NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 316 โทรศัพท์จางกงหมิง

บทที่ 316 โทรศัพท์จางกงหมิง
ทันใดนั้น หลี่ฝางเด้งตัวลุกขึ้น
“นายจะทำอะไร รีบนั่งลง หลิวจินหยางแรงเยอะมาก วันนั้นพวกฉันผู้หญิงสี่คนยังสู้เขาไม่ได้” ลู่หลุ่ยมองหลี่ฝางอย่างเป็นห่วง พร้อมดึงแขนเขาไว้
การเตะเมื่อครู่ หลี่ฝางก็เห็นเช่นกัน
หลิวจินหยางคนนี้ ฝีมือไม่เลวจริงๆ ตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่
แต่ยังมีส้าวส้วยไม่ใช่เหรอ?
หลี่ฝางยิ้ม พร้อมเอ่ยปลอบลู่หลุ่ย “วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร!”
เอ่ยจบ หลี่ฝางยกเก้าอี้ของตนไป ก่อนฟาดใส่ศีรษะของหลิวจินหยาง
“แม่งเอ้ย ไอ้คนไหนไม่มีตาฟาดฉัน!”
ใครจะรู้ว่าศีรษะของหลิวจินหยางจะแข็งขนาดนี้ ราวกับฝึกศีรษะเหล็กมาก่อน เพียงฟาดเก้าอี้ตัวนี้ลงไป ไอ้บ้านี้กลับไม่เป็นอะไร
หลิวจินหยางหันกลับไป ก่อนเห็นหลี่ฝาง
“แม่มันเถอะ เป็นแก?”
หลิวจินหยางรู้จักหลี่ฝาง สีหน้าพลันเผยความดุร้ายออกมา!
“ไอ้เด็กบ้า แกมันรนหาที่ตาย!”
หลิวจินหยางปล่อยไอ้รองทรง ก่อนเดินปรี่เข้าหาหลี่ฝาง “ถ้าฉันไม่ซีกแกเป็นชิ้นๆ ฉันจะยอมเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแก”
หลังกัดฟันกรอด หลิวจินหยางกระโจนเข้ามา
หลิวจินหยางกำหมัดขึ้น พุ่งไปบริเวณใบหน้าของหลี่ฝาง เพียงฟาดออกไป ถือว่ารวดเร็วอย่างมาก จนหลี่ฝางตกใจทำอะไรไม่ถูก ก่อนรีบร้อนหลบหลีก
“แกโต้ตอบเร็วใช้ได้”
หลิวจินหยางไม่คิดว่าหลี่ฝางจะหลบหมัดนี้ของเขาได้ มุมปากอดเผยความชื่นชมออกมาไม่ได้
ทันใดนั้น หลิวจินหยางบิดศีรษะ มองลู่หลุ่ย “เฮอะ เฮอะ เธอก็มาเหรอ เหมิงเหมิงล่ะ เธอตายหรือยัง?”
“เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่ตายเพราะนายหรอก”
“เฮอะ เฮอะ ไม่ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายเหรอ งั้นฉันก็วางใจ ฉันกลัวจริงๆ ว่าเธอจะกลายเป็นผีมาหลอกฉัน”
หลิวจินหยางยิ้ม ก่อนหันไปมองหลี่ฝางต่อ “ไอ้เด็กน้อยโชคดีมากทีเดียว หาสาวน้อยสวยขนาดนี้เป็นเมียได้ ที่สำคัญยังบริสุทธิ์”
“อีกเดี๋ยว ฉันจะเตะของแกให้หัก ยังไงแกเก็บไว้ คงไม่ได้ใช้” หลิวจินหยางยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนกระโจนเข้าไป
ส่วนหลี่ฝาง เพียงยิ้มบาง ๆ “มาสิ”
“ครั้งนี้ ฉันจะไม่หลบ” หลี่ฝางกวักมือเรียกหลิวจินหยาง
“เป็นลูกผู้ชายดีนี่” หลิวจินหยางกระโจนเข้าไป
ระหว่างทาง ส้าวส้วยพลันบุกเข้ามา ก่อนถีบเข้าตรงบริเวณเอวของหลิวจินหยาง
เสียงปังดังขึ้น ร่างกายของหลิวจินหยางกระแทกบนผนัง จากนั้นทรุดลงบนพื้น
“แม่ง ร้ายกาจขนาดนี้?”
คนจำนวนไม่น้อยตกใจในฝีมือของส้าวส้วย
“เขาคล้ายฮีโร่รองเท้าหนังคนนั้น!”
“เขาคือฮีโร่รองเท้าหนัง หน้าตาหล่อเหลาจริงๆ”
ใช่ ที่สำคัญคือต่อสู้เป็น หากเป็นผู้หญิงของเขา ต้องปลอดภัยมากแน่เลย”
ส้าวส้วยได้ยินถึงเสียงถกเถียงเช่นนี้ สีหน้าแดงก่ำเล็กน้อย ก่อนวิ่งไปตรงหน้าหลี่ฝาง “เถ้าแก่ หากไอ้เด็กนี้หือขึ้นมาอีก ก็ตะโกนเรียกผม ผมขอตัวไปก่อน”
“ได้ ถอยไปก่อนเถอะ” หลี่ฝางพูดพลางสะบัดมือ
หลี่ฝางทรุดนั่งลง ใช้มือตบหน้าหลิวจินหยาง กล่าวพลางแสยะยิ้ม “ยังเบ่งอีกไหม?”
“แม่ง”
“ปากยังแข็งขนาดนี้…” หลี่ฝางขมวดคิ้ว ก่อนมองเห็นคนหนึ่งสวมรองเท้าแตะ
“พี่ชาย ผมขอยืมรองเท้าแตะหน่อย” หลี่ฝางเอ่ยกับชายสวมรองเท้าแตะ
ชายสวมรองเท้าแตะลังเลชั่วขณะ “ทำอะไร?”
“ผมจะตบเขา”
ชายสวมรองเท้าแตะถอดรองเท้าออกมา ก่อนโยนให้หลี่ฝาง “ตบสักสองที รองเท้าแตะฉันไม่เอาแล้ว”
หลังส่งให้หลี่ฝาง ชายสวมรองเท้าแตะเดินไป อาจเพราะกลัวจะเป็นการหาเรื่องใส่ตนเอง
หลี่ฝางหยิบรองเท้าแตะขึ้น ก่อนตบลงบนปากของหลิวจินหยาง “ทำไมปากเหม็นขนาดนี้ ยังไม่แปรงฟันใช่ไหม?”
เพียะ เพียะ เพียะ หลี่ฝางตบรองเท้าแตะลงไปสามครั้ง สีหน้าของหลิวจินหยางนั้น ดุร้ายอย่างถึงขีดสุด
เขาขยับเล็กน้อย แต่กลับรู้สึกว่ากระดูกทั่วร่างกายหัก จนขยับไม่ได้
“นายขยับสิ หากลุกขึ้นมาได้ ฉันจะเรียกพี่น้องฉันเข้ามา กระทืบแกอีกสักที” หลี่ฝางกล่าวยิ้มๆ
ประโยคเดียว ทำให้หลิวจินหยางนอนอยู่บนพื้นตกใจ นิ่งไม่ขยับราวกับซากศพ
“เชื่อฟังจริงๆ”
หลี่ฝางยิ้มอย่างพอใจ “ฉันถามแกอีกรอบ ยังจะเบ่งอีกไหม?”
หลิวจินหยางกัดฟันกรอด เขาเวลานี้ต้องอ่อนข้อให้
“ยังคิดจะเตะฉันอีกไหม ทำไม มีไว้ฉันไม่ได้ใช้ประโยชน์ ต้องเก็บไว้ให้นายใช้ใช่ไหม?” หลี่ฝางหัวเราะเฮอะเฮอะ ก่อนเอ่ยว่า “นายสินะถึงจะมีประโยชน์ และใช้ในทางที่ผิด มีไว้ทำเรื่องพรรค์นั้นกับผู้หญิงโดยเฉพาะ”
“งั้นให้ฉันเหยียบจนมันใช้การไม่ได้ดีกว่า” หลี่ฝางกล่าวพลางลุกขึ้นยืน
เมื่อได้ยินคำนี้ หลิวจินหยางเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
หูเสี่ยวน่าววิ่งเข้ามา ชี้หลิวจินหยางพร้อมเอ่ยว่า “หลิวจินหยาง นายลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ นอนแผ่อยู่บนพื้นทำไม เป็นหมาหรือไง?”
“รีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ อย่าทำให้ฉันขายหน้า!” หูเสี่ยวน่าวเอ่ยอย่างโมโห
“เขาลุกไม่ไหว เธออย่าตะโกนเลย”
“ไร้สาระ เขายังไม่ตาย ไม่ใช่เพราะถูกนายเตะหรือไง แฟนฉันกระดูกแข็งจะตาย!” ขณะเอ่ย หูเสี่ยวน่าวย่อตัวลง ลากปกเสื้อตรงท้ายทอยหลิวจินหยางไว้ คิดดึงเขาขึ้นมา
“เขากระดูกแข็งมาก” หลี่ฝางค่อนแคะอีกประโยค
“ยังไงก็แข็งแกร่งกว่านาย” หูเสี่ยวน่าวพลางลาก พลางกลอกตามองหลี่ฝาง
“คงยังงั้น สเปคแรงกว่าฉันมา ผู้หญิงคล้ายมีเนื้อมีหนัง ไม่ใช่สเปคฉัน” แม้หูเสี่ยวน่าวจะไม่อ้วน แต่หลี่ฝางยังประชดอีกประโยค
ผู้หญิงไม่ต้องการฟังที่สุดมีแค่ไม่กี่ประโยค นั่นคือคนอื่นบอกว่าเธออ้วน บอกว่าเธอน่าเกลียด
เพียงพูดสองเรื่องนี้ ปกติผู้หญิงโมโหมาก ยิ่งกว่าด่าเธอชั้นต่ำ
หากพูดว่าเธอคือปีศาจ ร่าน เธอยังดีใจมากกว่า
จริงดังคิด หูเสี่ยวน่าวได้ยินหลี่ฝางบอกว่าตนอ้วน โมโหจนหน้าอกกระเพื่อม ดวงตาคล้ายกับจะกินคน
“ไอ้หมา หากยังแกล้งตายอีกฉันจะไม่สนใจแกแล้ว รีบลุกขึ้น จัดการมัน” หูเสี่ยวน่าวใช้มือข้างหนึ่งหิ้วหลิวจินหยาง อีกข้างชี้ที่หลี่ฝาง
หูเสี่ยวน่าวแม้จะโมโห แต่รู้ว่าตนเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องสู้หลี่ฝางไม่ได้แน่ ดังนั้นเธอเพียงฝากความหวังไว้ที่หลิวจินหยาง
“หลิวจินหยาง นายอยากเลิกกับฉันเหรอ?” หลิวจินหยางไม่ลูกขึ้นมา จนทำให้หูเสี่ยวน่าวตะโกนด่าอย่างโมโห
เมื่อจบเสียงนี้ หลิวจินหยางรวบรวมกำลัง ฝืนลุกขึ้นมา
“จัดการมัน” หูเสี่ยวน่าวเอ่ยบอกหลิวจินหยาง
หลิวจินหยางชูหมัดขึ้น กำลังจะลงมือ หลี่ฝางก็ตะโกนขึ้น “ส้าวส้วย…”
ส้าวส้วยทิ้งบุหรี่ในมือ รีบวิ่งไปที่ร้านโจ๊กเย็น
“ชิบหาย!”
หลิวจินหยางหน้าขรึมลง พลันนอนแผ่ลงบนพื้น ราวสุนัขนอนตายอีกครั้ง
“นายกลัวอะไร หลิวจินหยาง นายรีบลุกขึ้น หากมันกล้าทำร้ายนายอีก ฉันจะให้พี่ชายฉันจับมันเอง” หูเสี่ยวน่าวเอ่ยอย่างเย็นชา
“ฉันจะบอกพวกแกให้”
เมื่อชี้ที่หลี่ฝางและส้าวส้วย หูเสี่ยวน่าวกล่าวยิ้มๆ อย่างเย็นชา “พี่ชายฉันคือหูเฟย พวกแกกล้าแตะแฟนฉันแม้ปลายนิ้ว”
“หูเฟยสินะ?”
“งั้นก็ไม่ควรวางอำนาจรังแกคนอื่น!” หลี่ฝางลากเสียงเอ่ยถามคนในร้าน “พวกคุณว่าใช่ไหม?”
“ใช่!”
“มิน่าถึงรังแกคนอื่นขนาดนี้ ที่แท้มีคนคอยให้ท้าย”
“หูเฟยคือใคร?”
ทุกคนต่างถกเถียงกันขึ้นมา
หลี่ฝางเรียกไอ้รองทรงเข้ามา ก่อนเอ่ยว่า “พี่ชาย คนนี้ฝากพี่ด้วย คิดจะจัดการเขายังไง ทำตามใจเถอะ”
“วางใจเถอะ หากเขาไม่ยอม หรือคิดแก้แค้น ฉันให้พี่น้องฉันกระทืบมันให้ตาย”
หลี่ฝางยกนิ้วให้ส้าวส้วยที่อยู่ตรงประตูด้านหลัง ก่อนกล่าวยิ้มๆ กับไอ้รองทรง
ความจริงเมื่อครู่ไอ้รองทรง ถูกรังแกขนาดนั้น ต้องแค้นหลิวจินหยางเข้ากระดูกแน่ ใครจะรู้เขากลับส่ายหน้าอย่างคนไม่เป็นอะไร “ช่างเถอะ ควรไว้ชีวิตก็ไว้ชีวิต ฉันไม่คิดแค้นกับคนประเภทนี้หรอก”
ไอ้รองทรงหลังใช้กระดาษทิชชูเช็ดโจ๊กเย็นบนใบหน้าจนสะอาด ออกจากร้านโจ๊กเย็นไป
หลี่ฝางตกตะลึง ไอ้รองทรงคนนี้ แม่งอ่อนจริง
ไม่นาน ไอ้รองทรงวิ่งกลับมาอีกครั้ง หลี่ฝางจึงยิ้ม “ทำไม เปลี่ยนใจแล้วเหรอ?”
“ไม่ใช่ ลืมเอ่ยขอบคุณ คุณ”
“คุณให้เบอร์ติดต่อผมได้หรือเปล่า วันหน้าหากมีโอกาส ผมต้องทดแทนบุญคุณของคุณแน่” ไอ้รองทรงเอ่ยอย่างเอาจริงเอาจัง
หลี่ฝางเบ้ปาก พร้อมคิดในใจ คนอ่อนหัดเช่นนี้ จะสามารถช่วยอะไรตนได้?
แต่หลี่ฝางยังให้เบอร์ติดต่อกับไอ้รองทรง
“ผมซือถูเฟย คุณจำชื่อผมไว้ด้วยล่ะ” ไอ้รองทรงเอ่ยจบ เดินจากไป
ซือถูเฟย หลี่ฝางรู้สึกเพียงชื่อนี้คุ้นหูบางส่วน
ทันใดนั้น มือถือของหลี่ฝางดังขึ้น เป็นจางกงหมิงโทรเข้ามา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset