NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 101 มือสังหารที่อยู่เบื้องหลัง

บทที่101 มือสังหารที่อยู่เบื้องหลัง
ถ้าเกิดเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ เกรงว่าจะจะเอาแต่ถือปืนอย่างเกรงกลัวสั่นไปทั้งตัว แต่ยิงจื่อไม่เป็นแบบนั้น เพราะว่าเธอเป็นภรรยาของจางกงหมิง เธอเคยเห็นเลือดสาดกระเซ็น และเคยเห็นการฆ่าแกงเป็นปกติ
“พี่ คุณหมายความว่าอย่างไรกันแน่?”
ไอ้หน้าหนวดเบิกตาโผลง ก่อนจะมองโหจื่อ: “เงินก็ให้ไปแล้ว คุณยังไม่รีบไปจัดการให้สิ้นซากอีกเหรอ?”
“เพราะว่าเอาเงินมาให้ฉัน ดังนั้นพวกคุณเลยไม่สามารถนิ่งเฉยได้ พวกคุณเป็นพวกใช้วิธีสกปรกเพื่อได้สิ่งที่ต้องการมางั้นเหรอ ไม่ควรไปมีเรื่องด้วยเลย ต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด ถ้าไม่อย่างนั้น หลังจากนี้ คงจะต้องมีเรื่องให้วุ่นวายอีกมากอย่างแน่นอน” โหจื่อพูดด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ
“คุณจะฆ่า พวกเราจริงๆ เหรอ?” ไอ้หน้าหนวดเลิกคิ้วขึ้น
“ไม่หรอก ใครบอกว่าฉันจะฆ่าพวกคุณเหรอ ฉันเป็นประชาชนที่เคารพกฎหมาย จะไปฆ่าคนได้อย่างไร” โหจื่อส่ายหัว
“สาวสวย คุณเกลียดพวกเขาไหม?” โหจื่อมองยิงจื่อ ก่อนจะจับมือของเธอ
“เกลียด” ยิงจื่อพยักหน้า
“เกลียดแค่ไหน?” โหจื่อถามขึ้น
“มากจนอดไม่ได้ที่จะต้องฆ่าพวกเขา” ยิงจื่อมีสีหน้าที่น่าเกรงกลัว
“งั้นคุณยังจะรออะไรอยู่อีกเล่า?” โหจื่อยิ้มขึ้น ก่อนจะพูดว่า: “ยิงเลยสิ”
“แต่ฉันไม่สามารถ……”
“ฉันบอกแล้ว ว่าถ้าเกิดคุณยิงปืนไม่เป็น ฉันสอนให้คุณได้” โหจื่อพูดด้วยรอยยิ้ม
ไอ้หน้าหนวดพูดขึ้นด้วยความเย็นชา: “ทุกคนรุมเลย!”
ทุกคนยกมีดและดาบขึ้นมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาโหจื่อ
“ลั่นไก!” โหจื่อพูดด้วยความเย็นชา
“คุณแค่รับผิดชอบการลั่นไก ฉันจะรับผิดชอบว่าจะยิงไปที่ใคร” โหจื่อพูดขึ้นข้างหูยิงจื่อ
“เร็ว!”
ตอนที่ยิงจื่อลั่นไกปืน โหจื่อก็เปลี่ยนทิศ
มีเสียงปังดังขึ้น
สมองก็กระจายออก
คนกลุ่มนั้นไม่ได้ตกอกตกใจเลย แต่กลับรีบวิ่งเข้ามา
โหจื่อจับมือของยิงจื่อ กลางยืนอยู่ด้านหลังเธอ โหจื่อบอกให้ยิงปืน ยิงจื่อก็ลั่นไกปืน ทุกๆ ครั้งที่ลั่นไกปืน ก็จะมีภาพสมองกระจายตามมาติดๆ
สุดท้าย ปืนก็เหลือกระสุนอยู่แค่นัดเดียว
อีกฝั่ง เหลือเพียงไอ้หน้าหนวดยืนอยู่คนเดียว
ไหล่ทั้งสองข้างของไอ้หน้าหนวดได้รับบาดเจ็บ จนไม่มีทางแม้แต่จะยกมีดขึ้น และก็ไม่มีทางต่อสู้ได้อีกแล้ว
เมื่อเห็นพี่น้องของตัวเองต้องตายอย่างอนาถ หน้าของไอ้หน้าหนวดเต็มไปด้วยความน่ากลัวและความสิ้นหวัง
“สุดท้าย คุณมาทำเองเถอะ” โหจื่อปล่อยมือของยิงจื่อ
แขนทั้งสองข้างของไอ้หน้าหนวดนั้นใช้การไม่ได้แล้ว ในตอนนั้นเอง เขาไม่ต่างอะไรกับคนพิการเลย
ยิงจื่อมองศพที่เกลื่อนเต็มพื้น ก็ตกใจอยู่บ้างเล็กน้อย
เพียงไม่นาน ยิงจื่อก็หลุดออกจากความตกใจนั้น
ยิงจื่อเดินไปหาไอ้หน้าหนวด: “สมควรตาย!”
มีเสียงปืนดังขึ้น ยิงจื่อยิงไปที่หัวของไอ้หน้าหนวด
ในปืนไม่มีกระสุน ยิงจื่อเลยโยนปืนลงพื้น
โหจื่อหยิบโทรศัพท์ของไอ้หน้าหนวดออกมา ก่อนจะส่งให้ยิงจื่อ: “รีบโทรหาสามีของคุณเถอะ ดูสิว่าคุณฆ่าไปกี่คนแล้ว”
“เห้อ ผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ” โหจื่อส่ายหัว ก่อนจะพูดพลางถอนหายใจ
ยิงจื่อพูดไม่ออกเล็กน้อย คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่คุณฆ่าหรอกเหรอ?
“จริงสิ เมื่อสามีของคุณมาแล้ว คุณอย่าได้พูดถึงฉันเลยนะ ถ้าเกิดว่าเขาถาม คุณก็บอกไปว่าคนพวกนี้ฆ่าแกงกันจนตายไปเอง เพราะต้องการจะแก่งแย่งผลประโยชน์กัน”
“ฉันไม่ค่อยเก่งเรื่องการแต่งเรื่องหรอก คุณแต่งขึ้นมาเองเถอะ โดยรวมแล้ว อย่าได้พูดถึงฉัน บอกแค่ฉันพาพวกคุณมาที่นี่ แล้วก็ไปแล้ว ส่วนเรื่องเงิน ฉันก็ไม่ใช่คนเอาไป” โหจื่อมองยิงจื่อพลางถามขึ้น: “คุณเข้าใจความหมายที่ฉันจะสื่อใช่ไหม?”
ยิงจื่อพยักหน้า: “เข้าใจ”
“อือ งั้นก็ดี ไปละนะ” โหจื่อเปิดปาก ก่อนจะมองยิงจื่อ: “มือของพวกผู้หญิงนี่ดูแลรักษากันอย่างไรนะ ทำไมถึงได้เนียนนุ่มขนาดนี้!”
สีหน้าของยิงจื่อเปลี่ยนไปทันใด เหมือนจะโกรธขึ้นมานิดหน่อย
โหจื่อขึ้นรถ ก่อนจะจากไป
เมื่อกลับไปถึงบาร์ ลุงเฉียนมองเงินถุงแล้วถุงเล่า ก็รีบถามขึ้น: “โหจื่อ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย บอกให้คุณไปส่งเงิน ทำไมคุณถึงได้เอาเงินกลับมาล่ะ?”
“แถมยังดูเยอะขึ้นด้วย?” ลุงเฉียนถามด้วยความสงสัย
“ลุงเฉียน ฉันขโมยมา” โหจื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้ลุงเฉียนฟัง
“เห้อ ผู้หญิงคนนั้นคงจะไม่ทำให้คุณความแตกนะ?” ลุงเฉียนพูดด้วยความกังวลเล็กน้อย: “ถ้าเกิดว่าความของคุณแตกเอา งั้น พวกเราคงต้องความแตกไปด้วย……”
“วางใจเถอะ ลุงเฉียน ผู้หญิงคนนั้นไม่กล้าหรอก” โหจื่อพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจ: “จะให้พูดอีกอย่าง ก็คือฉันช่วยเธอเอาไว้”
……
หลังจากที่โหจื่อไปแล้ว ยิงจื่อก็โทรหาจางกงหมิง
คนที่รับสายคือลูกพี่หลิน
“ยิงจื่อ คุณอยู่ที่ไหน?” ลูกพี่หลินรีบถามขึ้น
“ฉันอยู่ในตรอกแห่งหนึ่งของถนนชิงหลง พวกคุณรีบมารับฉันเถอะ จริงสิ ลุง ฉันฆ่าคนแล้ว” ยิงจื่อพูดขึ้น
“คุณฆ่าคนงั้นเหรอ?ยิงจื่อ คุณฆ่าใครไป”
“ฉัน……ฉันฆ่าทุกคนไปหมดแล้ว” ยิงจื่ออึกอักก่อนจะพูดขึ้น
อย่าว่าแต่ลูกพี่หลินที่ไม่เชื่อเลย ขนาดยิงจื่อเลยยังไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคนพวกนี้จะมาตายเพราะปากกระบอกปืนของตัวเอง
“เห้อ คุณคงตกใจมากใช่ไหม” ลูกพี่หลินถอนหายใจ หลังจากวางสายไป ก็พาคนไปในซอยที่ยิงจื่อบอก
ตอนที่หายิงจื่อเจอ จางกงหมิงก็รีบวิ่งเข้าไป ก่อนจะกอดยิงจื่อ พลางโอบเธอเอาไว้แนบกาย
ลูกพี่หลินมองศพที่อยู่เต็มไปหมด ก็เข้าสู่สภาวะแห่งความเกรงกลัว
ลูกพี่หลินเป็นคนที่ผ่านโลกมามาก เขาใช้ชีวิตสมบุกสมบันมาทั้งชีวิต พูดได้เลยว่าผ่านมาทุกเหตุการณ์แล้ว แต่เมื่อเห็นฉากแบบนี้ สมองของเขากลับชาขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อมองรูกระสุนที่อยู่บนศพทุกศพ ลูกพี่หลินก็มองยิงจื่อก่อนจะถามขึ้น: “ยิงจื่อ นี่คุณเป็นคนฆ่าหมดเลยเหรอ?”
“ใช่……ใช่แล้ว” ยิงจื่อพยักหน้า
“ยิงจื่อ คุณบอกว่าทั้งหมดนี้คุณเป็นคนฆ่าเหรอ?” ลูกพี่หลินถามขึ้น: “ทุกๆ รูกระสุนนั้นยิงโดนหัวหมดเลย”
“คุณเป็นนักแม่นปืนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ลูกพี่หลินพูดขึ้นด้วยความไม่เชื่อ
ยิงจื่อพูดด้วยความโง่เง่าว่า: “ตอนนั้นฉันตกใจมาก แย่งปืนของพวกเขามา เลยยิงมั่วๆ ไป แต่ก็โดนทุกนัดเลย”
“บังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ลูกพี่หลินไม่ใช่เด็กสามขวบ มันจะไปมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร
เปอร์เซ็นต์ขนาดนี้มันเหมือนกับถูกลอตเตอร์รี่เลยล่ะ
“ยิงจื่อ อย่าโกหกลุง” ลูกพี่หลินพูดขึ้น
จางกงหมิงลากยิงจื่อ ก่อนจะเข้าไปในรถ และพิมพ์หาลูกพี่หลิน: “ยิงจื่อปลอดภัยก็ดีแล้ว”
จางกงหมิงจะสื่อว่า ไม่ว่าใครจะเป็นคนฆ่า เขาก็ไม่อยากเค้นถามแล้ว
ในสายตาของจางกงหมิง ขอเพียงแค่ยิงจื่อยังมีชีวิตอยู่ เรื่องอื่นมันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
“คนพวกนั้นตายแล้ว แล้วเงินล่ะ?” ลูกพี่หลินเบิกตาโตพลางมองไปรอบๆ
เขากวาดสายตามอง แต่ไม่เห็นเงินแม้แต่แดงเดียว
เมื่อเทียบกับคนที่ฆ่าคนของพวกไอ้หน้าหนวด ลูกพี่หลินสนใจเงินกว่าสิบห้าล้านนั้นมากกว่า!
ทำไมเงินพวกนั้นมันอันตรธานหายไปแบบนั้นล่ะ
ลูกพี่หลินวิ่งไปถามยิงจื่อ ยิงจื่อกลับลอกว่า เมื่อครู่เธอฆ่าคนไปแล้ว เลยตกใจมาก ตอนนั้นมีขอทานเข้ามาพอดี ก่อนจะหอบเงินไปหมดเลย
ลูกพี่หลินไม่ได้เชื่อคำที่ยิงจื่อพูดเลย แต่ก็ไม่อยากจะถามอะไรต่อไป
เขารู้ ว่ายิงจื่อคงจะไม่พูดความจริงแล้ว
“รีบไปหาคนมาเก็บกวาด ศพเยอะขนาดนี้ ถ้าเกิดมีคนเห็นเข้า คงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่” ลูกพี่หลินพูดขึ้นด้วยความปวดหัว
ต้องใช้เวลากว่าสามชั่วโมง ตรอกนี้ถึงได้สะอาดขึ้นมา
แต่ว่ารอบๆ นี้ยังคงมีกลิ่นเลือดคละคลุ้งอยู่มาก
“คนพวกนี้เตรียมการไว้ก่อนแล้วอย่างแน่นอน”
เมื่อมองมอเตอร์ไซค์พวกนี้ ลูกพี่หลินก็ขมวดคิ้วเป็นปม จู่ๆ เขานึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา
“หรือว่าจะเป็นพวกเขา?”
ลูกพี่หลินไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ตลอดเวลาหลายสิบปี นี้ตงไห่เคยมีแก๊งหนึ่งอยู่ ก็คือกลุ่มเด็กแว้น
แต่กลุ่มเด็กแว้นพวกนั้น ตอนแรกพวกเขาลักเล็กขโมยน้อย สุดท้ายมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากขโมยร้านทอง ธนาคาร ต่อมาถูกดำเนินคดี แล้วก็มีกำลังถดถอยลง จากนั้นก็แยกออกจากตงไห่ไป
“ไม่น่าล่ะ ท่าทีของพวกเขาถึงได้คุ้นขนาดนั้น” ลูกพี่หลินเข้าไปดูศพ ก็หัวเราะอย่างเยือกเย็นออกมา: “ที่แท้คนพวกนี้ก็ไปศัลยกรรมมานี่เอง”
“แต่ว่าทำไมพวกเขาถึงกล้ากลับมาตงไห่……แถมยังตั้งใจมาทำร้ายหลานของฉันอีกนะ?ฉันไม่ได้มีเรื่องกับพวกเขานะ” ในตอนนั้นเอง ลูกพี่หลินครุ่นคิดด้วยความสงสัย
จางกงหมิงพายิงจื่อกลับบ้าน ยิงจื่อพูดด้วยความสงสารว่า: “คอของคุณ……”
“ฉัน……ฉัน……ไม่เป็นไร” จางกงหมิงพูดตะกุกตะกัก เพราะคอยังไม่หายดี
ยิงจื่ออยากจะพาจางกงหมิงไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่จางกงหมิงกลับส่ายหัว เพื่อจะบอกว่าไม่ไป
เมื่ออยู่บนเตียง ตอนที่จะนอนลง จู่ๆ ยิงจื่อก็หยิบโทรศัพท์ของไอ้หน้าหนวดออกมา ก่อนจะส่งให้จางกงหมิง
“หมิงหมิง ฉันให้คุณดูของแบบนี้ แต่คุณต้องสัญญากับฉันนะ ว่าอย่าไปแก้แค้นน่ะ” ยิงจื่อพูดขึ้น
จางกงหมิงมองข้อความที่ส่งมาบนจอโทรศัพท์ ก็รู้สึกโกรธจนสั่นไปทั้งตัว: “นี่……พวกเขางั้นเหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset