NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 131 หลี่ฝางถูกลอบโจมตี

บทที่ 131 หลี่ฝางถูกลอบโจมตี
“กำลังสนุกเลย จะไปแล้วหรือ?” เซี่ยลู่ยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลิวเฉียวเฉียวเอ่ยด้วยความโกรธ “ถ้าเธอไม่ไป ฉันไปเองก็ได้”
พูดจบ หลิวเฉียวเฉียวก็ลุกขึ้นทำท่าจะจากไป
ถังหยู่ซวนยืนขึ้นและเอ่ย “หลิวเฉียวเฉียว คุณฟังฉัน เธอเป็นแฟนเก่าของฉันจริงๆ พวกเราเลิกกันมาหลายปีแล้ว”
“พอเถอะ เลิกกันมาหลายปีแล้ว แต่นายยังนอนกับเธอบนเตียงอยู่?” หลิวเฉียวเฉียวถลึงตาใส่ถังหยู่ซวน จากนั้นจึงเดินไปทันที
ถังหยู่ซวนไล่ตามหลิวเฉียวเฉียวไปที่ประตูบาร์ ทั้งสองทะเลาะกันเอะอะ จนหลิวเฉียวเฉียวนั่งแท็กซี่จากไป
หลี่ฝางเดินเข้าไปตบไหล่ถังหยู่ซวน “พวกนายสองคนคบกันแล้ว?”
“เกือบจะคบกันแล้ว แต่ถูกจางปิงปิงมาทำพังเสียก่อน” ถังหยู่ซวนกล่าวด้วยใบหน้าที่หดหู่
“พวกนายไปพัฒนากันตอนไหน ทำไมถึงเร็วขนาดนั้น?” หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง
ถังหยู่ซวนเอ่ย “อันที่จริงต้องขอบคุณนาย ครั้งที่แล้วหลังจากก็เพิ่ม wechat ของเธอ ฉันก็พยายามเข้าหาเธอ แต่ว่าเธอหยิ่งอยู่บ้าง ไม่ได้สนใจอะไรฉัน แต่เมื่อวาน ฉันบอกเธอว่าฉันซื้อรถแล้ว เธอถามฉันว่าซื้อรถอะไร ฉันบอกไปว่าเป็นปอร์เช่ เธอบอกว่าฉันขี้โม้ ฉันเลยบอกไปว่าถ้าไม่เชื่อฉันจะพาเธอไปนั่งรับลม!”
“เมื่อเช้าเธอไปงานเลี้ยงเรียนจบ อันที่จริงเป็นฉันที่ไปส่งเธอ ขับรถปอร์เช่ 918ไป” ถังหยู่ซวนเอ่ย “ในตอนนั้นเธอก็เริ่มมีความรู้สึกดีกับฉันขึ้นมาแล้ว”
“พอวันนี้หลังจากที่รู้ว่าฉันเป็นผู้จัดการที่Recalling the past เธอก็ยิ่งเริ่มเข้าหาแล้ว เฮ้อ ฉันรู้สึกว่าวันนี้ฉันต้องเอาเธออยู่หมัดแน่ สุดท้าย…” ถังหยู่ซวนพูดพลางขบฟันอย่างโกรธๆ “จางปิงปิง ไอ้หมาเย็x”
“นายจะว่าตัวเองแบบนั้นก็ไม่ได้ ไม่กี่วันก่อนนายยังไป x กับเธออยู่เลย” หลี่ฝางพูดติดตลก
“ทำไมนายยังมามีอารมณ์ขันอีก ช่วยฉันรีบหาวิธีที” ถังหยู่ซวนกล่าวอย่างกังวล
หลี่ฝางวางแขนของเขารอบคอของถังหยู่ซวนและพูดว่า “ฉันว่า แทนที่นายตามจีบหลิวเฉียวเฉียว ไปตามจีบหลี่เสี่ยวเสี่ยวยังจะดีกว่า”
ถังหยู่ซวนส่ายหัว “ฉันกับเสี่ยวเสี่ยวเปลือยก้นโตมาด้วยกัน ฉันไม่มีความรู้สึกแบบนั้นกับเธอ”
“แต่สนใจหลิวเฉียวเฉียว?” หลี่ฝางถาม
“ใช่สิ ฉันชอบเธอตั้งแต่แรกพบ” ถังหยู่ซวนกล่าว
หลี่ฝางยื่นบุหรี่ให้ถังหยู่ซวน และเอ่ยกับเขา “หรือนายมองไม่ออก? ที่หลิวเฉียวเฉียวชอบ คือตำแหน่งของนายกับนายที่ขับรถปอร์เช่คันนั้น”
ถังหยู่ซวนเอ่ย “ฉันรู้ว่านายหมายถึงอะไร นายบอกว่าเธอเห็นแก่เงินใช่ไหม?”
“หลี่ฝาง นายว่าผู้หญิงเดี๋ยวนี้ มีใครบ้างที่ไม่เห็นแก่เงิน เสี่ยวเสี่ยวเองก็เห็นแก่เงินเหมือนกันนี่? เซี่ยลู่เองก็เห็นแก่เงิน?”
“นอกจากนี้ ฉันเองก็ไม่ได้คิดจะแต่งงานกับเธอสักหน่อย ก็แค่อยากจะคบหาดู ในเมื่อมีความรู้สึกแล้ว ก็แค่ปล่อยใจตามมันไป” ถังหยู่ซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คนเรา ล้วนเปลี่ยนแปลงได้ตลอด จากนี้ถ้าพวกเรามีความรู้สึกจริงใจต่อกัน ฉันค่อยแต่งงานกับเธอ”
“ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ไปตลอด ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อย่างนั้นฉันก็จะคิดซะว่าแค่เล่นๆ ยังไงฉันก็ไม่ได้เสียอะไร นายว่าจริงไหม?”
หลังจากฟังคำพูดพวกนี้ หลี่ฝางก็พูดไม่ออก
ในเวลานั้นเอง จู่ๆ ก็มีคนวิ่งเข้ามาจากด้านหลังและเตะเข้าที่ก้นหลี่ฝาง
“ฉันก็ว่าทำไมถึงหาแกไม่เจอ ที่แท้ก็วิ่งมาอยู่นี่เอง!”
หลี่ฝางถูกเตะลงกับพื้น เมื่อเงยขึ้นไปมองก็ค่อยเห็นว่าที่แท้เป็นกลุ่มของไอ้ผมเหลือง
“ในบาร์ ฉันไม่กล้าแตะแก แต่ตอนนี้ออกมาแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรต้องกลัว” ไอ้ผมเหลืองยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นจึงกำหมัดแน่นและชกเข้ามา
หลี่ฝางรีบลุกขึ้น แต่ทันทีที่เขาลุกขึ้น เขาก็ถูกไอ้ผมเหลืองต่อยจนล้มลงไป
หลี่ฝางสู้กับตู้เฟยยังพอไหว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับไอ้ผมเหลือง เขาก็เสียเปรียบอยู่บ้าง
“แม่งเอ้ย!”
ถังหยู่ซวนวิ่งเข้ามา จากนั้นจึงล็อกคอของไอ้ผมเหลืองเอาไว้และทุ่มมันลงกับพื้น
หลี่ฝางลุกขึ้นไปเตะเข้าทีหนึ่งและเหยียบหน้าอกของไอ้ผมเหลืองเอาไว้
“ไม่ได้การ ลูกพี่ถูกตีแล้ว!” น้องชายของไอ้ผมเหลืองวิ่งเข้ามาพอดี และเข้าไปล้อมถังหยู่ซวนและหลี่ฝางเอาไว้
ทันทีที่คนกลุ่มนี้มา ถังหยู่ซวนและหลี่ฝางก็รับมือไม่อยู่
“จัดการกระทืบมันให้ตาย!” ไอ้ผมเหลืองชี้ไปที่หลี่ฝางและถังหยู่ซวนและเอ่ย
คนกลุ่มนี้ขวางทางเข้าบาร์เอาไว้แน่น จนไม่มีทางวิ่งกลับไปได้ ทีนี้จะทำยังไงดี?
“ช่วยด้วย!”
“โหจื่อ รีบออกมาช่วยฉัน!”
หลี่ฝางและถังหยู่ซวนตะโกนอย่างสุดชีวิต
แต่กลับไม่มีเงาใครสักคน ในบาร์เอะอะวุ่นวายขนาดนั้น จะได้เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากนอกบาร์ได้อย่างไร?
“ร้องหาแม่มึงหรอ!” ไอ้ผมเหลืองด่าจากนั้นก็เริ่มลงมือ
นักเลงห้าหกคนเริ่มลงมือ หลี่ฝางและถังหยู่ซวนสู้ได้ไม่นานก็ถูกล้มลง
โชคดีที่ในตอนนั้นเองจางปิงปิงตามออกมาและเห็นเข้าพอดีและรีบไปบอกคนในบาร์
ทันทีที่คนในบาร์ออกมา สถานการณ์ก็พลิกผันอีกครั้ง
โหจื่อและคนอื่นๆ ออกมาพร้อมกระบองไฟฟ้าในมือ พริบตาก็จัดการไอ้ผมเหลืองและคนอื่นช็อตจนสลบไป
จนกระทั่งไอ้ผมเหลืองตื่นขึ้นมา พวกมันทั้งหมดก็ถูกมัดเอาไว้ในห้องเล็ก ๆ
“เชี่ยเอ้ย บาร์พวกแกทำเฮี้ยไรเนี่ย ฉันยังไม่ได้ลงมือในร้านสักหน่อย ถือว่าไว้หน้าพวกแกแล้ว ฉันลงมือข้างนอกบาร์พวกแกก็ยุ่งด้วย? ทำแบบนี้ไม่ยุ่งมากเกินไปหน่อยหรือไง”
“พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? พวกเราสนิทกับพี่หมาจื่อ จะตีหมายังต้องดูเจ้าของบ้าง ถ้าพี่หมาจื่อรู้เรื่องนี้เข้า บาร์ของพวกแก ฉันว่าคงไม่ต้องเปิดแล้ว ได้แต่ปิดร้านไปแน่” ไอ้ผมเหลืองพึ่งพาเบื้องหลังของตัวเองและเอ่ยพูดอย่างหยิ่งผยอง
“ฉันขอแนะนำให้บาร์พวกแกทางที่ดีรีบปล่อยฉันไป แล้วก็รีบชดใช้ค่าเสียหายทางจิตใจให้ฉันสักหนึ่งหรือสองแสนซะ แล้วฉันจะไม่บอกพี่หมาจื่อเรื่องนี้”
“ไม่อย่างงั้น…” ไอ้ผมเหลืองพูดขู่เสียงเหี้ยม
โหจื่อเดินเข้าไป จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือของไอ้ผมเหลืองขึ้นมาจากกระเป๋า แล้วส่งให้มัน “เอาสิ แกโทรหาพี่หมาจื่อของแกเถอะ”
“ให้ฉันโทรจริงหรือ?” ไอ้หวงเหลืองมีท่าทีไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง
“มือถือก็ให้แกแล้ว แกว่ายังไงล่ะ?” โหจื่อเอ่ยด้วยใบหน้าเฉยเมย
ในเวลานี้เอง หลี่ฝางก็เข้ามา ตามมาด้วยเซี่ยลู่และหลี่เสี่ยวเสี่ยว
หลี่ฝางถาม “ตื่นแล้วนี่”
“เพิ่งตื่น” โหจื่อตอบ
ในเวลานี้เอง ไอ้ผมเหลืองกำลังโทรหาพี่หมาจื่อ เมื่อหลี่ฝางเห็นก็ถามขึ้น “โทรหาใครน่ะ?”
“โทรหาลูกพี่มั้ง” โหจื่อเอ่ยหัวเราะ “ดูเหมือนจะชื่อพี่หมาจื่อ”
“พี่หมาจื่อ?” หลี่ฝางเองก็หัวเราะหึหึขึ้นมาเหมือนกัน
ไม่คาดคิดว่า ไอ้ผมเหลืองจะเป็นลูกน้องของพี่หมาจื่อ นี่ไม่เท่ากับน้ำเชี่ยวปะทะวังพญามังกรหรือไง?”
หลี่ฝางคิดจะปล่อยเขาไป แต่ผลคือเมื่อเซี่ยลู่เห็นไอ้ผมเหลืองเข้า เธอก็จำเขาได้ทันที “ทำไมเป็นเขา!”
“เซี่ยลู่ เธอรู้จักเขาหรือ? ” หลี่ฝางถาม
“ครั้งที่แล้วเป็นเขา ที่หลอกเอาเงินฉันไป 1,000 หยวน แล้วยังคิดจะเอาเปรียบฉัน” เซี่ยลู่เห็นไอ้ผมเหลืองเข้าก็โมโหขึ้นมาทันที
พอดีกับที่ไอ้ผมเหลืองถูกมัดไว้ ไม่สามารถสู้กลับได้ เซี่ยลู่จึงเข้าไปเตะทีหนึ่ง
หลังจากเซี่ยลู่จัดการไปยกหนึ่ง ก็ค่อยระบายอารมณ์ออกมาได้บ้าง
“ตี พวกนายตีไปเถอะ รอให้พี่หมาจื่อมา ฉันจะให้พวกแกชดใช้สิบเท่า” ไอ้ผมเหลืองมองไปที่เซี่ยลู่และคนอื่นๆ แล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราด
หลี่ฝางยิ้มเหยียด ต่อให้พี่หมาจื่อมา ก็ไม่กล้าตีตนเองอยู่ดี ในเมื่อเขาเป็นถึงน้องชายของหลินชิงชิง
จากนั้นเมื่อรอไปประมาณสิบนาที
ทันใดนั้นก็มีร่างของผู้ชายคนหนึ่งกระตุกขึ้นมา เขามองไปที่หลี่ฝาง แล้วเอ่ยปากพูดเสียงคลุมเครือ “มี มีบุหรี่ไหม?”
ไอ้ผมเหลืองตะโกนขึ้นมา มันรีบเอ่ยอย่างรีบร้อน “พี่ใหญ่ พวกนายใครมีบุหรี่บ้าง รีบให้พี่น้องฉันสักอัน”
“เขาเป็นอะไร?” หลี่ฝางถูกการปรากฏตัวของคนคนนี้ทำให้ตกใจไป ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ตัวกระตุก แม้แต่ดวงตาของก็ยังเต็มไปด้วยเลือด
จากนั้น เขาก็เริ่มกลิ้งไปบนพื้น
“พี่น้องแกติดยานี่หว่า!” โหจื่อหัวเราะหึหึ เขาคว้าปลอกคอของชายคนนั้นแล้วลากออกไป
หลี่ฝางรีบตามไป และถามโหจื่อว่าเกิดอะไรขึ้น
โหจื่อหันหน้ามาพูด “หัวหน้า นี่คุณคงไม่ได้ดูไม่ออกหรอกนะ?”
“เด็กนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่ามักจะสูบกัญชา ตอนนี้เขาติดยาแล้ว” โหจื่ออธิบาย
“แล้วคุณจะพาเขาไปไหน?” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย
“มีคูน้ำอยู่หลังบาร์ ฉันจะโยนเขาลงไปในคูน้ำ ให้เขาได้สติสักหน่อย” โหจื่อพาชายคนนั้นไปที่คูน้ำ แล้วโยนเขาลงไป
“ยังหนุ่มยังสาว ทำไมไม่รู้จักรักดี” โหจื่อพูดอย่างดูถูก
เห็นคนคนนั้นกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่ในคูน้ำเน่าเหม็น หลี่ฝางก็กลัวอยู่หน่อยๆ “จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“กลัวอะไร คนแบบนี้ สมควรตาย” โหจื่อกล่าวด้วยใบหน้าเฉยเมย
พูดจบ โหจื่อก็ดึงหลี่ฝางกลับไปที่บาร์

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset