุกอย่างเอาไว้เป็นอย่างดี”

 

ทันทีที่เจียงอาเฉียน หยวนเอ๋อก็พูดตอบกลับมาอย่างหงุดหงิด “ให้ข้าจัดการเจ้านี้เอง! ” ร่างกายของหยวนเอ๋อได้ลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างสง่างาม เธอในตอนนี้ราวกับว่าเป็นธิดาที่ร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์ ในตอนนั้นพลังลมปราณที่แข็งแกร่งของเธอก็ได้เอ่อล้นออกมา

 

เจียงอาเฉียนปัดป้องคลื่นพลังที่เอ่อล้นออกมาไว้ได้ แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ต้องล่าถอยกลับไป เจียงอาเฉียนได้แต่พูดออกมาอย่างไม่ถนัดเท่าไหร่ “เจ้าหนูนี่เป็นเด็กที่น่ากลัวอะไรแบบนี้…ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาๆ อย่างงั้นสินะ”

 

หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้ตอบกลับอย่างเย้ยหยัน “ข้าจะโจมตีเจ้าจนกว่าฟันจะร่วงหมดปากเอง”

 

“เจ้าหนู อย่าบังคับให้ข้าต้องใช้ดาบเลยนะ” เจียงอาเฉียนถอยกลับไปก่อนที่จะพูดเตือนออกมาอีกครั้ง

 

แก๊ง! แก๊ง!

 

เสียงระฆังจากพิธีศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเรื่องด่วน

 

ลู่โจวเหลือบมองไปที่เจียงอาเฉียนอย่างไม่ใส่ใจไยดี

 

‘เจ้านี่ก็เป็นเพียงคนชั่วจอมขี้โกงที่รักดาบเพียงเท่านั้น… ฉันไม่ควรที่จะใช้การ์ดกับเขาไปอย่างเปล่าประโยชน์ เมื่อคิดได้แบบนั้นลู่โจวจึงหันไปพูดกับหยวนเอ๋อ “หยวนเอ๋อ พวกเราไปกันได้แล้ว! “‘

 

ทันใดนั้นเองเสียงคำรามก็ได้ดังออกมาจากป่าใกล้ๆ

 

เสียงคำรามเป็นของสัตว์ขี่ขนาดใหญ่ยักษ์อย่างบี่เอี๊ยนนั่นเอง สัตว์ขี่ของลู่โจวกำลังพุ่งมาหาตัวเขา เสียงคำรามของมันทำให้สัตว์ป่าที่อยู่ใกล้รู้สึกตื่นกลัว พลังออร่าของเจ้าแห่งสัตว์ร้ายได้ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัวของมันรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก

 

เจียงอาเฉียนตกใจเมื่อเห็นสัตว์ขี่ในตำนานเข้า ตัวเขารีบถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็วในทันที เจียงอาเฉียนได้มองไปที่หยวนเอ๋อที่พยายามกำลังจะโจมตีตัวเขาอยู่ “เจ้ามันอัจฉริยะจริงๆ …”

 

ผู้ที่ครอบครองสัตว์ขี่ในตำนานแบบนี้ได้จะต้องเป็นพวกยอดฝีมือไม่ก็เป็นชนชั้นสูงไม่ผิดแน่ แม้ว่าตาแก่ที่อยู่ตรงหน้าจะมีวรยุทธ์อยู่ในระดับที่อ่อนแอ แต่ถึงแบบนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าเบื้องหลังชายคนนี้จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาๆ อย่างแน่นอน

 

แม้ว่าเจียงอาเฉียนจะรักในดาบมากแค่ไหนตัวเขาก็ยังรักชีวิตมากกว่าเดิม เจียงอาเฉียนที่ไม่อาจทำอะไรได้อีกต่อไปได้แต่พูดขึ้นในขณะที่อยู่กลางอากาศ “นายท่าน…พิธีศักดิ์สิทธิ์นั่นน่ะอันตรายมาก…ทำไมท่านถึงไม่ไปที่อื่นกันล่ะ? “

 

“ข้าดูแลตัวเองได้” ลู่โจวกระโดดขึ้นไปที่หลังบี่เอี๊ยนก่อนที่จะออกเดินทางในทันที

 

บี่เอี๊ยนได้แยกเขี้ยวใส่เจียงอาเฉียน

 

หยวนเอ๋อเหลือบมองไปที่เจียงอาเฉียนอย่างเย้ยหยันก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปบนหลังของบี่เอี๊ยนเช่นกัน

 

เจียงอาเฉียนได้แต่มองดูทั้งคู่จากไปอย่างเร่งรีบ ตัวเขาลูบคางตัวเองก่อนที่จะครุ่นคิดขึ้น ‘หรือว่าข้าควรจะตามไปดี? จะเป็นยังไงถ้าหากไปเจอปรมาจารย์มหาวายร้ายเข้าล่ะ? ‘ แค่คิดเจียงอาเฉียนก็รู้สึกกลัวจนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตัวเขาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจได้ “การที่ไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องของชาวบ้านก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าอยู่ดี ยังไงซะข้าค่อยไปเก็บอาวุธชิ้นนั้นในตอนที่เจ้านั่นตายก็ยังไม่สาย” เจียงอาเฉียนได้แต่มองดูทั้งคู่จากไปในที่ไกลแสนไกล

 

 

แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!

 

ที่พิธีศักดิ์สิทธิ์

 

รถม้าขนาดใหญ่จากวิหารแห่งความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ได้ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ ในตอนนั้นเองเหล่านักบวชกว่าหลายสิบคนต่างก็สวดมนตร์พร้อมกับพนมมือเอาไว้ เสียงสวดมนตร์ของพวกเขาดังไปทั่วอากาศ

 

ลู่โจวและหยวนเอ๋อที่ยังคงอยู่ห่างออกไปได้ยินเสียงสวดมนตร์อันนั้นเอง มันเป็นเสียงที่น่ารำคาญราวกับเสียงของพวกแมลง แต่ถึงแบบนั้นลู่โจวก็ได้เลือกที่จะไปหาเหล่านักบวช ตัวเขาเลือกที่จะไปหาใครบางคนที่อยู่ใกล้ๆ กับพิธีศักดิ์สิทธิ์แทน

 

ที่จัดพิธีศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้เป็นสถานที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง สถานที่พิเศษแห่งนี้จะไม่อนุญาตให้คนธรรมดาเข้ามาใกล้โดยที่ไร้เหตุผล

 

เมื่อลู่โจวก้าวเท้าไปยังพื้นที่ของพิธีศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนั้นเองเสียงระฆังก็ได้ดังขึ้น

 

เสียงที่ดังนั้นมันฟังดูน่ารำคาญมาก

 

ลู่โจวยกมือขึ้นมาเล็กน้อย “นี่มันพวกนักบวช”

 

“นักบวชพวกนี้มาทำอะไรที่นี่กัน? ” หยวนเอ๋อพูดออกมาหลังจากที่ถอนหายใจไป

 

พลังสมาธิจากพวกนักบวชถือว่าเป็นพลังที่ทรงพลังและน่ากลัวสำหรับคู่ต่อสู้มาก และเมื่อวิชานี้ได้หลอมรวมเข้ากับพระสูตรในบทสวดมนตร์ด้วยแล้ว พลังอันแกร่งกล้าที่แท้จริงก็จะสามารถถูกดึงออกมาใช้ได้ นี่ถือเป็นพลังหลักๆ ทีวิหารแห่งความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่เท่านั้นที่จะสามารถทำได้

 

“ใจเย็นก่อน การทำสมาธินั่นน่ะสามารถทำได้เพียง 5 ครั้งต่อวันเท่านั้น…” ลู่โจวที่กำลังยืนอยู่กำลังจ้องมองรถม้าที่กำลังลอยอยู่บนอากาศ บางทีเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาก็ได้

 

การทำสมาธิของพวกนักบวชทำให้เหล่าผู้ฝึกยุทธทั้งหลายรู้สึกเกรงกลัวได้ วิธีนี้ช่วยทำให้ลู่โจวหมดกังวลเช่นกัน การโจมตีของลู่โจวไม่เหมาะที่จะใช้สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มาหลายคนพร้อมกันได้ แต่ถึงว่ามันจะดีกับลู่โจวเองแต่การปรากฏตัวขึ้นของพวกนักบวชนั้นเป็นอะไรที่ผิดปกติ โดยทั่วไปแล้วนักบวชพวกนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกไม่ใช่หรอ?

 

ในตอนนั้นเองเสียงระฆังก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains
Score 4.0
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง My Disciples Are All Villains ลู่โจวตื่นขึ้นมาเพื่อเป็นผู้เฒ่าผู้ชั่วร้ายที่ทรงพลังและเก่าแก่ที่สุดในโลก และพบว่าเขามีสาวกเก้าคนที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ศิษย์คนโตของเขาเป็นผู้นำนิกาย Nether ที่มีลูกน้องนับพัน และศิษย์คนที่สองของเขาคือ Sword Devil มักจะเข่นฆ่าผู้อื่นด้วยความขัดแย้งเพียงเล็กน้อย…หากไม่มีฐานการฝึกฝนของเขา เขาจะจัดการกับสาวกที่ชั่วร้ายเหล่านี้ได้อย่างไร ศิษย์คนโตของเขา Yu Zhenghai เล่าว่า “ชีวิตข้าไม่เคยมีคู่แข่ง และไม่มีใครนอกจากอาจารย์ที่สามารถทำให้ข้าก้มหัวได้” ศิษย์คนที่เจ็ดของเขา Si Wuya กล่าวว่า “เราจะกินหรือนอนอย่างสงบสุขไม่ได้ตราบเท่าที่ อาจารย์ยังไม่ตาย!”…หยวนเอ๋อศิษย์ที่เก้าของเขากล่าวว่า “ฉันจะจำสิ่งที่อาจารย์พูดและเป็นคนดี”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset