NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 307 ยัยเฉิ่มไสหัวออกไปจากวิลล่าของฉัน

บทที่ 307 ยัยเฉิ่มไสหัวออกไปจากวิลล่าของฉัน
……..ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ใบหน้าของหลี่ฝางเต็มไปด้วยเหงื่อ เวลาของตัวเอง ยิ่งอยู่ยิ่งนานขึ้นแล้ว
นอนอยู่ข้างกายฉินวี่เฟย หลี่ฝางมองเธอแวบหนึ่ง ใบหน้าของฉินวี่เฟยแดงมากทีเดียว
หลี่ฝางอาบหน้าเสร็จ เตรียมตัวจะนอน………
ป้างๆๆ!
สรุปเวลานี้ ด้านนอกวิลล่า มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“แม่ง ใครน่ะ ดึกๆดื่นๆมาเคาะประตูของตัวเอง?” หลี่ฝางลืมตาขึ้น ไม่รู้จะยังไงดี
หลี่ฝางมีความโกรธเล็กน้อย เพิ่งจะหลับไปเองแท้ๆ ก็ถูกปลูกให้ตื่น หากโดนกับใคร มีเหรอจะไม่โกรธ?
“เป็นพวกเหยสงหรือเปล่า?” ฉินวี่เฟยก็ลืมตาขึ้นมา ถามด้วยความกลัว
“เป็นไปได้”
หลี่ฝางขมวดคิ้วขึ้นมา สีหน้าเคร่งขรึม
ด้านนอกประตูวิลล่า เหยสงเกือบจะหักแขนของตัวเองแล้ว ก็หมายความว่าเหยสงมีความกล้าที่จะทำร้ายตัวเอง
เป็นไปได้ว่าเป็นเหยสงที่มา หลี่ฝางกลัวจนกลืนน้ำลายลงคอ
“ฉันไปดูก่อน หากเป็นเหยสงจริงๆ ฉันจะตะโกนให้คนมาจัดการให้เศษสวะคนนี้!”
หลี่ฝางคิดในใจ ตรงนี้เป็นถิ่นของตัวเอง ส้าวส้วย โหจื่อ ลุงเฉียน พ่อของตัวเองก็อยู่นี่ทั้งนั้น
หากเหยสงกล้ามาหาเรื่องถึงที่นี่ งั้นตัวเองก็จะเรียกพวกเขามาทันหมด จัดการเหยสงทีเดียว
เมื่อมองผ่านตาแมว หลี่ฝางมองไปแวบหนึ่ง
เพียงแวบเดียว หัวใจของหลี่ฝาง เกือบหยุดเต้นทันที
“แม่งเอ๊ย!”
หลี่ฝางตกใจจนหน้าซีด กลับเข้าไปในห้องนอนอย่างลนลาน ปลูกฉินวี่เฟยให้ลงจากเตียง
“เธอกลับไปที่ห้องของเธอ แล้วใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย” หลี่ฝางกล่าวด้วยสีหน้าที่ผิดปกติ
ฉินวี่เฟยพยักหน้า กลับไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เพียงแต่ตอนที่เธอเดินออกมาจากในห้องนอน มือของเธอ ก็ได้ถือมีดไว้ด้ามหนึ่ง
“เอามาจากไหน?” หลี่ฝางขมวดคิ้วถาม
“มีดที่แทงฉันเมื่อกลางวัน ฉันเก็บมันเอาไว้ หนึ่งเพื่อเป็นที่ระลึก สองเอาไว้ป้องกันตัว ตอนนี้ให้นาย ฉันรู้สึกว่านายต้องการใช้มันมากกว่า”
ขณะที่ฉินวี่เฟยพูดอย่างจริงจัง ก็ได้ยื่นมีดไปที่มือของหลี่ฝาง
“ไม่ใช่เหยสง” หลี่ฝางส่ายหัว แล้วกล่าว
“ไม่ใช่เหยสง?” ฉินวี่เฟยตกใจไปสักพัก ก็ถามขึ้น: “แล้วทำไมนายถึงกลัวมากเลยละ?”
“ใช่แล้ว ในเมื่อไม่ใช่เหยสง แล้วใครเป็นคนเคาะประตู ดึกๆดื่นๆว่างมากหรือไง? นอนก็ไม่นอน?” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าที่สงสัย แล้วถาม
ป้างๆๆ
เวลานี้ เสียงเคาะประตูด้านนอกยิ่งแรงขึ้น
“เธอไปดูเองละกัน” หลี่ฝางลังเลไปสักพัก ผลักฉินวี่เฟยไปหนึ่งทีแล้วกล่าว
ฉินวี่เฟยตั้งสติ เดินไปที่หน้าประตูอย่างอยากรู้อยากเห็น เมื่อมองผ่านตาแมวไปแวบหนึ่ง
ปฏิกิริยาตอบสนองของฉินวี่เฟยนั้นยิ่งกว่าหลี่ฝาง เธอถอยหลังไปหลายก้าว หายใจเสียงดัง แล้วกล่าว: “ทำไมถึงเป็นพี่สาวฉัน เธอมาได้ยังไง?”
หลี่ฝางส่ายหัว กล่าวด้วยสีหน้าที่งงๆ: “เธอถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใคร? ดึกๆดื่นๆเขามาที่นี่ ก็ต้องรู้ว่าเธออยู่ที่นี่อย่างแน่นอน”
ฉินวี่เฟยก็เข้าใจอย่างมาก ฉินหยีหรันมาที่นี่ ก็ต้องมาหาเธออย่างแน่นอน
ประเด็นสำคัญคือ จะสามารถให้เธอเข้ามาได้มั้ย?
ทำยังไงดี? จะเปิดหรือไม่เปิด? หลี่ฝางขอความเห็นจากฉินวี่เฟย ไม่ว่ายังไงก็เป็นพี่สาวของเธอ
“หากเธอไม่อยากเปิดประตู งั้นเราก็ไม่เปิด เราก็อุดหู แล้วก็กลับไปนอน……..ไม่ว่ายังไงพี่สาวเธอก็คงไม่กล้าที่จะตะโกนเสียงดัง เขาก็คงรู้จักปกป้องชื่อเสียงของเธอ”
“เขาคงเคาะไม่นานหรอก มากสุดก็คงสิบนาที เขาก็คงไปแล้ว” หลี่ฝางกล่าวอย่างมั่นใจ
“กระดาษห่อไฟไม่มิด คนอย่างพี่สาวฉัน ไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่ายๆ หากเธอไม่มั่นใจว่าฉันอยู่ที่นี่ เธอไม่มีทางที่จะกล้าเคาะประตูของนาย ไม่อย่างนั้น เธอที่เป็นคนมีสามี มาเคาะประตูของคุณชายหลี่ เธอจะกลายเป็นตัวอะไร? ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว แล้วกล่าว: “เธอมาดึกๆดื่นๆ หากไม่ให้เธอเข้ามา ถูกคนอื่นเห็นเข้า แล้วถูกลือถึงหูของตระกูลมู่หรง พี่สาวฉันก็จบแน่”
“คงไม่สามารถที่จะให้เขาเคาะไปเรื่อยๆแบบนี้”
ฉินวี่เฟยขณะที่พูด ก็เดินไปเปิดประตู ให้ฉินหยีหรันเข้ามา
เสียงเพี้ยดังขึ้นหนึ่งที
ฉินหยีหรันเหยียบเข้ามาแล้ว ก็ตบหน้าฉินวี่เฟยหน้าทันที
หลังจากที่ตบหน้าแล้ว ฉินหยีหรันยังได้ชี้ด่าไปที่หน้าของฉินวี่เฟย: “ วี่เฟย สิ่งที่ฉันพูดกับเธอเมื่อกี้ เธอลืมไปหมดแล้วเหรอ?” “เธอพูดมาสิ เธอที่เป็นคุณของตระกูลฉิน กลับมามั่วกับผู้ชายป่าเถื่อนคนนี้ หากแพร่งพรายออกไป หน้าตาของตระกูลฉิน ถูกเธอทำลายไปหมดแล้ว”
“ยังมีอีก ในไม่ช้าเธอก็จะหมั้นกับมู่เสี่ยวไป๋แล้ว คุณปู่ของตระกูลมู่ จะตรวจร่างกายเธอด้วย เมื่อถึงตอนนั้น…….ไม่รู้จะผ่านด่านของท่านปู่ตระกูลมู่ได้มั้ย? คุณปู่ของเราหาคนจะมาเป็นพยานในงานแล้ว แขกสำคัญเหล่านี้ ก็ได้ส่งการ์ดเชิญไปเรียนเชิญล่วงหน้าแล้ว ฉินวี่เฟยนะฉินวี่เฟย เธอทำอะไรกันแน่?”
“เธอรู้หรือเปล่าว่าเธอทำแบบนี้ มันจะทำให้ตระกูลฉินพังพินาศได้?” ฉินหยีหรันกล่าวอย่างเย็นชา
“พี่คะ ฉันผิดไปแล้ว” ฉินวี่เฟยกล่าวด้วยเสียงเบา
“เธอผิดไปแล้ว? แค่คำว่าเธอผิดไปแล้ว จะชดเชยอะไรได้? สามารถทำให้เธอกลับมาเป็นสาวบริสุทธิ์มั้ย? สามารถทำให้เธอกับมู่เสี่ยวไป๋ หมั้นกันเหมือนเดิมได้มั้ย?”
สีหน้าของฉินหยีหรัน นั้นมืดมนอย่างมาก
พูดตามตรง การที่ฉินหยีหรันโกรธก็เป็นเรื่องปกติ
หากงานหมั้นหมายถูกยกเลิก ตระกูลฉินกับตระกูลมู่ ก็จะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ
“เธอ เธอทำไมไม่รักตัวเองเลย เธอลืมจุดจบของพี่สาวของเธอแล้วเหรอ?” มองฉินวี่เฟย ฉินหยีหรันพูดอย่างโมโห และสงสาร
“เธอรู้หรือเปล่า เธอทำแบบนี้ จุดจบน่าจะแย่กว่าของพี่ หากคุณปู่ของเราโกรธ ไม่แน่อาจจะไล่เธอออกไปจากตระกูลฉิน ให้เธอไปนอนกลางถนน”
“และตระกูลมู่ ก็ไม่มีทางที่จะปล่อยเธอ” ฉินหยีหรันกัดฟัน กล่าวอย่างปวดหัว
ฉินวี่เฟยก้มหน้าไม่พูดไม่จา ตอนนี้ฉินวี่เฟยละอายใจและวิตกกังวลมาก
เหมือนถูกจับได้ว่าเล่นชู้ยังไงอย่างนั้น
เธอฝันยังฝันไม่ถึงเลย ว่าพี่สาวของตัวเองจะมาที่นี่!
ฉินหยีหรันมองหลี่ฝางไปแวบหนึ่ง ก้าวเข้ามาด้วยความดุดัน
ฉินหยีหรันกัดฟัน แล้วกล่าว: “แกไอ้สารเลว แกรู้ทั้งๆรู้ว่าน้องสาวของฉันได้หมั้นหมายกับมู่เสี่ยวไป๋แล้ว แกยังแตะต้องตัวเธอ……ยังพาเธอมาที่ห้อง แกอยากทำให้น้องฉันตายใช่มั้ย?”
“ผมไม่ได้ทำร้ายเธอ ผมกำลังช่วยเธอ”
มองไปที่ฉินหยีหรัน หลี่ฝางพูดจาอย่างสงบเยือกเย็น: “คนที่จะทำร้ายฉินวี่เฟย คือพวกคุณ ทุกคนในตระกูลฉิน”
“ไม่ต้องมาพูดให้ผิดกลายเป็นถูกเลยนะพี่สาว” หลี่ฝางเบ้ปาก กล่าวอย่างดูถูก
“พี่? แกไม่ต้องเอาทองไปแปะที่หน้าแกเลย แกมันคืออะไร ต่อให้แกคบกับน้องสาวฉันจริงๆ แกก็ไม่มีสิทธิ์เรียกฉันว่าพี่”
“งั้นฉันไม่เรียกเธอว่าพี่ เรียกเธอว่ายัยเฉิ่มดีมั้ย?”
เมื่อเห็นฉินหยีหรันที่ทั้งทำร้ายและต่อว่าฉินวี่เฟย หลี่ฝางก็โมโหไม่น้อย ได้ชี้ไปที่หน้าของฉินหยีหรันโดยตรงแล้วกล่าว: “ยัยเฉิ่ม รบกวนเธอไสหัวออกไปจากวิลล่าของฉันด้วย ไม่อย่างนั้น ฉันก็จะไม่เกรงใจกับเธอแล้ว”
แกกล้าด่าฉันว่ายัยเฉิ่ม? สีหน้าของฉินหยีหรัน ก็ดุร้ายขึ้นมาทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset