NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 304 พาฉินวี่เฟยไปที่วิลล่า

บทที่ 304 พาฉินวี่เฟยไปที่วิลล่า
“ฉันจะอะไรน่ะเหรอ โง่หรือไงแก แค่นี้ยังดูไม่ออกเหรอ?”
มองไปที่เหยสง ส้าวส้วยหัวเราะเห่อๆแล้วกล่าว: “ฉันก็จะบีบคอมันให้ตายไง”
“เขาเป็นน้องชายแก ใช่มั้ย?”
สำหรับเหยโก่วกับเหยสง ส้าวส้วยเคยตรวจสอบประวัติของพวกเขานานแล้ว
เหยสงขมวดคิ้ว มองส้าวส้วยด้วยสายตาที่เย็นชา: “แกกล้าฆ่าคนตรงนี้?”
“ทำไมจะไม่กล้า ทำไม แกไม่เคยฆ่าคนเหรอ? หรือว่า แกคิดว่าฉันไม่เคยฆ่าคนมาก่อน? ส้าวส้วยหัวเราะอย่างดูถูก ถ้าหากแกคิดว่าฉันไม่มีความกล้านี้ แกก็สามารถลองดูได้”
“หากแกรู้สึกว่าฉันมีความกล้าละก็ งั้นเราก็มาตกลงแลกเปลี่ยนกัน” ส้าวส้วยกล่าว
“แลกเปลี่ยนอะไร?” เหยสงถาม
“แกปล่อยเจ้านายฉัน ฉันจะปล่อยน้องชายแก” ส้าวส้วยกล่าว
เหยสงมองส้าวส้วยไปครู่หนึ่ง ก็ได้ปล่อยหลี่ฝาง
ส้าวส้วยมีดวงตาที่ฆ่าคน เห็นดวงตาคู่นี้ ทำให้เหยสงเชื่อ
คนนี้เป็นถึงน้องชายของตัวเอง
ชีวิตของน้องชายตัวเอง แลกกับแขนข้างหนึ่งคนอื่น มันช่างไม่คุ้มค่าเสียเลย
เหยสงปล่อยมือ หลี่ฝางก็ดึงแขนของฉินวี่เฟย รีบวิ่งไปด้านหลังของส้าวส้วยทันที
เวลานี้ ส้าวส้วยจึงได้ปล่อยคน ปล่อยเหยโก่วไป
เหยสงมองส้าวส้วย แววตาเต็มไปด้วยความกลัว
เหยโก่วกับหลี่ฝางไม่เหมือนกัน หลี่ฝางเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง แต่เหยโก่วนั้น แม้ว่ายังไม่ถึงขั้นยอดฝีมือ แต่ก็เคยฝึกฝนวิชาการต่อสู้มาบ้าง
เมื่อกี้ความว่องไวในการลงมือของส้าวส้วย มันคล่องตัวมาก กลับทำให้เหยโก่วไม่รู้ตัวเลย เมื่อเขารู้ตัวอีกที คอก็ถูกส้าวส้วยล็อกไว้แล้ว
อีกอย่าง คนที่เหยสงจะหา ก็คือส้าวส้วย
ในเมื่อส้าวส้วยมาแล้ว เป้าหมายของเหยสง ก็บรรลุแล้ว
ก่อนที่จะหักแขนของหลี่ฝางนั้น เหยสงก็แค่อยากจะสั่งสอนส้าวส้วยเท่านั้นเอง
เพียงแต่การสั่งสอนนี้หากต้องแลกด้วยชีวิตของน้องชายตัวเอง มันก็ใหญ่เกินไป!
“พวกเราไป” เหยสงชำเลืองมองส้าวส้วยไปแวบหนึ่ง ก็ได้พูดกับเหยโก่วน้องชายของตัวเอง
“ไป?” เหยโก่วอึ้งไปชั่วขณะ
ไปได้ไง?
พวกเรามาหาส้าวส้วยไม่ใช่เหรอ?
ในเมื่อส้าวส้วยมาแล้ว แล้วเราจะไปทำไม?
เหยโก่วไม่เข้าใจ หรือว่า พี่ใหญ่ของตัวเองปอดแหกเสียแล้ว?
เหยโก่วกำลังคิด เหยสงนั้นได้ก้าวเท้าเดินแล้ว ไปแล้ว
เหยโก่วรีบวิ่งตามไปติดๆ พี่ใหญ่ไม่อยู่แล้ว ตัวเองยังจะยืนอยู่ข้างกายปีศาจอย่างส้าวส้วย ไม่เท่ากับหาที่ตายหรอกเหรอ?
เพิ่งจะตามเหยสงทัน เหยโก่วก็อดไม่ได้ที่จะถาม: “พี่ใหญ่ ทำไมพวกเราต้องไปด้วย?”
“แกไม่ได้ยินเหรอ? คนที่ชื่อหลี่ฝาง เป็นคุณชายของรีสอร์ต ก็เท่ากับว่า ตรงนี้เป็นถิ่นของพวกเขา เรามาก่อเรื่องในถิ่นของเขา แกคิดว่ามันจะง่ายเหรอ? เราก็ไม่ได้พาคนมาด้วย รีสอร์ตทั้งรีสอร์ต ล้วนเป็นคนของพวกมัน”
สำหรับแค้นของ เฉินเฉิน พี่ไม่มีทางลืมหรอก
“นี่มันไม่ใช่เมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนพี่ชอบต่อสู้ฆ่าคน เพราะพี่ไม่มีอะไรเลย ต้องอาศัยหมัดเหล็กคู่นี้ในการก่อร่างสร้างตัว แต่ปัจจุบันนี้ พี่มีครอบครัวมีลูก และมีถิ่นของตัวเอง ไม่อย่าใช้ชีวิตที่มันเสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีกแล้ว” เหยสงขมวดคิ้วแล้วกล่าว
แม้ว่าส้าวส้วยอายุยังไม่มาก แต่ว่าเหยสงก็ไม่มีความมั่นใจที่จะชนะเขาได้ ดังนั้น จึงอยากจะใช้เล่ห์กลสักหน่อย
“อยู่ในสังคมนี้ มันต้องใช้สมอง” เหยสงชี้ไปที่หัวของตัวเอง แล้วกล่าว
เหยโก่วฟังที่เหยสงอธิบายแล้ว ทำได้เพียงเบ้ปาก กลับไม่ได้พูดอะไรเลย
พูดไปพูดมา ก็ปอดแหกนั่นแหละ
เป็นครั้งแรกที่เหยโก่วเห็นพี่ชายตัวเองปอดแหก
ในเวลานี้ จู่ๆส้าวส้วยก็ลุกขึ้น วิ่งไปข้างหน้า วิ่งไล่ตามเหยโก่วกับเหยสงทั้งสองคน
เวลานี้ เหยโก่วรีบตั้งท่าอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการทำร้ายจากส้าวส้วย
และเหยสง ก็ได้แผ่รังสีความโหดบนตัวออกมา กำหมัดอย่างแข็งแกร่ง จ้องมองส้าวส้วยอย่างเย็นชา
เหยสงมองส้าวส้วย จากนั้นสถานการณ์ก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที
“นายหาเรื่องเหรอ?”
มองส้าวส้วยแล้ว ใบหน้าของเหยสง นอกจากจะระวังตัวแล้ว ยิ่งกว่านั้นคือ พลังชนิดหนึ่ง
เวลานี้ เหยสงเต็มไปด้วยพละกำลัง เตรียมตัวเพื่อจะต่อสู้ครั้งใหญ่
แม้ว่าเหยสงไม่อยากจะลงมือในรีสอร์ต แต่ว่าส้าวส้าวบีบบังคับอย่างไม่ยอมหยุด เขาก็ไม่ยอมที่จะเป็นคนขี้ขลาด
ใครจะไปรู้ ส้าวส้วยกลับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา หัวเราะ” พี่เหยสงใช่มั้ย? ต่อไปพี่อยากจะหาฉันละก็ ก็โทรมาหาฉันเลย นี่คือเบอร์โทรของฉัน พี่บันทึกไว้หน่อย อีกอย่าง วีแชทของฉัน พี่ก็เพิ่มมันด้วย ฉันน่ะ นอกจากเวลาตีหนึ่งถึงเจ็ดโมงเช้า ยินดีต้อนรับการก่อกวนของพี่ตลอดเวลา”
สีหน้าของเหยสง จู่ๆก็อึ้งไปทันที
ไอ้หมอนี่ ดูยังไงก็ไม่เหมือนยอดฝีมือ เหมือนเด็กที่กวนตีนคนหนึ่ง
จู่ๆในระหว่างนี้ สีหน้าของส้าวส้วย ก็เปลี่ยนไปกะทันหัน กลายเป็นสีหน้าที่เยือกเย็นมาก: “พี่เหยสง ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องมีหลักการของตัวเอง มีเรื่องอะไร ก็มาหาฉัน อย่าไปสร้างความวุ่นวายให้กับเจ้านายของฉัน”
“หากพี่ยอมทำตามกติกา ฉันก็จะทำตามกติกา ไม่อย่างนั้น หากพี่เหยสงแตะต้องเจ้านายของฉัน งั้นฉัน ก็ทำได้เพียงไปจัดการหวางเฉิน”
“พี่เหยสง อย่าอึ้งอยู่อีกเลย รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา เพิ่มเพื่อนกันหน่อย” ส้าวส้วยเลิกคิ้ว แล้วกล่าว
สายตาของเหยสง จ้องมองส้าวส้วยโดยไม่ขยับเลย
แต่ว่าเหยสงไม่ได้เพิ่มวีแชทของส้าวส้วย เพียงแต่กล่าวว่า เบอร์โทรของนายฉันบันทึกมันไว้แล้ว ฉันจะหาฤกษ์งามยามดี เพื่อแก้แค้นให้กับหวางเฉิน
“ได้ ฉันจะรอ ส้าวส้วย” กล่าวพร้อมกับยิงฟัน
รอจนกระทั่งเหยสงจากไปแล้ว แววตาของส้าวส้วย ก็ปรากฏด้วยแรงอาฆาตที่รุนแรง
ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ ส้าวส้วยแม้ว่าอายุยังน้อย แต่ว่าประสบการณ์ทางสังคม นั้นมีไม่น้อยเลย
เมื่อกี้เหยสงของตัวไปอย่างด่วน ส้าวส้วยก็รับรู้ถึงแผนการของเขาแล้ว
เมื่อกี้ท่าทีที่ส้าวส้วยมีต่อหลี่ฝาง นั้นเป็นห่วงมากเกินไป จึงทำให้มันกลายเป็นจุดอ่อนของเขา
และเหยสงก็ต้องเห็นจุดนี้เป็นธรรมดา เขาต้องลงมือกับจุดอ่อนของส้าวส้วยอย่างแน่นอน
ส้าวส้วยคนนี้มีจุดอ่อน แล้วเหยสงจะไม่มีเลยเหรอ?
ที่ส้าวส้วยวิ่งมา ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการให้เบอร์โทรติดต่อกับเหยสง จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคือ ต้องการบอกเหยสง อย่าเล่นกับไฟ ไม่อย่างนั้น ฉันจะส่งทั้งครอบครัวของนายเข้ากองไฟ
หลังจากที่ได้แสดงจุดประสงค์ของตัวเองให้เหยสงแล้ว ส้าวส้วยก็กลับไปหาหลี่ฝาง
“นายวิ่งตามไปทำไม?” หลี่ฝางถามด้วยอยากรู้อยากเห็น
“ไม่มีอะไร ฉันแค่ไปบอกเหยสง สังคมในปัจจุบัน ศัตรูกันควรที่จะปรับความเข้าใจกัน มีอะไรก็พูดคุยกันให้เข้าใจ ทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก จากนั้นก็ร่ำรวยไปด้วยกัน”
“ความสามัคคีทำให้เกิดทรัพย์ ดีมากแค่ไหน” ส้าวส้วยกล่าว
“งั้นก็ดีมากเลย” ได้ยินคำตอบนี้ ใบหน้าของฉินวี่เฟย ก็ปรากฏด้วยรอยยิ้มแห่งความพอใจ
เมื่อกี้ที่เหยสงจะหักแขนของหลี่ฝางให้หักนั้น ทำให้ฉินวี่เฟยตกใจแทบแย่
ส้าวส้วยก็พูดว่าจะบีบคอของเหยโก่วให้หักนั้น ก็ยิ่งทำให้ฉินวี่เฟยตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี
พูดตามตรง ฉินวี่เฟยนอกจากเมื่อกลางวันถูกแทงที่บ่อออนเซนแล้ว เรื่องในสังคม ถือว่าประสบการณ์ทางสังคมนั้นน้อยมาก
แม้ว่าหลี่ฝางก็กลัว แต่อย่างน้อย หลี่ฝางก็ปรับความรู้สึกได้เร็วกว่า
หลี่ฝางรู้ว่าส้าวส้วยกำลังเฉไฉไปเรื่อย จึงถลึงตาใส่เขาไปหนึ่งที แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
ขณะที่หลี่ฝางดึงแขนของฉินวี่เฟย ระหว่างที่จะจากไปนั้น จู่ๆส้าวส้วยก็ตบที่ไหล่ของหลี่ฝาง แล้วกล่าว: “เจ้านาย รีบเปิดร้านให้ผมด้วย”
“เปิดร้านอะไรเหรอ?” ขณะนั้นหลี่ฝางยังไม่เข้าใจ
ส้าวส้วยจึงขยิบตาให้กับหลี่ฝาง แล้วกล่าว: “เจ้านาย คุณลืมแล้วเหรอ คุณเคยรับปากผม จะเปิดร้านแฮมเบอร์เกอร์ให้ผมไง เจ้านายรวยขนาดนี้ คงไม่กลับคำพูดนะ?”
“ไม่ใช่ว่ารอให้นาย……..”
หลี่ฝางเกือบจะพลั้งปาก กลับถูกส้าวส้วยขัดขวางเอาไว้: “อะไร เจ้านาย เจ้านายยังไม่ไว้ใจผมอีกเหรอ วางใจเถอะ สิ่งที่ผมรับปากเจ้านายแล้ว ต้องจัดการให้มันเรียบร้อยอย่างแน่นอน”
“อีกอย่าง จะให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ด้วย”
เวลานี้หลี่ฝางถึงจะเข้าใจ
จริงๆแล้ว ส้าวส้วยกำลังบอกตัวเอง ภายในอาทิตย์นี้ เขาจะกำจัดเหยสง
แต่ว่ามีฉินวี่เฟยอยู่ ส้าวส้วยจะพูดตรงๆไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องใช้รหัสลับในการพูด
เดิมหลี่ฝางอยากที่จะถามส้าวส้วย มีความมั่นใจมั้ย?
แต่เห็นท่าทางที่มั่นใจเกินร้อยของส้าวส้วย ก็เลยไม่ได้ถาม
“ทำไม นายคิดจะเปิดร้านแฮมเบอร์เกอร์ให้กับส้าวส้วยเหรอ?” ฉินวี่เฟยถามอย่างสงสัย
“ใช่”
“ได้ รอให้นายเปิด ฉันจะไปอุดหนุนนาย” ฉินวี่เฟยยิ้มๆ
หลี่ฝางพยักหน้า ดึงแขนของฉินวี่เฟย ก้าวไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดว่า: “อาศัยตอนที่ไม่มีคน เราเดินเร็วหน่อย”
หลี่ฝางพาฉินวี่เฟย มาถึงวิลล่าของตัวเอง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset