NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 296 เพื่อนของสวีเถิงเฟย

บทที่ 296 เพื่อนของสวีเถิงเฟย
เมื่อเห็นหลี่ฝางปรากฏตัวอย่างปลอดภัยในงานปาร์ตี้ ใบหน้าของคนกลุ่มนี้ เต็มไปด้วยความตกตะลึง
เมื่อกี้พวกเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน คุณชายใหญ่ของต้าหัวกรุ๊ป ถูกหลี่ฝางทุบตีอย่างบ้าคลั่ง
ปากมีเลือดไหลออกมา
ตามหลักการแล้ว แม้ว่าหลี่ฝางจะไม่ถูกทำร้ายจนตาย หรือถูกตีจนส่งโรงพยาบาล ก็ควรถูกไล่ออกจากสถานตากอากาศแห่งนี้?
ทำไมสถานการณ์กลับเป็นเช่นนี้
หลี่ฝางกลับมาอย่างปลอดภัย แต่หยิ่นเหล่ยกลับหลบหนีกลับไป
และพวกเขาจำได้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่หยิ่นเหล่ยจากไป บนหน้าผากยังมีเขียนคำว่าสวะ และยังเดินวนไปรอบๆสถานตากอากาศแห่งนี้!
ถ้าไม่ใช่เพราะมีใครบีบบังคับ ใครจะกล้าเขียนคำว่าสวะบนหน้าผาก
ก่อนจากไปยังต้องเดินวนรอบๆวิลล่า?
ตามความคิดปกติ สิ่งนี้ไม่สมเหตุสมผล
เว้นแต่ว่าหยิ่นเหล่ยบ้าไปแล้ว!
เมื่อดูจากลักษณะของหยิ่นเหล่ยแล้ว เขาก็ค่อนข้างปกติ
ทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองเหล่านี้ ก็ไม่ใช่คนโง่ และในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาก็เข้าใจทันที หลี่ฝางคนนี้ ต้องมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่
เขาต้องบังคับให้หยิ่นเหล่ยเขียนคำว่าสวะบนหน้าผาก แล้วเดินวนไปรอบๆวิลล่า
หลังจากทำความเข้าใจแล้ว คนกลุ่มนี้ก็อยู่ห่างจากหลี่ฝาง เพราะกลัวว่าอาจยั่วโมโหผู้ชายที่น่ากลัวคนนี้
แม้แต่คุณชายใหญ่อย่างหยิ่นเหล่ย ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฝาง นับประสาอะไรกับพวกเขา?
“หลี่ฝาง นายบอกว่านายเป็นคุณชายใหญ่ของสถานตากอากาศแห่งนี้ ทำไมถึงปิดบังพวกเรา?”
“ในเวลานี้ หวางเสี่ยวโก๋พูดด้วยความข้องใจเล็กน้อย “ถ้านายพูดก่อนหน้านี้ เมื่อกี้ฉันก็จะได้ไม่ตกใจกลัวขนาดนั้น?
เมื่อกี้ผู้ชายสุภาพอ่อนโยนวิ่งไปข้างๆหยิ่นเหล่ย และได้เรียกว่าคุณชาย ทำให้หวางเสี่ยวโก๋ตกใจมาก
หลี่ฝางยิ้ม และพูดว่า “นายคิดว่ามีฉันคนเดียวที่ปิดบังตัวตนเหรอ?”
หวางเสี่ยวโก๋หันหัวมา มองหลี่ฝางด้วยความประหลาดใจ
หวางเสี่ยวโก๋ไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมายของประโยคนี้
เขารีบถามทันที “ทำไม ในกลุ่มของพวกเรา ยังมีคนปิดบังตัวตนอยู่อีกเหรอ?”
“ฉินวี่เฟย เป็นคุณหนูสามของตระกูลฉิน” หลี่ฝางพูดเบาๆ
“ว้าว ที่แท้ฉินวี่เฟยเป็นสาวงานอันดับหนึ่งในตำนานของเมืองเอก! ตอนนั้นพวกเรายังเคยคุยกัน ว่าสาวงามอันดับหนึ่งในตำนานคนนี้ กับดาวในมหาลัยของเรา ใครสวยกว่ากัน”
“ปรากฏว่า พวกเธอเป็นคนเดียวกัน!” หวางเสี่ยวโก๋เข้าใจอย่างโจ่งแจ้ง ก็หัวเราะทันที
ในขณะนี้หวางเสี่ยวโก๋ ยืนเชิดอก ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
หลังจากรู้ว่าหลี่ฝางเป็นคุณชายใหญ่สถานตากอากาศแห่งนี้ ชั่วขณะ หวางเสี่ยวโก๋ก็มีความมั่นใจมาก
แต่เดิม เขายังคงมีอาการหวาดกลัวกับสถานที่
อย่างไรก็ตามวิลล่าแห่งนี้ เต็มไปด้วยทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง แม้ว่าครอบครัวของตัวเองก็ใช้ได้ แต่เมื่อเปรียบกับชายกลุ่มนี้ ก็เทียบอะไรไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ตอนนี้เขาเป็นน้องชายของคุณชายใหญ่สถานตากอากาศแห่งนี้ ฐานะตัวตนนี้ ก็สามารถเข้ามาในวิลล่านี้อย่างสบายใจ
“โก่เอ๋อล่ะ?” หลี่ฝางกวาดสายตามองไปรอบๆ แต่ไม่พบร่องรอยของโก่เอ๋อ
“เธอเหรอ? ดูเหมือนว่าจะไปหาโจวเจ๋หลุนแล้ว” หวางเสี่ยวโก๋พูด
หลังจากพูดจบ หวางเสี่ยวโก๋และหลี่ฝางสองคน ก็มาที่ถึงใจกลางวิลล่า
ฉินวี่เฟยถูกฉินหยีหรันดึงไป และกำลังบอกเล่าสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
เหยนเสี่ยวน่า เดินตามหลังพ่อของเขาอย่างเชื่อฟัง และได้พบปะรู้จักผู้คนที่ร่ำรวยมากมาย
อันที่จริง โรงกลั่นเหล้าของเหยนเสี่ยวน่า ไม่ถือว่าใหญ่
แม้ว่าเธอจะเข้าร่วมงานปาร์ตี้ระดับสูงมากมาย แต่เธอเป็นประเภทที่ไม่ค่อยมีใครจดจำ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป
เครื่องดื่มและเหล้าของสถานตากอากาศแห่งนี้ สถานตากอากาศออกครึ่งหนึ่ง ตระกูลเหยนออกอีกครึ่งหนึ่ง
ความร่วมมือระหว่างสถานตากอากาศและตระกูลเหยน ทำให้สถานะตระกูลเหยนในความคิดของทุกคน สูงขึ้นทันที… …
หลายคนเชื่อเป็นการส่วนตัวว่า ตระกูลเหยนและตระกูลหลี่ ต้องมีมิตรภาพที่เหนียวแน่น
เพราะว่า มีโรงกลั่นเหล้ามากมายให้เลือก ทำไมสถานตากอากาศแห่งนี้จึงต้องเลือกตระกูลเหยน?
อันที่จริง เบื้องหลังมันเป็นผลงานของหลี่ฝาง หลี่ฝางเป็นคนที่แนะนำโรงกลั่นเหล้าของตระกูลเหยน ลุงเฉียนเลยโทรติดต่อพ่อของเหยนเสี่ยวน่าด้วยตัวเอง
“หลี่ฝาง นายคิดว่าถ้าพี่สาว(ลูกพี่ลูกน้อง)ของฉันรู้ตัวตนที่แท้จริงของนายและฉินวี่เฟย จะมีปฏิกิริยาอย่างไร?” หวางเสี่ยวโก๋โน้มตัวไปข้างหน้าหลี่ฝาง อดไม่ได้ที่จะถาม
“พี่สาว(ลูกพี่ลูกน้อง)ของนายรู้จักตัวตนของฉินวี่เฟยแล้ว นายไม่เห็นเหรอ พวกเธอกล่าวทักทายกันแล้ว พี่สาวของนายตกใจมาก… …”
ในขณะที่คุยกัน จู่ๆมีคนหลายคน เดินตรงมาหาหลี่ฝาง
“นี่ไม่ใช่หวางเสี่ยวโก๋เหรอ? ฮ่าฮ่า นายมาได้ไง?”
“หวางเสี่ยวโก๋ ทำไมนายถึงมาในสถานที่แบบนี้? นายแอบเข้ามาได้อย่างไร!”
“ดูการแต่งตัวของนาย แม้แต่พนักงานเสิร์ฟที่นี่ยังแต่งตัวดีกว่านาย”
ทันทีที่คนเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็เยาะเย้ยหวางเสี่ยวโก๋ทันที
สีหน้าของหวางเสี่ยวโก๋ ดูอับอายเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงพูดอย่างกล้าหาญว่า “เกี่ยวอะไรกับพวกนาย!”
“กูอยากใส่อะไรก็ใส่ เกี่ยวอะไรกับพวกนาย? ขอเพียงกูต้องการ ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ก็ยังได้” หวางเสี่ยวโก๋พูดด้วยความโกรธ
“หวางเสี่ยวโก๋ นายรู้ไหมว่านายกำลังพูดกับใคร?”
“คนข้างๆของฉันท่านนี้ ชื่อส้งเคอ นายอาจไม่รู้ว่าส้งเคอคือใคร แต่ตระกูลของส้งเคอเพิ่งจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ชื่อไทรอัมพ์ซิตี้นายน่าจะคุ้นหูใช่ไหม?”
ครอบครัวหวางเสี่ยวโก๋ มีบ่อทรายขนาดใหญ่
บ่อทรายนี้กำลังประมูลเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างไทรอัมพ์ซิตี้
หากทำให้ส้งเคอขุ่นเคือง ธุรกิจนี้ ก็หมดกันพอดี
บ่อทรายของหวางเสี่ยวโก๋ มีทรายสะสมเป็นจำนวนมาก หากสามารถรับงานธุรกิจนี้ ปีนี้จะมีกำไรก้อนโต
ในทางตรงกันข้ามหากประมูลไม่ได้ คิดว่าบ่อทรายของหวางเสี่ยวโก๋ จะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างมาก
ดังนั้น เมื่อได้ยินตัวตนของฝ่ายตรงข้าม หวางเสี่ยวโก๋ก็ไม่กล้าที่จะเถียง ก้มหัวแล้วยิ้ม “ที่แท้ก็คือคุณชายส้งนี่เอง น่าเคารพๆ
“มา คุณชายส้ง ผมขอดื่มให้คุณแก้วหนึ่ง” หวางเสี่ยวโก๋นำแชมเปญสองแก้วมาจากพนักงานเสิร์ฟ และส่งให้ส้งเคอหนึ่งแก้ว
หวางเสี่ยวโก๋ยื่นแชมเปญด้วยมือข้างหนึ่ง และแชมเปญอีกแก้วหนึ่ง ก็เอาเข้าปากตัวเอง
หลังจากดื่มจนหมดหวังเสี่ยวโก๋ก็เงยหน้าขึ้น แต่พบว่าใบหน้าของส้งเคอ แสดงรอยยิ้มเหยียดหยาม และเขาไม่ได้รับแก้วแชมเปญในมือของตัวเอง
ในขณะนี้ ใบหน้าของหวางเสี่ยวโก๋ เต็มไปด้วยความอับอาย
ตัวเองได้ดื่มเหล้าไปแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ได้รับแก้วเหล้าไปด้วยซ้ำ นี่แสดงว่า อีกฝ่ายไม่เห็นตัวเองอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
“สถานะอะไร มีคุณสมบัติพอที่จะดื่มกับฉันหรือ?”
ส้งเคอยิ้มเยาะ และพูดด้วยท่าทางดูถูก “แม้แต่หวางปั้นเฉิงพ่อของนายมาที่นี่ ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะดื่มเหล้าแก้วนี้กับฉัน นายเข้าใจหรือเปล่า?”
“ในสายตาของฉัน นายเป็นแค่พนักงานเล็กๆเท่านั้น ความรู้สึกที่ส้งเคอมีต่อหวางเสี่ยวโก๋ คือการเยาะเย้ย
เมื่อหวางเสี่ยวโก๋ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ใบหน้าก็ร้อนวูบวาบ
ถูกคนเยาะเย้ยในที่สาธารณะและทำอะไรไม่ได้ มันอึดอัดใจจริงๆ
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น หวางเสี่ยวโก๋สามารถตอบโต้ได้
แต่อีกฝ่าย คือส้งเคอ ผู้ก่อตั้งธุรกิจไทรอัมพ์ซิตี้!
ช่วงนี้พ่อของตัวเองไปบ้านตระกูงส้งทุกวัน เพียงเพื่อต้องการทำธุรกิจนี้ ถ้าตัวเองทำให้ส้งเคอขุ่นเคือง ถ้างั้นการทุ่มเททำงานลำบากมาหลายวันของพ่อ ก็คงจะสูญเปล่า?
ในเวลานี้ หลี่ฝางยื่นมือไปที่หวางเสี่ยวโก๋ เพื่อรับแก้วแชมเปญมา
ตั้งแต่เริ่มต้น หลี่ฝางก็เห็นความจริงอย่างชัดเจน
ส้งเคอและคนเหล่านี้ เข้ามาเพื่อจับผิด
เมื่อกี้ ส้งเคอและคนเหล่านี้ กำลังคุยกับสวีเถิงเฟยอย่างมีความสุข เมื่อสวีเถิงเฟยเห็นหลี่ฝางแล้ว ข้างหูของส้งเคอและคนอื่น เขาก็กระซิบสองสามคำ
จากนั้น ส้งเคอและคนอื่นๆ ก็เดินมาหาหลี่ฝางและหวางเสี่ยวโก๋
ดังนั้น พวกเขาเป็นเพื่อนของสวีเถิงเฟย
พวกเขาเดินมา ไม่ใช่จงใจมาหาเรื่องหวางเสี่ยวโก๋ ให้หวางเสี่ยวโก๋อับอาย
เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขา ควรเป็นตัวเองมากกว่า
หลี่ฝางยิ้มเล็กน้อย “มองไปที่ส้งเคอและคนอื่นๆ และพูดว่า “ในเมื่อนายคิดว่าหวางเสี่ยวโก๋ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะดื่มกับนาย ถ้างั้นฉันมีคุณสมบัติไหม?”
“นาย? ฮึ่ม แล้วนายเป็นใคร!”
“ฉันคิดว่านายยังเทียบหวางเสี่ยวโก๋ไม่ได้” ส้งเคอมองหลี่ฝาง พูดด้วยความเหยียดหยาม
หลี่ฝางยังคงยิ้ม “ในเมื่อนายไม่รู้ตัวตนของฉัน ถ้างั้นฉันจะแนะนำตัวเองให้นายรับรู้”
“ฉัน ชื่อหลี่ฝาง สถานตากอากาศแห่งนี้ ตระกูลของฉันเป็นผู้บุกเบิก พูดง่ายๆคือ วิลล่านี้ สถานตากอากาศแห่งนี้ เป็นของตระกูลฉัน” หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา
“ในฐานะเจ้าของสถานตากอากาศแห่งนี้ ดื่มเหล้าแก้วนี้ นายคิดว่ามีคุณสมบัติพอไหม?” หลี่ฝางมองไปที่ส้งเคอพลางถาม
“ฮ่าฮ่า น่าขำจริงๆ ฉันว่าหลี่ฝาง นายช่างใจกล้ามาก นายอย่าคิดว่านายมีนามสกุลหลี่ ก็สามารถปลอมตัวเป็นหลานของ
หลี่เจียเฉินนายท่านหลี่ได้ … …” ส้งเคอพูดอย่างเหยียดหยาม
“ไม่เชื่อใช่มั้ย? ถ้างั้นฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็น” หลี่ฝางพูดเสร็จ ก็โทรหาลุงเฉียน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset